อาโมส 6:1-14
อาโมส 6:1-14 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
นี่ พวกเจ้า พวกเจ้าที่ชอบอยู่อย่างสบายๆในเมืองศิโยน พวกเจ้าที่รู้สึกปลอดภัยบนภูเขาสะมาเรีย พวกเจ้าที่คิดว่าตัวเองเป็นผู้นำที่สำคัญมากของชนชาติที่ดีที่สุด คนที่ครอบครัวของอิสราเอลต้องมาพึ่งพิง พวกผู้นำของเจ้าอวดกับเจ้าว่า “ข้ามไปที่เมืองคาลเนห์ และไปดูสิ จากที่นั่นก็ให้ไปที่เมืองฮามัท ที่ยิ่งใหญ่ แล้วให้ลงไปที่กัทของชาวฟีลิสเตีย เมืองพวกนั้นดีกว่าเมืองศิโยนกับเมืองสะมาเรียหรือ หรือดินแดนของพวกเขาใหญ่กว่าดินแดนของเจ้าหรือ” พวกเจ้าคิดที่จะผลักวันแห่งความพินาศออกไปไกลๆ แต่เจ้ากลับนำบัลลังก์แห่งความโหดร้ายให้เข้ามาใกล้ๆ พวกเจ้านอนลงบนเตียงที่ตกแต่งด้วยงาช้าง เจ้าเหยียดแข้งเหยียดขานอนอยู่บนโซฟา และกินพวกลูกแกะที่คัดมาจากฝูง และพวกลูกวัวอ้วนพีจากคอก พวกเจ้าร้องตามเสียงพิณใหญ่ เหมือนกับดาวิด พวกเจ้าแต่งเพลงให้ตัวเองเข้ากับเครื่องดนตรี พวกเจ้าดื่มจากชามเหล้าองุ่น และทาตัวเองด้วยน้ำมันอย่างดี แต่ไม่เศร้าโศกเสียใจกับความล่มจมของครอบครัวโยเซฟ ดังนั้น ตอนนี้พวกเจ้าก็จะถูกจับไปเป็นเชลยชุดแรก และงานเลี้ยงของพวกเจ้าที่นอนเหยียดแข้งเหยียดขาอยู่บนโซฟาก็จะถึงจุดจบ พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตได้สาบานโดยอ้างชื่อของพระองค์เอง นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ พระเจ้าผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นบอก “เราเกลียดชังความหยิ่งยโสของยาโคบ และเราเกลียดชังป้อมปราการของเขา ดังนั้นเราจะปล่อยให้ศัตรูมายึดเมืองสะมาเรีย และทุกสิ่งทุกอย่างในเมืองนั้นไป” ถ้ามีสิบคนหลงเหลืออยู่ในบ้านหลังหนึ่ง พวกเขาจะตายหมดทุกคน แล้วญาติที่ใกล้ชิดที่สุดและสัปเหร่อก็จะมาแบกศพเหล่านั้นออกจากบ้านและจะมีคนหนึ่งถามคนที่อยู่ในสุดของบ้านว่า “ยังมีใครเหลืออยู่กับเจ้าในนั้นหรือเปล่า” เขาจะตอบว่า “ไม่มี” แล้วคนแรกก็จะพูดว่า “จุ๊ จุ๊ อย่าเอะอะไป อย่าได้เอ่ยชื่อของพระยาห์เวห์” เพราะ ดูสิ พระยาห์เวห์จะออกคำสั่ง พระองค์ก็จะขยี้บ้านหลังใหญ่ให้เป็นชิ้นๆ และบ้านหลังเล็กให้ละเอียดไป ม้าวิ่งอยู่บนชะเงื้อมหินได้หรือ หรือว่าเขาเอาวัวมาไถทะเลหรือ แต่เจ้าได้เปลี่ยนความยุติธรรมให้กลายเป็นยาพิษ และเปลี่ยนผลไม้แห่งความถูกต้องให้กลายเป็นบอระเพ็ด พวกเจ้าที่ชื่นชมยินดีที่ได้ยึดเมืองโลเดบาร์ พวกเจ้าที่พูดว่า “เราได้ยึดเอาคารนาอิม มาเป็นของเราด้วยกำลังของเราเองไม่ใช่หรือ” “ครอบครัวอิสราเอลเอ๋ย คอยดูให้ดี เราจะทำให้ชนชาติหนึ่งมาต่อสู้กับพวกเจ้า” พระยาห์เวห์ พระเจ้าผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น พูดว่าอย่างนั้น “และพวกเขาก็จะกดขี่ข่มเหงเจ้าจากเมืองลีโอฮามัทไปจนถึงลำธารอาราบาห์”
