โยบ 33:10-33
โยบ 33:10-33 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
ดูเถิด พระองค์ทรงหาเรื่องข้า พระองค์ทรงนับข้าเป็นศัตรูของพระองค์ พระองค์ทรงเอาเท้าของข้าใส่ขื่อไว้ และทรงเฝ้าดูทางทั้งสิ้นของข้า’ “ดูเถิด ในเรื่องนี้ท่านผิด ข้าพเจ้าจะตอบท่าน พระเจ้าใหญ่ยิ่งกว่ามนุษย์ ไฉนท่านจึงสู้คดีกับพระองค์ โดยกล่าวว่า ‘พระองค์ไม่ทรงตอบถ้อยคำของมนุษย์เลย’? เพราะพระเจ้าตรัสวิธีหนึ่ง เออ สองวิธี แต่มนุษย์ไม่รับรู้ ในความฝัน ในนิมิตกลางคืน เมื่อคนหลับสนิท เมื่อเขาเคลิบเคลิ้มอยู่บนที่นอนของเขา แล้วพระองค์ทรงเบิกหูของมนุษย์ และประทับตราคำเตือนพวกเขา เพื่อจะหันมนุษย์กลับจากกิจการชั่ว และตัดความเย่อหยิ่งออกเสียจากมนุษย์ พระองค์ทรงยึดตัวเขาไว้จากหลุมมรณะ และยึดชีวิตเขาไว้จากการพินาศด้วยดาบ “มนุษย์ถูกตีสอนด้วยความเจ็บปวดบนที่นอน และด้วยความปวดร้าวเสมอไปในกระดูก ชีวิตของเขาจึงเบื่ออาหาร และจิตใจก็เบื่อของกินเลิศรส เนื้อของเขาซูบโทรมลงมากจนมองไม่เห็น กระดูกของเขาซึ่งแลไม่เห็นนั้นก็โผล่ออกมา เออ วิญญาณของเขาเข้าไปใกล้หลุมมรณะ และชีวิตของเขาเข้าไปใกล้ผู้ที่นำความตายมา ถ้ามีทูตสวรรค์องค์หนึ่งมาเพื่อเขา เป็นผู้หนึ่งจากจำนวนพันที่จะเป็นตัวแทนให้เขา เพื่อแถลงแก่มนุษย์ว่าเขาซื่อตรง และทูตนั้นกรุณาเขา ทูลว่า ‘ขอทรงช่วยเขาให้พ้นจากการลงไปยังหลุมมรณะ ข้าพระองค์พบค่าไถ่แล้ว ขอให้เนื้อของเขาอ่อนกว่าเนื้อเด็ก ขอให้เขากลับมีกำลังเหมือนเมื่อครั้งยังหนุ่ม’ คนนั้นจึงอธิษฐานต่อพระเจ้า และพระองค์พอพระทัยเขา เขาเข้าเฝ้าเฉพาะพระพักตร์พระองค์ด้วยความชื่นบาน แล้วพระองค์ทรงให้มนุษย์กลับสู่สภาพความชอบธรรม และเขาร้องเพลงต่อหน้าประชาชน กล่าวว่า ‘ข้าได้ทำบาป และเห็นผิดเป็นชอบ แต่ข้ามิได้ถูกพระองค์ลงโทษ พระองค์ทรงไถ่วิญญาณจิตของข้าให้พ้นจากการลงไปสู่หลุมมรณะ และชีวิตของข้าจะเห็นความสว่าง’ “ดูเถิด พระเจ้าทรงทำสิ่งเหล่านี้ทั้งสิ้น กับมนุษย์สองครั้ง สามครั้ง เพื่อจะนำวิญญาณเขากลับมาจากหลุมมรณะ เพื่อให้เขาเห็นความสว่างแห่งชีวิต ท่านโยบ ขอตั้งใจฟังข้าพเจ้า ขอเงียบ และข้าพเจ้าจะพูด ถ้าท่านมีอะไรพูด ก็ตอบข้าพเจ้ามาเถอะ พูดสิ เพราะข้าพเจ้าปรารถนาจะแก้คดีให้ท่าน ถ้าไม่มี ก็ขอฟังข้าพเจ้า ขอเงียบ และข้าพเจ้าจะสอนปัญญาแก่ท่าน”
โยบ 33:10-33 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
