สุภาษิต 26:11-28

สุภาษิต 26:11-28 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

คนโง่ที่ทำความโง่ซ้ำแล้วซ้ำอีก ก็เหมือนสุนัขที่กลับไปหาสิ่งที่มันสำรอกออกมา ท่านเห็นคนที่คิดว่าตัวเองฉลาดหรือ ยังมีหวังในคนโง่ได้มากกว่าในคนเช่นนั้น คนเกียจคร้านพูดว่า <<มีราชสีห์อยู่ที่ถนน มีสิงห์อยู่ที่ลานเมือง>> ประตูหันไปมาด้วยบานพับของมันฉันใด คนเกียจคร้าน ก็ทำอย่างนั้นบนที่นอนของเขา คนเกียจคร้านฝังมือของเขาไว้ในชาม เขาเหน็ดเหนื่อยที่จะนำมือกลับมาที่ปากของตน คนเกียจคร้านเห็นว่าตัวเองฉลาดกว่า คนเจ็ดคนที่ตอบได้อย่างหลักแหลม บุคคลที่เข้ายุ่งในการทะเลาะวิวาทซึ่งไม่ใช่เรื่องของเขาเอง ก็เหมือนคนจับหูสุนัขตัวที่กำลังผ่านไป คนที่ล่อลวงเพื่อนบ้านของเขา และกล่าวว่า <<ข้าล้อเล่นเท่านั้นเอง>> ก็เหมือนกับคนบ้าที่โยนดุ้นไฟ ลูกธนู และความตายออกไป เพราะขาดฟืน ไฟก็ดับ และที่ไหนที่ไม่มีคนซุบซิบ การทะเลาะวิวาทก็หยุดไป ถ่านเป็นเชื้อเพลิง และฟืนเป็นเชื้อไฟฉันใด คนที่มักทะเลาะวิวาทก็เป็นเชื้อการวิวาทฉันนั้น ถ้อยคำของคนปากบอนเป็นอาหารอร่อย มันลงไปยังส่วนข้างในของร่างกาย ริมฝีปากที่ราบรื่นกับใจที่ชั่วร้าย ก็เหมือนน้ำยาเคลือบที่อาบอยู่บนภาชนะดิน บุคคลที่เกลียดผู้อื่น ก็สอพลอด้วยลิ้นของตน และตอแหลอยู่ในใจ เมื่อเขาพูดอย่างใจกรุณาอย่าเชื่อเขา เพราะมีสิ่งน่าเกลียดน่าชังร้อยแปดอยู่ในใจของเขา ถึงแม้เขาจะปิดความเกลียดชังของเขาไว้ด้วยเล่ห์ ความชั่วร้ายของเขาเผยออกในที่ประชุม บุคคลที่ขุดหลุมพราง เขาจะตกลงไปเอง ผู้ใดให้ก้อนหินกลิ้งมา มันจะกลับทับเขาเอง ลิ้นที่มุสาเกลียดชังผู้ที่มันทำลาย และปากที่ป้อยอก็ทำความพินาศ