อาโมส 6:1-14 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
วิบัติแก่ผู้ที่อยู่อย่างสบายในศิโยน และแก่ผู้ที่วางใจในภูเขาสะมาเรีย คือผู้มีชื่อเสียงโดดเด่นแห่งประชาชาติ ผู้ซึ่งพงศ์พันธุ์อิสราเอลมาหานั่นน่ะ จงไปยังเมืองคาลเนห์ และดูเอาเถิด จากที่นั่นก็ไปยังฮามัทเมืองใหญ่ แล้วลงไปยังเมืองกัทของชาวฟีลิสเตีย เมืองของเจ้าดีกว่าอาณาจักรเหล่านี้หรือ? หรืออาณาเขตเมืองเหล่านั้นใหญ่กว่าอาณาเขตเมืองของเจ้าหรือ? โอ เจ้าผู้อยากผัดวันหายนะให้เนิ่นไป แต่กลับนำเอาการปกครองที่ทารุณเข้ามาใกล้ วิบัติแก่ผู้ที่นอนบนเตียงงาช้าง และผู้ซึ่งเหยียดกายอยู่บนเก้าอี้นอน และกินลูกแกะที่ได้มาจากฝูงแกะ กับลูกวัวจากคอกวัว และร้องเพลงเล่นๆ ประสานเสียงพิณใหญ่ เขาใช้เครื่องดนตรีแต่งเพลงใหม่เหมือนดาวิด ผู้ใช้ชามใส่เหล้าองุ่นดื่ม และชโลมตัวด้วยน้ำมันอย่างดี แต่ไม่เป็นทุกข์โศกในเรื่องความพินาศของโยเซฟ เพราะฉะนั้น เขาจึงต้องเป็นพวกแรกที่ตกไปเป็นเชลย และเสียงรื่นเริงของพวกที่นอนเหยียดกายก็จะหมดสิ้นไป พระยาห์เวห์องค์เจ้านายได้ทรงปฏิญาณเองว่า (พระยาห์เวห์พระเจ้าจอมทัพตรัสว่า) “เราสะอิดสะเอียนความเย่อหยิ่งของยาโคบ และเกลียดป้อมทั้งหลายของเขา เราจะมอบเมืองนั้นและสิ่งสารพัดที่อยู่ในเมืองนั้นแก่ศัตรู” ถ้าในบ้านเดียวมีคนเหลืออยู่ 10 คน เขาจะต้องตายหมด และเมื่อญาติผู้ตาย คือผู้ที่เผาศพ มาเพื่อจะนำกระดูกออกนอกบ้าน และจะกล่าวกับคนที่ซ่อนตัวอยู่ในห้องชั้นในของบ้านนั้นว่า “ยังมีใครอยู่กับเจ้าหรือ?” เขาจะตอบว่า “ไม่มี” และเขาจะกล่าวว่า “จุ๊ จุ๊ อย่าให้เราออกพระนามของพระยาห์เวห์” เพราะนี่แน่ะ พระยาห์เวห์ทรงบัญชาแล้ว บ้านใหญ่จะถูกตีแตกเป็นชิ้นๆ และบ้านเล็กก็จะแตกเป็นเสี่ยงๆ ม้าวิ่งบนศิลาได้หรือ? มีผู้ใดใช้โคไถทะเลได้หรือ? แต่พวกเจ้าได้เปลี่ยนความยุติธรรมให้เป็นพิษ และเปลี่ยนผลของความชอบธรรมให้ขม เจ้าทั้งหลายผู้เปรมปรีดิ์อยู่ในการยึดเมืองโลเดบาร์ ผู้กล่าวว่า “เราได้ยึดคารนาอิมมาเป็นของเรา ด้วยกำลังของเรามิใช่หรือ?” พระยาห์เวห์พระเจ้าจอมทัพตรัสดังนี้ว่า “นี่แน่ะ พงศ์พันธุ์อิสราเอลเอ๋ย เราจะยกชาติหนึ่งขึ้นต่อสู้เจ้า และเขาจะบีบบังคับเจ้าตั้งแต่ทางเข้าเมืองฮามัท ถึงลำธารอาราบาห์”
