เฉลยธรรมบัญญัติ 4:13-49

เฉลยธรรมบัญญัติ 4:13-49 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

พระองค์​ได้​ประกาศ​คำสอน​ของ​พระองค์ และ​พระองค์​ได้​สั่ง​ให้​พวกท่าน​ทำ​ตาม​คำสอน​เหล่านั้น ซึ่ง​ก็​คือ​บัญญัติ​สิบ​ประการ และ​พระองค์​ได้​เขียน​มัน​ไว้​บน​แผ่น​หิน​สอง​แผ่น เวลานั้น​พระยาห์เวห์​ได้​สั่ง​ให้​เรา​สอน​พวกท่าน ถึง​กฎ​และ​ข้อบังคับ​ต่างๆ​เพื่อ​พวกท่าน​จะ​ได้​ทำ​ตาม​คำสอน​เหล่านั้น​ใน​ดินแดน​อีก​ฝั่ง​หนึ่ง​ของ​แม่น้ำ​จอร์แดน​ที่​พวกท่าน​กำลัง​จะ​ข้าม​ไป​ยึด​เป็น​เจ้าของ ใน​วันนั้น​ที่​พระยาห์เวห์​พูด​กับ​พวกท่าน​บน​ภูเขา​ซีนาย ตอน​ที่​พระองค์​พูด​ออก​มา​จาก​ท่าม​กลาง​ไฟ​นั้น เพราะ​พวก​ท่าน​ไม่​ได้​เห็น​รูปร่าง​อะไร​เลย ก็​ให้​ระวัง​ตัว​ไว้​ให้​ดี เพื่อ​พวกท่าน​จะ​ได้​ไม่​ทำลาย​ตัวเอง ด้วย​การ​ไป​สร้าง​รูปเคารพ​ให้​กับ​ตัวเอง เป็น​รูปร่าง​ต่างๆ​ไม่ว่า​จะ​เป็น​รูปปั้น​ของ​ชาย​หรือ​หญิง หรือ​รูปปั้น​ของ​สัตว์​ต่างๆ​ที่​อยู่​บน​บก หรือ​รูปปั้น​ของ​นก​ต่างๆ​ที่​บิน​อยู่​ใน​ท้องฟ้า หรือ​รูปปั้น​ของ​พวกสัตว์​เลื้อย​คลาน​บน​ดิน หรือ​รูปปั้น​ของ​พวก​ปลา​ที่​อยู่​ใน​น้ำ ให้​ระวัง​ตัว​ให้​ดี เวลา​ที่​ท่าน​มองดู​ท้องฟ้า เห็น​ดวง​อาทิตย์ ดวง​จันทร์ ดวง​ดาว รวมทั้ง​สิ่ง​ต่างๆ​ที่​อยู่​ใน​ท้องฟ้า​แล้ว อย่า​ให้​สิ่ง​ต่างๆ​เหล่านั้น​มา​ทำ​ให้​ท่าน​หลง​ผิด แล้ว​ไป​กราบไหว้​และ​รับใช้​พวกมัน พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ของ​ท่าน​ได้​จัดสรร​สิ่ง​ต่างๆ​เหล่านั้น​ให้​กับ​ทุกๆ​ชนชาติ​ทั่ว​ใต้​ฟ้านี้ แต่​พระยาห์เวห์​ได้รับ​พวกท่าน​และ​นำ​พวกท่าน​ออก​มา​จาก​เตา​หลอม​เหล็ก คือ​ออก​มา​จาก​อียิปต์ เพื่อ​มา​เป็น​คน​ของ​พระองค์​โดยเฉพาะ เหมือน​กับ​ที่​เป็น​อยู่​ใน​ตอนนี้ เป็น​เพราะ​พวก​ท่าน พระยาห์เวห์​ถึง​ได้​โกรธ​เรา​มาก พระองค์​จึง​ได้​สาบาน​ไว้​ว่า เรา​จะ​ไม่​ได้​ข้าม​แม่น้ำ​จอร์แดน และ​จะ​ไม่​ได้​เข้า​ไป​ใน​แผ่นดิน​ที่​ดี​แห่งนั้น​ที่​พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ของ​ท่าน​ได้​ยก​ให้​ท่าน​เป็น​เจ้าของ เพราะ​เรา​จะ​ต้อง​ตาย​อยู่​ที่นี่ จะ​ไม่​ได้​ข้าม​แม่น้ำ​จอร์แดน แต่​พวกท่าน​จะ​ได้​ข้าม​แม่น้ำ​สายนั้น และ​จะ​ได้​เป็น​เจ้า​ของ​แผ่นดิน​ที่​ดี​แห่งนั้น ระวัง​ตัว​ให้​ดี เพื่อ​พวกท่าน​จะ​ได้​ไม่​ลืม​ข้อตกลง​ที่​พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ของ​พวกท่าน​ได้​ทำ​ไว้​กับ​ท่าน และ​เพื่อ​พวกท่าน​จะ​ได้​ไม่​สร้าง​รูป​เคารพ​เป็น​รูปร่าง​ต่างๆ​สำหรับ​ตัวเอง ตาม​ที่​พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ของ​ท่าน​ได้​สั่ง​ห้าม​ไว้ เพราะ​พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ของ​ท่าน​คือ​ไฟ​ที่​เผาผลาญ​และ​เป็น​พระเจ้า​ที่​หึงหวง เมื่อ​พวกท่าน​มีลูก​มีหลาน​และ​อยู่​บน​แผ่นดิน​นั้น​เป็น​เวลา​นาน ถ้า​พวกท่าน​ทำ​ตัว​ไม่​ดี​และ​สร้าง​รูป​เคารพ​ที่​เป็น​รูป​อะไรก็​แล้ว​แต่ และ​ทำ​ใน​สิ่ง​ที่​พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ของ​ท่าน​เห็น​ว่า​ชั่วร้าย เป็น​การ​ยั่วยุ​ให้​พระองค์​โกรธ เรา​ขอ​เรียก​ฟ้า​และ​ดิน​มา​เป็น​พยาน​ต่อต้าน​ท่าน​ใน​วันนี้​ว่า พวกท่าน​จะ​ต้อง​ถูก​ทำลาย​อย่าง​รวดเร็ว​ไป​จาก​แผ่นดิน​ที่​ท่าน​กำลัง​จะ​ข้าม​แม่น้ำ​จอร์แดน​ไป​เป็น​เจ้าของนั้น พวกท่าน​จะ​ไม่​ได้​อยู่​ใน​แผ่นดินนั้น​นาน​หรอก เพราะ​พวกท่าน​จะ​ถูก​ทำลาย​ล้าง​จน​หมดสิ้น พระยาห์เวห์​จะ​ทำ​ให้​พวกท่าน​กระจัด​กระจาย​ไป​อยู่​ท่ามกลาง​ชนชาติ​อื่นๆ​และ​พวกท่าน​ก็​จะ​เหลือ​อยู่​แค่​ไม่​กี่​คน​ใน​ท่าม​กลาง​ชนชาติ​นั้นๆ​ที่​พระยาห์เวห์​ได้​ขับไล่​ให้​พวกท่าน​เข้า​ไป​อยู่ ที่นั่น​พวกท่าน​จะ​รับใช้​พระ​ต่างๆ​ที่​มือ​ของ​คน​ทำ​ขึ้น​มา มี​ทั้ง​พระ​ที่​ทำ​จาก​ไม้​และ​หิน ที่​มอง​ก็​ไม่​เห็น ฟัง​ก็​ไม่​ได้ยิน กิน​หรือ​ดม​กลิ่น​ก็​ไม่​ได้ จาก​ชนชาติ​นั้นๆ​พวกท่าน​จะ​แสวงหา​พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ของ​ท่าน และ​ท่าน​จะ​ได้​พบ​พระองค์ ถ้า​ท่าน​ค้นหา​พระองค์​ด้วย​สุดใจ​สุดจิต​ของ​ท่าน เมื่อ​ท่าน​ตก​อยู่​ใน​ความ​ทุกข์ยาก และ​เจอ​กับ​เรื่อง​ต่างๆ​พวกนี้ ท่าน​ก็​จะ​หัน​กลับ​มาหา​พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ของ​ท่าน​และ​เชื่อฟัง​พระองค์ เพราะ​พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ของ​ท่านนั้น​เป็น​พระเจ้า​ที่​มี​เมตตา พระองค์​จะ​ไม่​ทอดทิ้ง​ท่าน​และ​พระองค์​ก็​จะ​ไม่​ทำลาย​ท่าน พระองค์​จะ​ไม่​ลืม​ข้อตกลง​ที่​พระองค์​ได้​สัญญา​ไว้​กับ​บรรพบุรุษ​ของ​ท่าน ไป​ถาม​ดูสิ เกี่ยวกับ​วัน​เวลา​ที่​ผ่าน​มา ที่​มี​มา​ก่อน​ท่าน​นาน​แสน​นาน นับ​ตั้งแต่​วัน​ที่​พระเจ้า​สร้าง​มนุษย์​ขึ้น​มา​ใน​โลกนี้ ไป​ถาม​ดู​ได้​เลย​จาก​สุด​ปลาย​ฟ้า​ข้างนี้​ไป​ถึง​ข้างโน้น​ว่า เคย​มี​เรื่อง​ที่​ยิ่งใหญ่​อย่างนี้​เกิด​ขึ้น​มา​ก่อน​หรือ​เปล่า หรือ​เคย​ได้ยิน​เรื่อง​อะไร​อย่างนี้​มา​ก่อน​หรือ​เปล่า เคย​มี​ชนชาติ​ไหน​บ้าง​ที่​ได้ยิน​เสียง​พระเจ้า​พูด​ออก​มา​จาก​เปลวไฟ​เหมือน​ที่​ท่าน​ได้ยิน แล้ว​ยัง​มี​ชีวิต​อยู่​ต่อ​ไป​ได้ หรือ​เคย​มี​พระ​องค์ไหน​บ้าง ที่​พยายาม​เอา​ชนชาติ​หนึ่ง​ออก​มา​จาก​อีก​ชนชาติ​หนึ่ง เพื่อ​มา​เป็น​ของ​พระองค์​เอง พระองค์​ใช้​การ​ทดลอง​ต่างๆ เหตุการณ์​พิเศษ​ต่างๆ การ​อัศจรรย์​ต่างๆ รวมทั้ง​สงคราม มือ​ที่​เต็ม​ไป​ด้วย​ฤทธิ์​อำนาจ และ​แขน​อัน​แข็งแกร่ง​ที่​ยื่น​ออก และ​การ​กระทำ​ที่​น่ากลัว​ต่างๆ พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ของ​พวกท่าน​ได้​ทำ​สิ่ง​ต่างๆ​เหล่านี้​เพื่อ​ท่าน และ​ทำ​ต่อหน้า​ต่อตา​พวกท่าน​ใน​ประเทศ​อียิปต์ พระองค์​ทำ​อย่างนี้​ให้​ท่าน​เห็น