เอสเธอร์ 9:20-28
เอสเธอร์ 9:20-28 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
โมรเดคัยได้บันทึกเหตุการณ์เหล่านี้ไว้ทั้งหมด และเขาได้ส่งจดหมายไปถึงชาวยิวทุกคน ที่อาศัยอยู่ในมณฑลทุกแห่งของกษัตริย์อาหสุเอรัส ทั้งใกล้และไกล เขาเขียนไปให้กับชาวยิวทุกคน ให้ถือวันที่สิบสี่และวันที่สิบห้าของเดือนอาดาร์ เป็นวันหยุดประจำปี เพราะวันเหล่านั้นเป็นวันที่บรรดาชาวยิวได้กำจัดพวกศัตรูของพวกเขา และเป็นเดือนที่ความทุกข์โศกของพวกเขาได้กลายเป็นความชื่นชมยินดี การคร่ำครวญของพวกเขากลายเป็นการเลี้ยงฉลอง เขาบอกให้พวกเขาให้เฉลิมฉลองเลี้ยงกันในวันเหล่านั้น และส่งอาหารเป็นของขวัญให้แก่กันและกัน และส่งอาหารเป็นของขวัญให้กับคนยากจนด้วย ดังนั้นชาวยิวจึงตกลงที่จะรักษาเทศกาลนี้ที่พวกเขาได้เริ่มต้นไว้ตลอดไป ตามที่โมรเดคัยได้เขียนมา ฮามาน ลูกชายฮัมเมดาธา ชาวอากัก ศัตรูของพวกชาวยิว ได้วางแผนชั่วเพื่อทำลายชาวยิว เขาได้ทำการเสี่ยงทาย ที่เรียกว่า “เปอร์” เพื่อทำลายพวกยิวให้พินาศสิ้น แต่เมื่อกษัตริย์ได้ล่วงรู้แผนการนั้น พระองค์พูดว่า “ขอให้คำสั่งชั่วร้ายที่ฮามานเขียนเพื่อทำลายชาวยิวนี้ เกิดขึ้นกับเขาแทน” ดังนั้นฮามานและลูกชายจึงถูกเสียบที่เสาไม้ ดังนั้น ประชาชน จึงเรียกวันเหล่านั้นว่า “ปูริม” ซึ่งมาจากคำว่า “เปอร์” โมรเดคัยได้เขียนจดหมายบอกให้ชาวยิวเฉลิมฉลองเทศกาลนี้ในสองวันที่กำหนดนี้ของทุกปี เพื่อให้ระลึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเขา ดังนั้นพวกยิวจึงถือเป็นประเพณีสำหรับพวกเขาและลูกหลานของพวกเขาตามที่โมรเดคัยบอก เพื่อพวกเขาจะถือเทศกาลนี้ไว้ และรักษาไว้สืบต่อไปในทุกยุคทุกสมัย ในทุกครอบครัว ในทุกมณฑล และในทุกเมือง คนยิวจะต้องเฉลิมฉลองเทศกาลปูริมนี้ทุกปีไม่หยุดหย่อน และรักษาเทศกาลนี้ตลอดไป และไม่ปล่อยให้มันหมดสิ้นไปจากผู้สืบเชื้อสายของชาวยิว
เอสเธอร์ 9:20-28 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
และโมรเดคัยบันทึกเหตุการณ์เหล่านี้และส่งจดหมายไปยังพวกยิวทั้งหมด ผู้อยู่ในมณฑลทั้งปวงของกษัตริย์อาหสุเอรัส ทั้งใกล้และไกล ชักชวนพวกเขาให้ถือวันที่สิบสี่เดือนอาดาร์ และวันที่สิบห้าเดือนเดียวกันทุกๆ ปี เป็นวันที่พวกยิวพ้นจากศัตรู และเป็นเดือนที่เปลี่ยนความโศกเศร้าเป็นความยินดี และการคร่ำครวญเป็นวันรื่นเริงให้แก่พวกเขา และให้พวกเขาถือเป็นวันเลี้ยงฉลองและวันยินดี เป็นวันที่ส่งของขวัญแก่กันและกัน และให้ของขวัญแก่คนจน พวกยิวจึงตกลงทำตามที่พวกเขาเริ่มต้นไว้แล้ว