อาโมส 6:1-14 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
“วิบัติแก่ผู้ที่เอกเขนกอยู่ในศิโยน และวางใจอยู่ในภูเขาสะมาเรีย คือผู้มีชื่อเสียงแห่งประชาชาติชั้นเอกในบรรดาประชาชาติทั้งหลาย ผู้ซึ่งวงศ์วานอิสราเอลมาหานั่นน่ะ จงไปยังเมืองคาลเนห์ และดูเอาเถอะ จากที่นั่นก็ไปยังฮามัทเมืองใหญ่ แล้วลงไปยังเมืองกัทของชาวฟีลิสเตีย เมืองเหล่านั้นดีกว่าอาณาจักรเหล่านี้หรือ หรืออาณาเขตเมืองเหล่านั้นใหญ่กว่าอาณาเขตเมืองของเจ้าหรือ เจ้าผู้ที่อยากผลัดวันสนองความร้ายให้เนิ่นไป แต่กลับนำเอาบัลลังก์แห่งความทารุณให้เข้ามาใกล้ วิบัติแก่ผู้ที่นอนบนเตียงงาช้าง และผู้ซึ่งเหยียดตัวอยู่บนเก้าอี้ยาว และกินลูกแกะที่ได้มาจากฝูงแกะ และลูกวัวจากท่ามกลางคอกวัว และร้องเพลงไร้สาระประสานเสียงพิณใหญ่ กระทำอย่างดาวิดในการประดิษฐ์เครื่องดนตรีขึ้นใหม่ ผู้ใช้ชามใส่น้ำองุ่นดื่ม และชโลมตัวด้วยน้ำมันอย่างดี แต่มิได้เป็นทุกข์โศกในเรื่องความทุกข์ยากของโยเซฟ เพราะฉะนั้นบัดนี้เขาจะต้องไปเป็นเชลยกับพวกแรกที่ตกไปเป็นเชลย และเสียงอึงคะนึงของพวกที่นอนเหยียดตัวก็หมดสิ้นไป” องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าได้ทรงปฏิญาณต่อพระองค์เองว่า พระเยโฮวาห์พระเจ้าจอมโยธาตรัสว่า “เราสะอิดสะเอียนความล้ำเลิศของยาโคบ และเกลียดปราสาททั้งหลายของเขา เราจะมอบเมืองนั้นและบรรดาสิ่งสารพัดที่อยู่ในเมืองนั้นเสีย” ต่อมาถ้าในเรือนเดียวมีคนเหลืออยู่สิบคน เขาจะต้องตายหมด และเมื่อลุงของผู้ใด คือผู้ที่เผาเพื่อเขา จะยกศพขึ้นเพื่อจะนำกระดูกออกนอกเรือน และจะกล่าวกับคนที่อยู่ในห้องชั้นในที่สุดของเรือนนั้นว่า “ยังมีใครอยู่กับเจ้าหรือ” เขาจะตอบว่า “ไม่มี” และเขาจะกล่าวว่า “จุ๊จุ๊ อย่าให้เราออกพระนามของพระเยโฮวาห์” เพราะดูเถิด พระเยโฮวาห์ทรงบัญชาแล้ว พระองค์จะทรงฟาดเรือนใหญ่ให้แตกเป็นชิ้นๆ และเรือนเล็กก็จะแตกเป็นจุณ ม้าจะวิ่งบนศิลาหรือ มีคนหนึ่งคนใดใช้วัวไถที่นั่นหรือ แต่เจ้าทั้งหลายได้กลับความยุติธรรมให้ขมอย่างดีหมี และเปลี่ยนผลของความชอบธรรมให้ขมอย่างบอระเพ็ด เจ้าทั้งหลายผู้เปรมปรีดิ์อยู่ในสิ่งอันไร้สาระ ผู้ซึ่งกล่าวว่า “เราได้ยึดเขาสัตว์มาเป็นของเราด้วยกำลังของเรามิใช่หรือ” พระเยโฮวาห์พระเจ้าจอมโยธาตรัสดังนี้ว่า “เพราะ ดูเถิด โอ วงศ์วานอิสราเอลเอ๋ย เราจะยกประชาชาติหนึ่งให้ขึ้นต่อสู้เจ้า และเขาจะบีบบังคับเจ้าตั้งแต่ทางเข้าเมืองฮามัทถึงแม่น้ำแห่งถิ่นทุรกันดาร”