ดูเถิด พระองค์ทรงหาเรื่องกับข้าพเจ้า พระองค์ทรงนับว่าข้าพเจ้าเป็นศัตรูกับพระองค์ พระองค์ทรงเอาเท้าของข้าพเจ้าใส่ขื่อไว้ และทรงเฝ้าดูทางของข้าพเจ้าทั้งสิ้น> <<ดูเถิด ในเรื่องนี้ท่านไม่ยุติธรรมเลย ข้าพเจ้าจะตอบท่าน พระเจ้าใหญ่ยิ่งกว่ามนุษย์ ทำไมท่านจึงโต้แย้งกับพระองค์ ว่า <พระองค์จะไม่ทรงตอบถ้อยคำของเขาเลย> เพราะพระเจ้าตรัสวิธีหนึ่ง เออ สองวิธี แต่มนุษย์ไม่หยั่งรู้ได้ ในความฝัน ในนิมิตกลางคืน เมื่อคนหลับสนิท เมื่อเขาเคลิบเคลิ้มอยู่บนที่นอนของเขา แล้วพระองค์ทรงเบิกหูของมนุษย์ และทรงสั่งสอนอย่างลับๆ เพื่อว่าพระองค์จะได้หันให้มนุษย์กลับจากกิจการของเขา และตัดความเย่อหยิ่งออกเสียจากมนุษย์ พระองค์ทรงยึดเหนี่ยววิญญาณของเขาไว้จากปาก แดนคนตาย และยึดชีวิตของเขาไว้จากการที่จะพินาศด้วยดาบ <<มนุษย์ยังถูกตีสอนด้วยความเจ็บปวดบนที่นอนของเขาด้วย และด้วยการขัดแย้งเสมอในกระดูกของเขา ชีวิตของเขาจึงได้เบื่ออาหาร และจิตใจจึงได้เบื่ออาหารโอชะ เนื้อของเขาทรุดโทรมไปมากจนมองไม่เห็น กระดูกของเขาซึ่งแลไม่เห็นนั้นก็โผล่ออกมา เออ วิญญาณของเขาเข้าไปใกล้ปากแดนคนตาย และชีวิตของเขา เข้าใกล้ผู้ที่นำความตายมา ถ้ามีทูตสวรรค์องค์หนึ่งมาเพื่อเขา เป็นล่าม หนึ่งในพัน เพื่อแถลงแก่มนุษย์ว่าอะไรถูกเพื่อเขา และทูตนั้นกรุณาเขา ทูลว่า <ขอทรงปล่อยเขาให้พ้นจากที่จะไปยังปากแดนคนตาย ข้าพระองค์พบค่าไถ่แล้ว เนื้อของเขาจะอ่อนกว่าเนื้อเด็ก ขอให้เขากลับไปสู่กำลังเหมือนเมื่อยังหนุ่ม> เขาจึงอธิษฐานต่อพระเจ้า และพระองค์จะทรง พอพระทัยเขา เขาจะเข้ามาเฝ้าต่อพระพักตร์พระองค์ด้วยความชื่นบาน แล้วพระองค์จะทรงให้มนุษย์กลับสู่สภาพความชอบธรรม และเขาจะร้องเพลงต่อหน้าประชาชน กล่าวว่า <ข้าบาปแล้ว และเห็นผิดเป็นชอบ และมิได้ทรงลงโทษสนองข้า พระองค์ทรงไถ่วิญญาณจิตของข้า ให้พ้นจากการลงไปสู่ปากแดนคนตาย และชีวิตของข้าจะเห็นความสว่าง> <<ดูเถิด พระเจ้าทรงกระทำสิ่งเหล่านี้ทั้งสิ้น กับมนุษย์สองครั้ง สามครั้ง เพื่อจะนำวิญญาณจิตของเขามาจากปากแดนคนตาย เพื่อให้เขาเห็นความสว่างแห่งชีวิต ท่านโยบเจ้าข้า ขอตั้งใจฟังข้าพเจ้า ขอเงียบ และข้าพเจ้าจะพูด ถ้าท่านมีอะไรพูดก็ตอบข้าพเจ้ามาเถอะ เพราะข้าพเจ้าปรารถนาแก้คดีให้ท่าน ถ้าหาไม่ ก็ขอฟังข้าพเจ้า ขอเงียบ และข้าพเจ้าจะสอนปัญญาให้แก่ท่าน>>
โยบ 33:10-33 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
