เพลงคร่ำครวญ 3:37-50
เพลงคร่ำครวญ 3:37-50 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
ไม่มีใครหรอกที่สามารถพูดแล้วให้มันเป็นไปตามที่เขาพูด นอกจากพระยาห์เวห์จะสั่งให้มันเกิดขึ้น ทั้งเรื่องที่ดีและไม่ดีเกิดขึ้นมา ตามคำสั่งของพระเจ้าผู้ใหญ่ยิ่งสูงสุด ตราบใดที่เรายังมีชีวิตอยู่ ก็ไม่ควรบ่นเมื่อถูกลงโทษเพราะทำบาป ให้เราทดสอบและสำรวจถึงการกระทำของเรา แล้วหันกลับไปหาพระยาห์เวห์ ให้เรายกใจของเราพร้อมกับมือทั้งสองขึ้น ต่อพระเจ้าในสวรรค์และพูดว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ พวกเราได้ทำบาปและกบฏต่อพระองค์ และพระองค์ไม่ได้ให้อภัยพวกเรา พระองค์ได้ปกคลุมเราด้วยความโกรธและไล่ติดตามเรา พระองค์ฆ่าเราอย่างไม่ปรานี พระองค์เอาเมฆมาปกคลุมพระองค์ไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้คำอธิษฐานผ่านไปถึงพระองค์ พระองค์ทำให้เราเป็นเหมือนกับเศษเดนและขยะ ท่ามกลางชนชาติอื่นๆ พวกศัตรูของเรา พูดหัวเราะเยาะดูถูกพวกเรา พวกเราตื่นตระหนกและตกอยู่ในหลุมพราง อยู่ในความพินาศและถูกทำลาย” น้ำตาไหลจากดวงตาของผมอย่างสายน้ำ เพราะคนของผมล่มจม น้ำตาของผมไหลอย่างไม่ขาดสาย ผมจะร้องไห้ไม่หยุด จนกว่าพระยาห์เวห์จะมองลงมาจากสวรรค์ และเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น
เพลงคร่ำครวญ 3:37-50 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
ผู้ใดจะกล่าว แล้วสิ่งนั้นก็เกิดขึ้น นอกจากเมื่อองค์เจ้านายทรงบัญชาให้เป็นไป? จากพระโอษฐ์ขององค์ผู้สูงสุดนั้น สิ่งดีและสิ่งร้ายก็ออกมามิใช่หรือ? มนุษย์ที่มีชีวิตจะบ่นไปทำไม? คือคนที่ถูกทำโทษเพราะบาปของตน נ (นูน) ให้เราทดสอบและพิจารณาวิถีของเรา และกลับมาหาพระยาห์เวห์เถิด ให้เรายกใจและมือขึ้น ต่อพระเจ้าในฟ้าสวรรค์ ทูลว่า “พวกข้าพระองค์ได้ล่วงละเมิดและขัดขืน และพระองค์ยังไม่ได้ทรงอภัยโทษ ס (สาเมค) “พระองค์คลุมพระองค์ด้วยพระพิโรธและทรงไล่ตามพวกข้าพระองค์ ได้ทรงประหารโดยปราศจากพระกรุณา พระองค์คลุมพระองค์ด้วยเมฆ เพื่อว่าการอธิษฐานของพวกข้าพระองค์จะไม่ทะลุไปถึงพระองค์ได้ พระองค์ได้ทรงทำให้พวกข้าพระองค์เป็นเหมือนสิ่งโสโครกและขยะ อยู่ท่ามกลางชนชาติทั้งหลาย פ (เพ) “ศัตรูทั้งสิ้นของพวกข้าพระองค์ ได้อ้าปากตะโกนว่าพวกข้าพระองค์ ความสยดสยองและหลุมพรางมาถึงพวกข้าพระองค์ ทั้งความร้างเปล่าและความพินาศ น้ำตาของข้าพระองค์ไหลเป็นสายน้ำ เนื่องด้วยความพินาศแห่งประชาชนของข้าพระองค์ ע (อายิน) “น้ำตาของข้าพระองค์ไหลไม่หยุด และไม่ได้พักเลย จนกว่าพระยาห์เวห์จะทอดพระเนตร ดูจากฟ้าสวรรค์
เพลงคร่ำครวญ 3:37-50 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
ผู้ใดจะสั่งและให้เป็นไปได้นอกจากเมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาให้เป็นไป จากพระโอษฐ์ของพระผู้สูงสุดนั้นไม่ใช่มีมาทั้งร้ายและดีหรือ มนุษย์เป็นๆจะไปบ่นเอากับใคร คือมนุษย์ที่ถูกทำโทษเพราะบาปของตน ให้พวกเราทดสอบและพิจารณาวิถีของพวกเรา และกลับมาหาพระเยโฮวาห์เถิด ให้พวกเรายกจิตใจและมือของพวกเราขึ้นต่อพระเจ้าในฟ้าสวรรค์ทูลว่า “พวกข้าพระองค์ได้ทรยศและได้กบฏแล้ว และพระองค์ยังไม่ได้ทรงอภัยโทษ พระองค์ทรงห่มความกริ้วและข่มเหงพวกข้าพระองค์ ได้ทรงประหารอย่างไม่สงสาร พระองค์ทรงคลุมพระองค์ไว้เสียด้วยเมฆ เพื่อว่าการอธิษฐานของพวกข้าพระองค์จะไม่ทะลุไปถึงพระองค์ได้ พระองค์ได้ทรงกระทำให้พวกข้าพระองค์เป็นเหมือนหยากเหยื่อและมูลฝอยอยู่ในท่ามกลางชนชาติทั้งหลาย บรรดาศัตรูของพวกข้าพระองค์ได้อ้าปากตะโกนโพนทะนาว่าพวกข้าพระองค์ ความหวาดและกับดักมาถึงข้าพระองค์ทั้งหลาย ทั้งการรกร้างว่างเปล่าและความพินาศ น้ำตาของข้าพระองค์ไหลเป็นแม่น้ำเนื่องด้วยความพินาศแห่งธิดาของชนชาติของข้าพระองค์ น้ำตาของข้าพระองค์ไหลลงไม่หยุดและไม่มีเวลาสร่างเลย กว่าพระเยโฮวาห์จะทอดพระเนตรลงแลดูจากสวรรค์
เพลงคร่ำครวญ 3:37-50 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
ผู้ใดจะสั่งและให้เป็นไปได้ นอกจากเมื่อพระเจ้าทรงสถาปนาให้เป็นไป จากพระโอษฐ์ของพระผู้สูงสุดนั้น ไม่ใช่มีมาทั้งร้ายและดี ยากและสบายหรือ มนุษย์เป็นๆจะไปบ่นเอากับใคร คือมนุษย์ที่ถูกทำโทษเพราะบาปของตน ให้พวกเราทดสอบและพิจารณาวิถีของพวกเรา และกลับมาหาพระเจ้าเถิด ให้พวกเรายกจิตใจและมือของพวกเราขึ้น ต่อพระเจ้าในฟ้าสวรรค์ทูลว่า <<พวกข้าพระองค์ได้ทรยศและได้กบฏแล้ว และพระองค์ยังไม่ได้ทรงอภัยโทษ>> <<พระองค์ทรงห่มความกริ้วและไล่ตามพวกข้าพระองค์ ได้ทรงประหารอย่างไม่สงสาร พระองค์ทรงคลุมพระองค์ไว้เสียด้วยเมฆ เพื่อว่าการอธิษฐานของพวกข้าพระองค์จะไม่ทะลุไป ถึงพระองค์ได้ พระองค์ได้ทรงกระทำให้พวก ข้าพระองค์เป็นเหมือนหยากเยื่อและมูลฝอย อยู่ในท่ามกลางชนชาติทั้งหลาย <<บรรดาศัตรูของพวกข้าพระองค์ ได้อ้าปากตะโกนโพนทะนาว่าพวกข้าพระองค์ เหตุสยดสยองและหลุมพรางมาถึงข้าพระองค์ ทั้งความร้างเปล่าและความพินาศ น้ำตาของข้าพระองค์ไหลเป็นแม่น้ำ เนื่องด้วยความพินาศแห่งธิดาของชนชาติของข้าพระองค์ <<น้ำตาของข้าพระองค์ไหลลงไม่หยุด และไม่มีเวลาสร่างเลย กว่าพระเจ้าจะทอดพระเนตรลง แลดูจากสวรรค์