เพื่อ​ท่าน​จะ​ได้​รู้​ว่า​พระองค์​คือ​พระเจ้า​ที่​แท้จริง และ​ไม่​มี​พระเจ้า​อื่น​อีก​แล้ว​นอกจาก​พระองค์ พระองค์​ทำ​ให้​ท่าน​ได้ยิน​เสียง​ของ​พระองค์​จาก​สวรรค์​เพื่อ​จะ​สั่งสอน​ท่าน และ​ใน​โลก​นี้ พระองค์​ก็​ทำ​ให้​ท่าน​เห็น​ไฟ​ที่​ยิ่งใหญ่ และ​ท่าน​ก็​ได้ยิน​เสียง​ของ​พระองค์​ออก​มา​จาก​ท่ามกลาง​ไฟนั้น เพราะ​พระองค์​รัก​บรรพบุรุษ​ของ​ท่าน พระองค์​ถึง​ได้​เลือก​พวกท่าน​ลูกหลาน​ของ​พวกเขา และ​พระองค์​เอง​ที่​นำ​ท่าน​ออก​จาก​อียิปต์​ด้วย​ความ​แข็ง​แกร่ง​อัน​ยิ่งใหญ่​ของ​พระองค์ เพื่อ​พระองค์​จะ​ได้​ขับไล่​ชนชาติ​อื่น​ที่​ใหญ่​กว่า​และ​แข็งแรง​กว่า​ท่าน​ออก​ไป​จาก​แผ่นดิน​ของ​พวกเขา แล้ว​จะ​ได้​นำ​เอา​ท่าน​เข้า​ไป​อยู่​และ​ยก​แผ่นดิน​ของ​คน​เหล่านั้น​ให้​ท่าน​เป็น​เจ้าของ เหมือน​กับ​ที่​เป็น​อยู่​ใน​ตอนนี้ ดังนั้น​ใน​วันนี้​ให้​รับรู้​และ​จำ​ใส่ใจ​ไว้​เลย​ว่า พระยาห์เวห์​คือ​พระเจ้า​ที่​แท้จริง​ที่​อยู่​บน​สวรรค์​และ​บน​โลก​นี้ ไม่​มี​พระเจ้า​อื่น​อีก ท่าน​ต้อง​เชื่อฟัง​กฎ​และ​คำสั่ง​ของ​พระองค์​ที่​เรา​ได้​สั่ง​กับ​ท่าน​ใน​วันนี้ เพื่อ​ว่า​ท่าน​และ​ลูกหลาน​ของ​ท่าน​จะ​ได้​เจริญ​รุ่งเรือง และ​เพื่อ​ท่าน​จะ​ได้​มี​ชีวิต​อยู่​ยืน​ยาว​บน​แผ่นดิน​ที่​พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ของ​ท่าน​ให้​กับ​ท่าน​ตลอดไป” แล้ว​โมเสส​ได้​เลือก​เมือง​สาม​เมือง​ทาง​ฝั่ง​ตะวันออก​ของ​แม่น้ำ​จอร์แดน เอา​ไว้​เป็น​ที่​ลี้ภัย​ของ​คน​ที่​ไป​ฆ่า​คนอื่น​มา​โดย​ไม่​ได้​เจตนา และ​ไม่​เคย​เกลียด​คน​ที่​ถูก​ฆ่า​มา​ก่อน คนๆ​นั้น​สามารถ​ที่​จะ​หนี​ไป​อยู่​ใน​เมือง​เหล่านั้น​ได้ และ​มี​ชีวิต​ต่อไป สาม​เมือง​ที่​โมเสส​เลือก​คือ เมือง​เบเซอร์​ใน​ที่​เปล่าเปลี่ยว​แห้งแล้ง​กลาง​ที่​ราบ​สูง​สำหรับ​ชาว​รูเบน เมือง​ราโมท​ใน​กิเลอาด​สำหรับ​ชาว​กาด และ​เมือง​โกลาน​ใน​บาชาน​สำหรับ​ชาว​มนัสเสห์ นี่​คือ​คำ​สั่งสอน​ที่​โมเสส​ได้​ให้​กับ​ประชาชน​ชาว​อิสราเอล สิ่ง​เหล่านี้​คือ​คำ​สั่งสอน กฎ​และ​ข้อบังคับ​ที่​โมเสส​ได้​บอก​กับ​ชาว​อิสราเอล​เมื่อ​พวกเขา​ออก​จาก​ประเทศ​อียิปต์ โมเสส​ได้​ให้​กฎ​ต่างๆ​เหล่านี้​กับ​พวกเขา ตอน​ที่​พวกเขา​อยู่​ที่​ฝั่ง​ตะวันออก​ของ​แม่น้ำ​จอร์แดน​ใน​หุบเขา​ที่​อยู่​ตรง​ข้าม​เบธเปโอร์ บน​ดินแดน​ของ​กษัตริย์​สิโหน​ชาว​อาโมไรต์​ที่​ปกครอง​เฮชโบน และ​ถูก​โมเสส​กับ​ชาว​อิสราเอล​โจมตี​จน​พ่ายแพ้​เมื่อ​ครั้ง​ที่​พวกเขา​ออก​มา​จาก​แผ่นดิน​อียิปต์ ชาว​อิสราเอล​ได้​ยึด​เอา​แผ่นดิน​ของ​กษัตริย์​สิโหน และ​กษัตริย์​โอก​แห่ง​บาชาน ทั้ง​สอง​องค์​นี้​เป็น​กษัตริย์​ของ​ชาว​อาโมไรต์ ที่​ปกครอง​อยู่​ใน​ดินแดน​ทาง​ฝั่ง​ตะวันออก​ของ​แม่น้ำ​จอร์แดน ดินแดน​แห่งนี้​เริ่ม​จาก​อาโรเออร์​ซึ่ง​อยู่​ติด​หุบเขา​อารโนน​ไป​จน​ถึง​ภูเขา​สีรีออน (คือ​ภูเขา​เฮอร์โมน) รวมทั้ง​หุบเขา​จอร์แดน​ทาง​ตะวันออก​ของ​แม่น้ำ​จอร์แดน ลง​ไป​ทาง​ใต้​จน​ถึง​ทะเล​ตาย และ​ไป​ทาง​ตะวันออก​ถึง​ตีน​เขา​ปิสกาห์

เฉลยธรรมบัญญัติ 4:13-49 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

และพระองค์ทรงประกาศพันธสัญญาของพระองค์ต่อท่าน ซึ่งทรงบัญชาท่านทั้งหลายให้ปฏิบัติตามคือ พระบัญญัติสิบประการ และพระองค์ทรงจารึกลงบนศิลาสองแผ่น ในเวลานั้นพระยาห์เวห์ทรงบัญชาให้ข้าพเจ้าสั่งสอนกฎเกณฑ์และกฎหมายแก่ท่านทั้งหลาย เพื่อท่านจะได้ทำตามในแผ่นดินซึ่งท่านกำลังจะข้ามไปยึดครองนั้น “ฉะนั้นท่านทั้งหลายจงระวังตัวให้ดี เพราะในวันนั้นท่านไม่เห็นสัณฐานใดๆ เมื่อพระยาห์เวห์ตรัสกับท่านที่โฮเรบจากท่ามกลางไฟ จงระวังเถิด เกรงว่าท่านทั้งหลายจะหลงทำรูปเคารพแกะสลักสำหรับตัวเอง เป็นรูปสัณฐานสิ่งหนึ่งสิ่งใด เป็นรูปตัวผู้หรือตัวเมีย เหมือนสัตว์ใดๆ ในโลก เหมือนนกที่มีปีกบินไปในอากาศ เหมือนสิ่งใดๆ ที่คลานอยู่บนดิน เหมือนปลาใดๆ ที่อยู่ในน้ำใต้แผ่นดิน และจงระวังให้ดี เกรงว่าเมื่อท่านเงยหน้าขึ้นดูท้องฟ้าและท่านเห็นดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาว คือบริวารของท้องฟ้า แล้วท่านจะถูกชักนำให้นมัสการและปรนนิบัติสิ่งเหล่านั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงแบ่งสรรแก่ชนชาติทั้งหลายทั่วใต้ฟ้า แต่พระยาห์เวห์ทรงเลือกท่านทั้งหลายและทรงนำท่านออกมาจากเตาเหล็กคือจากอียิปต์ ให้เป็นประชากรในกรรมสิทธิ์ของพระองค์ดังที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ยิ่งกว่านั้น เพราะท่านทั้งหลายเป็นเหตุ พระยาห์เวห์ทรงพระพิโรธต่อข้าพเจ้า และทรงปฏิญาณว่า ข้าพเจ้าจะไม่ได้ข้ามแม่น้ำจอร์แดนและจะไม่ได้เข้าไปในแผ่นดินดี ซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านประทานให้ท่านเป็นมรดก แต่ข้าพเจ้าจะตายเสียในแผ่นดินนี้ ข้าพเจ้าจะไม่ได้ข้ามแม่น้ำจอร์แดน แต่ท่านทั้งหลายจะได้ข้ามไปและยึดครองแผ่นดินดีนั้น จงระวังตัวให้ดี เกรงว่าท่านทั้งหลายจะลืมพันธสัญญาของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ซึ่งทรงทำไว้กับท่าน และสร้างรูปเคารพแกะสลักเป็นรูปสัณฐานสิ่งหนึ่งสิ่งใด ซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงห้ามไว้นั้น เพราะว่าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงเป็นเพลิงที่เผาผลาญ ทรงเป็นพระเจ้าที่หวงแหน “เมื่อท่านมีลูกและมีหลานและได้อยู่ในแผ่นดินนั้นเป็นเวลานาน และถ้าท่านหลงทำรูปเคารพแกะสลักเป็นรูปสัณฐานสิ่งหนึ่งสิ่งใด และทำชั่วในสายพระเนตรพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน เป็นที่ขัดเคืองพระทัยพระองค์ ข้าพเจ้าขออัญเชิญฟ้าและดินมาเป็นพยานกล่าวโทษท่านในวันนี้ว่า ท่านทั้งหลายจะพินาศอย่างสิ้นเชิงจากแผ่นดินซึ่งท่านกำลังจะข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปยึดครองนั้น