แต่ดูสิ พระองค์ก็ยังหาเรื่องกับข้า และนับว่าข้าเป็นศัตรูของพระองค์ พระองค์เอาตรวนใส่เท้าข้า และไม่ว่าข้าจะไปที่ไหน พระองค์ก็คอยจับตาดูข้า’ แต่สิ่งที่ท่านพูดนี้ไม่ถูกต้อง ผมขอตอบท่านว่า พระเจ้านั้นยิ่งใหญ่กว่ามนุษย์คนหนึ่งคนใด ทำไมท่านถึงฟ้องร้องพระองค์ว่า ‘พระองค์ไม่ยอมตอบคำพูดของข้าพเจ้าสักคำ’ พระเจ้าพูดแล้วพูดอีก ถึงแม้มนุษย์อาจจะไม่สังเกตเห็นก็ตาม ในความฝัน และภาพฝันยามค่ำคืน เมื่อมนุษย์หลับสนิท เมื่อพวกเขาเคลิ้มหลับอยู่บนเตียง ในเวลานั้นเอง พระองค์เปิดหูพวกเขา และเตือนพวกเขา ทำให้พวกเขาตกใจกลัว เพื่อพระองค์จะได้หันพวกเขาไปเสียจากการกระทำชั่วของพวกเขา และเพื่อไม่ให้พวกเขาหยิ่งยโส เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาตกลงไปในหลุมลึกนั้น เพื่อชีวิตของพวกเขาจะได้ไม่ต้องข้ามแม่น้ำแห่งความตายนั้น อาจมีคนหนึ่งถูกตีสอนด้วยความเจ็บปวดอยู่บนเตียงของเขา และด้วยความปวดร้าวเรื้อรังในกระดูกของเขา จนเขาเบื่ออาหาร และไม่อยากกินแม้แต่อาหารที่เอร็ดอร่อยที่สุด เนื้อหนังของเขาเหี่ยวไป ไม่เห็นอีกเลย แต่กระดูกที่เมื่อก่อนมองไม่เห็น ก็โผล่ออกมา เขาก็คืบเข้าใกล้หลุมลึกนั้น ชีวิตของเขา ก็เข้าใกล้ความตาย แล้วสมมุติว่ามีทูตสวรรค์องค์หนึ่ง จากหลายพันองค์ของพระองค์มาพูดให้กับเขา และบอกว่าคนนี้ซื่อตรง ทูตองค์นั้นเมตตากับเขาและพูดกับพระเจ้าว่า ‘ช่วยปกป้องคนนี้ด้วย อย่าให้เขาต้องลงไปสู่หลุมลึกนั้น ข้าพเจ้ามีค่าไถ่ตัวเขาแล้ว ขอเนื้อหนังของเขากลับไปเหมือนเด็ก ขอให้กำลังของเขากลับคืนมาเหมือนวัยหนุ่ม’ แล้วต่อจากนั้นคนนั้นอธิษฐานต่อพระเจ้าและพระองค์ยอมรับเขา เขาเข้าเฝ้าพระองค์ ด้วยความชื่นชมยินดี และพระองค์ทำให้เขากลับไปอยู่ในฐานะดีเหมือนเดิม เขาร้องเพลงให้คนฟังว่า ‘ข้าทำบาป และเห็นผิดเป็นชอบ แต่มันไม่คุ้มค่าเลย พระองค์ไถ่ชีวิตข้า ไม่ให้ลงไปสู่หลุมลึกนั้น เพื่อชีวิตของข้าจะได้พบแสงสว่างอีก’ พระเจ้าเคยทำแบบนี้ในชีวิตของคนบางคน ครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อนำชีวิตของเขากลับจากปากหลุมลึกนั้น เพื่อเขาจะได้เห็นแสงสว่างแห่งชีวิตอีก ลุงโยบครับ ตั้งใจฟังผมให้ดี เงียบก่อน ฟังผมพูดก่อน หรือถ้าท่านมีอะไรจะพูดก็ตอบผมมาได้เลย พูดได้ครับ เพราะผมอยากจะให้ท่านได้รับการตัดสินว่าถูกอยู่แล้ว ถ้าไม่งั้นก็ฟังผมก่อน เงียบก่อน แล้วผมจะสอนปัญญาให้กับท่าน”