เพลงคร่ำครวญ 3:37-50 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
หากองค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้มีประกาศิตไว้ ผู้ใดเล่าจะสั่งให้มันเกิดขึ้นได้? ทั้งหายนะและสิ่งดีงาม ล้วนมาจากพระโอษฐ์ขององค์ผู้สูงสุดไม่ใช่หรือ? ควรหรือที่มนุษย์จะบ่น เมื่อถูกลงโทษเพราะบาปทั้งหลายของตน? ให้เราสำรวจตรวจตราวิถีทางของเราเอง และให้เรากลับมาหาองค์พระผู้เป็นเจ้า ให้เราชูใจและชูมือขึ้นอธิษฐาน ต่อพระเจ้าในสวรรค์และกล่าวว่า “ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ทำบาปและได้กบฏ และพระองค์ไม่ได้ทรงให้อภัย “พระองค์ทรงคลุมพระองค์เองไว้ด้วยพระพิโรธและทรงตามล่าข้าพระองค์ทั้งหลาย พระองค์ทรงประหารโดยไม่ปรานี พระองค์ทรงคลุมพระองค์เองไว้ด้วยเมฆ เพื่อไม่ให้คำอธิษฐานใดๆ ขึ้นถึงพระองค์ได้ พระองค์ทรงทำให้ข้าพระองค์ทั้งหลายเป็นกากเดนและเศษขยะ ในหมู่ประชาชาติ “ศัตรูทั้งปวงของพวกข้าพระองค์ เปิดปากว่าร้ายพวกข้าพระองค์ พวกข้าพระองค์เผชิญความน่าสะพรึงกลัว การหลอกลวงและความพินาศย่อยยับ” ธารน้ำตาไหลหลั่งจากตาของข้าพเจ้า เพราะพี่น้องร่วมชาติของข้าพเจ้าถูกทำลาย ข้าพเจ้าจะหลั่งน้ำตาไม่ขาดสาย ไม่หยุดหย่อน จนกว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทอดพระเนตร จากฟ้าสวรรค์ลงมาเหลียวแล
เพลงคร่ำครวญ 3:37-50 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
ใครบัญชาให้เกิดขึ้นได้ นอกจากพระผู้เป็นเจ้าจะกำหนดขึ้น สิ่งดีและร้ายเกิดขึ้น ก็เนื่องจากองค์ผู้สูงสุดบัญชามิใช่หรือ ทำไมมนุษย์ที่ยังมีชีวิตจึงพร่ำบ่น เมื่อถูกลงโทษเพราะบาปของตน เราควรพิจารณาและทดสอบวิถีทางของพวกเรา และหันเข้าหาพระผู้เป็นเจ้าเถิด เรามาเปิดใจและยกมืออธิษฐานต่อ พระเจ้าในสวรรค์เถิด เราได้ล่วงละเมิดและขัดขืน และพระองค์ไม่ได้ยกโทษ พระองค์คลุมพระองค์เองด้วยความกริ้ว และตามล่าพวกเรา ด้วยการสังหารโดยปราศจากความปรานี พระองค์คลุมพระองค์เองด้วยก้อนเมฆ เพื่อคำอธิษฐานจะผ่านเข้าถึงไม่ได้ พระองค์ทำให้พวกเราเป็นดั่ง กองขยะในบรรดาชนชาติ ศัตรูทุกคนของพวกเรา อ้าปากกว้างใส่พวกเรา พวกเราประสบความน่ากลัวและหลุมพราง ความทุกข์ทรมานและความพินาศ น้ำตาข้าพเจ้าไหลพราก เพราะความพินาศของธิดาของประชาชนของข้าพเจ้า น้ำตาข้าพเจ้าไหลไม่หยุด ไม่ได้พัก จนกระทั่งพระผู้เป็นเจ้ามองลงมา จากสวรรค์และแลเห็น