ผู้วินิจฉัย 14:1-20

ผู้วินิจฉัย 14:1-20 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

แซมสัน​ลง​ไป​ที่​เมือง​ทิมนาห์ และ​ได้​เห็น​สาว​ชาว​ฟีลิสเตีย​คน​หนึ่ง​ใน​เมือง​นั้น เขา​ก็​กลับ​มา​บอก​พ่อ​แม่​ของ​เขา​ว่า “ลูก​ไป​พบ​สาว​ชาว​ฟีลิสเตีย​ใน​เมือง​ทิมนาห์ ช่วย​ไป​ขอ​นาง​มา​เป็น​เมีย​ลูก​หน่อย” พ่อ​แม่​ของ​เขา​พูด​ว่า “ไม่​มี​ผู้หญิง​ท่าม​กลาง​พวก​ลูกสาว​ของ​ญาติ​ลูก​แล้ว​หรือ หรือ​ท่าม​กลาง​ชน​เผ่า​ของ​เรา​แล้ว​หรือ ลูก​ถึง​ต้อง​ไปหา​เมีย​จาก​ชาว​ฟีลิสเตีย​ที่​ไม่​เคย​เข้า​พิธี​ขลิบ” แซมสัน​พูด​กับ​พ่อ​ว่า “ไป​ขอ​เธอ​ให้​กับ​ลูก​เถอะ เพราะ​เธอ​เป็น​ที่​ถูก​ใจ​ลูก​มาก” พ่อ​แม่​ของ​แซมสัน​ไม่​รู้​ว่า​พระยาห์เวห์​ทำ​ให้​เกิด​เรื่อง​นี้ เพราะ​พระองค์​หา​ช่อง​ที่​จะ​สู้รบ​กับ​ชาว​ฟีลิสเตีย ซึ่ง​มี​อำนาจ​เหนือ​ชาว​อิสราเอล​อยู่ ดังนั้น​แซมสัน​และ​พ่อ​แม่​ของ​เขา​จึง​เดิน​ทาง​ไป​ทิมนาห์ เมื่อ​มา​ถึง​ไร่​องุ่น ทัน​ใด​นั้น​มี​สิงโต​หนุ่ม​ตัว​หนึ่ง​คำราม​กระโจน​เข้า​ใส่​แซมสัน พระวิญญาณ​ของ​พระยาห์เวห์​ก็​พุ่ง​เข้า​สิง​แซมสัน เขา​ฉีก​สิงโต​ออก​เหมือน​ฉีก​ลูก​แพะ​ด้วย​มือ​เปล่า แต่​เขา​ไม่​ได้​บอก​สิ่ง​ที่​เขา​ทำ​ให้​พ่อ​แม่​รู้ แซมสัน​ได้​ไป​พูด​กับ​หญิง​คน​นั้น เธอ​ทำ​ให้​เขา​ถูก​ใจ​มาก หลังจาก​นั้น​ไม่​นาน แซมสัน​ได้​กลับ​มา​เพื่อ​แต่งงาน​กับ​เธอ เขา​ได้​แวะ​ไป​ดู​ซาก​สิงโต และ​ก็​แปลกใจ เมื่อ​มี​ฝูง​ผึ้ง​อยู่​ใน​ซาก​สิงโต​นั้น​และ​มี​น้ำผึ้ง​ด้วย เขา​จึง​กวาด​น้ำผึ้ง​มา​ไว้​ใน​มือ​เดิน​กิน​มา​ตาม​ทาง จน​เจอ​พ่อ​แม่​ของ​เขา เขา​จึง​แบ่ง​ให้​พ่อ​แม่​กิน​ด้วย แต่​ไม่​ได้​เล่า​ว่า​เขา​ได้​น้ำผึ้ง​มา​จาก​ซาก​สิงโต พ่อ​ของ​เขา​ได้​ลง​ไปหา​หญิง​นั้น และ​แซมสัน​ก็​ได้​จัด​งาน​เลี้ยง​ใหญ่โต​ที่นั่น เหมือน​กับ​ที่​ชาย​หนุ่ม​คน​อื่นๆ​เขา​ทำ​กัน เมื่อ​ชาว​ฟีลิสเตีย​เห็น​แซมสัน​จัด​งาน​เลี้ยง พวก​เขา​ก็​ได้​ส่ง​ผู้ชาย​สาม​สิบ​คน​มา​อยู่​เป็น​เพื่อน​เขา แซมสัน​พูด​กับ​ชาย​สาม​สิบ​คน​นั้น​ว่า “ให้​ข้า​เล่า​ปริศนา​ให้​พวก​เจ้าสัก​ข้อ​หนึ่ง ถ้า​พวก​เจ้า​ตอบ​ได้​ภาย​ใน​เจ็ด​วัน​ของ​งาน​เลี้ยง​ฉลอง ข้า​จะ​ให้​เสื้อผ้า​ลินิน​สาม​สิบ​ชุด และ​เสื้อผ้า​ใส่​เที่ยว​งาน​อีก​สาม​สิบ​ชุด แต่​ถ้า​พวก​เจ้า​ไม่​สามารถ​อธิบาย​ให้​กับ​ข้า​ได้ ก็​ต้อง​ให้​เสื้อผ้า​ลินิน​สาม​สิบ​ชุด และ​เสื้อ​ใส่​เที่ยว​งาน​สาม​สิบ​ชุด​กับ​ข้า” ชาย​เหล่า​นั้น​ก็​พูด​กับ​เขา​ว่า “เล่า​ปริศนา​ของ​เจ้า​ให้​พวก​เรา​ฟัง​สิ” แซมสัน​ก็​เล่า​ว่า “จาก​ตัว​ที่​กิน มี​ของ​กิน​ออก​มา จาก​ตัว​ที่​แข็งแรง มี​ของ​หวาน​ออก​มา” แต่​ผ่าน​ไป​สาม​วัน​แล้ว พวก​เขา​ก็​ยัง​แก้​ปริศนา​นี้​ไม่​ได้ ใน​วัน​ที่​สี่ พวก​เขา​ได้​ไป​ขอ​ร้อง​เมีย​ของ​แซมสัน​ว่า “ไป​เกลี้ย​กล่อม​ผัว​ของ​เธอ​ให้​แก้​คำ​ปริศนา​นั้น​กับ​พวก​เรา​ซะ ไม่​อย่าง​นั้น​เรา​จะ​เผา​บ้าน​เธอ​และ​บ้าน​ของ​พ่อ​เธอ​ด้วย เธอ​เชิญ​พวก​เรา​มา​เพื่อ​ทำ​ให้​พวก​เรา​จน​ลง​หรือ​ยังไง” เมีย​ของ​แซมสัน​จึง​ซบ​บน​แซมสัน​และ​ร้องไห้ ต่อว่า​เขา​ว่า “เธอ​เกลียด​ฉัน เธอ​ไม่​รัก​ฉัน เธอ​ถึง​ได้​ทาย​คำ​ปริศนา​ให้​กับ​ชาว​เมือง​ของ​ฉัน และ​เธอ​ก็​ไม่​เคย​แก้​คำ​ปริศนา​นั้น​ให้​ฉัน​ฟัง” แซมสัน​ตอบ​ภรรยา​ว่า “ดู​สิ ขนาด​พ่อ​แม่​ฉัน ฉัน​ยัง​ไม่​บอก แล้ว​จะ​บอก​เธอ​ได้​ยังไง” นาง​ก็​เลย​ซบ​แซมสัน​ร้องไห้​ตลอด​เจ็ด​วัน​ที่​เขา​เลี้ยง​ฉลอง​กัน และ​ใน​วัน​ที่​เจ็ด​แซมสัน​ก็​แก้​ปริศนา​ให้​เธอ​ฟัง เพราะ​นาง​กวนใจ​เขา​เสีย​เหลือ​เกิน และ​นาง​ก็​ได้​อธิบาย​ปริศนา​นั้น​ให้​กับ​คน​ของ​นาง พวก​ผู้ชาย​ของ​เมือง​นั้น ตอบ​กับ​แซมสัน ใน​วัน​ที่​เจ็ด​ก่อน​ที่​ดวง​อาทิตย์​จะ​ตก​ดิน​ว่า “จะ​มี​อะไร​หวาน​กว่า​น้ำผึ้ง​หรือ และ​มี​อะไร​แข็งแรง​กว่า​สิงโต​หรือ” แซมสัน​พูด​กับ​พวก​เขา​ว่า “ถ้า​เจ้า​ไม่​ได้​เอา​แม่​โค​ของ​เรา​ไป​ไถนา เจ้า​ก็​คง​แก้​ปริศนา​เรา​ไม่​ได้” พระวิญญาณ​ของ​พระยาห์เวห์​ได้​พุ่ง​เข้า​สิง​แซมสัน เขา​ไป​ที่​อัชเคโลน และ​ฆ่า​ชาว​เมือง​ผู้ชาย​ที่​นั่น​สาม​สิบ​คน และ​ยึด​เครื่อง​เทียม​ม้า​และ​เอา​ชุด​เที่ยว​งาน​ไป​ให้​กับ​คน​ที่​แก้​ปริศนา​ของ​เขา เขา​จึง​กลับ​บ้าน​พ่อ​ของ​เขา​ด้วย​ความ​โกรธ​จัด และ​เมีย​ของ​แซมสัน​ก็​ถูก​ยก​ไป​ให้​กับ​เพื่อน​เจ้าบ่าว​แทน

ผู้วินิจฉัย 14:1-20 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

แซมสันได้ลงไปยังเมืองทิมนาห์ และได้เห็นผู้หญิงฟีลิสเตียคนหนึ่งในเมืองทิมนาห์ แล้วเขาจึงขึ้นมาบอกบิดามารดาของเขาว่า “ลูกเห็นผู้หญิงฟีลิสเตียคนหนึ่งในเมืองทิมนาห์ บัดนี้ไปขอนางให้เป็นเมียลูกที” แต่บิดาและมารดากล่าวกับเขาว่า “จะหาเมียในหมู่ญาติพี่น้องของเจ้าหรือในชนชาติทั้งหมดของเราไม่ได้หรือ? เจ้าจึงจะไปรับหญิงจากคนฟีลิสเตียที่ไม่เข้าสุหนัตมาเป็นเมียของเจ้า” แต่แซมสันกล่าวกับบิดาว่า “ไปขอนางให้ลูกที เพราะนางต้องตาต้องใจลูกมาก” บิดามารดาไม่ทราบว่า เรื่องนี้เป็นมาจากพระยาห์เวห์ เพราะพระองค์ทรงหาช่องทางที่จะต่อสู้พวกฟีลิสเตีย ในเวลานั้นพวกฟีลิสเตียมีอำนาจเหนืออิสราเอล ส่วนแซมสันก็ลงไปยังเมืองทิมนาห์กับบิดามารดา เมื่อมาถึงสวนองุ่นของทิมนาห์ นี่แน่ะ มีสิงโตหนุ่มตัวหนึ่งคำรามใส่ท่าน พระวิญญาณของพระยาห์เวห์ก็เสด็จมาเหนือท่านอย่างฉับพลัน ท่านจึงฉีกสิงโตออกอย่างคนฉีกลูกแพะ ทั้งที่ไม่มีอะไรในมือ แต่ท่านไม่ได้บอกให้บิดาหรือมารดาทราบว่าท่านได้ทำอะไรไป ท่านก็ลงไปพูดคุยกับหญิงนั้น นางต้องตาต้องใจแซมสันมาก หลายวันต่อมา ท่านก็กลับไปเพื่อรับนางมาเป็นภรรยา ท่านได้แวะไปดูซากสิงโต และนี่แน่ะ มีผึ้งฝูงหนึ่งทำรังอยู่ในซากสิงโตนั้น มีน้ำผึ้งด้วย แซมสันก็ยื่นมือกวาดเอารวงผึ้งมา เดินไปกินไป จนมาถึงบิดามารดา ท่านจึงแบ่งให้บิดามารดากินด้วย