อาโมส 6:1-14 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
<<วิบัติแก่ผู้ที่เอกเขนกอยู่ในศิโยน และบรรดาผู้ที่รู้สึกตัวว่าปลอดภัยแล้วบนภูเขาสะมาเรีย คือผู้มีชื่อเสียงแห่งประชาชาติชั้นเอก ในบรรดาประชาชาติทั้งหลาย ผู้ซึ่งพงศ์พันธุ์อิสราเอลมาหานั่นน่ะ จงไปยังเมืองคาลเนห์ และดูเอาเถอะ จากที่นั่นก็ไปยังฮามัทเมืองใหญ่ แล้วลงไปยังเมืองกัทของชาวฟีลิสเตีย เมืองเหล่านั้นดีกว่า อาณาจักรเหล่านี้หรือ หรืออาณาเขตเมืองเหล่านั้น ใหญ่กว่าอาณาเขตเมือง ของเจ้าหรือ โอ เจ้าผู้ที่อยากผลัดวันสนองความร้ายให้เนิ่นไป แต่กลับนำเอาบัลลังก์แห่งความทารุณให้เข้ามาใกล้ <<วิบัติแก่ผู้ที่นอนบนเตียงงาช้าง และผู้ซึ่งเหยียดตัวอยู่บนเก้าอี้ยาว และกินลูกแกะที่ได้มาจากฝูงแกะ และลูกวัวจากท่ามกลางคอกวัว และร้องเพลงไร้สาระประสานเสียงพิณใหญ่ กระทำอย่างดาวิดในการประดิษฐ์เครื่องดนตรีขึ้นใหม่ ผู้ใช้ชามใส่เหล้าองุ่นดื่ม และชโลมตัวด้วยน้ำมันอย่างดี แต่มิได้เป็นทุกข์โศกในเรื่องความพินาศของโยเซฟ เพราะฉะนั้น เขาจึงต้องเป็นพวกแรกที่ตกไปเป็นเชลย และเสียงอึงคะนึงของพวกที่นอนเหยียดตัวก็หมดสิ้นไป>> พระเจ้าได้ทรงปฏิญาณเองว่า (พระเจ้าจอมโยธาตรัสว่า) <<เราสะอิดสะเอียนความเย่อหยิ่งของยาโคบ และเกลียดวังป้อมของเขา เราจะมอบเมืองนั้นและบรรดาสิ่งสารพัดที่อยู่ ในเมืองนั้นเสีย>> ถ้าในเรือนเดียวมีคนเหลืออยู่สิบคน เขาจะต้องตายหมด และเมื่อญาติของผู้ใด คือผู้ที่เผาเพื่อเขาจะยกศพขึ้น เพื่อจะนำกระดูกออกนอกเรือน และจะกล่าวกับคนที่อยู่ในห้องชั้นในที่สุดของเรือนนั้นว่า <<ยังมีใครอยู่กับเจ้าหรือ>> เขาจะตอบว่า <<ไม่มี>> และเขาจะกล่าวว่า <<จุ๊ จุ๊ อย่าให้เราออกพระนามของพระเจ้า>> เพราะดูเถิด พระเจ้าทรงบัญชาแล้ว เรือนใหญ่ก็จะถูกตีแตกเป็นชิ้นๆ และเรือนเล็กก็จะแตกเป็นจุณ ม้าวิ่งบนศิลาหรือ มีคนหนึ่งคนใดใช้โคไถทะเลหรือ แต่เจ้าทั้งหลายได้กลับความยุติธรรมให้ขมอย่างดีหมี และเปลี่ยนผลของความชอบธรรมให้ขมอย่างบอระเพ็ด เจ้าทั้งหลายผู้เปรมปรีดิ์อยู่ในโลเดบาร์ ผู้ซึ่งกล่าวว่า <<เราได้ยึดคารนาอิม มาเป็นของเรา ด้วยกำลังของเรามิใช่หรือ>> พระเจ้าจอมโยธาตรัสดังนี้ว่า <<เพราะ ดูเถิด โอ พงศ์พันธุ์อิสราเอลเอ๋ย เราจะยกประชาชาติหนึ่งให้ขึ้นต่อสู้เจ้า และเขาจะบีบบังคับเจ้าตั้งแต่ทางเข้าเมืองฮามัท ถึงลำธารอาราบาห์>>
อาโมส 6:1-14 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
วิบัติแก่เจ้าผู้ทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อนอยู่ในศิโยน และแก่เจ้าผู้รู้สึกปลอดภัยบนภูเขาสะมาเรีย เจ้าผู้มีชื่อเสียงโด่งดังของชาติชั้นนำ ผู้ซึ่งประชากรอิสราเอลมาหา! จงไปพิเคราะห์ดูคาลเนห์ แล้วไปยังฮามัทเมืองใหญ่ และลงไปยังเมืองกัทในฟีลิสเตีย อาณาจักรเหล่านั้นดีกว่าอาณาจักรทั้งสองของเจ้าหรือ? ดินแดนของเขาใหญ่กว่าของเจ้าหรือ? เจ้าเลื่อนวันเลวร้ายออกไป แต่กลับนำยุคอันน่าสยดสยองเข้ามาใกล้ เจ้านอนบนเตียงประดับงาช้าง และเหยียดกายบนตั่ง เจ้ากินลูกแกะชั้นดี และลูกวัวอ้วนพี เจ้าเล่นพิณอย่างเบิกบานใจเหมือนดาวิด และแต่งเพลงใหม่ๆ สำหรับเครื่องดนตรี เจ้าดื่มเหล้าองุ่นเต็มชาม และใช้เครื่องชโลมกายชั้นดี แต่เจ้าไม่ทุกข์โศกในความย่อยยับของโยเซฟ ฉะนั้นเจ้าจะอยู่ในกลุ่มพวกแรกที่ตกเป็นเชลย การเลี้ยงฉลองและการเอกเขนกของเจ้าจะจบสิ้นลง พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตทรงปฏิญาณโดยอ้างพระองค์เอง พระยาห์เวห์พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ประกาศว่า “เราชิงชังความหยิ่งผยองของยาโคบ และเกลียดป้อมต่างๆ ของเขา เราจะปล่อยเมืองนี้ และปล่อยทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในนั้น” หากมีชายสิบคนเหลืออยู่ในบ้านหลังหนึ่ง พวกเขาก็จะตายด้วย และหากมีญาติคนหนึ่งที่จะเผาศพ จะมาแบกศพออกไปนอกบ้าน และถามผู้ที่ยังซ่อนตัวอยู่ที่นั่นว่า “มีใครอยู่กับเจ้าอีกไหม?” และเขาตอบว่า “ไม่มี” แล้วเขาก็จะพูดว่า “เงียบๆ! อย่าให้เราเอ่ยพระนามของพระยาห์เวห์” เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงบัญชาไว้แล้ว และจะทรงฟาดบ้านหลังใหญ่ให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ฟาดบ้านหลังเล็กให้เป็นเศษเล็กเศษน้อย ม้าวิ่งบนโตรกเขาขรุขระหรือ? คนใช้วัวไถที่นั่นหรือ? แต่เจ้าก็เปลี่ยนความยุติธรรมให้เป็นยาพิษ และเปลี่ยนผลแห่งความชอบธรรมให้กลายเป็นความขมขื่น เจ้าผู้ยินดีในการพิชิตโลเดบาร์ และพูดว่า “เรายึดคารนาอิมไว้ได้ด้วยกำลังของเราเองไม่ใช่หรือ?” เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ประกาศว่า “พงศ์พันธุ์อิสราเอลเอ๋ย เราจะเรียกชาติหนึ่งมาสู้กับเจ้า ซึ่งจะกดขี่ข่มเหงเจ้าตลอดทาง ตั้งแต่เลโบฮามัทถึงหุบเขาอาราบาห์”
อาโมส 6:1-14 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
วิบัติแก่บรรดาผู้ที่นิ่งนอนใจในศิโยน และแก่บรรดาผู้ที่รู้สึกปลอดภัยบนภูเขาในสะมาเรีย แก่บรรดาผู้มีชื่อเสียง และเป็นที่หนึ่งของบรรดาประชาชาติ ซึ่งพงศ์พันธุ์อิสราเอลมาขอความช่วยเหลือ จงไปดูเมืองคาลเนห์ จากนั่นก็ไปยังฮามัทเมืองอันยิ่งใหญ่ และลงไปยังเมืองกัทในฟีลิสเตีย สามเมืองนี้มั่งคั่งกว่าอาณาจักรทั้งสองของพวกท่านหรือ แผ่นดินของพวกเขากว้างใหญ่กว่าของพวกท่านหรือ พวกท่านผลัดวันแห่งความทุกข์ยากให้ไกลออกไป และเปิดทางให้กับการปกครองที่ชั่วร้ายเร็วยิ่งขึ้น วิบัติเกิดแก่พวกท่านที่นอนบนเตียงงาช้าง และยืดกายบนเตียง ท่านรับประทานเนื้อแกะจากฝูง และเนื้อลูกโคตัวผู้จากคอก พวกท่านดีดพิณเล็กอย่างดาวิด และแต่งเพลงร้องขึ้นเอง พวกท่านดื่มเหล้าองุ่นเป็นไห และเจิมตัวเองด้วยน้ำมันชนิดดีที่สุด แต่ไม่เศร้าใจกับความหายนะของพงศ์พันธุ์โยเซฟ ฉะนั้น บัดนี้พวกท่านจะเป็นพวกแรกที่จะถูกเนรเทศ การเลี้ยงฉลองและความสุขสบายจะจบสิ้นลง พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ปฏิญาณโดยพระองค์เอง พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าจอมโยธาประกาศดังนี้ “เราชิงชังความหยิ่งยโสของยาโคบ และเกลียดป้อมปราการของเขา เราจะยกเมืองและทุกสิ่งในนั้น ให้แก่ศัตรูไป” ถ้าบ้านใดบ้านหนึ่งมีคน 10 คนอยู่ในบ้าน พวกเขาก็จะตายเช่นกัน และถ้าญาติคนหนึ่งที่จะเป็นผู้ทำศพมาหามพวกเขาออกไปจากบ้าน จะตะโกนถามว่า “ยังมีผู้ใดอยู่ในบ้านหรือไม่” ถ้ามีคนตอบว่า “ไม่มี” ญาติคนนั้นจะพูดว่า “เงียบไว้ พวกเราต้องไม่เอ่ยพระนามของพระผู้เป็นเจ้า” ดูเถิด พระผู้เป็นเจ้าออกคำสั่ง พระองค์จะพังบ้านหลังใหญ่ให้ทลายลง และหลังเล็กก็จะถูกพังจนแหลกละเอียด ม้าวิ่งตามโขดหินได้อย่างนั้นหรือ จะให้โคไถนาที่นั่นได้หรือ แต่พวกท่านได้ทำให้ความเป็นธรรมกลายเป็นยาพิษ และผลแห่งความชอบธรรมกลายเป็นความขมขื่น พวกท่านดีใจที่ชนะเมืองโลเดบาร์ และพูดดังนี้ว่า “พวกเราได้ยึดคาร์นาอิม ด้วยกำลังของเราเองมิใช่หรือ” พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าจอมโยธาประกาศดังนี้ “โอ พงศ์พันธุ์อิสราเอลเอ๋ย เราจะทำให้ประชาชาติหนึ่งมาโจมตีพวกเจ้า และจะกดขี่ข่มเหงพวกเจ้าตั้งแต่เลโบฮามัท ไปจนถึงธารน้ำในหุบเขาอาราบาห์”