สุภาษิต 26:11-28 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

คนโง่​ที่​กลับ​ทำ​เรื่อง​โง่ๆ​ซ้ำแล้ว​ซ้ำอีก เหมือน​หมา​ที่​กลับ​ไป​กิน​สิ่ง​ที่​มัน​อ้วก​ออก​มา คุณ​เคย​เห็น​คน​ที่​คิด​ว่า​ตัวเอง​เป็น​คนฉลาดไหม ยัง​มี​ความหวัง​สำหรับ​คนโง่​มาก​กว่า​คน​อย่างนั้น​เสียอีก คน​ขี้เกียจ​ร้อง​ว่า “มี​สิงโต​อยู่​บน​ถนน มี​สิงโต​อยู่​ตาม​ท้องถนน” เขา​ก็เลย​ไม่​ออก​ไป​จาก​บ้าน คน​ขี้เกียจ​พลิก​ไป​มา​อยู่​บน​เตียง เหมือน​บานพับ​ประตู​ที่​พลิก​ไป​มา คน​ขี้เกียจ​ซุก​มือ​ไว้​ใน​ชาม ขี้เกียจ​แม้แต่​จะ​ยก​อาหาร​เข้า​ปาก​ตัวเอง คน​ขี้เกียจ​คิด​ว่า​เขานี้​ฉลาด​กว่า คน​เจ็ดคน​ที่​ตอบ​อย่าง​มีเหตุ​มีผล คน​ที่​ชอบ​เข้า​ไป​แส่​เรื่อง​ของ​คนอื่น​ที่​กำลัง​ทะเลาะ​กันอยู่ ก็​เหมือน​กับ​คน​ที่​ดึง​หู​ทั้ง​สอง​ข้าง​ของ​หมา​จรจัด​ที่​เดิน​ผ่านมา คน​ที่​หลอกลวง​เพื่อน​บ้าน แล้ว​แกล้ง​ทำ​เป็น​พูด​ว่า “แค่​ล้อเล่น” ก็​เหมือน​กับ​คนบ้า​ที่​เที่ยว​ยิง​ธนูไฟ​มั่วๆ​ออก​ไป​ฆ่า​ใคร​ต่อ​ใคร ไม่​มี​ฟืน ไฟ​ก็ดับ ไม่​มี​การซุบซิบ​นินทา การ​ทะเลาะ​วิวาท​ก็หยุดลง ถ่าน​หิน​ก่อ​ให้​ไฟ​เผา​ไหม้ ฟืน​ก่อ​ให้​ไฟ​ติด คน​ชอบ​ทะเลาะ​ก็​ก่อ​ให้​เกิด​การ​ขัดแย้ง​อยู่​เรื่อย​ไป คำ​ซุบซิบ​นินทา เป็น​เหมือน​อาหาร​อร่อย ที่​ตกลง​ไป​ใน​ท้อง​ของ​ผู้​ฟัง จูบ​ที่​แสน​อบอุ่น แต่​ซ่อน​ใจ​ชั่วร้าย เหมือน​น้ำยา​สี​เงิน​ที่​เคลือบ​หม้อ​ดิน​ถูกๆ ศัตรู​ก็​แอบ​แฝง​ตัวเอง ภายใต้​คำพูด​ที่​อ่อนหวาน แต่​ภาย​ใน​ใจ​เขานั้น แอบ​ซ่อน​การ​หลอกลวง​ไว้ ถ้า​เขา​พูด​สุภาพ​เรียบร้อย อย่า​ไป​หลงเชื่อ เพราะ​ใจ​ของ​เขา​มีแต่​เรื่อง​ชั่วช้า​น่าขยะแขยง​ร้อยแปด เขา​ปิดบัง​ความ​เกลียดชัง​ของ​เขา​ด้วย​การ​หลอกลวง แต่​ความชั่ว​ของ​เขา​จะ​ถูก​เปิดโปง​ใน​ที่​สาธารณะ คน​ที่​ขุด​หลุม​พราง​จะ​ตกลง​ไป​เอง คน​ที่​พยายาม​กลิ้ง​หิน​ใส่​คนอื่น มัน​จะ​กลิ้ง​กลับ​มา​ทับ​เขา​เอง ลิ้น​ที่​โกหก เกลียด​คน​ที่​มัน​โกหก แต่​ปาก​ที่​ประจบ​ประแจง ก็​ทำ​ให้​ตัวเอง​พินาศ​ได้