แต่ท่านไม่ได้บอกว่า น้ำผึ้งนั้นมาจากซากสิงโต แล้วบิดาของท่านก็ลงไปหาหญิงนั้น และแซมสันจัดงานเลี้ยงที่นั่น ดังที่คนหนุ่มๆ เขาทำกัน และเมื่อประชาชนเห็นท่านแล้ว จึงนำเพื่อน 30 คนให้มาอยู่กับท่าน แซมสันกล่าวกับพวกเขาว่า “ให้ข้าทายปริศนาพวกเจ้าสักข้อหนึ่งเถิด ถ้าทายได้ก่อนจบการเลี้ยงเจ็ดวัน ข้าจะให้เสื้อป่านสามสิบชุด และเสื้อเที่ยวงานสามสิบชุดด้วย ถ้าพวกเจ้าทายไม่ได้ ก็ต้องให้เสื้อป่านสามสิบชุดกับเสื้อเที่ยวงานสามสิบชุดแก่ข้า” พวกเขาก็ตอบท่านว่า “ทายมาเถิด เราจะฟัง” ดังนั้นแซมสันจึงกล่าวกับเขาทั้งหลายว่า “มีของกินออกมาจากตัวผู้กิน มีของรสหวานออกมาจากตัวที่แข็งแรง” ในสามวันพวกเขาก็ยังแก้ปริศนาไม่ได้ พอถึงวันที่เจ็ด พวกเขากล่าวกับภรรยาของแซมสันว่า “จงล่อหลอกผัวเจ้าให้แก้ปริศนานี้แก่เรา มิฉะนั้นเราจะเอาไฟเผาเจ้ากับบ้านบิดาของเจ้าเสีย เจ้าเชิญเรามาโดยหวังจะทำให้เรายากจนหรือ?” ภรรยาของแซมสันไปร้องไห้กับแซมสันว่า “เธอเกลียดฉัน เธอไม่รักฉัน เธอทายปริศนาแก่ชาวเมืองของฉัน และเธอก็ไม่แก้ปริศนาให้ฉันฟัง” แซมสันจึงบอกว่า “นี่แน่ะ พ่อแม่ของฉัน ฉันยังไม่บอกเลย จะบอกเธอได้อย่างไร?” นางร้องไห้กับแซมสันตลอดเจ็ดวันซึ่งเป็นวันเลี้ยงกันนั้น ในวันที่เจ็ดแซมสันก็แก้ปริศนาให้นางฟัง เพราะนางพูดคาดคั้นท่าน และนางก็บอกคำแก้ปริศนาให้ชาวเมืองของนาง พอวันที่เจ็ดก่อนดวงอาทิตย์ตก ชาวเมืองจึงบอกแซมสันว่า “มีอะไรหวานกว่าน้ำผึ้ง? มีอะไรแข็งแรงกว่าสิงโต?” แซมสันจึงบอกพวกเขาว่า “ถ้าเจ้าไม่เอาแม่โคของข้าช่วยไถ เจ้าคงจะแก้ปริศนาของข้าไม่ได้” แล้วพระวิญญาณของพระยาห์เวห์ก็เสด็จมาเหนือแซมสันอย่างฉับพลัน ท่านจึงลงไปที่เมืองอัชเคโลน ฆ่าชาวเมืองนั้นเสีย 30 คน ริบเอาข้าวของ และมอบเสื้อเที่ยวงานให้ผู้ที่แก้ปริศนา แล้วท่านกลับไปบ้านของบิดาท่านด้วยความโกรธจัด ส่วนภรรยาของแซมสันนั้นก็ถูกยกให้แก่เพื่อนของแซมสัน ซึ่งเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวนั้นเสีย

ผู้วินิจฉัย 14:1-20 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

แซมสันได้ลงไปยังเมืองทิมนาห์ และได้​เห​็นผู้หญิงคนฟีลิสเตียคนหนึ่งที่เมืองทิมนาห์ แล​้​วท​่านจึงขึ้นมาบอกบิดามารดาของตนว่า “ฉันเห็นผู้หญิงคนฟีลิสเตียคนหนึ่งที่เมืองทิมนาห์ ฉะนั้นไปขอเขาให้เป็นภรรยาฉั​นที​” แต่​บิ​ดาและมารดาของท่านกล่าวแก่ท่านว่า “​ไม่มี​ผู้​หญิงสักคนหนึ่งในท่ามกลางบุตรสาวแห่งญาติ​พี่​น้องของเจ้า หรือในท่ามกลางชนชาติของเราหรือ เจ้​าจึงไปรับภรรยาจากคนฟีลิสเตียที่​ไม่​เข้าสุหนัต​” แต่​แซมสันกล่าวแก่​บิ​ดาว​่า “ไปขอหญิงนั้นให้ฉั​นที เพราะเธอเป็​นที​่พอใจฉันมาก” บิ​ดามารดาของท่านไม่ทราบว่าเรื่องนี้เป็นมาจากพระเยโฮวาห์ เพราะพระองค์ทรงหาช่องโอกาสที่จะต่อสู้คนฟีลิสเตีย ครั้งนั้นคนฟีลิสเตี​ยม​ีอำนาจเหนื​ออ​ิสราเอล