และตามที่โมรเดคัยเขียนไปถึงพวกเขา เพราะฮามานบุตรฮัมเมดาธา คนอากัก ศัตรูของพวกยิวทั้งปวง ได้ปองร้ายต่อพวกยิวเพื่อทำลายพวกเขาและได้ทอดสลาก เพื่อล้างผลาญและทำลายพวกเขา แต่เมื่อพระนางเอสเธอร์เข้าเฝ้ากษัตริย์ พระองค์รับสั่งเป็นลายลักษณ์อักษรให้แผนการร้ายซึ่งฮามานได้คิดต่อพวกยิวนั้นกลับตกลงบนศีรษะของเขาเอง และให้ตัวเขากับบุตรของเขาถูกแขวนบนตะแลงแกง เพราะฉะนั้น พวกเขาจึงเรียกวันเหล่านี้ว่าปูริม ตามคำ “ปูร์” ดังนั้น เพราะทุกอย่างที่เขียนไว้ในจดหมายนี้ และเพราะสิ่งที่พวกยิวพบเห็นในเรื่องนี้ และสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเขา พวกยิวจึงกำหนดและสัญญาว่าตัวพวกเขาเอง เชื้อสายของพวกเขา และทุกคนที่เข้าจารีตยิว จะถือสองวันนี้ดังที่บันทึกไว้ และตามวันเวลาที่กำหนดไว้ทุกปีไม่เว้นเลย และสัญญาว่าจะจดจำวันดังกล่าวนี้ และถือตลอดทุกชั่วอายุคน ทุกตระกูล ทุกมณฑลและทุกเมือง วันเทศกาลปูริมนี้จะไม่เลิกถือในท่ามกลางพวกยิว หรือการระลึกถึงวันเหล่านี้จะไม่สิ้นสุดไปในเชื้อสายของพวกเขาเลย
เอสเธอร์ 9:20-28 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
และโมรเดคัยบันทึกเรื่องนี้และส่งจดหมายไปยังพวกยิวทั้งปวงผู้อยู่ในมณฑลทั้งปวงของกษัตริย์อาหสุเอรัส ทั้งใกล้และไกล ชักชวนเขาให้ถือวันที่สิบสี่เดือนอาดาร์ และวันที่สิบห้าเดือนเดียวกันทุกๆปี เป็นวันที่พวกยิวพ้นจากศัตรูของเขา และเป็นเดือนที่เปลี่ยนความโศกเศร้าเป็นความยินดี และการคร่ำครวญเป็นวันรื่นเริงให้แก่เขา และให้เขาถือเป็นวันกินเลี้ยงและวันยินดี เป็นวันที่ส่งของขวัญแก่กันและกัน และให้ของขวัญแก่คนจน พวกยิวจึงตกลงกระทำตามที่เขาตั้งต้นแล้ว และตามที่โมรเดคัยเขียนไปถึงเขา เพราะฮามานบุตรชายฮัมเมดาธา คนอากัก ศัตรูของพวกยิวทั้งปวง ได้ปองร้ายต่อพวกยิวเพื่อทำลายเขา ได้ทอดเปอร์ คือสลาก เพื่อล้างผลาญและทำลายเขา แต่เมื่อพระนางเอสเธอร์เข้าเฝ้ากษัตริย์ พระองค์ทรงบัญชาเป็นลายลักษณ์อักษรให้แผนการมุ่งร้ายของท่าน ซึ่งท่านได้คิดต่อพวกยิวนั้น กลับตกลงบนศีรษะของท่านเอง และให้ตัวท่านกับบุตรชายของท่านถูกแขวนบนตะแลงแกง เพราะฉะนั้นเขาจึงเรียกวันเหล่านี้ว่า เปอร์ริม ตามคำเปอร์ ดังนั้น เพราะทุกอย่างที่เขียนไว้ในจดหมายนี้ และเพราะสิ่งที่พวกยิวต้องเผชิญในเรื่องนี้ และสิ่งที่อุบัติแก่เขา พวกยิวก็กำหนดและรับว่าตัวเขาเอง เชื้อสายของเขา และบรรดาผู้ที่เข้าจารีตยิวจะถือสองวันนี้ดังที่เขียนไว้ และตามเวลาที่กำหนดไว้ทุกปีมิได้ขาด และว่าจะจดจำวันเหล่านี้ และถือตลอดทุกชั่วอายุ ทุกครอบครัว มณฑลและเมือง วันเทศกาลเปอร์ริมนี้จะไม่เลิกถือในท่ามกลางพวกยิว หรือการระลึกถึงวันเหล่านี้จะไม่สิ้นลงในเชื้อสายของเขาเลย