ท่านจะไม่ได้อยู่ในแผ่นดินนั้นนาน แต่ท่านจะถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง และพระยาห์เวห์จะทรงทำให้พวกท่านกระจัดกระจายไปอยู่ท่ามกลางชนชาติทั้งหลาย และท่านจะเหลือจำนวนน้อยในท่ามกลางประชาชาติซึ่งพระยาห์เวห์จะทรงขับไล่ท่านให้เข้าไปอยู่นั้น ณ ที่นั่นท่านทั้งหลายจะปรนนิบัติพระที่คนทำขึ้นด้วยไม้และหิน ซึ่งไม่สามารถมอง หรือฟัง หรือรับประทาน หรือดมกลิ่นได้ แต่ ณ ที่นั่นแหละท่านทั้งหลายจะแสวงหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ถ้าท่านค้นหาพระองค์ด้วยสุดจิตและสุดใจ ท่านจะพบพระองค์ เมื่อท่านมีความทุกข์ลำบาก และทุกสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นกับท่าน ในกาลภายหน้า ท่านจะกลับมาหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน และเชื่อฟังพระสุรเสียงของพระองค์ เพราะว่าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงพระกรุณา พระองค์จะไม่ทรงละทิ้งท่านหรือทำลายท่านหรือลืมพันธสัญญา ซึ่งทรงทำไว้กับบรรพบุรุษของท่านโดยการปฏิญาณ “เพราะบัดนี้จงถามดูเถิดว่าในอดีตกาล คือวันที่อยู่ก่อนท่าน ตั้งแต่วันที่พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ไว้บนโลก และถามดูจากฟ้าข้างนี้ถึงฟ้าข้างโน้นว่า เคยมีเรื่องใหญ่อย่างนี้เกิดขึ้นบ้างไหม? หรือเคยได้ยินถึงเรื่องอย่างนี้บ้างไหม? มีชนชาติใดได้ยินพระสุรเสียงของพระเจ้าตรัสออกมาจากกลางเพลิง ดังที่ท่านได้ยินและยังมีชีวิตอยู่ได้ หรือมีพระเจ้าองค์ใดได้ทรงพยายามไปนำชนชาติหนึ่งจากท่ามกลางอีกชนชาติหนึ่งด้วยการลองใจ ด้วยหมายสำคัญ ด้วยการอัศจรรย์ ด้วยสงคราม ด้วยพระหัตถ์ทรงฤทธิ์และด้วยพระกรที่เหยียดออกและด้วยเหตุน่ากลัวอย่างยิ่ง ตามที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายทรงทำเพื่อท่านในอียิปต์ต่อหน้าต่อตาท่าน? ที่ได้ทรงสำแดงแก่ท่านนั้นก็เพื่อท่านจะทราบว่า พระยาห์เวห์ทรงเป็นพระเจ้า นอกจากพระองค์แล้วไม่มีพระเจ้าอื่นใดอีกเลย พระองค์ทรงให้พวกท่านได้ยินพระสุรเสียงของพระองค์จากฟ้า เพื่อให้ท่านมีวินัย พระองค์ทรงให้ท่านเห็นเพลิงใหญ่ของพระองค์ในโลก และท่านได้ยินพระวจนะของพระองค์จากกลางเพลิง และเพราะพระองค์ทรงรักบรรพบุรุษของท่าน และทรงเลือกเชื้อสายของเขา และทรงพาท่านออกจากอียิปต์ด้วยพระองค์เอง ด้วยเดชานุภาพยิ่งใหญ่ของพระองค์ ทรงขับไล่ประชาชาติที่ใหญ่กว่าและมีกำลังมากกว่าท่านเสียให้พ้นหน้าท่าน และนำท่านเข้ามา และประทานแผ่นดินของพวกเขาให้ท่านเป็นมรดกดังทุกวันนี้ ดังนั้นจงทราบเสียในวันนี้ และตรึกตรองอยู่ในใจว่าพระยาห์เวห์เป็นพระเจ้าในฟ้าสวรรค์เบื้องบนและบนแผ่นดินเบื้องล่าง ไม่มีพระเจ้าอื่นใดอีกเลย ฉะนั้น ท่านจงรักษากฎเกณฑ์และพระบัญญัติของพระองค์ ซึ่งข้าพเจ้าได้บัญชาแก่ท่านในวันนี้ เพื่อท่านและลูกหลานที่เกิดมาภายหลังท่านจะไปดีมาดี และวันคืนของท่านจะยืนนานอยู่ในแผ่นดินซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านประทานแก่ท่านตลอดไป” แล้วโมเสสแยกเมืองทางทิศตะวันออกฟากแม่น้ำจอร์แดนข้างโน้นไว้สามเมือง เพื่อผู้ที่ฆ่าคนจะได้หนีไปที่นั่น คือผู้ที่ฆ่าเพื่อนบ้านโดยไม่เจตนา โดยไม่ได้เป็นศัตรูกันมาก่อน และเมื่อหนีไปเมืองใดเมืองหนึ่งในเมืองเหล่านี้ก็จะรอดชีวิต เมืองเหล่านี้คือ เมืองเบเซอร์ในถิ่นทุรกันดารบนที่ราบสำหรับเผ่ารูเบน และเมืองราโมทในกิเลอาดสำหรับเผ่ากาด และเมืองโกลานในบาชานสำหรับเผ่ามนัสเสห์ ต่อไปนี้เป็นธรรมบัญญัติที่โมเสสได้ตั้งไว้ต่อคนอิสราเอล เหล่านี้เป็นพระโอวาท เป็นกฎเกณฑ์และกฎหมาย ซึ่งโมเสสกล่าวกับคนอิสราเอลเมื่อพวกเขาออกจากอียิปต์ ฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดนที่หุบเขาตรงข้ามเบธเปโอร์ ในแผ่นดินของสิโหนกษัตริย์คนอาโมไรต์ ผู้ประทับที่เฮชโบนซึ่งโมเสสและคนอิสราเอลได้ตีพ่ายไปเมื่อออกจากอียิปต์ คนอิสราเอลได้เข้ายึดครองแผ่นดินของท่านและแผ่นดินของโอกกษัตริย์แห่งบาชาน กษัตริย์สองพระองค์ของคนอาโมไรต์ ผู้อยู่ทางทิศตะวันออกฟากแม่น้ำจอร์แดนข้างโน้น ตั้งแต่อาโรเออร์ที่อยู่ริมลุ่มน้ำอารโนน ไปจนถึงภูเขาสีรีออน (คือเฮอร์โมน) รวมกับที่ราบทั้งหมด ซึ่งอยู่ฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดนไกลไปจนถึงทะเลแห่งอาราบาห์ ใต้ที่ราบแถบเนินเขาปิสกาห์

เฉลยธรรมบัญญัติ 4:13-49 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

และพระองค์ทรงประกาศพันธสัญญาของพระองค์​แก่​ท่าน ซึ่งพระองค์ทรงบัญชาให้ท่านทั้งหลายปฏิบั​ติ​ตามคือ พระบัญญั​ติ​สิ​บประการ และพระองค์ทรงจารึกพระบัญญั​ติ​นั้นไว้บนศิลาสองแผ่น ในครั้งนั้นพระเยโฮวาห์ทรงบัญชาให้ข้าพเจ้าสั่งสอนกฎเกณฑ์และคำตัดสินแก่ท่านทั้งหลาย เพื่อท่านทั้งหลายจะได้กระทำตามในแผ่นดินซึ่งท่านกำลังจะข้ามไปยึดครองนั้น เหตุ​ฉะนั้นท่านทั้งหลายจงระวังตัวให้​ดี เพราะในวันนั้นพวกท่านไม่​เห​็นสัณฐานอันใด เมื่อพระเยโฮวาห์ตรัสกั​บท​่านทั้งหลายที่โฮเรบจากท่ามกลางเพลิง เกรงว่าท่านทั้งหลายจะหลงทำรูปเคารพแกะสลักสำหรับตั​วท​่านทั้งหลายเป็นสัณฐานสิ่งหนึ่งสิ่งใด เป็​นร​ูปตัวผู้หรือตัวเมีย เหมือนสัตว์เดียรัจฉานอย่างใดในโลก เหมือนนกที่​มี​ปี​กบ​ินไปในอากาศ เหมือนสิ่งใดๆที่คลานอยู่บนดิน เหมือนปลาอย่างใดที่​อยู่​ในน้ำใต้​แผ่​นดินโลก เกรงว่าพวกท่านเงยหน้าขึ้นดูท้องฟ้าและเมื่อท่านเห็นดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาว คือบริวารของท้องฟ้า พวกท่านจะถูกเหนี่ยวรั้งให้​นม​ัสการและปรนนิบั​ติ​สิ​่งเหล่านั้น เป็นสิ่งซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกท่านทรงแบ่งแก่​ชนชาติ​ทั้งหลายทั่วใต้ฟ้าทั้งสิ้น แต่​พระเยโฮวาห์ทรงเลือกท่านทั้งหลายและนำท่านออกมาจากเตาเหล็ก คือจากอียิปต์ ให้​เป็นประชาชนในกรรมสิทธิ์ของพระองค์ อย่างที่​เป็นอยู่​ทุกวันนี้ ยิ่งกว่านั้น เพราะท่านทั้งหลายเป็นเหตุ พระเยโฮวาห์ทรงพระพิโรธต่อข้าพเจ้า และทรงปฏิญาณว่าข้าพเจ้าจะไม่​ได้​ข้ามแม่น้ำจอร์​แดน และข้าพเจ้าจะไม่​ได้​เข​้าไปในแผ่นดินดีซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายประทานแก่ท่านให้เป็นมรดก แต่​ข้าพเจ้าจะตายเสียในแผ่นดินนี้ ข้าพเจ้าจะไม่​ได้​ข้ามแม่น้ำจอร์​แดน แต่​ท่านทั้งหลายจะได้ข้ามไป และถือแผ่นดินดีนั้นเป็นกรรมสิทธิ์ จงระวังตัวให้​ดี เกรงว่าท่านทั้งหลายจะลืมพันธสัญญาของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลาย ซึ่งพระองค์ทรงกระทำไว้​แก่​ท่าน และสร้างรูปเคารพสลักเป็นสัณฐานสิ่งหนึ่งสิ่งใดซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายทรงห้ามไว้​นั้น เพราะว่าพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านเป็นเพลิงที่​เผาผลาญ เป็นพระเจ้าผู้ทรงหวงแหน เมื่อพวกท่านมีลูกและมีหลานและได้​อยู่​ในแผ่นดินนั้นมาช้านาน และท่านกระทำตัวให้เสื่อมทรามโดยการทำรูปเคารพสลักเป็นสัญฐานสิ่งใด และกระทำชั่วในสายพระเนตรพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลาย ซึ่งเป็นการยั่วยุ​ให้​พระองค์​ทรงกริ้วโกรธ ข้าพเจ้าขออัญเชิญฟ้าและดินมาเป็นพยานกล่าวโทษท่านในวันนี้​ว่า ท่านทั้งหลายจะพินาศอย่างสิ้นเชิงจากแผ่นดิน ซึ่งท่านทั้งหลายกำลังจะข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปยึดครองนั้น ท่านจะไม่​ได้​อยู่​ในแผ่นดินนั้นนาน แต่​ท่านจะถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง และพระเยโฮวาห์จะทรงกระทำให้ท่านทั้งหลายกระจัดกระจายไปอยู่ท่ามกลางชนชาติ​ทั้งหลาย และท่านทั้งหลายจะเหลือจำนวนน้อยในท่ามกลางประชาชาติซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงขับไล่​ให้​ท่านเข้าไปอยู่​นั้น ณ ที่​นั่นท่านทั้งหลายจะปรนนิบั​ติ​พระที่ทำด้วยไม้และศิ​ลา เป็นงานที่มือคนทำไว้ ซึ่งไม่​ดู ไม่​ฟัง ไม่​รับประทาน ไม่​ดมกลิ่น แต่ ณ ที่​นั่นแหละท่านทั้งหลายจะแสวงหาพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ถ้าพวกท่านค้นหาพระองค์ด้วยสุดจิตและสุดใจ พวกท่านจะพบพระองค์ เมื่อพวกท่านมี​ความทุกข์​ลำบาก ซึ่งสิ่งสารพัดเหล่านี้มาถึงท่าน ในกาลภายหลัง ถ้าพวกท่านจะกลับมาหาพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน และเชื่อฟังพระสุรเสียงของพระองค์ (เพราะว่าพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายเป็นพระเจ้าผู้ทรงกอปรด้วยพระเมตตา) พระองค์​จะไม่ทรงละทิ้งหรือทำลายท่านทั้งหลาย หรือลืมพันธสัญญาซึ่งพระองค์ทรงกระทำไว้กับบรรพบุรุษของท่านโดยการปฏิ​ญาณ เพราะบัดนี้จงถามดูเถอะว่า ในกาลวั​นที​่ล่วงมาแล้​วน​ั้น คือวั​นที​่​อยู่​ก่อนท่านทั้งหลาย ตั้งแต่​วันที่​พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์​ไว้​บนโลก และถามดูจากฟ้าข้างนี้ถึงฟ้าข้างโน้​นว​่า เคยมี​เรื่องใหญ่​โตอย่างนี้​เก​ิดขึ้นบ้างหรือ หรือเคยได้ยินถึงเรื่องอย่างนี้บ้างหรือ มี​ชนชาติ​ใดได้ยินพระสุรเสียงของพระเจ้าตรัสออกมาจากท่ามกลางเพลิง ดังที่​ท่านได้ยินและยั​งม​ี​ชี​วิตอยู่​ได้ หรื​อม​ีพระเจ้าองค์ใดได้ทรงเพียรพยายามไปนำประชาชาติ​หน​ึ่งจากท่ามกลางอีกประชาชาติ​หน​ึ่​งด​้วยการลองใจ ด้วยการทำหมายสำคัญ ด้วยการมหัศจรรย์ ด้วยการสงคราม ด้วยพระหัตถ์ทรงฤทธิ์ และด้วยพระกรที่ทรงเหยียดออก และด้วยเหตุน่ากลัวยิ่ง ตามสิ่งสารพัดซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายทรงกระทำเพื่อท่านในอียิปต์ต่อหน้าต่อตาท่าน ที่​ได้​ทรงสำแดงแก่ท่านทั้งหลายนั้​นก​็เพื่อท่านจะได้ทราบว่า พระเยโฮวาห์ทรงเป็นพระเจ้า นอกจากพระองค์​แล้ว ไม่มี​พระเจ้าอื่นใดอีกเลย พระองค์​ทรงโปรดให้พวกท่านได้ยินพระสุรเสียงของพระองค์จากฟ้าสวรรค์ เพื่อว่าท่านจะอยู่ในวินัยปกครอง พระองค์​ทรงโปรดให้ท่านเห็นเพลิงใหญ่ของพระองค์ในโลก และพวกท่านได้ยินพระวจนะของพระองค์จากกองเพลิง และเพราะพระองค์ทรงรักบรรพบุรุษของพวกท่าน จึงทรงเลือกเชื้อสายของเขาที่มาภายหลังเขา และทรงพาท่านออกจากอียิปต์ท่ามกลางสายพระเนตรของพระองค์ ด้วยเดชานุภาพยิ่งใหญ่ของพระองค์ ทรงขับไล่​ประชาชาติ​ที่​ใหญ่​กว่าและมีกำลังมากกว่าพวกท่านเสียให้พ้นหน้าท่าน และนำท่านเข้ามา และทรงประทานแผ่นดินของเขาให้​แก่​ท่านเป็นมรดกดังทุกวันนี้ เหตุ​ฉะนั้นจงทราบเสียในวันนี้และตรึกตรองอยู่ในใจว่า พระเยโฮวาห์ทรงเป็นพระเจ้าในฟ้าสวรรค์เบื้องบนและบนแผ่นดินเบื้องล่าง หาม​ีพระเจ้าอื่นใดอีกไม่​เลย เพราะฉะนั้นพวกท่านจงรักษากฎเกณฑ์และพระบัญญั​ติ​ของพระองค์ ซึ่งข้าพเจ้าได้บัญชาแก่ท่านในวันนี้ เพื่อท่านและลูกหลานที่​เก​ิดมาภายหลังท่านจะไปดี​มาด​ี และวันคืนของท่านจะยืนนานอยู่ในแผ่นดิน ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกท่านประทานแก่ท่านเป็นนิตย์​นั้น​” แล​้วโมเสสกำหนดหัวเมืองทางดวงอาทิตย์ขึ้นฟากแม่น้ำจอร์แดนข้างนี้สามหัวเมือง เพื่อผู้ใดที่ฆ่าคนจะได้​หลบหนี​ไปอยู่​ที่นั่น คือผู้​ที่​ฆ่าเพื่อนบ้านโดยมิ​ได้​เจตนา โดยมิ​ได้​เกล​ียดชังเขาแต่​ก่อน และเมื่อหนีไปอยู่ในเมืองนี้เมืองใดเมืองหนึ่​งก​็จะรอดชีวิต หัวเมืองเหล่านี้คือเมืองเบเซอร์​อยู่​ในถิ่นทุ​รก​ันดารบนที่ราบสูงสำหรับคนรู​เบน และเมืองราโมทที่กิเลอาดสำหรับคนกาด และเมืองโกลานในบาชานสำหรับคนมนัสเสห์ ต่อไปนี้​เป็นพระราชบัญญั​ติ​ที่​โมเสสได้ตั้งไว้ต่อหน้าคนอิสราเอล เหล่านี้​เป็นพระโอวาท เป็นกฎเกณฑ์และคำตัดสินซึ่งโมเสสกล่าวแก่คนอิสราเอลเมื่อเขาออกจากอียิปต์​แล้ว ฟากแม่น้ำจอร์แดนข้างนี้​ที่​หุบเขาตรงข้ามเบธเปโอร์ ในแผ่นดินของสิโหนกษั​ตริ​ย์คนอาโมไรต์ ผู้​อยู่​ที่​เฮชโบนซึ่งโมเสสและคนอิสราเอลได้​ตี​พ่ายไปครั้งเมื่อออกมาจากอียิปต์​แล้ว คนอิสราเอลได้​เข​้ายึดแผ่นดินของท่านและแผ่นดินของโอกกษั​ตริ​ย์เมืองบาชาน เป็นกษั​ตริ​ย์สององค์ของคนอาโมไรต์ ผู้​อยู่​ทางดวงอาทิตย์ขึ้นฟากแม่น้ำจอร์แดนข้างนี้ ตั้งแต่​อาโรเออร์​ที่อยู่​ริ​มล​ุ่มแม่น้ำอารโนน ไปจนถึงภูเขาสี​ออน คือเฮอร์​โมน รวมกั​บท​ี่ราบทั้งหมด ซึ่งอยู่ฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดนข้างนี้ จนถึงทะเลแห่งที่​ราบ ที่​น้ำพุ​แห่​งปิสกาห์