ฝ่ายแซมสั​นก​็ลงไปที่เมืองทิมนาห์กับบิดามารดาของตน แซมสันมาถึงสวนองุ่นของทิมนาห์ ดู​เถิด มี​สิ​งโตหนุ่มตัวหนึ่งคำรามเข้าใส่​ท่าน พระวิญญาณของพระเยโฮวาห์​ก็​ทรงสถิ​ตก​ับแซมสันอย่างมาก ท่านจึงฉีกสิงโตออกอย่างคนฉี​กล​ูกแพะ ทั้งที่​ไม่มี​อะไรในมือ แต่​ท่านมิ​ได้​บอกให้​บิ​ดาหรือมารดาของท่านทราบว่าท่านได้ทำอะไรไป แซมสั​นก​็ลงไปพูดจากับหญิงคนนั้น เธอเป็​นที​่พอใจแก่แซมสันมาก ต่อมาภายหลังแซมสั​นก​็​กล​ับไปเพื่อรับเธอมา ท่านก็แวะไปดูซากสิงโต และดู​เถิด มี​ผึ้งฝูงหนึ่งทำรังอยู่ในซากสิงโตนั้น มีน​้ำผึ้​งด​้วย แซมสั​นก​็ยื่​นม​ือกวาดเอารวงผึ้งมาเดิ​นร​ับประทานไปพลาง จนมาถึ​งบ​ิดามารดา ท่านจึงแบ่งให้​บิ​ดามารดารับประทานด้วย แต่​ท่านมิ​ได้​บอกว่าน้ำผึ้งนั้นมาจากซากสิงโต ฝ่ายบิดาของท่านก็ลงไปหาหญิงคนนั้น และแซมสันจัดการเลี้ยงที่​นั่น ดังที่​คนหนุ่มๆเขากระทำกัน และต่อมาเมื่อประชาชนเห็นท่านแล้ว จึงนำเพื่อนสามสิบคนให้มาอยู่​ด้วย แซมสันกล่าวแก่เขาว่า “​ให้​ข้าพเจ้าทายปริศนาท่านสักข้อหนึ่งเถิด ถ้าทายได้ก่อนจบการเลี้ยงเจ็ดวันนี้ เราจะให้เสื้อป่านสามสิบชุด และเสื้อสามสิบชุดด้วย แต่​ถ้าท่านทั้งหลายทายไม่​ได้ ท่านต้องให้เสื้อป่านสามสิบชุ​ดก​ับเสื้อสามสิบชุดแก่​ข้าพเจ้า​” เขาก็ตอบท่านว่า “ทายมาเถิดเราจะฟัง” ฝ่ายแซมสันจึงกล่าวแก่เขาว่า “​มี​ของกินได้ออกมาจากตัวผู้กินเขา มี​ของหวานออกมาจากตั​วท​ี่​แข็งแรง​” ในสามวันเขาก็ยังแก้​ปริ​ศนานี้​ไม่ได้ ต่อมาพอถึงวั​นที​่​เจ​็ดเขาจึงไปอ้อนวอนภรรยาของแซมสั​นว​่า “จงลวงสามีของเจ้าให้​แก้​ปริ​ศนานี้​ให้​เราฟัง มิ​ฉะนั้นเราจะเอาไฟเผาเจ้ากับบ้านครอบครัวบิดาของเจ้าเสีย เจ้​าเชิญเรามาหวังจะทำให้เรายากจนหรือ” ภรรยาของแซมสันไปร้องไห้กับแซมสั​นว​่า “เธอเกลียดฉัน เธอไม่รักฉัน เธอทายปริศนาแก่ชาวเมืองของฉัน และเธอก็​ไม่​แก้​ปริ​ศนาให้ฉันฟัง” แซมสันจึงบอกว่า “​ดู​เถิด พ่อแม่​ของฉัน ฉันยังไม่บอกเลย จะบอกเธออย่างไรได้” เธอร้องไห้กับแซมสันตลอดเจ็ดวันซึ่งเป็​นว​ันเลี้ยงกันนั้น และต่อมาในวั​นที​่​เจ​็ดแซมสั​นก​็ต้องแก้​ปริ​ศนาให้เธอฟัง เพราะเธอกวนท่านมากนัก และนางก็บอกแก้​ปริ​ศนาให้ชาวบ้านของนาง พอวั​นที​่​เจ​็​ดก​่อนดวงอาทิตย์ตกชาวเมืองจึงบอกแซมสั​นว​่า “​มี​อะไรหวานกว่าน้ำผึ้ง มี​อะไรแข็งแรงกว่าสิงโต” แซมสันจึงบอกเขาว่า “ถ้าเจ้าไม่เอาแม่วัวของเราช่วยไถ เจ้​าคงจะแก้​ปริ​ศนาของเราไม่​ได้​” และพระวิญญาณของพระเยโฮวาห์​ก็​ทรงสถิ​ตก​ับแซมสันอย่างมาก ท่านจึงลงไปที่อัชเคโลนฆ่าชาวเมืองนั้นเสียสามสิบคน ริบเอาข้าวของและมอบเสื้อให้​ผู้​ที่​แก้​ปริศนา แล​้วให้​กล​ับไปบ้านของบิ​ดาด​้วยความโกรธอย่างมาก ส่วนภรรยาของแซมสันนั้​นก​็ยกให้​แก่​เพื่อนซึ่งเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวนั้นเสีย

ผู้วินิจฉัย 14:1-20 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

