วิวรณ์ 18:5-19

วิวรณ์ 18:5-19 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

เพราะ​บาป​ของ​นครนั้น​กอง​สูง​ถึง​สวรรค์ พระเจ้า​ไม่เคย​ลืม​บาป​ต่างๆ​ที่​นครนั้น​ได้​ก่อขึ้น ให้​ทำ​กับ​เธอ​เหมือนกับ​ที่​เธอ​ทำ​กับ​คนอื่น และ​ตอบแทน​เธอ​เป็น​สองเท่า​กับ​สิ่ง​ที่​เธอ​ได้​ทำ​กับ​ผู้อื่น เตรียม​เหล้า​องุ่น​ที่​แรง​เป็น​สองเท่า​ของ​เหล้า​องุ่น​ที่​เธอ​ได้​ให้​กับ​คนอื่น​นั้น​ไว้​ให้​เธอ เธอ​ให้​เกียรติยศ​และ​ความ​ฟุ้งเฟ้อ​กับ​ตัวเอง​แค่ไหน ก็​ให้​ความ​ทุกข์ทรมาน​และ​ความ​เศร้าโศก​กับ​เธอ​เท่านั้น เพราะ​เธอ​คิด​ในใจ​ว่า ‘ฉัน​นั่ง​อยู่​บน​บัลลังก์​เป็น​ราชินี ฉัน​ไม่ใช่​แม่ม่าย ฉัน​จะ​ไม่มี​วัน​โศกเศร้า’ ดังนั้น​ภัยพิบัติ​พวกนี้​จึง​ได้​เกิดขึ้น​กับ​เธอ​ภายใน​วันเดียว คือ​โรคระบาด ความ​เศร้าโศก​เสียใจ และ​ความ​อดอยาก เธอ​จะ​ถูก​ไฟ​เผา​จน​วอดวาย เพราะ​องค์​เจ้า​ชีวิต พระเจ้า​ผู้​ที่​พิพากษา​เธอ​นั้น​มี​ฤทธิ์​อำนาจ” “กษัตริย์​ทั้งหลาย​บน​โลก​ที่​ได้​ทำ​บาป​ทาง​เพศ​กับ​เธอ​และ​ร่วม​ใน​ความ​มั่งคั่ง​ฟุ้งเฟ้อ​กับ​เธอ​จะ​ร้องไห้​คร่ำครวญ​ให้​เธอ เมื่อ​พวกเขา​เห็น​ควัน​ไฟ​ที่​เผาไหม้​เธอ พวกเขา​จะ​ยืน​อยู่​ห่างๆ​เธอ เพราะ​กลัว​จะ​ต้อง​ร่วม​ใน​ความ​เจ็บปวด​ทรมาน​ของ​เธอ พวกเขา​จะ​พูดว่า ‘นคร​ที่​ยิ่งใหญ่ เจ้า​ช่าง​น่าอับอาย น่าอับอาย​เสีย​จริงๆ บาบิโลน​นคร​ที่​เต็ม​ไป​ด้วย​อำนาจ เพราะ​การ​พิพากษา​โทษ​ของ​เจ้า​นั้น​มา​ถึง​ภายใน​เวลา​แค่​ชั่วโมง​เดียว’ พวก​พ่อค้า​บน​โลก​จะ​ร้องไห้​คร่ำครวญ​ให้​กับ​เธอ เพราะ​ไม่มี​ใคร​ซื้อ​สินค้า​ของ​พวกเขา​อีก​ต่อไป พวกเขา​ขาย​ทองคำ เงิน เพชรพลอย ไข่มุก ผ้าลินิน ผ้า​สีม่วง ผ้าไหม ผ้า​สี​แดงสด ไม้หอม​ทุกชนิด และ​สิ่งของ​ต่างๆ​ที่​ทำ​จาก​งาช้าง ที่​ทำ​จาก​ไม้​ราคา​แพง ทอง​สัมฤทธิ์ เหล็ก และ​หินอ่อน อบเชย เครื่องเทศ เครื่อง​หอม มดยอบ กำยาน เหล้า​องุ่น น้ำมัน​มะกอก แป้ง​ละเอียด ข้าวสาลี วัว แกะ ม้า รถม้า ทาส และ​เชลย ‘อี​บาบิโลน พวก​สิ่งของ​ต่างๆ​ที่​เจ้า​หลงใหล​นั้น​ได้​หายไป​จาก​เจ้า​แล้ว ทั้ง​ความ​หรูหรา และ​สิ่ง​ที่​ทำ​ให้​เจ้า​สวยงาม​นั้น​ได้​หายไป​แล้ว และ​เจ้า​จะ​ไม่มี​วัน​ได้​พบ​สิ่ง​เหล่านี้​อีก​เลย’ พวก​พ่อค้า​ที่​ร่ำรวย​จาก​การ​ขาย​สินค้า​ให้​กับ​เธอนั้น จะ​ยืน​อยู่​ห่างๆ​จาก​นคร​บาบิโลน เพราะ​กลัว​ที่​จะ​ต้อง​ร่วม​ใน​ความ​เจ็บปวด​ทรมาน​ที่​เธอ​ได้รับ พวกเขา​จะ​ร้องไห้​คร่ำครวญ และ​พูดว่า ‘นคร​ที่​ยิ่งใหญ่ เจ้า​ช่าง​น่าอับอาย น่าอับอาย​เสีย​จริงๆ เจ้า​ที่​เคย​ประดับ​ประดา​ด้วย​ผ้าลินิน​อย่างดี ผ้า​สีม่วง​และ​ผ้า​สี​แดงสด เจ้า​ที่​เคย​ประดับ​ประดา​ด้วย​ทองคำ เพชร​พลอย และ​ไข่มุก’ ความ​ร่ำรวย​ต่างๆนี้​ได้​ถูก​ทำลาย​ลง​ภายใน​เวลา​แค่​ชั่วโมง​เดียว พวก​กัปตัน​เรือ​และ​ผู้​โดยสาร ลูกเรือ​และ​คน​ทั้งหลาย​ที่​มี​อาชีพ​ทาง​ทะเล ก็​ยืน​อยู่​ห่างๆ​จาก​นคร​บาบิโลน​นั้น เมื่อ​พวกเขา​เห็น​ควันไฟ​ที่​มา​จาก​การ​เผา​นคร​นั้น พวกเขา​พูดว่า ‘ไม่มี​นคร​ไหน​ที่​เป็น​เหมือน​นคร​อัน​ยิ่งใหญ่นี้’ พวกเขา​จะ​โปรย​ผงฝุ่น​ลง​บน​หัว​ของเขา​และ​ร้องไห้​คร่ำครวญ​ว่า

วิวรณ์ 18:5-19 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

เพราะบาปของนครนั้นกองสูงขึ้นถึงสวรรค์แล้ว และพระเจ้าทรงจดจำการอธรรมของนครนั้นแล้ว จงทำกับนครนั้นเหมือนอย่างที่นครนั้นเคยทำกับคนอื่น และจงตอบแทนการกระทำของนครนั้นเป็นสองเท่า ในถ้วยที่นครนั้นได้ผสมไว้ ก็จงผสมเหล้าลงไปเป็นสองเท่า นครนั้นให้เกียรติตัวเองและอยู่อย่างฟุ่มเฟือยมากเพียงไร ก็จงมอบความทรมานและความโศกเศร้าแก่นครนั้นมากเพียงนั้น เพราะนครนั้นรำพึงในใจว่า ‘เรานั่งอยู่ในตำแหน่งราชินี เราไม่ใช่หญิงม่าย และเราจะไม่ประสบความโศกเศร้าเลย’ เพราะเหตุนี้ภัยพิบัติต่างๆ จะมาถึงนครนั้นภายในวันเดียว คือโรคระบาด ความโศกเศร้า และการกันดารอาหาร และไฟจะเผานครนั้น เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าคือพระเจ้าผู้ทรงพิพากษานครนั้นทรงฤทธิ์” บรรดากษัตริย์แห่งแผ่นดินโลกที่ล่วงประเวณีกับนครนั้นและอยู่ด้วยกันอย่างฟุ่มเฟือย เมื่อเห็นควันไฟที่ไหม้นครนั้นก็จะร้องไห้และทุกข์โศก พวกเขาจะยืนห่างๆ เพราะกลัวภัยจากการทรมานนครนั้น และจะกล่าวว่า “วิบัติแล้ว วิบัติแล้ว นครที่ยิ่งใหญ่ นครบาบิโลนที่แข็งแกร่ง เพราะการพิพากษามาถึงเจ้าแล้วภายในชั่วโมงเดียวเท่านั้น” พวกพ่อค้าบนแผ่นดินโลกจะร้องไห้และโศกเศร้าเนื่องจากนครนั้น