เฉลยธรรมบัญญัติ 4:13-49 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

และพระองค์ทรงประกาศพันธสัญญาของพระองค์แก่ท่าน ซึ่งพระองค์ทรงบัญชาให้ท่านทั้งหลายปฏิบัติตามคือ พระบัญญัติสิบประการ และพระองค์ทรงจารึกไว้บนศิลาสองแผ่น ในครั้งนั้นพระเจ้าทรงบัญชาให้ข้าพเจ้า สั่งสอนกฎเกณฑ์และกฎหมายแก่ท่านทั้งหลาย เพื่อท่านทั้งหลายจะได้กระทำตาม ในแผ่นดินซึ่งท่านกำลังจะข้ามไปยึดครองนั้น <<เหตุฉะนั้นท่านทั้งหลายจงระวังตัวให้ดี เพราะในวันนั้นพวกท่านไม่เห็นสัณฐาน อันใดเมื่อพระเจ้าตรัสกับท่านทั้งหลายที่ โฮเรบจากท่ามกลางเพลิง จงระวังเถิด เกรงว่าท่านทั้งหลายจะหลงทำรูปเคารพ แกะสลักสำหรับ ตัวท่านทั้งหลาย เป็นสัณฐานสิ่งหนึ่งสิ่งใด เป็นรูปตัวผู้หรือตัวเมีย เหมือนสัตว์เดียรัจฉานอย่างใดในโลก เหมือนนกที่มีปีกบินไปในอากาศ เหมือนสิ่งใดๆที่คลานอยู่บนดิน เหมือนปลาอย่างใดที่อยู่ในน้ำใต้แผ่นดินโลก และจงระวังให้ดีเกรงว่าพวกท่านเงยหน้าขึ้นดู ท้องฟ้าและเมื่อท่านเห็นดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาว คือบริวารของท้องฟ้า พวกท่านจะถูกเหนี่ยวรั้งให้นมัสการและปรนนิบัติ สิ่งเหล่านั้น เป็นสิ่งซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกท่านทรงแบ่งแก่ชนชาติทั้งหลาย ทั่วใต้ฟ้าทั้งสิ้น แต่พระเจ้าทรงเลือกท่านทั้งหลายและ นำท่านออกมาจากเตาเหล็กคือจากอียิปต์ ให้เป็นประชากรในกรรมสิทธิ์ของ พระองค์ อย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ยิ่งกว่านั้น เพราะท่านทั้งหลายเป็นเหตุ พระเจ้าทรงพระพิโรธต่อข้าพเจ้า และทรงปฏิญาณว่า ข้าพเจ้าจะไม่ได้ข้ามแม่น้ำจอร์แดนและข้าพเจ้า จะไม่ได้เข้าไปในแผ่นดินดี ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลาย ประทานแก่ท่านให้เป็นมรดก แต่ข้าพเจ้าจะตายเสียในแผ่นดินนี้ ข้าพเจ้าจะไม่ได้ข้ามแม่น้ำจอร์แดนแต่ ท่านทั้งหลายจะได้ข้ามไปและถือแผ่นดินดีนั้นเป็นกรรมสิทธิ์ จงระวังตัวให้ดี เกรงว่าท่านทั้งหลายจะลืมพันธสัญญา ของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลาย ซึ่งพระองค์ทรงกระทำไว้แก่ท่าน และสร้างรูปเคารพเป็นสัณฐานสิ่งหนึ่งสิ่งใด ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายทรงห้ามไว้นั้น เพราะว่าพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านเป็นเพลิงที่ เผาผลาญ เป็นพระเจ้าผู้ทรงหวงแหน <<เมื่อพวกท่านมีลูกและมีหลานและได้อยู่ใน แผ่นดินนั้นช้านาน และถ้าท่านหลงกระทำรูปเคารพเป็นสัณฐานสิ่งใด และกระทำชั่วในสายพระเนตรพระเยโฮวาห์พระเจ้า ของท่านทั้งหลาย เป็นที่ขัดเคืองพระทัยพระองค์ ข้าพเจ้าขออัญเชิญฟ้าและดินมาเป็น พยานกล่าวโทษท่านในวันนี้ว่า ท่านทั้งหลายจะพินาศอย่างสิ้นเชิงจากแผ่นดิน ซึ่งท่านทั้งหลายกำลังจะข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปยึดครองนั้น ท่านจะไม่ได้อยู่ในแผ่นดินนั้นนาน แต่ท่านจะถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง และพระเจ้าจะทรงกระทำให้ท่านทั้งหลายกระจัดกระจาย ไปอยู่ท่ามกลางชนชาติทั้งหลาย และท่านทั้งหลายจะเหลือจำนวนน้อยในท่ามกลางประชาชาติ ซึ่งพระเจ้าทรงขับไล่ให้ท่านเข้าไปอยู่นั้น ณ ที่นั่นท่านทั้งหลายจะปรนนิบัติพระที่ทำด้วยไม้ และศิลา เป็นงานที่มือคนทำไว้ ซึ่งไม่ดู ไม่ฟัง ไม่รับประทาน ไม่ดมกลิ่น แต่ ณ ที่นั่นแหละท่านทั้งหลายจะแสวงหา พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ถ้าพวกท่านค้นหาพระองค์ด้วยสุดจิตและสุดใจ พวกท่านจะพบพระองค์ เมื่อพวกท่านมีความทุกข์ลำบาก ซึ่งสิ่งเหล่านี้มาถึงท่าน ในกาลภายหลัง พวกท่านจะกลับมาหาพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน และเชื่อฟังพระสุรเสียงของพระองค์ เพราะว่าพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลาย เป็นพระเจ้าผู้ทรงกอปรด้วยพระเมตตา พระองค์จะไม่ทรงละทิ้งหรือทำลายท่านทั้งหลายหรือลืม พันธสัญญา ซึ่งพระองค์ทรงกระทำไว้กับบรรพบุรุษของท่านโดยการปฏิญาณ <<เพราะบัดนี้จงถามดูเถอะว่าในกาลวันที่ล่วงมาแล้วนั้น คือวันที่อยู่ก่อนท่านทั้งหลาย ตั้งแต่วันที่พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ไว้บนโลก และถามดูจากฟ้าข้างนี้ถึงฟ้าข้างโน้นว่า เคยมีเรื่องใหญ่โตอย่างนี้เกิดขึ้นบ้างหรือ หรือเคยได้ยินถึงเรื่องอย่างนี้บ้างหรือ มีชนชาติใดได้ยินพระสุรเสียง ของพระเจ้าตรัสออกมาจากกลางเพลิง ดังที่ท่านได้ยินและยังมีชีวิตอยู่ได้ หรือมีพระเจ้าองค์ใดได้ทรงเพียรพยายามไปนำประชาชาติ หนึ่งจากท่ามกลางอีกประชาชาติหนึ่งด้วยการลองใจ ด้วยการทำหมายสำคัญ ด้วยการอัศจรรย์ ด้วยการสงคราม ด้วยพระหัตถ์ทรงฤทธิ์และด้วยพระกรที่ทรงเหยียดออกและ ด้วยเหตุน่ากลัวยิ่ง ตามซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายทรงกระทำ เพื่อท่านในอียิปต์ต่อหน้าต่อตาท่าน ที่ได้ทรงสำแดงแก่ท่านทั้งหลาย นั้นก็เพื่อท่านจะได้ทราบว่า พระเยโฮวาห์ทรงเป็นพระเจ้า นอกจากพระองค์แล้ว ไม่มีพระเจ้าอื่นใดอีกเลย พระองค์ทรงโปรดให้พวกท่าน ได้ยินพระสุรเสียงของพระองค์จากฟ้า เพื่อว่าท่านจะอยู่ในวินัยปกครอง พระองค์ทรงโปรดให้ท่านเห็นเพลิงใหญ่ของพระองค์ในโลก และพวกท่านได้ยินพระวจนะของพระองค์จากกองเพลิง และเพราะพระองค์ทรงรักบรรพบุรุษของพวกท่าน และทรงเลือกพงศ์พันธุ์ของเขาทั้งหลาย และทรงพาท่านออกจากอียิปต์ด้วยพระองค์เอง ด้วยเดชานุภาพยิ่งใหญ่ของพระองค์ ทรงขับไล่ประชาชาติที่ใหญ่กว่า และมีกำลังมากกว่าพวกท่าน เสียให้พ้นหน้าท่านและนำท่านเข้ามา และทรงประทานแผ่นดินของเขาให้ แก่ท่านเป็นมรดกดังทุกวันนี้ เหตุฉะนั้นจงทราบเสียในวันนี้ และตรึกตรองอยู่ในใจว่าพระเยโฮวาห์เป็นพระเจ้าในฟ้า สวรรค์เบื้องบนและบนแผ่นดินเบื้องล่างหามีพระเจ้า อื่นใดอีกไม่เลย เพราะฉะนั้นพวกท่านจงรักษากฎเกณฑ์ และพระราชบัญญัติของพระองค์ ซึ่งข้าพเจ้าได้บัญชาแก่ท่านในวันนี้ เพื่อท่านและลูกหลานที่เกิดมาภายหลังท่านจะไปดีมาดี และวันคืนของท่านจะยืนนานอยู่ในแผ่นดิน ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกท่านประทาน แก่ท่านเป็นนิตย์นั้น>> แล้วโมเสสกำหนดหัวเมืองทางทิศตะวันออก ฟากแม่น้ำจอร์แดนข้างโน้นสามหัวเมือง เพื่อผู้ใดที่ฆ่าคนจะได้หลบหนีไปอยู่ที่นั่น คือผู้ที่ฆ่าเพื่อนบ้านโดยมิได้เจตนา โดยมิได้เป็นศัตรูกันมาแต่ก่อน และเมื่อหนีไปอยู่ในเมืองนี้เมืองใดเมืองหนึ่งก็จะรอดชีวิต หัวเมืองเหล่านี้คือเมืองเบเซอร์อยู่ในถิ่นทุรกันดาร บนที่ราบสูงสำหรับคนเผ่ารูเบน และเมืองราโมทที่กิเลอาดสำหรับคนเผ่ากาด และเมืองโกลานในบาชานสำหรับคนเผ่ามนัสเสห์ ต่อไปนี้เป็นธรรมบัญญัติที่โมเสสได้ตั้งไว้ต่อคนอิสราเอล เหล่านี้เป็นพระโอวาท เป็นกฎเกณฑ์และกฎหมาย ซึ่งโมเสสกล่าวแก่คนอิสราเอลเมื่อเขาออกจากอียิปต์ ฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดนที่หุบเขาตรงข้าม เบธเปโอร์ ในแผ่นดินของสิโหนกษัตริย์คนอาโมไรต์ ผู้อยู่ที่เฮชโบนซึ่งโมเสสและคนอิสราเอล ได้ตีพ่ายไปครั้งเมื่อออกมาจากอียิปต์ คนอิสราเอลได้เข้ายึดแผ่นดินของ ท่านและแผ่นดินของโอกกษัตริย์เมืองบาชาน เป็นกษัตริย์สองพระองค์ของคนอาโมไรต์ ผู้อยู่ทางทิศตะวันออกฟากแม่น้ำจอร์แดนข้างโน้น ตั้งแต่อาโรเออร์ ที่อยู่ริมลุ่มน้ำอารโนน ไปจนถึงภูเขาสีรีออน (คือเฮอร์โมน) รวมกับอาราบาห์ทั้งหมด ซึ่งอยู่ฟากตะวันออกของ แม่น้ำจอร์แดนไกลไปจนถึงทะเลอาราบาห์ ที่ราบแถบเนินเขาปิสกาห์

เฉลยธรรมบัญญัติ 4:13-49 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

พระองค์ทรงประกาศพันธสัญญาของพระองค์ คือบัญญัติสิบประการซึ่งพระองค์ทรงบัญชาให้ท่านปฏิบัติตาม แล้วทรงจารึกบัญญัตินั้นไว้บนศิลาสองแผ่น ครั้งนั้นเององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาให้ข้าพเจ้าสอนกฎหมายและบทบัญญัติซึ่งท่านจะต้องปฏิบัติตามในดินแดนที่ท่านกำลังจะข้ามแม่น้ำจอร์แดนเข้าไปยึดครอง พวกท่านไม่ได้เห็นรูปพรรณสัณฐานใดๆ ขององค์พระผู้เป็นเจ้าในวันที่พระองค์ตรัสกับท่านจากไฟที่ภูเขาโฮเรบ ฉะนั้นจงระวังตัวให้ดี เพื่อท่านจะไม่พินาศ โดยสร้างรูปจำลองของพระองค์ ไม่ว่าจะเป็นรูปเคารพในลักษณะใดๆ ก็ตาม ไม่ว่าจะมีลักษณะเหมือนผู้ชายหรือผู้หญิง เหมือนสัตว์ต่างๆ ในแผ่นดินหรือนกในอากาศ เหมือนสัตว์เลื้อยคลานหรือสัตว์น้ำ และเมื่อท่านเงยหน้าดูท้องฟ้าและเห็นดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาวอันเป็นวัตถุในท้องฟ้าทั้งปวง อย่าปล่อยใจไปกราบไหว้สิ่งเหล่านั้น และนมัสการสิ่งต่างๆ ที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านทรงปล่อยให้ชนชาติอื่นๆ ทั้งปวงทั่วใต้ฟ้าปฏิบัติ แต่ส่วนท่าน องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงนำออกมาจากเตาหลอมเหล็ก คือออกจากอียิปต์เพื่อเป็นประชากรในกรรมสิทธิ์ของพระองค์อย่างที่เป็นอยู่เดี๋ยวนี้ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระพิโรธข้าพเจ้าเพราะพวกท่านและทรงสัญญาอย่างหนักแน่นว่า ข้าพเจ้าจะไม่ได้ข้ามแม่น้ำจอร์แดนเข้าสู่ดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านจะประทานให้เป็นกรรมสิทธิ์ของท่าน ข้าพเจ้าจะต้องตายในดินแดนฟากนี้ จะไม่ได้ข้ามแม่น้ำจอร์แดนไป ส่วนท่านจะข้ามไปยึดครองดินแดนอันอุดมสมบูรณ์นั้น จงระวัง อย่าลืมพันธสัญญาที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านทรงกระทำไว้กับท่าน อย่าสร้างรูปเคารพเป็นรูปทรงใดๆ ให้กับตนตามที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านทรงห้ามไว้ เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงเป็นไฟอันเผาผลาญ เป็นพระเจ้าผู้ทรงหึงหวง ในอนาคตเมื่อท่านลงหลักปักฐานในดินแดนนั้นและมีลูกมีหลาน หากท่านเสื่อมทรามจนสร้างรูปเคารพใดๆ ซึ่งเป็นการกระทำที่ชั่วร้ายในสายพระเนตรของพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านและยั่วยุพระพิโรธของพระองค์ วันนี้ข้าพเจ้าขอให้ฟ้าดินเป็นพยานว่าไม่ช้าท่านจะพินาศย่อยยับจากดินแดนซึ่งพวกท่านกำลังจะข้ามแม่น้ำจอร์แดนเข้าไปครอบครอง ท่านจะอยู่ที่นั่นได้ไม่นานและจะพินาศไปอย่างแน่นอน องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงขับไล่ท่านให้กระจัดกระจายไปอยู่ท่ามกลางชนชาติต่างๆ ท่านจะเหลือรอดเพียงไม่กี่คนท่ามกลางประชาชาติเหล่านั้น ที่นั่นท่านจะนมัสการบรรดาเทพเจ้าที่มนุษย์สร้างขึ้นจากไม้และหิน ซึ่งมองก็ไม่เห็น ฟัง กิน หรือดมอะไรก็ไม่ได้ แต่หากท่านแสวงหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านที่นั่น ท่านจะพบพระองค์หากท่านแสวงหาพระองค์อย่างสุดจิตสุดใจ เมื่อท่านทุกข์ลำเค็ญเพราะสิ่งทั้งปวงนี้เกิดขึ้นแก่ท่านในเวลาต่อมา ท่านจะหวนกลับมาหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านและเชื่อฟังพระองค์ เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงเมตตา พระองค์จะไม่ทรงทอดทิ้ง หรือทำลายท่าน หรือลืมพันธสัญญาที่ทรงให้ไว้กับบรรพบุรุษของท่านซึ่งพระองค์ทรงยืนยันกับพวกเขาโดยคำปฏิญาณ จงมองย้อนดูประวัติศาสตร์ตั้งแต่ครั้งพระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ไว้ในโลก มองจากฟ้าข้างนี้ถึงฟ้าข้างโน้น เคยมีอะไรที่ยิ่งใหญ่อย่างนี้เกิดขึ้นมาก่อนหรือ? มีใครเคยได้ยินอะไรอย่างนี้ด้วยหรือ? มีคนชาติใดบ้างที่ยังมีชีวิตอยู่หลังจากได้ยินพระสุรเสียงของพระเจ้าตรัสออกมาจากไฟเหมือนที่ท่านได้ประสบมา? มีพระใดเล่าที่นำชนชาติหนึ่งออกมาจากอีกชนชาติหนึ่งมาเป็นของพระองค์เองโดยการทดสอบ โดยหมายสำคัญและการอัศจรรย์ โดยสงคราม โดยพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์และพระกรที่เหยียดออก โดยพระราชกิจอันยิ่งใหญ่และน่าครั่นคร้าม เหมือนที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้ทรงกระทำเพื่อท่านในอียิปต์ต่อหน้าต่อตาท่าน? พระองค์ทรงสำแดงสิ่งเหล่านี้เพื่อให้พวกท่านรู้ว่าพระยาห์เวห์ทรงเป็นพระเจ้า นอกจากพระองค์แล้วไม่มีพระเจ้าอื่นใด จากฟ้าสวรรค์พระองค์ทรงให้ท่านได้ยินพระสุรเสียงเพื่อท่านจะอยู่ในโอวาท ในโลกพระองค์ทรงโปรดให้ท่านเห็นไฟมหึมาของพระองค์ และท่านได้ยินพระดำรัสจากไฟนั้น ทั้งนี้เพราะพระองค์ทรงรักบรรพบุรุษของท่านและทรงเลือกสรรวงศ์วานของเขาเหล่านั้น พระองค์จึงทรงนำท่านออกจากอียิปต์ด้วยพระองค์เองและด้วยฤทธานุภาพอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ ทรงขับไล่ชนชาติต่างๆ ซึ่งยิ่งใหญ่และเข้มแข็งกว่าท่านมากนัก และประทานดินแดนของพวกเขาเหล่านั้นให้เป็นกรรมสิทธิ์ของท่านดังเช่นทุกวันนี้ ในวันนี้จงรับรู้และจำใส่ใจว่าพระยาห์เวห์ทรงเป็นพระเจ้าทั้งในฟ้าสวรรค์เบื้องบนและแผ่นดินโลกเบื้องล่าง ไม่มีพระเจ้าอื่นใด จงปฏิบัติตามกฎหมายและพระบัญชาของพระองค์ซึ่งข้าพเจ้าแจ้งท่านในวันนี้ เพื่อท่านกับลูกหลานจะอยู่เย็นเป็นสุข และอาศัยอยู่ยาวนานในแผ่นดินซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านประทานแก่ท่านตลอดไป จากนั้นโมเสสกำหนดเมืองสามเมืองทางฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน สำหรับเป็นเมืองลี้ภัยของผู้ที่ฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาและไม่ได้วางแผนการร้ายไว้ล่วงหน้า เขาจะได้หนีไปเมืองลี้ภัยเมืองใดเมืองหนึ่งเพื่อรักษาชีวิตของตนไว้ โดยให้เผ่ารูเบนลี้ภัยไปเมืองเบเซอร์บนที่ราบสูงในถิ่นกันดาร ให้เผ่ากาดไปเมืองราโมทในกิเลอาด และให้เผ่ามนัสเสห์ไปเมืองโกลานในบาชาน ต่อไปนี้คือบทบัญญัติซึ่งโมเสสมอบให้ชนอิสราเอล เป็นข้อกำหนด กฎหมาย และบทบัญญัติซึ่งโมเสสให้ไว้เมื่อพวกเขาออกจากอียิปต์ และมาอยู่ที่หุบเขาใกล้เบธเปโอร์ ด้านตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน ในดินแดนซึ่งเคยเป็นของกษัตริย์สิโหนของชาวอาโมไรต์ผู้ครอบครองในเฮชโบน โมเสสและชนชาติอิสราเอลได้พิชิตเขาขณะออกมาจากอียิปต์ และยึดครองดินแดนของเขาและของกษัตริย์โอกแห่งบาชาน กษัตริย์ทั้งสองของชาวอาโมไรต์ทางฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน ดินแดนนี้เริ่มจากอาโรเออร์ตรงริมโกรกธารอารโนนจดภูเขาสีรีออน (คือเฮอร์โมน) รวมทั้งดินแดนอาราบาห์ทั้งหมดทางฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดนจนถึงทะเลตายแถบลาดเขาปิสกาห์

เฉลยธรรมบัญญัติ 4:13-49 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

พระ​องค์​ประกาศ​พันธ​สัญญา​แก่​ท่าน และ​ให้​ท่าน​ปฏิบัติ​ตาม​คือ​บัญญัติ​สิบ​ประการ แล้ว​พระ​องค์​เขียน​ไว้​บน​ศิลา 2 แผ่น ใน​ครั้ง​นั้น​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​บัญชา​ให้​เรา​สอน​กฎ​เกณฑ์​และ​คำสั่ง​แก่​พวก​ท่าน เพื่อ​ให้​ท่าน​ปฏิบัติ​ตาม​ใน​แผ่นดิน​ที่​พวก​ท่าน​กำลัง​ข้าม​ไป​ยึด​ครอง ดังนั้น พวก​ท่าน​จง​ระวัง​ชีวิต​ของ​ท่าน​เอง​ให้​ดี ใน​เมื่อ​ท่าน​ไม่​เห็น​รูปลักษณ์​ใด​ใน​วัน​ที่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​กล่าว​กับ​พวก​ท่าน​ที่​ภูเขา​โฮเรบ​จาก​กลาง​เพลิง จง​ระวัง​ไว้ มิ​ฉะนั้น​พวก​ท่าน​จะ​ประพฤติ​อย่าง​เสื่อม​ทราม​ด้วย​การ​สร้าง​รูป​เคารพ​ให้​แก่​ตน​เอง ไม่​ว่า​จะ​เป็น​ใน​รูป​ใด ใน​ลักษณะ​ของ​ชาย​หรือ​หญิง​ก็​ตาม จะ​เป็น​สัตว์​บก​ใน​โลก หรือ​เป็น​นก​บิน​ได้​ใน​อากาศ เป็น​เหมือน​สิ่ง​ที่​เลื้อย​คลาน​บน​ดิน หรือ​เหมือน​ปลา​ที่​แหวก​ว่าย​ใน​น้ำ​ใต้​แผ่นดิน และ​จง​ระวัง​เถิด มิ​ฉะนั้น​เวลา​ที่​ท่าน​เงย​หน้า​ขึ้น​สู่​ท้องฟ้า เห็น​ดวง​อาทิตย์ ดวง​จันทร์ ดวง​ดาว และ​สิ่ง​ทั้ง​ปวง​ที่​อยู่​บน​ท้องฟ้า แล้ว​พวก​ท่าน​อาจ​จะ​ถูก​ชัก​จูง​ให้​หัน​ไป​ก้ม​กราบ​และ​บูชา​สิ่ง​เหล่า​นั้น อัน​เป็น​สิ่ง​ที่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​ท่าน​มอบ​ให้​แก่​ชน​ชาติ​ทั้ง​ปวง​ที่​อยู่​ใต้​ฟ้า​ทั่ว​ทั้ง​โลก แต่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ได้​พา​ท่าน​ไป และ​นำ​ท่าน​ออก​จาก​ประเทศ​อียิปต์​ที่​เป็น​เสมือน​เตา​ผิง​เหล็ก เพื่อ​ให้​เป็น​ชน​ชาติ​ซึ่ง​เป็น​มรดก​สำหรับ​พระ​องค์​เอง อย่าง​ที่​ท่าน​เป็น​อยู่​ทุก​วัน​นี้ พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​โกรธ​กริ้ว​เรา​ก็​เพราะ​พวก​ท่าน พระ​องค์​ปฏิญาณ​ว่า​เรา​จะ​ไม่​ได้​ข้าม​แม่น้ำ​จอร์แดน เรา​จะ​ไม่​ได้​ก้าว​เข้า​ไป​ยัง​แผ่นดิน​อัน​อุดม​ที่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​ท่าน​ให้​ท่าน​ได้​รับ​เป็น​มรดก เพราะ​เรา​จะ​ต้อง​ตาย​ใน​ดิน​แดน​นี้ เรา​จะ​ต้อง​ไม่​ข้าม​แม่น้ำ​จอร์แดน​ไป แต่​ท่าน​จะ​เป็น​ผู้​ข้าม และ​ยึด​ครอง​แผ่นดิน​อัน​อุดม​นั้น พวก​ท่าน​จง​ระวัง​เถิด มิ​ฉะนั้น​ท่าน​จะ​ลืม​พันธ​สัญญา​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​ท่าน ที่​พระ​องค์​ได้​ทำ​ไว้​กับ​ท่าน ท่าน​อาจ​จะ​สร้าง​รูป​เคารพ​ใน​รูป​ลักษณะ​อย่าง​หนึ่ง​อย่าง​ใด​ที่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​ท่าน​ได้​ห้าม​ไว้​แล้ว พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​ท่าน​เป็น​ดั่ง​ไฟ​เผา​ผลาญ พระ​องค์​เป็น​พระ​เจ้า​ผู้​หวงแหน เมื่อ​พวก​ท่าน​มี​ลูก​หลาน​และ​อาศัย​อยู่​ใน​แผ่นดิน​จน​แก่​เฒ่า หาก​ว่า​ท่าน​ประพฤติ​อย่าง​เสื่อม​ทราม​โดย​การ​สร้าง​รูป​เคารพ​ใน​รูป​ลักษณะ​อย่าง​หนึ่ง​อย่าง​ใด และ​กระทำ​สิ่ง​ชั่วร้าย​ใน​สายตา​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​ท่าน ซึ่ง​เป็น​การ​ยั่ว​โทสะ​ของ​พระ​องค์ เรา​ขอ​ให้​ทั้ง​ฟ้า​และ​ดิน​เป็น​พยาน​กล่าว​โทษ​ท่าน​ใน​วัน​นี้​ว่า ท่าน​จะ​ตาย​สาบสูญ​ไป​จาก​ดิน​แดน​ที่​ท่าน​กำลัง​จะ​ข้าม​แม่น้ำ​จอร์แดน​ไป​ยึด​ครอง ท่าน​จะ​อยู่​ที่​นั่น​ไม่​ได้​นาน และ​จะ​ถูก​ฆ่า​ล้าง​จน​ไม่​เหลือ​แม้แต่​ซาก พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​จะ​ทำ​ให้​พวก​ท่าน​กระจัด​กระจาย​ไป​อยู่​ท่าม​กลาง​บรรดา​ชน​ชาติ จะ​มี​เหลือ​อยู่​ก็​เพียง​ไม่​กี่​คน​ที่​พระ​องค์​ขับ​ไล่​ให้​ไป​อยู่​กับ​บรรดา​ประชา​ชาติ และ​ท่าน​จะ​บูชา​เทพเจ้า​ที่​สลัก​จาก​ไม้​และ​หิน ทำ​ด้วย​มือ​มนุษย์ เป็น​สิ่ง​ที่​ไม่​สามารถ​มอง​เห็น ได้ยิน กิน หรือ​ดม​กลิ่น แต่​ท่าน​จะ​แสวง​หา​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​ท่าน​จาก​สถาน​ที่​นั้น ท่าน​ก็​จะ​พบ​พระ​องค์ หาก​ว่า​ท่าน​แสวง​หา​พระ​องค์​อย่าง​สุด​ดวง​ใจ​และ​สุด​ดวง​จิต​ของ​ท่าน ยาม​ที่​ท่าน​ตก​อยู่​ใน​ความ​ทุกข์​ยาก​ลำบาก และ​สิ่ง​เหล่า​นี้​เกิด​ขึ้น​กับ​ท่าน​ใน​วัน​ข้าง​หน้า ท่าน​จะ​กลับ​ไป​หา​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​ท่าน และ​เชื่อฟัง​พระ​องค์ เพราะ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​ท่าน​เป็น​พระ​เจ้า​ผู้​มี​เมตตา พระ​องค์​จะ​ไม่​ทอดทิ้ง​และ​ไม่​กำจัด​ท่าน หรือ​ลืม​พันธ​สัญญา​ที่​พระ​องค์​ได้​ปฏิญาณ​ไว้​กับ​บรรพบุรุษ​ของ​ท่าน จง​ถาม​ดู​เถิด​ว่า วัน​ที่​ล่วง​มา​ใน​สมัย​ดึกดำบรรพ์ นับ​จาก​วัน​ที่​พระ​เจ้า​สร้าง​มนุษย์​ใน​โลก และ​จง​ถาม​จาก​สุด​ฟาก​ฟ้า​ด้าน​หนึ่ง​จนถึง​อีก​ด้าน​หนึ่ง​เถิด​ว่า เคย​มี​สิ่ง​ใด​ที่​ยิ่งใหญ่​เช่น​นี้​เกิด​ขึ้น​บ้าง​ไหม หรือ​เคย​ได้ยิน​เรื่อง​เช่นนี้​บ้าง​หรือ​ไม่ มี​ชาติ​ใด​ที่​เคย​ได้ยิน​เสียง​เทพเจ้า​เอ่ย​จาก​เพลิง​ไฟ​ดัง​ที่​ท่าน​ได้ยิน และ​ยัง​มี​ชีวิต​อยู่​ได้ หรือ​มี​เทพเจ้า​ใด​ที่​พยายาม​นำ​ประชา​ชาติ​หนึ่ง​ที่​อยู่​ภาย​ใต้​การ​นำ​ของ​อีก​ประชา​ชาติ​หนึ่ง​ออก​มา​ให้​เป็น​ของ​เทพ​เจ้า​เอง โดย​ใช้​วิธี​ทดสอบ​โดย​ปรากฏ​การณ์​อัศจรรย์ สิ่ง​มหัศจรรย์ โดย​การ​สงคราม โดย​อานุภาพ​และ​พลานุภาพ และ​โดย​เหตุการณ์​อัน​น่า​สะพรึง​กลัว เหมือน​กับ​ที่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​ท่าน​กระทำ​เพื่อ​ท่าน​ใน​อียิปต์ ให้​เห็น​ต่อ​หน้า​ต่อ​ตา​พวก​ท่าน สิ่ง​เหล่า​นี้​ปรากฏ​ให้​พวก​ท่าน​เห็น เพื่อ​ให้​ท่าน​ทราบ​ว่า​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​เป็น​พระ​เจ้า และ​ไม่​มี​ผู้​ใด​อีก​นอกจาก​พระ​องค์ พระ​องค์​ให้​ท่าน​ได้ยิน​พระ​องค์​จาก​สวรรค์ เพื่อ​สอน​ท่าน​ให้​รู้จัก​วินัย ให้​ท่าน​เห็น​เพลิง​ไฟ​บน​แผ่นดิน​โลก และ​ให้​ท่าน​ได้ยิน​เสียง​พระ​องค์​กล่าว​จาก​ใจกลาง​เพลิง​นั้น เพราะ​พระ​องค์​รัก​บรรพบุรุษ​ของ​ท่าน และ​ได้​เลือก​บรรดา​ผู้​สืบ​เชื้อสาย​ต่อมา พระ​องค์​นำ​พวก​ท่าน​ออก​จาก​อียิปต์​ด้วย​พระ​องค์​เอง​และ​ด้วย​พลานุภาพ​อัน​ยิ่งใหญ่​ของ​พระ​องค์ พระ​องค์​ขับไล่​บรรดา​ประชา​ชาติ​ที่​ยิ่งใหญ่​กว่า​และ​เข้มแข็ง​กว่า​พวก​ท่าน​เอง เพื่อ​นำ​ท่าน​เข้า​ไป และ​ให้​แผ่นดิน​แก่​ท่าน​เป็น​มรดก​อย่าง​ที่​เป็น​อยู่​ทุก​วัน​นี้ จง​รู้​ไว้​เสีย​ใน​วัน​นี้​เถิด และ​จารึก​ไว้​ใน​ใจ​ของ​ท่าน​ว่า พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​เป็น​พระ​เจ้า​ใน​สวรรค์​เบื้อง​บน​และ​ใน​โลก​เบื้อง​ล่าง ไม่​มี​ผู้​ใด​อื่น​อีก​แล้ว ฉะนั้น​ท่าน​จง​รักษา​กฎ​เกณฑ์​และ​พระ​บัญญัติ​ของ​พระ​องค์​ตาม​ที่​เรา​สั่ง​ท่าน​ใน​วัน​นี้ เพื่อ​ว่า​ทุก​สิ่ง​จะ​เป็น​ไป​ด้วย​ดี​สำหรับ​ท่าน​และ​ลูก​หลาน​ของ​ท่าน และ​ท่าน​จะ​ได้​มี​ชีวิต​ยืนยาว​ใน​แผ่นดิน​ที่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​ท่าน​มอบ​ให้​ไว้​ตลอด​กาล” แล้ว​โมเสส​เลือก​เมือง​ที่​อยู่​ทาง​ฝั่ง​ตะวัน​ออก​ของ​แม่น้ำ​จอร์แดน 3 เมือง เพื่อ​ให้​คน​ไป​หลบ​ซ่อน​อยู่​ได้​ใน​กรณี​ฆ่า​คน​โดย​ไม่​มี​เจตนา เพราะ​ไม่​เคย​เป็น​ศัตรู​กัน​มา​ก่อน เขา​จะ​หนี​ไป​อยู่​ที่​เมือง​ใด​เมือง​หนึ่ง​เพื่อ​เอา​ชีวิต​รอด เมือง​เบเซอร์​ใน​ถิ่น​ทุรกันดาร​บน​ที่​ราบ​สูง​สำหรับ​คน​จาก​เผ่า​รูเบน เมือง​ราโมท​ใน​แคว้น​กิเลอาด​สำหรับ​คน​จาก​เผ่า​กาด เมือง​โกลาน​ใน​แคว้น​บาชาน​สำหรับ​คน​จาก​เผ่า​มนัสเสห์ ต่อ​ไป​นี้​เป็น​กฎ​บัญญัติ​ที่​โมเสส​วาง​ไว้​สำหรับ​ชาว​อิสราเอล นี่​คือ​พันธ​สัญญา คำ​สั่ง และ​กฎเกณฑ์​ที่​โมเสส​กล่าว​กับ​ชาว​อิสราเอล​ใน​ยาม​ที่​พวก​เขา​ออก​จาก​ประเทศ​อียิปต์ อีก​ฝั่ง​ของ​แม่น้ำ​จอร์แดน​ที่​หุบเขา​ตรงข้าม​กับ​เมือง​เบธเปโอร์ ใน​แผ่นดิน​ของ​สิโหน​กษัตริย์​ของ​ชาว​อาโมร์​ผู้​อาศัย​อยู่​ที่​เมือง​เฮชโบน แต่​โมเสส​และ​ชาว​อิสราเอล​รบ​ชนะ​พวก​เขา​ครั้ง​ที่​ออก​จาก​อียิปต์ พวก​เขา​ยึด​แผ่นดิน​ของ​กษัตริย์​สิโหน​และ​ของ​โอก​กษัตริย์​แห่ง​บาชาน ทั้ง​สอง​เป็น​กษัตริย์​ของ​ชาว​อาโมร์​ที่​อาศัย​อยู่​ทาง​ฝั่ง​ตะวัน​ออก​ของ​แม่น้ำ​จอร์แดน นับ​จาก​เมือง​อาโรเออร์​ซึ่ง​อยู่​ที่​ชาย​ลุ่มน้ำ​อาร์โนน​จน​จรด​ภูเขา​สีรีออน (คือ​เฮอร์โมน) รวม​ทั้ง​ที่​ราบ​อาราบาห์​ทั้ง​หมด​ทาง​ฟาก​ตะวัน​ออก​ของ​แม่น้ำ​จอร์แดน​จรด​ทะเล​อาราบาห์ ทาง​ตะวัน​ออก​จรด​เชิง​เขา​ปิสกาห์