โยบ 33:10-33 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
ดูเถิด พระองค์ทรงหาเรื่องกับข้าพเจ้า พระองค์ทรงนับว่าข้าพเจ้าเป็นศัตรูกับพระองค์ พระองค์ทรงเอาเท้าของข้าพเจ้าใส่ขื่อไว้ และทรงเฝ้าดูทางของข้าพเจ้าทั้งสิ้น’ ดูเถิด ในเรื่องนี้ท่านไม่ยุติธรรมเลย ข้าพเจ้าจะตอบท่าน พระเจ้าใหญ่ยิ่งกว่ามนุษย์ ทำไมท่านจึงโต้แย้งกับพระองค์ เพราะพระองค์ไม่ทรงรายงานเรื่องพระราชกิจใดๆของพระองค์เลย เพราะพระเจ้าตรัสครั้งหนึ่ง เออ สองครั้ง แต่มนุษย์ไม่หยั่งรู้ได้ ในความฝัน ในนิมิตกลางคืนเมื่อคนหลับสนิท เมื่อเขาเคลิบเคลิ้มอยู่บนที่นอนของเขา แล้วพระองค์ทรงเบิกหูของมนุษย์ และทรงประทับตราคำสั่งสอนของเขาไว้ เพื่อว่าพระองค์จะได้หันให้มนุษย์กลับจากเป้าหมายของเขา และตัดความเย่อหยิ่งออกเสียจากมนุษย์ พระองค์ทรงยึดเหนี่ยววิญญาณของเขาไว้จากปากแดนคนตาย และยึดชีวิตของเขาไว้จากการที่จะพินาศด้วยดาบ มนุษย์ยังถูกตีสอนด้วยความเจ็บปวดบนที่นอนของเขาด้วย และด้วยความเจ็บปวดอย่างสาหัสในกระดูกต่างๆของเขา ชีวิตของเขาจึงได้เบื่ออาหาร และจิตใจจึงได้เบื่ออาหารโอชะ เนื้อของเขาทรุดโทรมไปมากจนมองไม่เห็น กระดูกของเขาซึ่งแลไม่เห็นนั้นก็โผล่ออกมา เออ วิญญาณของเขาเข้าไปใกล้ปากแดนคนตาย และชีวิตของเขาใกล้ผู้ที่นำความตายมา ถ้ามีผู้ส่งข่าวผู้หนึ่งมาเพื่อเขาเป็นล่าม หนึ่งในพันเพื่อแถลงแก่มนุษย์ว่าอะไรถูกเพื่อเขา และผู้ส่งข่าวนั้นกรุณาเขา ทูลว่า ‘ขอทรงปล่อยเขาให้พ้นจากที่จะไปยังปากแดนคนตาย ข้าพระองค์พบค่าไถ่แล้ว เนื้อของเขาจะอ่อนกว่าเนื้อเด็ก ขอให้เขากลับไปสู่กำลังเหมือนเมื่อยังหนุ่ม’ เขาจึงจะอธิษฐานต่อพระเจ้า และพระองค์จะทรงพอพระทัยเขา เขาจะเห็นพระพักตร์พระองค์ด้วยความชื่นบาน แล้วพระองค์จะทรงให้มนุษย์กลับสู่สภาพความชอบธรรม พระองค์ทรงทอดพระเนตรมนุษย์ และถ้าผู้ใดกล่าวว่า ‘ข้าบาปแล้ว และเห็นผิดเป็นชอบ และมิได้เป็นประโยชน์อะไรแก่ข้า’ พระองค์จะทรงไถ่จิตวิญญาณของเขาให้พ้นจากการลงไปสู่ปากแดนคนตาย และชีวิตของเขาจะเห็นความสว่าง ดูเถิด พระเจ้าทรงกระทำสิ่งเหล่านี้ทั้งสิ้นกับมนุษย์บ่อยๆหลายครั้ง เพื่อจะนำจิตวิญญาณของเขามาจากปากแดนคนตาย เพื่อให้เขาแจ่มแจ้งขึ้นด้วยความสว่างแห่งผู้ทรงมีชีวิต โอ ท่านโยบเจ้าข้า ขอตั้งใจฟังข้าพเจ้า ขอเงียบ และข้าพเจ้าจะพูด ถ้าท่านมีอะไรพูดก็ตอบข้าพเจ้ามาเถอะ เพราะข้าพเจ้าปรารถนาแก้คดีให้ท่าน ถ้าหาไม่ก็ขอฟังข้าพเจ้า ขอเงียบและข้าพเจ้าจะสอนปัญญาให้แก่ท่าน”