สุภาษิต 26:11-28 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

คนโง่ที่ทำความโง่ซ้ำแล้วซ้ำอีก ก็เหมือนสุนัขที่กลับไปหาสิ่งที่มันสำรอกออกมา เจ้าเห็นคนที่คิดว่าตัวเองมีปัญญาหรือ? ยังมีความหวังในคนโง่มากกว่าในเขา คนเกียจคร้านพูดว่า “มีราชสีห์อยู่ที่ถนน มีสิงโตอยู่ที่ลานเมือง” ประตูหันไปมาด้วยบานพับของมันฉันใด คนเกียจคร้านก็ทำอย่างนั้นบนที่นอนของเขาฉันนั้น คนเกียจคร้านฝังมือของตนในชาม เขาเหนื่อยที่จะเอามือกลับมาที่ปากของตน คนเกียจคร้านเห็นว่าตัวเองมีปัญญากว่า คนเจ็ดคนที่ตอบได้อย่างหลักแหลม คนที่ผ่านไปยุ่งเรื่องทะเลาะวิวาทซึ่งไม่ใช่เรื่องของตน ก็เหมือนคนดึงหูสุนัข คนบ้าขว้างดุ้นไฟ ลูกธนู และความตายฉันใด คนที่ล่อลวงเพื่อนบ้านของตน และกล่าวว่า “ข้าล้อเล่น” ก็ฉันนั้น เพราะขาดฟืน ไฟก็ดับ และที่ไหนไม่มีคนซุบซิบนินทา การทะเลาะวิวาทก็หยุดไป ถ่านเป็นเชื้อเพลิง และฟืนเป็นเชื้อไฟฉันใด คนที่ชอบทะเลาะก็เป็นเหตุให้การวิวาทลุกลามฉันนั้น ถ้อยคำของผู้ซุบซิบนินทาก็เหมือนชิ้นอาหารอร่อย มันลงไปยังส่วนต่างๆ ในร่างกาย ปากที่เผ็ดร้อนกับใจชั่ว ก็เหมือนขี้เงินที่เคลือบอยู่บนภาชนะดิน คนที่เกลียดผู้อื่น ก็กลบเกลื่อนด้วยวาจา และเก็บการหลอกลวงไว้ภายใน เมื่อน้ำเสียงเขาเหมือนมีเมตตาจิต ก็อย่าเชื่อเขา เพราะมีสิ่งน่าเกลียดน่าชังร้อยแปดในใจเขา ถึงเขาจะปกปิดความเกลียดชังไว้ด้วยเล่ห์ แต่ความชั่วของเขาจะถูกเปิดโปงในที่ประชุม คนที่ขุดหลุมพรางจะตกลงไปเอง คนที่กลิ้งก้อนหินขึ้นไป มันจะกลิ้งกลับมาทับเขาเอง ลิ้นมุสาเกลียดพวกที่มันทำลาย และปากป้อยอก็ทำให้พินาศ

สุภาษิต 26:11-28 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

คนโง่​ที่​ทำความโง่ซ้ำแล้วซ้ำอี​กก​็เหมือนสุนัขที่​กล​ับไปหาสิ่งที่มันสำรอกออกมา ท่านเห็นคนที่คิดว่าตัวเองฉลาดหรือ ยั​งม​ีหวังในคนโง่​ได้​มากกว่าในคนเช่นนั้น คนเกียจคร้านพูดว่า “​มี​สิ​งโตอยู่ตามหนทาง มี​สิ​งโตอยู่ตามถนน” ประตู​หันไปมาด้วยบานพับของมันฉันใด คนเกียจคร้านก็ทำอย่างนั้นบนที่นอนของเขา คนเกียจคร้านฝั​งม​ือของเขาไว้ในอกเสื้อ เขาเหน็ดเหนื่อยที่จะนำมือกลับมาที่ปากของตน คนเกียจคร้านเห็​นว​่าตัวเองฉลาดกว่าคนเจ็ดคนที่ตอบได้อย่างหลักแหลม บุ​คคลที่กำลังผ่านไปและเข้ายุ่งในการทะเลาะวิวาทซึ่งไม่​ใช่​เรื่องของเขาเองก็เหมือนคนจับหู​สุนัข คนบ้าที่โยนดุ้นไฟ ลูกธนู​และความตายออกไป ก็​เหมือนกับคนที่ล่อลวงเพื่อนบ้านของเขาและกล่าวว่า “ข้าล้อเล่นเท่านั่นเอง” ที่​ไหนที่​ไม่มี​ฟืน ไฟก็​ดับ และที่ไหนที่​ไม่มี​คนซุบซิบ การทะเลาะวิ​วาทก​็หยุดไป ถ่านเป็นเชื้อเพลิง และฟืนเป็นเชื้อไฟฉันใด คนที​่มักทะเลาะวิ​วาทก​็เป็นเชื้อการวิวาทฉันนั้น ถ้อยคำของผู้กระซิ​บน​ินทาก็เหมือนบาดแผล มันลงไปยังส่วนข้างในของร่างกาย ริมฝีปากที่ร้อนรนกับใจที่ชั่วร้ายก็เหมือนขี้เงินอยู่บนภาชนะดิน บุ​คคลที่​เกล​ียดผู้อื่​นก​็สอพลอด้วยริมฝีปากของตน และเก็บความหลอกลวงไว้ในใจ เมื่อเขาพูดจาไพเราะน่าฟังอย่าเชื่อเขา เพราะมี​สิ​่งน่าเกลียดน่าชังเจ็​ดอย​่างอยู่ในใจของเขา ถึงแม้​เขาจะปิดความเกลียดชังของเขาไว้ด้วยความหลอกลวง ความชั่วร้ายของเขาจะเผยออกต่อหน้าที่ประชุ​มท​ั้งหมด บุ​คคลที่ขุดหลุมพราง เขาจะตกลงไปเอง ผู้​ใดให้ก้อนหินกลิ้งมา มันจะกลั​บท​ับเขาเอง ลิ้​นที​่​มุ​สาเกลียดชังผู้​ที่​มันทำลาย และปากที่ป้อยอก็ทำความพินาศ