แซมสันได้ลงไปยังเมืองทิมนาห์ และได้เห็นผู้หญิงคนฟีลิสเตียคนหนึ่งที่เมืองทิมนาห์ แล้วเขาจึงขึ้นมาบอกบิดามารดาของเขาว่า <<ฉันเห็นผู้หญิงคนฟีลิสเตียคนหนึ่งที่เมืองทิมนาห์ ไปขอเขาให้เป็นเมียฉันที>> แต่บิดาและมารดาของเขากล่าวแก่เขาว่า <<จะหาเมียในบรรดาญาติพี่น้องของเจ้า หรือในท่ามกลางชนชาติของเราไม่ได้หรือ เจ้าจึงจะไปรับหญิงจากคนฟีลิสเตียที่ไม่ เข้าสุหนัตมาเป็นเมียของเจ้า>> แต่แซมสันกล่าวแก่บิดาว่า <<ไปขอหญิงนั้นให้ฉันที เพราะเธอเป็นที่พอใจฉันมาก>> บิดามารดาของเขาไม่ทราบว่า เรื่องนี้เป็นมาจากพระเจ้า เพราะพระองค์ทรงหาช่องโอกาสที่จะต่อสู้พวกฟีลิสเตีย ครั้งนั้นพวกฟีลิสเตียมีอำนาจเหนืออิสราเอล ฝ่ายแซมสันก็ลงไปที่เมืองทิมนาห์กับบิดามารดาของตน แซมสันมาถึงสวนองุ่นของทิมนาห์ ดูเถิด มีสิงห์หนุ่มตัวหนึ่งคำรามเข้าใส่เขา พระวิญญาณของพระเจ้าก็ทรงสถิตกับแซมสันอย่างมาก ท่านจึงฉีกสิงห์ออกอย่างคนฉีกลูกแพะ ทั้งที่ไม่มีอะไรในมือ แต่ท่านมิได้บอกให้บิดาหรือมารดาของ ท่านทราบว่าท่านได้ทำอะไรไป แซมสันก็ลงไปพูดจากับหญิงคนนั้น เธอเป็นที่พอใจแก่แซมสันมาก ต่อมาภายหลังแซมสันก็กลับไปเพื่อรับเธอมา เขาก็แวะไปดูซากสิงห์ และดูเถิด มีผึ้งฝูงหนึ่งทำรังอยู่ในซากสิงห์นั้น มีน้ำผึ้งด้วย แซมสันก็ยื่นมือกวาดเอารวงผึ้งมา เดินรับประทานไปพลาง จนมาถึงบิดามารดา ท่านจึงแบ่งให้บิดามารดารับประทานด้วย แต่ท่านมิได้บอกว่า น้ำผึ้งนั้นมาจากซากสิงห์ ฝ่ายบิดาของท่านก็ลงไปหาหญิงคนนั้น และแซมสันจัดการเลี้ยงที่นั่น ดังที่คนหนุ่มๆ เขากระทำกัน และเมื่อประชาชนเห็นท่านแล้ว จึงนำเพื่อนสามสิบคนให้มาอยู่ด้วย แซมสันกล่าวแก่เขาว่า <<ให้ข้าพเจ้าทายปริศนาท่านสักข้อหนึ่งเถิด ถ้าทายได้ก่อนจบการเลี้ยงเจ็ดวันนี้ เราจะให้เสื้อป่านสามสิบชุด และเสื้อเที่ยวงานสามสิบชุดด้วย ถ้าท่านทั้งหลายทายไม่ได้ ท่านต้องให้เสื้อป่านสามสิบชุด กับเสื้อเที่ยวงานสามสิบชุดแก่ข้าพเจ้า>> เขาก็ตอบท่านว่า <<ทายมาเถิด เราจะฟัง>> ฝ่ายแซมสันจึงกล่าวแก่เขาว่า <<มีของกินได้ ออกมาจากตัวผู้กินเขา มีของหวานออกมาจากตัวที่แข็งแรง>> ในสามวันเขาก็ยังแก้ปริศนานี้ไม่ได้ พอถึงวันที่เจ็ดเขาจึงไปอ้อนวอนภรรยาของแซมสันว่า <<จงลวงสามีของเจ้าให้แก้ปริศนานี้ให้เราฟัง มิฉะนั้นเราจะเอาไฟเผาเจ้ากับบ้านครอบครัวบิดาของเจ้าเสีย เจ้าเชิญเรามาหวังจะทำให้เรายากจนหรือ>> ภรรยาของแซมสันไปร้องไห้กับแซมสันว่า <<เธอเกลียดฉัน เธอไม่รักฉัน เธอทายปริศนาแก่ชาวเมืองของฉัน และเธอก็ไม่แก้ปริศนาให้ฉันฟัง>> แซมสันจึงบอกว่า <<ดูเถิด พ่อแม่ของฉัน ฉันยังไม่บอกเลย จะบอกเธออย่างไรได้>> เธอร้องไห้กับแซมสันตลอดเจ็ดวันซึ่งเป็นวันเลี้ยงกันนั้น ในวันที่เจ็ดแซมสันก็ต้องแก้ปริศนาให้เธอฟัง เพราะเธอกวนท่านมากนัก และนางก็บอกแก้ปริศนาให้ชาวบ้านของนาง พอวันที่เจ็ดก่อนดวงอาทิตย์ตกชาวเมืองจึงบอกแซมสันว่า <<มีอะไรหวานกว่าน้ำผึ้ง มีอะไรแข็งแรงกว่าสิงห์>> แซมสันจึงบอกเขาว่า <<ถ้าเจ้าไม่เอาแม่โคของเราช่วยไถ เจ้าคงจะแก้ปริศนาของเราไม่ได้>> และพระวิญญาณของพระเจ้าก็ทรงสถิตกับแซมสันอย่างมาก ท่านจึงลงไปที่อัชเคโลน ฆ่าชาวเมืองนั้นเสียสามสิบคน ริบเอาข้าวของ และมอบเสื้อเที่ยวงานให้ผู้ที่แก้ปริศนา แล้วให้กลับไปบ้านของบิดาด้วยความโกรธอย่างมาก ส่วนภรรยาของแซมสันนั้น พ่อตาก็ยกให้แก่เพื่อน ซึ่งเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวนั้นเสีย

ผู้วินิจฉัย 14:1-20 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

แซมสันลงไปยังเมืองทิมนาห์ และเห็นสาวชาวฟีลิสเตียคนหนึ่ง เมื่อเขากลับมาจึงบอกกับบิดามารดาว่า “ข้าพเจ้าเห็นสาวชาวฟีลิสเตียคนหนึ่งในทิมนาห์ ช่วยไปขอนางมาเป็นภรรยาของข้าพเจ้าด้วย” บิดามารดาทักท้วงว่า “ไม่มีผู้หญิงในหมู่ญาติพี่น้องหรือคนชาติเดียวกับเราถูกใจเจ้าสักคนเลยหรือ? เจ้าจึงต้องไปหาภรรยาจากพวกชาวฟีลิสเตียซึ่งไม่ได้เข้าสุหนัต” แต่แซมสันพูดกับบิดาว่า “นางเป็นคนที่เหมาะกับข้าพเจ้า ช่วยไปขอนางมาให้ข้าพเจ้าเถิด” (บิดามารดาของแซมสันไม่รู้ว่าการนี้มาจากองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงหาโอกาสที่จะเผชิญหน้ากับชาวฟีลิสเตียซึ่งขณะนั้นปกครองอิสราเอลอยู่) แซมสันกับบิดามารดาลงไปที่ทิมนาห์ ขณะที่พวกเขามาถึงสวนองุ่นแห่งทิมนาห์ ทันใดนั้นมีสิงโตหนุ่มคำรามกระโจนเข้าใส่แซมสัน พระวิญญาณขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาสถิตกับแซมสัน และประทานกำลังมหาศาลแก่เขา จนเขาสามารถฉีกสิงโตออกจากกันด้วยมือเปล่าราวกับจับลูกแพะฉีกเป็นสองซีก แต่แซมสันไม่ได้บอกเรื่องนี้ให้บิดามารดาทราบ เมื่อมาถึงทิมนาห์ เขาได้พูดคุยกับสาวคนนั้นและเขาชอบนาง ต่อมาเมื่อแซมสันกลับไปอีกเพื่อแต่งงานกับนาง เขาแวะไปดูซากสิงโต ก็พบรวงผึ้งอยู่ในซากนั้นและมีน้ำผึ้งอยู่ด้วย เขาจึงนำน้ำผึ้งติดตัวไปด้วย เดินไปกินไป เมื่อเขาไปพบบิดามารดา เขาก็เอาน้ำผึ้งให้บิดามารดากินด้วย แต่ไม่ได้บอกว่าน้ำผึ้งนั้นมาจากซากสิงโต ขณะที่บิดาไปดูตัวผู้หญิงคนนั้น แซมสันจัดงานเลี้ยงขึ้นที่นั่นตามธรรมเนียมเจ้าบ่าว เมื่อผู้คนเห็นเขา พวกเขาก็เลือกชายหนุ่มสามสิบคนให้มาเป็นเพื่อนแซมสัน แซมสันกล่าวกับคนเหล่านั้นว่า “ขอให้เราทายปริศนาพวกเจ้าสักข้อหนึ่งเถิด ถ้าพวกเจ้าตอบได้ภายในงานเลี้ยงเจ็ดวันนี้ เราก็จะให้เสื้อผ้าลินินพร้อมเครื่องนุ่งห่มสามสิบชุด แต่ถ้าตอบไม่ได้ พวกเจ้าก็ต้องเป็นฝ่ายยกเสื้อผ้าลินินพร้อมเครื่องนุ่งห่มสามสิบชุดให้เรา” พวกเขาจึงว่า “เอาเลย ทายมาสิ” แซมสันจึงกล่าวว่า “อาหารออกมาจากผู้กิน ความหวานออกมาจากผู้มีกำลัง” ตลอดสามวันคนเหล่านั้นก็ยังแก้ปริศนาไม่ได้ ในวันที่สี่พวกเขาจึงมาคาดคั้นภรรยาของแซมสันว่า “ไปตะล่อมเอาคำตอบจากสามีของเจ้ามาซิ ไม่อย่างนั้นเราจะเผาบ้านพ่อของเจ้าพร้อมกับตัวเจ้า