เพราะไม่มีใครซื้อสินค้าของเขาอีกต่อไปแล้ว สินค้าเหล่านั้นได้แก่ ทองคำ เงิน อัญมณีต่างๆ ไข่มุก ผ้าป่านเนื้อละเอียด ผ้าสีม่วง ผ้าไหม ผ้าสีแดงเข้ม ไม้หอมทุกชนิด สิ่งของทุกอย่างที่ทำจากงาช้าง สิ่งของทุกอย่างที่ทำจากไม้ราคาแพง จากทองสัมฤทธิ์ เหล็ก และหินอ่อน อบเชย เครื่องเทศ เครื่องหอม มดยอบ กำยาน เหล้าองุ่น น้ำมันมะกอก แป้งอย่างดี ข้าวสาลี โค แกะ ม้า รถม้า ทาส และเชลยศึก ผลที่จิตใจของเจ้าอยากได้นั้น ก็หายไปจากเจ้า ทุกสิ่งที่หรูหราและงามตระการตา ก็สูญสิ้นไปจากเจ้า และเจ้าจะไม่ได้พบเห็นอีกเลย พวกพ่อค้าที่ขายสิ่งเหล่านี้และเป็นคนมั่งมีเพราะนครนั้น จะยืนอยู่ห่างๆ เพราะกลัวภัยจากการทรมานนคร พวกเขาจะร้องไห้และโศกเศร้า กล่าวว่า “วิบัติแล้ว วิบัติแล้ว นครที่ยิ่งใหญ่ นครที่สวมใส่ผ้าป่านเนื้อละเอียด ผ้าสีม่วงและผ้าสีแดงเข้ม นครที่ประดับด้วยทองคำ อัญมณีและไข่มุก เพราะภายในชั่วโมงเดียว ทรัพย์สมบัติที่มากมายเช่นนี้ก็ยังสูญสิ้นไป” และกัปตันเรือทุกคน ผู้โดยสารทั้งหมด พวกกะลาสีและคนทั้งหลายที่มีอาชีพทางทะเลก็ยืนอยู่ห่างๆ และส่งเสียงร้องเมื่อเห็นควันไฟที่ไหม้นครนั้น กล่าวว่า “นครใดจะเหมือนมหานครนี้” และเขาทั้งหลายก็โปรยผงคลีลงบนศีรษะของตน ส่งเสียงร้องไห้โศกเศร้า กล่าวว่า “วิบัติแล้ว วิบัติแล้ว นครที่ยิ่งใหญ่ นครซึ่งทุกคนที่มีเรือเดินทะเลต่างเคยมั่งมีจากความมั่งคั่งของนครนั้น เพราะภายในชั่วโมงเดียวนครนั้นก็สูญสิ้น”

วิวรณ์ 18:5-19 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

เพราะว่าบาปของนครนั้นกองสูงขึ้นถึงสวรรค์แล้ว และพระเจ้าได้ทรงจำการทุจริตแห่งนครนั้นได้ นครนั้นได้ให้ผลอย่างไร ก็จงให้ผลแก่นครนั้นอย่างนั้น และจงตอบแทนการกระทำของนครนั้นเป็นสองเท่า ในถ้วยที่นครนั้นได้ผสมไว้ ก็จงผสมลงในถ้วยนั้นเป็นสองเท่าให้นครนั้น นครบาบิโลนได้เย่อหยิ่งจองหองและเสเพลมากเท่าใด ก็จงให้นครนั้นได้รับการทรมาน และความระทมทุกข์มากเท่านั้น เพราะว่านครนั้นทะนงใจว่า <เราดำรงอยู่ในตำแหน่งราชินี ไม่ใช่หญิงม่าย เราจะไม่ประสบความระทมทุกข์เลย> เหตุฉะนั้นภัยพิบัติต่างๆของนครนั้นจะเกิดขึ้นในวันเดียว คือโรคระบาด ความระทมทุกข์ การกันดารอาหาร และไฟจะเผานครนั้นให้พินาศหมดสิ้น เพราะว่าพระเจ้าผู้ทรงพิพากษานครนั้นทรงอานุภาพยิ่งใหญ่>> บรรดากษัตริย์แห่งแผ่นดินโลก ที่ได้ล่วงประเวณีกับนครนั้นและได้เสเพลร่วมกันนั้น เมื่อได้เห็นควันไฟที่ไหม้นครนั้นก็จะพิลาปร่ำไห้คร่ำครวญ พวกกษัตริย์จะยืนอยู่แต่ห่างๆ เพราะกลัวภัยแห่งการทรมานของนครนั้น และจะกล่าวว่า <<วิบัติแล้ว วิบัติแล้วบาบิโลนมหานครที่ยิ่งใหญ่ เจ้าได้รับการพิพากษาโทษให้พินาศไปภายในชั่วโมงเดียวเท่านั้น>> บรรดาพ่อค้าในแผ่นดินโลกจะร่ำไห้คร่ำครวญเพราะนครนั้น เพราะว่าไม่มีใครซื้อสินค้าของเขาอีกต่อไปแล้ว สินค้าเหล่านั้นคือ ทองคำ เงิน เพชรพลอยต่างๆ ไข่มุก ผ้าป่านเนื้อละเอียด ผ้าสีม่วง ผ้าไหม ผ้าสีแดงเข้ม ไม้หอมทุกชนิด เครื่องที่ทำด้วยงา เครื่องไม้ที่มีราคามาก เครื่องทองสัมฤทธิ์ เครื่องเหล็ก เครื่องศิลาลาย อบเชย เครื่องเทศ เครื่องหอม มดยอบ กำยาน เหล้าองุ่น น้ำมัน ยอดแป้ง ข้าวสาลี โค แกะ ม้า รถรบ และทาส และชีวิตมนุษย์ ผลซึ่งจิตของเจ้ากระหายใคร่ได้นั้นก็ล่วงพ้นไปจากเจ้าแล้ว สิ่งสารพัดอันวิเศษยิ่งและหรูหราก็พินาศไปจากเจ้าแล้ว และเจ้าจะไม่ได้พบอีกเลย บรรดาพ่อค้าที่ได้ขายสิ่งของเหล่านั้น จนเป็นคนมั่งมีเพราะนครบาบิโลนนั้น จะยืนอยู่แต่ไกล เพราะกลัวภัยจากการทรมานของนครนั้น พวกเขาจะร้องไห้คร่ำครวญด้วยเสียงดัง ว่า <<วิบัติแล้ว วิบัติแล้วมหานครนั้น ที่ได้นุ่งห่มผ้าป่านเนื้อละเอียด ผ้าสีม่วงและผ้าสีแดงเข้ม ที่ได้ประดับด้วยทองคำ เพชรพลอยต่างๆ และไข่มุกนั้น เพียงในชั่วโมงเดียว ทรัพย์สมบัติเหล่านั้นก็พินาศสูญไปสิ้น>> และนายเรือทุกคน คนที่โดยสารเรือ พวกลูกเรือ และคนทั้งหลายที่มีอาชีพทางทะเลก็ได้ยืนอยู่แต่ห่างๆ และเมื่อคนเหล่านั้นได้เห็นควันไฟที่ไหม้นครนั้นก็ร้องว่า <<นครใดเล่าจะเป็นเหมือนมหานครนี้>> และเขาก็โปรยผงคลีลงบนศีรษะของตน พลางร้องไห้คร่ำครวญ ว่า <<วิบัติแล้ว วิบัติแล้วมหานครนี้ อันเป็นที่ซึ่งคนทั้งปวง ที่มีเรือกำปั่นเดินทะเล ได้เป็นคนมั่งมีขึ้นด้วยทรัพย์สมบัติของนครนั้น ภายในชั่วโมงเดียวนครนั้นก็เป็นที่ร้างเปล่า>>

วิวรณ์ 18:5-19 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

เพราะว่าบาปของนครนั้นกองสูงขึ้นถึงสวรรค์​แล้ว และพระเจ้าได้ทรงจำความชั่วช้าแห่งนครนั้นได้ นครนั้นได้​ให้​ผลอย่างไร ก็​จงให้ผลแก่นครนั้นอย่างนั้น และจงตอบแทนการกระทำของนครนั้นเป็นสองเท่า ในถ้วยที่นครนั้นได้ผสมไว้​ก็​จงผสมลงเป็นสองเท่าให้นครนั้น นครนั้นได้เย่อหยิ่งจองหองและมี​ชี​วิตอย่างหรูหรามากเท่าใด ก็​จงให้นครนั้นได้รับการทรมานและความระทมทุกข์มากเท่านั้น เพราะว่านครนั้นทะนงใจว่า ‘เราดำรงอยู่ในตำแหน่งราชินี ไม่ใช่​หญิ​งม​่าย เราจะไม่ประสบความระทมทุกข์​เลย​’ เหตุ​ฉะนั้น ภัยพิบัติ​ต่างๆของนครนั้นจะเกิดขึ้นในวันเดียว ความตาย และความระทมทุกข์ การก​ันดารอาหาร และไฟจะเผานครนั้นให้พินาศหมดสิ้น เพราะว่าองค์​พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้า ผู้​ทรงพิพากษานครนั้น ทรงอานุภาพยิ่งใหญ่” บรรดากษั​ตริ​ย์​แห่​งแผ่นดินโลกที่​ได้​ล่วงประเวณี​กับนครนั้น และได้​มี​ชี​วิตอย่างหรูหราร่วมกันนั้น เมื่อได้​เห​็นควันไฟที่​ไหม้​นครนั้น ก็​จะพิลาปร่ำไห้คร่ำครวญเพราะนครนั้น พวกกษั​ตริ​ย์จะยืนอยู่​แต่​ห่างๆเพราะกลัวภัยแห่งการทรมานของนครนั้น และจะกล่าวว่า “อนิจจาเอ๋ย อนิจจาเอ๋ย บาบิโลนมหานครที่​ยิ่งใหญ่ นครที่​แข็งแรง เพราะเจ้าได้รับการพิพากษาโทษให้พินาศไปภายในชั่วโมงเดียวเท่านั้น” บรรดาพ่อค้าในแผ่นดินโลกจะร่ำไห้คร่ำครวญเพราะนครนั้น เพราะว่าไม่​มี​ใครซื้อสินค้าของเขาอีกต่อไปแล้ว สิ​นค้าเหล่านั้นคือ ทองคำ เงิน เพชรพลอยต่างๆ ไข่มุก ผ้าป่านเนื้อละเอียด ผ้าสี​ม่วง ผ้าไหม ผ้าสี​แดงเข้ม ไม้​หอมทุกชนิด บรรดาภาชนะที่ทำด้วยงา บรรดาภาชนะไม้​ที่​มี​ราคามาก ภาชนะทองสัมฤทธิ์ ภาชนะเหล็ก ภาชนะหิ​นอ​่อน อบเชย เครื่องเทศ เครื่องหอม กำยาน เหล้าองุ่น น้ำมัน ยอดแป้ง ข้าวสาลี สัตว์​ต่างๆ แกะ ม้า รถรบ และทาส และชีวิตมนุษย์ และผลซึ่งจิตของเจ้ากระหายใคร่​ได้​นั้​นก​็ล่วงพ้นไปจากเจ้าแล้ว สิ​่งสารพัดอั​นว​ิเศษยิ่งและหรูหราก็พินาศไปจากเจ้าแล้ว และเจ้าจะไม่​ได้​พบมั​นอ​ีกเลย บรรดาพ่อค้าที่​ได้​ขายสิ่งของเหล่านั้น จนเป็นคนมั่​งม​ีเพราะนครนั้น จะยืนอยู่​แต่​ไกลเพราะกลัวภัยจากการทรมานของนครนั้น พวกเขาจะร้องไห้คร่ำครวญด้วยเสียงดัง ว่า “อนิจจาเอ๋ย อนิจจาเอ๋ย มหานครนั้น ที่​ได้​นุ่งห่มผ้าป่านเนื้อละเอียด ผ้าสี​ม่วง และผ้าสี​แดงเข้ม ที่​ได้​ประดั​บด​้วยทองคำ เพชรพลอยต่างๆและไข่​มุ​กนั้น เพียงในชั่วโมงเดียว ทรัพย์สมบัติ​อันยิ่งใหญ่นั้​นก​็พินาศสูญไปสิ้น” และนายเรือทุกคน คนที​่โดยสารเรือ พวกลูกเรือ และคนทั้งหลายที่​มี​อาชีพทางทะเล ก็ได้​ยืนอยู่​แต่​ห่างๆ และเมื่อคนเหล่านั้นได้​เห​็นควันไฟที่​ไหม้​นครนั้​นก​็ร้องว่า “นครใดเล่าจะเป็นเหมือนมหานครนี้” และเขาทั้งหลายก็โปรยผงคลีลงบนศีรษะของตน พลางร้องไห้คร่ำครวญว่า “อนิจจาเอ๋ย อนิจจาเอ๋ย มหานครนั้น อันเป็​นที​่ซึ่งคนทั้งปวงที่​มี​เรือกำปั่นเดินทะเลได้กลายเป็นคนมั่​งม​ีด้วยเหตุจากสิ่งของมีค่าของนครนั้น เพราะภายในชั่วโมงเดียวนครนั้​นก​็เป็​นที​่รกร้างไป”

วิวรณ์ 18:5-19 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

เพราะบาปของนครนั้นกองสูงขึ้นถึงสวรรค์แล้ว พระเจ้าทรงจดจำความผิดอันชั่วร้ายของมันได้ จงคืนให้แก่มันเหมือนกับที่มันได้ให้ผู้อื่น จงคืนสนองมันสองเท่าของสิ่งที่มันได้ทำ จงผสมเหล้าให้แรงเป็นสองเท่าของถ้วยที่มันให้คนอื่น มันฟุ้งเฟ้อบำรุงบำเรอตัวเองเท่าใด จงให้ทุกข์โศกความทรมานแก่มันเท่านั้น มันลำพองใจว่า ‘ข้านั่งบัลลังก์เป็นราชินี ข้าไม่ใช่หญิงม่าย ข้าจะไม่มีวันทุกข์โศก’ ฉะนั้นภายในวันเดียวภัยพิบัติต่างๆ จะจู่โจมนครนั้น คือความตาย ความทุกข์โศก และความอดอยาก มันจะถูกไฟเผาวอดวาย เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงพิพากษามันนั้นทรงฤทธิ์ “เมื่อบรรดากษัตริย์ของโลกที่ร่วมประเวณีและร่วมฟุ้งเฟ้อกับนครนั้นเห็นควันไฟที่เผามัน พวกเขาจะร่ำไห้และไว้อาลัยให้นครนั้น พวกเขากลัวภัยแห่งความทุกข์ทรมานของมันจึงยืนอยู่ห่างๆ และร้องว่า “ ‘วิบัติ! วิบัติแล้ว โอ มหานคร โอ บาบิโลน นครซึ่งเรืองอำนาจ! เพียงชั่วโมงเดียวความพินาศย่อยยับก็มาถึงเจ้า!’ “พ่อค้าทั้งหลายของโลกจะร่ำไห้ไว้อาลัยนครนั้นเพราะไม่มีใครซื้อสินค้าของเขาอีกแล้ว คือทองคำ เงิน เพชรพลอยและไข่มุก ผ้าลินินเนื้อดี ผ้าสีม่วง ผ้าไหมและผ้าสีแดงเข้ม ไม้หอมทุกชนิดและผลิตภัณฑ์ต่างๆ จากงาช้าง ไม้ราคาแพง ทองสัมฤทธิ์ เหล็กและหินอ่อน สินค้าอื่นๆ คืออบเชย เครื่องเทศ เครื่องหอม มดยอบ กำยาน เหล้าองุ่น น้ำมันมะกอก แป้งละเอียด ข้าวสาลี วัว แกะ ม้า รถม้า ร่างกายและวิญญาณมนุษย์ “เขาทั้งหลายจะกล่าวว่า ‘ผลที่เจ้าใฝ่หาได้พ้นมือเจ้าไปแล้ว ทรัพย์สมบัติและความหรูหราทั้งปวงของเจ้าได้สูญสิ้นไปแล้ว มันไม่มีวันฟื้นตัวขึ้นมาอีกแล้ว’ บรรดาพ่อค้าที่ร่ำรวยจากการขายสินค้าให้นครนั้นจะยืนอยู่ห่างๆ เพราะกลัวภัยแห่งความทุกข์ทรมานของมัน พวกเขาจะร่ำไห้ไว้อาลัย และร้องว่า “ ‘วิบัติ! วิบัติแล้ว โอ มหานคร เจ้านุ่งห่มผ้าลินินเนื้อดี ผ้าสีม่วง และผ้าสีแดงเข้ม แพรวพราวด้วยทองคำ เพชรพลอย และไข่มุก เพียงชั่วโมงเดียวทรัพย์สมบัติอลังการทั้งหลายก็ได้ถูกทำลายย่อยยับไป!’ “นายเรือทุกคน ผู้โดยสาร ลูกเรือ และคนทั้งปวงที่หาเลี้ยงชีพจากทะเลจะยืนอยู่ห่างๆ เมื่อเห็นควันที่เผานครนั้นพวกเขาจะร้องว่า ‘เคยมีนครไหนบ้างที่เหมือนนครยิ่งใหญ่นี้?’ พวกเขาจะโปรยผงคลีใส่ศีรษะของตน ร่ำไห้คร่ำครวญ และร้องว่า “ ‘วิบัติ! วิบัติแล้ว โอ มหานคร ที่นี่ทำให้ทุกคนผู้มีเรือเดินทะเล ร่ำรวยด้วยความมั่งคั่งของมัน เพียงชั่วโมงเดียวมันก็ถูกทำลายย่อยยับไป!’

วิวรณ์ 18:5-19 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

ด้วย​ว่า​บาป​ต่างๆ ของ​นาง​กอง​สูง​ถึง​ฟ้า​สวรรค์ และ​พระ​เจ้า​ไม่​ลืม​การ​กระทำ​ชั่ว​ของ​นาง จง​สนอง​ตอบ​นาง​อย่าง​ที่​นาง​ได้​กระทำ จง​จ่าย​คืน​ให้​นาง​เป็น 2 เท่า​ของ​ที่​นาง​ได้​กระทำ​ไว้ ใน​ถ้วย​ที่​นาง​ได้​ผสม​ไว้​แล้ว​นั้น ก็​จง​ผสม​ให้​นาง​มาก​เป็น 2 เท่า​ให้​นาง​ไป จง​ให้​ความ​ทรมาน​และ​ความ​ระทม​ทุกข์​แก่​นาง มาก​เท่า​กับ​ความ​ยิ่ง​ใหญ่​และ​ความ​ใคร่​ฝ่าย​กิเลส​ที่​นาง​บำเรอ​ตน​เอง นาง​โอ้อวด​ใน​ใจ​ว่า ‘เรา​นั่ง​อย่าง​เช่น​ราชินี เรา​ไม่​ใช่​แม่ม่าย และ​เรา​จะ​ไม่​มี​วัน​ระทม​ทุกข์’ ด้วย​เหตุ​นี้ ภัย​พิบัติ​ของ​นาง​จะ​เกิด​ขึ้น​ภาย​ใน​วัน​เดียว​คือ โรค​ระบาด การ​ร้อง​คร่ำครวญ และ​ความ​อดอยาก นาง​จะ​ถูก​ไฟ​เผา​ไหม้ ด้วย​ว่า​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า องค์​พระ​เจ้า​มี​มหิทธานุภาพ และ​เป็น​ผู้​พิพากษา​นาง” เมื่อ​บรรดา​กษัตริย์​ของ​แผ่นดิน​โลก​ที่​ได้​ผิด​ประเวณี และ​บำเรอ​ความ​ใคร่​ฝ่าย​กิเลส​กับ​นาง​ได้​เห็น​ควัน​ไฟ​ที่​ไหม้​นาง ก็​จะ​ร้องไห้​และ​คร่ำครวญ กษัตริย์​เหล่า​นั้น​จะ​ยืน​อยู่​ห่างๆ เพราะ​ตกใจ​กลัว​กับ​ความ​ทรมาน​ที่​นาง​ได้​รับ​และ​พูด​ว่า “ความ​วิบัติ ความ​วิบัติ เมือง​อัน​ยิ่ง​ใหญ่​เอ๋ย บาบิโลน เมือง​ที่​แข็ง​แกร่ง เจ้า​ถูก​พิพากษา​ภาย​ใน​ชั่วโมง​เดียว” พวก​พ่อ​ค้า​ของ​แผ่นดิน​โลก​จะ​ร้องไห้​และ​คร่ำครวญ​ถึง​นาง เพราะ​ไม่​มี​ใคร​ซื้อ​สินค้า​ของ​เขา​อีก​ต่อ​ไป​แล้ว สินค้า​จำ​พวก​ทองคำ เงิน เพชร​นิล​จินดา ไข่มุก ผ้า​ป่าน​เนื้อ​ดี ผ้า​สีม่วง ผ้า​ไหม ผ้า​สีแดง​สด ไม้​เนื้อ​หอม​ทุก​ชนิด เครื่อง​งา เครื่อง​ไม้​ราคา​แพง เครื่อง​ทอง​สัมฤทธิ์ เครื่อง​เหล็ก และ​เครื่อง​หิน​อ่อน อบเชย เครื่อง​เทศ เครื่อง​หอม มดยอบ กำยาน เหล้า​องุ่น น้ำมัน​มะกอก แป้ง​สาลี​ชั้น​เยี่ยม ข้าว​สาลี โค แกะ ม้า รถ​ม้า ทาส และ​ชีวิต​มนุษย์ “สิ่ง​ล้ำค่า​ทุก​ชนิด​ที่​เจ้า​อยาก​ได้ ก็​หาย​ไป​หมด​แล้ว ทุก​สิ่ง​ที่​มี​ไว้​บำเรอ​อย่าง​ฟุ่มเฟือย​และ​หรูหรา ก็​สูญ​สลาย​ไป​จาก​เจ้า และ​มนุษย์​จะ​หา​ไม่​พบ​อีก​เลย” พวก​พ่อ​ค้า​ที่​ขาย​สิ่ง​เหล่า​นี้ และ​ร่ำรวย​ได้​เพราะ​นาง ก็​จะ​ยืน​อยู่​ห่างๆ เพราะ​ตกใจ​กลัว​กับ​การ​ทรมาน​ที่​นาง​ได้​รับ เขา​จะ​ร้องไห้​และ​คร่ำครวญ และ​ร่ำร้อง​ว่า “ความ​วิบัติ ความ​วิบัติ เมือง​อัน​ยิ่ง​ใหญ่​เอ๋ย เจ้า​นุ่ง​ห่ม​ด้วย​ผ้า​ป่าน​เนื้อ​ดี ผ้า​สีม่วง ผ้า​สีแดง​สด อีก​ทั้ง​แพรวพราว​ด้วย​ทองคำ เพชร​นิล​จินดา และ​ไข่มุก ภาย​ใน​ชั่วโมง​เดียว ความ​มั่งมี​มหาศาล​ก็​ถูก​ทำลาย​เสีย​สิ้น” นาย​เรือ​ทุก​คน ผู้​โดยสาร ลูกเรือ​ทุก​คน และ​ทุก​คน​ที่​มี​อาชีพ​เกี่ยวข้อง​กับ​ทะเล​ก็​จะ​ยืน​อยู่​ห่างๆ เมื่อ​เขา​เหล่า​นั้น​เห็น​ควัน​ไฟ​ที่​ไหม้​นาง เขา​ก็​จะ​ร้อง​ขึ้น​ว่า “เคย​มี​เมือง​ใด​ที่​เหมือน​กับ​เมือง​อัน​ยิ่ง​ใหญ่​นี้​ไหม” พวก​เขา​จะ​ปา​ฝุ่น​ผง​ลง​บน​หัว​ของ​เขา​พลาง​ร้องไห้​และ​ร้อง​คร่ำครวญ พร้อม​กับ​ส่งเสียง​ร้อง​ว่า “ความ​วิบัติ ความ​วิบัติ เมือง​อัน​ยิ่ง​ใหญ่​เอ๋ย เมือง​ซึ่ง​ทุก​คน​ที่​มี​เรือ​เดิน​ทะเล​ได้​ร่ำรวย​ขึ้น ก็​เพราะ​ความ​มั่งมี​ของ​นาง แต่​ภาย​ใน​ชั่วโมง​เดียว​นาง​ก็​ถูก​ทำลาย​เสีย​สิ้น