โยบ 33:10-33 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
ถึงกระนั้นพระเจ้าก็เอาผิดข้าพเจ้า พระองค์ทรงนับว่าข้าพเจ้าเป็นศัตรู พระองค์ทรงจับข้าพเจ้าใส่ขื่อคา และทรงเฝ้าดูทุกหนทางของข้าพเจ้าอย่างใกล้ชิด’ “แต่ข้าพเจ้าขอบอกว่าท่านผิดในข้อนี้ เพราะพระเจ้าทรงยิ่งใหญ่กว่ามนุษย์ ทำไมท่านบ่นต่อว่าพระองค์ ว่าไม่ทรงตอบมนุษย์? ที่จริงพระเจ้าตรัสด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง แม้ว่ามนุษย์ไม่สามารถประจักษ์ได้ ในความฝัน ในนิมิตยามค่ำคืน เมื่อมนุษย์หลับสนิท ขณะเคลิ้มอยู่บนที่นอน พระองค์อาจจะตรัสข้างหูของเขา และตักเตือนว่ากล่าวให้เขากลัว เพื่อหันเหมนุษย์ไม่ให้ทำผิด และไม่ให้หยิ่งจองหอง เพื่อรักษาจิตวิญญาณของเขาจากเหวลึก และเพื่อไม่ให้เขาพินาศด้วยคมดาบ “หรือทรงตีสอนมนุษย์โดยให้เขานอนจมอยู่ในความเจ็บปวด ให้เขาเจ็บปวดรวดร้าวในกระดูกอยู่เนืองๆ จนตัวเขาเองเอียนอาหาร และจิตใจของเขาเกลียดอาหารอันโอชะที่สุด จนเขาซูบผอม เหลือแต่หนังหุ้มกระดูก วิญญาณของเขาเฉียดใกล้เหวลึก และชีวิตของเขาเข้าใกล้ทูตแห่งความตาย “ถึงกระนั้นหากมีทูตของพระเจ้าจากหนึ่งในพันอยู่เคียงข้างเขา ทำหน้าที่เป็นคนกลางให้ เพื่อแจ้งสิ่งที่ถูกต้องแก่เขา เพื่อเมตตาสงสารเขาและทูลว่า ‘ขอทรงโปรดไว้ชีวิตเขาไม่ให้ลงไปยังเหวลึก ข้าพระองค์ได้พบค่าไถ่สำหรับเขาแล้ว’ เมื่อนั้นเนื้อหนังของเขาจะกลับฟื้นคืนสภาพดีเหมือนกายเด็ก และได้กำลังวังชาในวัยหนุ่มคืนมาอีก เขาอธิษฐานต่อพระเจ้าและได้รับความโปรดปรานจากพระองค์ เขาได้เห็นพระพักตร์พระเจ้าและโห่ร้องด้วยความชื่นชมยินดี พระองค์ทรงรับเขาคืนสู่ฐานะผู้ชอบธรรม เขาจะกลับมาบอกเพื่อนพ้องว่า ‘ข้าได้ทำบาปและได้บิดเบือนความถูกต้อง แต่ก็ยังไม่ต้องรับโทษอันสาสม พระเจ้าทรงไถ่จิตวิญญาณของข้าไว้ ไม่ให้ต้องลงสู่เหวลึก ข้าจะมีชีวิตอยู่ชื่นชมความสว่างต่อไป’ “พระเจ้าทรงกระทำสิ่งเหล่านี้ต่อมนุษย์ ถึงสองครั้ง หรือถึงสามครั้ง เพื่อช่วยกู้จิตวิญญาณของเขาจากเหวลึก ให้เขาได้รับแสงสว่างแห่งชีวิต “โยบเอ๋ย โปรดตั้งใจฟังข้าพเจ้าเถิด ขอให้นิ่งสงบ และข้าพเจ้าจะพูด หากท่านมีอะไรจะพูดก็ขอให้บอก พูดออกมาเถิด เพราะข้าพเจ้าอยากให้ท่านได้รับความกระจ่าง แต่หากไม่มี ก็จงฟังข้าพเจ้า โปรดเงียบ และข้าพเจ้าจะสอนสติปัญญาแก่ท่าน”