มีอย่างหรือเชิญเรามาร่วมงานเลี้ยงนี้เพื่อจะให้เราหมดตัว?” ภรรยาของแซมสันจึงร้องไห้ฟูมฟายมาหาแซมสันและกล่าวว่า “ท่านเกลียดฉัน! ท่านไม่ได้รักฉันจริงถึงได้ตั้งปริศนาทายคนของฉัน แล้วไม่บอกคำตอบแก่ฉัน” แซมสันตอบว่า “ขนาดพ่อกับแม่ของข้า ข้ายังไม่บอกเลย เรื่องอะไรข้าต้องบอกเจ้า” นางร้องไห้เซ้าซี้กับแซมสันทุกวันตลอดงานเลี้ยงทั้งเจ็ดวัน ในวันที่เจ็ดแซมสันก็บอกคำตอบแก่นาง เพราะนางเอาแต่เซ้าซี้เขา นางจึงนำคำตอบไปบอกคนของนาง ในวันที่เจ็ดก่อนดวงอาทิตย์ตกคนเหล่านั้นก็ทายปริศนาว่า “อะไรเล่าจะหวานกว่าน้ำผึ้ง? และอะไรเล่ามีกำลังมากกว่าสิงโต?” แซมสันกล่าวกับเขาว่า “ถ้าไม่ได้เอาแม่วัวของข้าไถ พวกเจ้าก็ไม่มีวันทายปริศนาได้หรอก” แล้วพระวิญญาณขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาสถิตกับแซมสันและประทานกำลังมหาศาลให้เขา เขาไปยังเมืองอัชเคโลน ฆ่าชายสามสิบคน ยึดเอาทรัพย์สินและเครื่องนุ่งห่มของคนเหล่านั้นมามอบให้ชายหนุ่มทั้งปวงที่ทายปริศนาของตน แต่แซมสันโกรธมากจึงกลับไปยังบ้านของบิดา ส่วนภรรยาของแซมสันนั้น พ่อตาก็ยกให้เพื่อนซึ่งมาร่วมงานแต่งงานของเขา

ผู้วินิจฉัย 14:1-20 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

แซมสัน​ได้​ลง​ไป​ยัง​เมือง​ทิมนาห์ และ​เขา​เห็น​ผู้​หญิง​ชาว​ฟีลิสเตีย​คน​หนึ่ง เขา​จึง​ขึ้น​ไป​บอก​บิดา​มารดา​ของ​เขา​ว่า “ลูก​เห็น​ผู้​หญิง​ชาว​ฟีลิสเตีย​คน​หนึ่ง​ที่​ทิมนาห์ ช่วย​ไป​ขอ​เธอ​มา​เป็น​ภรรยา​ให้​ลูก​ใน​เวลา​นี้​เถิด” แต่​บิดา​มารดา​พูด​กับ​เขา​ว่า “ไม่​มี​หญิง​ใด​ใน​กลุ่ม​ญาติ​ของ​เจ้า หรือ​ใน​หมู่​คน​ของ​พวก​เรา​เอง​หรือ​อย่างไร เจ้า​ถึง​ต้อง​ไป​หา​ภรรยา​จาก​ชาว​ฟีลิสเตีย​ที่​ไม่​เข้า​สุหนัต” แต่​แซมสัน​พูด​กับ​บิดา​ของ​ตน​ว่า “ไป​ขอ​เธอ​มา​ให้​ลูก​เถิด เพราะ​เธอ​ต้อง​ตา​ต้อง​ใจ​ลูก” บิดา​มารดา​ของ​เขา​ไม่​ทราบ​ว่า​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​บันดาล​ให้​เกิด​เรื่อง​นี้ เพราะ​พระ​องค์​ใช้​โอกาส​ที่​จะ​ให้​เขา​ต่อ​สู้​ชาว​ฟีลิสเตีย ใน​เวลา​นั้น​ชาว​ฟีลิสเตีย​เป็น​ใหญ่​เหนือ​อิสราเอล จาก​นั้น​แซมสัน​ก็​ลง​ไป​ยัง​ทิมนาห์​กับ​บิดา​มารดา​ของ​เขา เมื่อ​มา​ถึง​สวน​องุ่น​ใน​ทิมนาห์ ดู​เถิด​สิงโต​หนุ่ม​ตัว​หนึ่ง​เดิน​คำราม​ตรง​มา​ยัง​แซมสัน และ​พระ​วิญญาณ​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ก็​สถิต​กับ​แซมสัน และ​แม้​ว่า​เขา​ไม่​มี​อะไร​ใน​มือ เขา​ก็​ยัง​ฉีก​ตัว​สิงโต​ออก​เป็น​ชิ้นๆ ได้​ราว​กับ​ฉีก​เนื้อ​แพะ​หนุ่ม แต่​เขา​ไม่​ได้​บอก​ให้​บิดา​มารดา​ฟัง​ว่า​เขา​ได้​ทำ​อะไร​ไป แล้ว​เขา​ลง​ไป​พูด​กับ​หญิง​คน​นั้น และ​เธอ​ก็​ต้อง​ตา​ต้อง​ใจ​เขา อยู่​มา​วัน​หนึ่ง​แซมสัน​กลับ​ไป​รับ​ตัว​เธอ ขณะ​ที่​ไป เขา​หัน​ไป​ดู​ซาก​สิงโต ดู​เถิด มี​ฝูง​ผึ้ง​อยู่​ใน​ตัว​สิงโต และ​มี​น้ำ​ผึ้ง​ด้วย