สุภาษิต 26:11-28 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

คนโง่ที่ทำความโง่ซ้ำแล้วซ้ำอีก ก็เหมือนสุนัขที่กลับไปหาสิ่งที่มันสำรอกออกมา ท่านเห็นคนที่คิดว่าตัวเองฉลาดหรือ ยังมีหวังในคนโง่ได้มากกว่าในคนเช่นนั้น คนเกียจคร้านพูดว่า <<มีราชสีห์อยู่ที่ถนน มีสิงห์อยู่ที่ลานเมือง>> ประตูหันไปมาด้วยบานพับของมันฉันใด คนเกียจคร้าน ก็ทำอย่างนั้นบนที่นอนของเขา คนเกียจคร้านฝังมือของเขาไว้ในชาม เขาเหน็ดเหนื่อยที่จะนำมือกลับมาที่ปากของตน คนเกียจคร้านเห็นว่าตัวเองฉลาดกว่า คนเจ็ดคนที่ตอบได้อย่างหลักแหลม บุคคลที่เข้ายุ่งในการทะเลาะวิวาทซึ่งไม่ใช่เรื่องของเขาเอง ก็เหมือนคนจับหูสุนัขตัวที่กำลังผ่านไป คนที่ล่อลวงเพื่อนบ้านของเขา และกล่าวว่า <<ข้าล้อเล่นเท่านั้นเอง>> ก็เหมือนกับคนบ้าที่โยนดุ้นไฟ ลูกธนู และความตายออกไป เพราะขาดฟืน ไฟก็ดับ และที่ไหนที่ไม่มีคนซุบซิบ การทะเลาะวิวาทก็หยุดไป ถ่านเป็นเชื้อเพลิง และฟืนเป็นเชื้อไฟฉันใด คนที่มักทะเลาะวิวาทก็เป็นเชื้อการวิวาทฉันนั้น ถ้อยคำของคนปากบอนเป็นอาหารอร่อย มันลงไปยังส่วนข้างในของร่างกาย ริมฝีปากที่ราบรื่นกับใจที่ชั่วร้าย ก็เหมือนน้ำยาเคลือบที่อาบอยู่บนภาชนะดิน บุคคลที่เกลียดผู้อื่น ก็สอพลอด้วยลิ้นของตน และตอแหลอยู่ในใจ เมื่อเขาพูดอย่างใจกรุณาอย่าเชื่อเขา เพราะมีสิ่งน่าเกลียดน่าชังร้อยแปดอยู่ในใจของเขา ถึงแม้เขาจะปิดความเกลียดชังของเขาไว้ด้วยเล่ห์ ความชั่วร้ายของเขาเผยออกในที่ประชุม บุคคลที่ขุดหลุมพราง เขาจะตกลงไปเอง ผู้ใดให้ก้อนหินกลิ้งมา มันจะกลับทับเขาเอง ลิ้นที่มุสาเกลียดชังผู้ที่มันทำลาย และปากที่ป้อยอก็ทำความพินาศ

สุภาษิต 26:11-28 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

สุนัขหวนกลับไปหาสิ่งที่มันสำรอกออกมาฉันใด คนโง่ก็กลับไปทำสิ่งโง่เขลาซ้ำซากฉันนั้น เจ้าเห็นพวกคนที่คิดว่าตัวเองฉลาดไหม ยังมีความหวังในคนโง่มากกว่าพวกเขาเสียอีก คนเกียจคร้านพูดว่า “มีสิงโตอยู่ที่ถนน มีสิงห์ร้ายเดินไปมาตามท้องถนน!” ประตูเปิดปิดไปมาที่บานพับฉันใด คนเกียจคร้านก็พลิกตัวไปมาอยู่บนเตียงฉันนั้น คนเกียจคร้านแช่มือคาอยู่ในชาม ขี้เกียจเกินกว่าจะหยิบอาหารใส่ปากตนเอง คนเกียจคร้านคิดว่าตัวเองฉลาด กว่าคนเจ็ดคนที่ตอบอย่างมีเหตุมีผล การแส่เข้าไปกลางวงวิวาทที่ไม่ใช่ธุระของตน เปรียบเหมือนคนที่กระชากหูสุนัขจรจัด เหมือนคนบ้าที่กราดยิงลูกศรเพลิง หรือลูกศรอาบยาพิษ คนที่โกหกหลอกลวงเพื่อนบ้าน แล้วแก้ตัวว่า “ฉันล้อเล่นน่ะ!” ก็เป็นเช่นนั้น เมื่อไม่มีฟืน ไฟก็ดับฉันใด เมื่อไม่มีการซุบซิบนินทา การทะเลาะวิวาทก็สงบลงฉันนั้น คนชอบทะเลาะก่อเรื่องวิวาทได้ง่ายดาย เหมือนถ่านแดงพร้อมลุกเป็นเพลิง และฟืนพร้อมลุกเป็นไฟ ถ้อยคำซุบซิบนินทาเหมือนอาหารโอชะ เข้าไปยังส่วนลึกที่สุดของคนเรา ริมฝีปากที่พูดจารื่นหูจากจิตใจชั่วร้าย ก็เหมือนขี้แร่เงินเคลือบเครื่องปั้นดินเผา ศัตรูผู้เกลียดชังอำพรางตนเองด้วยริมฝีปากของเขา แต่ใจของเขาเต็มไปด้วยความหลอกลวง ถึงจะพูดจาน่าฟัง ก็อย่าไปไว้ใจเขา เพราะในใจของเขาเต็มไปด้วยความชั่วร้ายที่น่าชิงชัง เขาเสแสร้งปกปิดความเกลียดชังของตน แต่ในที่สุดความชั่วของเขาจะถูกเปิดโปงในที่ประชุม ผู้ใดขุดหลุมพราง ผู้นั้นจะตกลงไปเอง ผู้ใดกลิ้งหินออกมา มันจะกลิ้งกลับไปทับผู้นั้นเอง ลิ้นที่มุสาก็เกลียดชังผู้ที่มันทำร้าย และปากที่พูดจารื่นหูก็สร้างความพินาศ