โยบ 33:10-33 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
ดูเถิด พระองค์หาโอกาสต่อต้านฉัน พระองค์นับว่าฉันเป็นศัตรูของพระองค์ พระองค์ใส่เท้าฉันไว้ในขื่อ และจ้องดูทุกทางที่ฉันไป’ ดูเถิด ท่านผิดในเรื่องนี้ ข้าพเจ้าจะตอบท่าน เพราะพระเจ้ายิ่งใหญ่กว่ามนุษย์ ทำไมท่านจึงเถียงพระเจ้าว่า ‘พระองค์จะไม่ตอบทุกคำถามของมนุษย์’ เพราะพระเจ้ากล่าวซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่มนุษย์ไม่เข้าใจ ในความฝัน ซึ่งเป็นภาพนิมิตในยามค่ำ เมื่อมนุษย์หลับสนิท ขณะที่นอนอยู่บนเตียง แล้วพระองค์เบิกหูมนุษย์ และพวกเขาตกใจเมื่อพระองค์เตือน ให้พวกเขาเลิกกระทำความชั่ว และหลุดพ้นจากความหยิ่งยโส พระองค์ช่วยเขาให้พ้นจากหลุมแห่งแดนคนตาย ช่วยชีวิตของเขาให้รอดจากดาบ พระองค์สอนมนุษย์ด้วยการให้ล้มป่วยลง และด้วยความเจ็บปวดลึกถึงกระดูก เขาจะไม่อยากรับประทานอาหาร ถึงแม้จะเป็นของโปรดที่สุดก็ตาม ร่างกายของเขาทรุดโทรมลงมาก เขาเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก จิตวิญญาณของเขาเข้าไปใกล้หลุมแห่งแดนคนตายลงทุกที และชีวิตของเขาจะไปอยู่กับพวกที่นำความตายมา หากว่าจะมีทูตสวรรค์ จำนวนหนึ่งในพันมาช่วยเขา เพื่อแจ้งให้เขาทราบว่าอะไรคือความถูกต้อง และทูตสวรรค์กรุณาต่อเขา และพูดว่า ‘ช่วยเขาให้หลุดพ้นจากหลุมแห่งแดนคนตาย ข้าพเจ้าพบค่าไถ่แล้ว ขอให้กายจากวัยแรกรุ่นของเขากลับคืนมา ขอให้เขากลับมีพละกำลังขึ้นอีกเหมือนวัยหนุ่มสาว’ และเขาอธิษฐานต่อพระเจ้า และพระองค์ตอบเขา เพื่อเขาจะเห็นใบหน้าพระองค์ด้วยความยินดี และพระองค์โปรดให้เขามีความชอบธรรม เขาร้องต่อหน้าผู้คนว่า ‘ฉันทำบาป และบิดเบือนสิ่งที่ถูกต้อง และฉันได้รับอภัยโทษ พระองค์ได้ไถ่ฉันจากการดิ่งลงไปในหลุมแห่งความตาย และชีวิตของฉันยังจะคงอยู่ในความสว่าง’ ดูเถิด พระเจ้ากระทำสิ่งเหล่านี้ทั้งสิ้นกับมนุษย์ ครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อนำเขากลับมาจากหลุมแห่งความตาย เพื่อเขาจะได้มีความสุขด้วยชีวิตที่สุกสว่าง โอ โยบ ขอท่านตั้งใจฟัง ขอท่านเงียบไว้ และข้าพเจ้าจะพูด ถ้าท่านมีอะไรจะพูด ก็ตอบข้าพเจ้ามา พูดเถิด เพราะข้าพเจ้าปรารถนาให้ท่านพ้นผิด มิฉะนั้น ก็ขอให้ฟังข้าพเจ้า เงียบไว้ และข้าพเจ้าจะสอนสติปัญญาแก่ท่าน”