เอสเธอร์ 9:20-28 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
และโมรเดคัยบันทึกเรื่องนี้และส่ง จดหมายไปยังพวกยิวทั้งปวง ผู้อยู่ในมณฑลทั้งปวงของกษัตริย์อาหสุเอรัส ทั้งใกล้และไกล ชักชวนเขาให้ถือวันที่สิบสี่เดือนอาดาร์ และวันที่สิบห้าเดือนเดียวกันทุกๆปี เป็นวันที่พวกยิวพ้นจากศัตรูของเขา และเป็นเดือนที่เปลี่ยนความโศกเศร้าเป็นความยินดี และการคร่ำครวญเป็นวันรื่นเริงให้แก่เขา และให้เขาถือเป็นวันกินเลี้ยงและวันยินดี เป็นวันที่ส่งของขวัญแก่กันและกัน และให้ของขวัญแก่คนจน พวกยิวจึงตกลงกระทำตามที่เขาตั้งต้นแล้ว และตามที่โมรเดคัยเขียนไปถึงเขา เพราะฮามานบุตรฮัมเมดาธาคนอากัก ศัตรูของพวกยิวทั้งปวง ได้ปองร้ายต่อพวกยิวเพื่อทำลายเขาได้ทอดเปอร์ คือสลาก เพื่อล้างผลาญและทำลายเขา แต่เมื่อพระนางเอสเธอร์เข้าเฝ้าพระราชา พระองค์ทรงรับสั่งเป็นลายลักษณ์อักษรให้แผนการมุ่งร้าย ของท่าน ซึ่งท่านได้คิดต่อพวกยิวนั้นกลับตกลงบนศีรษะของท่านเอง และให้ตัวท่านกับบุตรของท่านถูกแขวนบนตะแลงแกง เพราะฉะนั้นเขาจึงเรียกวันเหล่านี้ว่าปูริม ตามคำเปอร์ ดังนั้น เพราะทุกอย่างที่เขียนไว้ในจดหมายนี้ และเพราะสิ่งที่พวกยิวต้องเผชิญในเรื่องนี้ และสิ่งที่อุบัติแก่เขา พวกยิวก็กำหนดและรับว่าตัวเขาเอง เชื้อสายของเขา และบรรดาผู้ที่เข้าจารีต ยิวจะถือสองวันนี้ดังที่เขียนไว้ และตามเวลาที่กำหนดไว้ทุกปีมิได้ขาด และว่าจะจดจำวันเหล่านี้ และถือตลอดทุกชั่วชาติพันธุ์ ทุกตระกูล มณฑลและเมือง วันเทศกาลปูริมนี้จะไม่เลิกถือในท่ามกลางพวกยิว หรือการระลึกถึงวันเหล่านี้จะไม่สิ้นลงในเชื้อสาย ของเขาเลย
เอสเธอร์ 9:20-28 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
โมรเดคัยบันทึกเหตุการณ์เหล่านี้ไว้ และเขียนจดหมายไปถึงชาวยิวทั้งใกล้และไกล ทั่วทุกมณฑลของกษัตริย์เซอร์ซีส ให้เฉลิมฉลองประจำปีในวันที่สิบสี่และสิบห้าเดือนอาดาร์ เป็นโอกาสที่ชาวยิวปลอดพ้นจากศัตรู เดือนที่ความโศกเศร้ากลับกลายเป็นความรื่นเริงยินดี และการคร่ำครวญไว้ทุกข์กลับกลายเป็นวันแห่งการเฉลิมฉลอง จึงให้ถือเป็นวันฉลองรื่นเริง มอบอาหารให้แก่กันและกัน และให้ของขวัญแก่คนยากจน ชาวยิวจึงเห็นพ้องต้องกันที่จะยึดถือการเฉลิมฉลองสืบไปตามที่โมรเดคัยเขียนบอก ด้วยว่าฮามานบุตรฮัมเมดาธาชาวอากักศัตรูของชาวยิวทั้งปวงได้วางแผนจะทำลายพวกตนตามเวลาซึ่งกำหนดโดยการทอดสลากที่เรียกว่าเปอร์ แต่เมื่อแผนการนี้รู้ถึงองค์กษัตริย์ พระองค์ทรงประกาศพระราชโองการที่ทำให้แผนการอันชั่วร้ายของฮามานหวนกลับไปเล่นงานตัวเขาเอง ตัวฮามานและบุตรต้องถูกแขวนบนตะแลงแกง (เทศกาลนี้จึงได้ชื่อว่าปูริม มาจากคำว่า “เปอร์”) เนื่องด้วยทุกสิ่งที่เขียนไว้ในจดหมายนั้น และเนื่องด้วยสิ่งที่พวกเขาได้เห็นและได้เกิดขึ้นกับพวกเขา ชาวยิวเห็นชอบที่จะตั้งธรรมเนียมขึ้นซึ่งพวกเขาและลูกหลาน ตลอดจนทุกคนที่มาเข้าเป็นพวกจะฉลองทั้งสองวันนี้ตามวิธีและวาระที่กำหนดทุกปีไม่ให้ขาด วันเหล่านี้จะเป็นวันรำลึกซึ่งยึดถือกันตลอดไปทุกชั่วอายุ ทุกครอบครัว ในทุกหัวเมือง และในทุกมณฑล ชาวยิวจะฉลองเทศกาลปูริมสองวันนี้เพื่อเป็นอนุสรณ์ตลอดไปตราบชั่วลูกหลาน
เอสเธอร์ 9:20-28 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
โมร์เดคัยบันทึกเรื่องเหล่านี้ และส่งจดหมายถึงชาวยิวทั้งปวงที่อยู่ในทุกแคว้นของกษัตริย์อาหสุเอรัส ทั้งใกล้และไกล เพื่อให้พวกเขาร่วมกันถือวันที่สิบสี่และวันที่สิบห้าของเดือนอาดาร์ เป็นประจำทุกปี เป็นวันที่ชาวยิวพ้นภัยจากศัตรูของพวกเขา และเป็นเดือนที่เปลี่ยนจากความเศร้าเป็นความยินดี และจากวันไว้อาลัยเป็นวันฉลอง พวกเขาตั้งให้เป็นวันแห่งงานเลี้ยงและความยินดี วันมอบอาหารเป็นของขวัญให้แก่กันและกัน และมอบของขวัญให้แก่คนยากไร้ ดังนั้น ชาวยิวเห็นด้วยที่จะรักษาวันฉลองเหมือนที่เริ่มกระทำมาแล้ว และกระทำตามสิ่งที่โมร์เดคัยได้เขียนถึงพวกเขา เพราะฮามานชาวอากักบุตรของฮัมเมดาธา ผู้เป็นศัตรูของชาวยิวทั้งปวง เขาได้วางแผนต่อต้านชาวยิวเพื่อกำจัดพวกเขา และได้จับฉลากซึ่งเรียกว่า “ปูร์” เพื่อเจาะจงหาวันที่จะทำลายและกำจัดพวกเขา แต่เมื่อเรื่องเป็นที่ทราบของกษัตริย์ ท่านออกคำสั่งเป็นตัวอักษรว่า แผนการชั่วร้ายของเขาที่มีต่อชาวยิวนั้นควรกลับไปลงโทษตัวเขาเอง และฮามานกับบรรดาบุตรชายของเขาควรถูกแขวนคอบนตะแลงแกง ฉะนั้น พวกเขาจึงเรียกวันนั้นว่า ปูริม ตามคำเรียก “ปูร์” ฉะนั้น เป็นเพราะทุกสิ่งที่เขียนในจดหมายนี้ และเพราะสิ่งที่พวกเขาได้เผชิญรวมไปถึงสิ่งที่ได้เกิดขึ้นกับพวกเขา บรรดาชาวยิว ผู้สืบเชื้อสายของพวกเขา และทุกคนที่ร่วมกันกับพวกเขา ต่างก็หมั่นปฏิบัติรักษาทั้ง 2 วันนี้ ตามเรื่องที่เขียนไว้โดยไม่เว้น และตามเวลาที่กำหนดไว้ของทุกปี วันดังกล่าวควรจะเป็นที่จดจำและรักษาตลอดทุกชั่วอายุคน ทุกตระกูล แคว้น และเมือง และไม่ควรหยุดฉลองวันปูริมในหมู่ชาวยิวเป็นอันขาด และบรรดาลูกหลานไม่ควรหยุดระลึกถึงเหตุการณ์นี้ตลอดไป