สุภาษิต 26:11-28 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

สุนัข​ที่​กลับ​ไป​กิน​สิ่ง​ที่​มัน​สำรอก​ออก​เช่น​ไร คน​โง่​ที่​ทำ​สิ่ง​โง่ๆ ซ้ำ​แล้ว​ซ้ำ​เล่า​ก็​เช่น​นั้น เจ้า​เห็น​คน​ที่​คิด​ว่า​เขา​ฉลาด​ใน​สายตา​ของ​ตน​เอง​ไหม คน​โง่​ก็​ยัง​มี​ความ​หวัง​มาก​กว่า​เขา​เสีย​อีก คน​เกียจคร้าน​พูด​ว่า “มี​สิงโต​อยู่​ที่​ถนน สิงโต​อยู่​ที่​ลาน​ชุมนุม” ประตู​ติด​กับ​บาน​พับ​ซึ่ง​ตี​กลับ​ไป​กลับ​มา​เป็น​เช่น​ไร คน​เกียจคร้าน​ที่​อยู่​กับ​เตียง​นอน​ก็​เป็น​เช่น​นั้น คน​ขี้เกียจ​แช่​มือ​ไว้​ใน​จาน​ของ​ตน เขา​ขี้เกียจ​เหลือ​เกิน แม้แต่​จะ​ยก​มือ​ป้อน​ตัว​เอง​ยัง​ไม่​ยอม​ทำ ใน​สายตา​ของ​คน​เกียจคร้าน​จะ​เห็น​ว่า​ตน​มี​ความ​ฉลาด​มาก​เกิน​กว่า ความ​ฉลาด​ของ​คน​เจ็ด​คน​ที่​สามารถ​โต้ตอบ​อย่าง​เฉลียว​ฉลาด​ได้ ผู้​ใด​ยุ่ง​กับ​การ​ทะเลาะ​วิวาท​ที่​ไม่​เกี่ยว​กับ​ตน ผู้​นั้น​เปรียบ​เสมือน​คน​ดึง​หู​สุนัข​ที่​เดิน​ผ่าน​มา คน​ไม่​มี​สติ​ยั้ง​คิด​ที่​ยิง​ลูก​ธนู​เพลิง หรือ​ลูก​ธนู​มี​พิษ​ที่​ทำให้​ถึง​แก่​ชีวิต เปรียบ​ได้​กับ คน​หลอก​ลวง​เพื่อน​บ้าน และ​พูด​ว่า “เรา​เพียง​ล้อ​เล่น​เท่า​นั้น” หาก​ว่า​ไม่​มี​ฟืน ไฟ​ก็​ดับ และ​ที่​ใด​ไม่​มี​คน​ซุบซิบ การ​ทะเลาะ​วิวาท​ก็​ยุติ​ลง ถ่าน​คุ​เป็น​เพลิง และ​ฟืน​ลุก​เป็น​ไฟ​ได้​อย่าง​ไร คน​ช่าง​ต่อล้อ​ต่อเถียง ก็​ก่อ​ให้​เกิด​การ​ทะเลาะ​วิวาท​ได้​อย่าง​นั้น คำ​พูด​ของ​คน​ซุบซิบ​นินทา​เป็น​เช่น​อาหาร​โอชา และ​ไหล​ลง​สู่​ส่วน​ลึก​สุด​ของ​ร่างกาย น้ำยา​เคลือบ​เครื่อง​ดิน​เผา​เป็น​เช่น​ไร ริม​ฝีปาก​รื่น​หู​แต่​ใจ​ชั่วร้าย​ก็​เป็น​เช่น​นั้น ผู้​ที่​มี​ใจ​เกลียด​ชัง​ใช้​คำ​พูด​ปิด​บัง​ความ​รู้สึก​ของ​ตน แต่​ใจ​ของ​เขา​สะสม​ความ​หลอก​ลวง แม้​การ​พูด​ของ​เขา​จะ​แสดง​ความ​กรุณา​ก็​อย่า​เชื่อ เพราะ​ใจ​ของ​เขา​มี​แต่​สิ่ง​ที่​น่า​รังเกียจ​ทั้ง​เจ็ด​สิ่ง ความ​เกลียด​ชัง​ของ​เขา​อาจ​จะ​ถูก​ปิด​บัง​ด้วย​ความ​หลอก​ลวง แต่​ความ​เลวร้าย​ของ​เขา​จะ​ถูก​เปิดโปง​ให้​เป็น​ที่​รู้​โดย​ทั่ว​หน้า​กัน ถ้า​ใคร​ขุด​หลุม​พราง คน​นั้น​ก็​จะ​ตก​ลง​ไป​เอง ถ้า​ใคร​กลิ้ง​ก้อน​หิน มัน​ก็​จะ​กลิ้ง​กลับ​ไป​ทับ​เขา​เอง​เช่น​กัน ลิ้น​ที่​โป้ปด​เกลียด​ชัง​ผู้​ที่​มัน​ทำ​ร้าย และ​ปาก​ที่​ยกยอ​ปอปั้น​ทำให้​พินาศ​ได้