เขา​ใช้​มือ​ทั้ง​สอง​ควัก​น้ำ​ผึ้ง​กิน และ​เดิน​ต่อ​ไป ซ้ำ​ยัง​เอา​ไป​ให้​บิดา​มารดา​กิน​ด้วย แต่​เขา​ไม่​ได้​บอก​ว่า​เขา​ควัก​น้ำ​ผึ้ง​ได้​จาก​ซาก​สิงโต บิดา​ของ​เขา​ลง​ไป​หา​หญิง​คน​นั้น และ​แซมสัน​ก็​เตรียม​งาน​เลี้ยง​ที่​นั่น​ตาม​ที่​บรรดา​เจ้า​บ่าว​นิยม​ทำ​กัน ทัน​ที​ที่​ประชาชน​เห็น​แซมสัน พวก​เขา​ก็​ให้​คน​มา​เป็น​เพื่อน​ด้วย 30 คน แซมสัน​พูด​กับ​เขา​เหล่า​นั้น​ว่า “ให้​เรา​ทาย​ปริศนา​กับ​ท่าน​ข้อ​หนึ่ง​เถิด ถ้า​ท่าน​ไข​ได้​ว่า​คือ​อะไร ภาย​ใน 7 วัน​ที่​มี​งาน​เลี้ยง เรา​จะ​ให้​เสื้อ​ป่าน 30 ตัว​กับ​เสื้อ​ใหม่​อีก 30 ตัว แต่​ถ้า​หาก​ว่า​ท่าน​ไข​ปริศนา​ไม่​ได้​ว่า​คือ​อะไร ท่าน​ก็​จะ​ต้อง​ให้​เสื้อ​ป่าน 30 ตัว​กับ​เสื้อ​ใหม่ 30 ตัว​แก่​เรา” พวก​เขา​จึง​ตอบ​ว่า “เปิด​ปริศนา​เถิด พวก​เรา​จะ​ได้​ฟัง​กัน” เขา​จึง​กล่าว​ว่า “มี​ของ​ที่​กิน​ได้​ที่​ออก​มา​จาก​ตัว​ที่​กิน สิ่ง​ที่​หวาน​ออก​มา​จาก​ตัว​ที่​แข็งแรง” สาม​วัน​ผ่าน​ไป พวก​เขา​ยัง​ไม่​สามารถ​ไข​ปริศนา​ได้ ใน​วัน​ที่​สี่ พวก​เขา​พูด​กับ​ภรรยา​ของ​แซมสัน​ว่า “จง​หว่าน​ล้อม​สามี​ของ​เจ้า​เพื่อ​พวก​เรา​จะ​ได้​รู้​ว่า​คำตอบ​ของ​ปริศนา​คือ​อะไร มิ​ฉะนั้น​แล้ว พวก​เรา​จะ​เผา​ตัว​เจ้า​และ​คน​ใน​ครอบครัว​ของ​บิดา​ของ​เจ้า​ให้​ตาย​หมด เจ้า​เชิญ​เรา​มา​เพื่อ​ทำ​ให้​พวก​เรา​หมด​ตัว​หรือ” ภรรยา​ของ​แซมสัน​จึง​ไป​ร้องไห้​ใส่​แซมสัน​ว่า “ท่าน​เกลียด​ชัง​เรา ท่าน​ไม่​รัก​เรา ท่าน​ตั้ง​ปริศนา​ให้​คน​ของ​เรา​ทาย และ​ท่าน​ยัง​ไม่​ได้​บอก​เรา​เลย​ว่า คำตอบ​คือ​อะไร” เขา​ตอบ​นาง​ว่า “ดู​เถิด เรา​ไม่​ได้​บอก​พ่อ​แม่​ของ​เรา​เอง จะ​ให้​เรา​บอก​เจ้า​หรือ” นาง​ร้องไห้​ต่อ​หน้า​แซมสัน​ทั้ง 7 วัน​ที่​มี​งาน​เลี้ยง และ​ใน​วัน​ที่​เจ็ด​เขา​ก็​บอก​นาง เพราะ​นาง​รบเร้า​เขา​มาก แล้ว​นาง​ก็​ไป​บอก​คำตอบ​ให้​คน​ของ​นาง​ทราบ พวก​ผู้​ชาย​ของ​เมือง​นั้น​จึง​บอก​แซมสัน​ใน​วัน​ที่​เจ็ด​ก่อน​ดวง​อาทิตย์​ตก​ว่า “อะไร​หวาน​กว่า​น้ำ​ผึ้ง อะไร​แข็งแรง​กว่า​สิงโต” เขา​พูด​กับ​คน​พวก​นั้น​ว่า “ถ้า​ท่าน​ไม่​ได้​ไถ​นา​กับ​โค​สาว​ของ​เรา ท่าน​ก็​จะ​ไข​ปริศนา​ของ​เรา​ไม่​ได้” และ​พระ​วิญญาณ​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ก็​สถิต​กับ​แซมสัน​ด้วย​อานุภาพ เขา​ก็​ลง​ไป​ที่​อัชเคโลน และ​ฆ่า​ชาย 30 คน ยึด​ของ​ที่​ริบ​มา​ได้ และ​ให้​เสื้อ​ใหม่​แก่​พวก​ที่​ไข​ปริศนา เขา​กลับ​ไป​บ้าน​ของ​บิดา​ด้วย​ความ​โกรธ​เป็น​อย่าง​มาก และ​ภรรยา​ของ​แซมสัน​ถูก​ยก​ให้​เป็น​ของ​เพื่อน​แซมสัน คือ​คน​ที่​เป็น​เพื่อน​เจ้า​บ่าว

YouVersion ใช้คุกกี้สำหรับการปรับแต่งการใช้งาน และประสบการณ์ของคุณ การที่คุณได้ใช้เว็บไซต์ของเรา ถือเป็นการที่คุณยอมรับวัตถุประสงค์ของการใช้คุกกี้ ซึ่งมีคำอธิบายอยู่ในนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา