2 โครินธ์ 1:4-12
2 โครินธ์ 1:4-12 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
เมื่อเรามีความทุกข์ พระองค์ปลอบโยนเรา เพื่อว่าเมื่อคนอื่นมีความทุกข์ เราจะได้ปลอบโยนเขาเหมือนกับที่พระเจ้าทำกับเรา ยิ่งเราร่วมทุกข์กับพระคริสต์มากเท่าไร พระเจ้าก็จะปลอบโยนเรามากขึ้นเท่านั้น โดยผ่านทางพระคริสต์ ถ้าเราได้รับความทุกข์ทรมาน ก็เพื่อพวกคุณจะได้รับการปลอบโยนและได้รับความรอด ถ้าเราได้รับการปลอบโยน ก็เพื่อพวกคุณจะได้รับการปลอบโยนด้วย ซึ่งมีผลทำให้คุณมีความทรหดอดทนต่อความทุกข์แบบเดียวกับที่เราได้รับ เรามีความมั่นใจในตัวพวกคุณมาก เพราะคุณได้ร่วมทุกข์และร่วมการปลอบโยนกับเรา พี่น้องครับ เราอยากให้พวกคุณรู้ถึงความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสที่เราเจอในแคว้นเอเชีย ซึ่งหนักเกินกว่าที่เราจะทนได้ เราหมดหวังจนคิดว่าคงไม่รอดแล้ว เราคิดอยู่ในใจเหมือนว่าเราถูกตัดสินให้ประหารชีวิตแล้ว แต่เรื่องนี้เกิดขึ้นก็เพื่อเราจะได้ไม่พึ่งตนเอง แต่พึ่งพระเจ้าผู้ทำให้คนตายฟื้นขึ้นมา พระเจ้าช่วยให้เราพ้นจากอันตรายอันใหญ่หลวงและพระองค์ก็จะช่วยชีวิตเราต่อไป เรามีความหวังในพระองค์ว่า พระองค์จะช่วยชีวิตเราต่อไปในอนาคต พวกคุณก็ช่วยเราได้ด้วยการอธิษฐาน แล้วคนจำนวนมากก็จะขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์ได้ช่วยชีวิตเรา ตามที่คุณอธิษฐานนั้น เราภูมิใจที่ใจของเราบอกว่าทุกสิ่งที่เราทำในโลกนี้โดยเฉพาะสายสัมพันธ์กับพวกคุณนั้น เราได้ทำไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ และด้วยความจริงใจที่มาจากพระเจ้า เราทำสิ่งเหล่านี้ก็เพราะความเมตตากรุณาของพระเจ้า ไม่ได้ทำตามความเฉลียวฉลาดของโลกนี้
2 โครินธ์ 1:4-12 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
พระองค์ผู้ทรงชูใจเราในการทุกข์ยากทั้งสิ้นของเรา เพื่อเราจะสามารถชูใจคนเหล่านั้น ที่มีความทุกข์ยากอย่างใดอย่างหนึ่งได้ด้วยความชูใจ ซึ่งตัวเราเองได้รับจากพระเจ้า เพราะว่าเรามีส่วนทนทุกข์กับพระคริสต์มากฉันใด ความชูใจของเราเนื่องจากพระคริสต์ก็มากฉันนั้น ที่เราทนความทุกข์ยากนั้น ก็เพื่อให้ท่านได้ความชูใจและความรอด และที่เราได้รับความชูใจ ก็เพื่อให้ท่านได้รับความชูใจด้วย ซึ่งท่านจะได้รับเมื่อเพียรสู้ทนความทุกข์เหมือนอย่างเราได้ทนนั้น เราจึงมีความหวังแน่นอนในท่านทั้งหลาย เพราะเรารู้ว่า ท่านทั้งหลายได้มีส่วนในความทุกข์ยากของเราฉันใด ท่านทั้งหลายจะได้มีส่วนในความชูใจของเราฉันนั้น พี่น้องทั้งหลาย เราอยากให้ท่านทราบถึงความทุกข์ยากที่เกิดแก่เราในแคว้นเอเชีย ซึ่งทำให้เราหนักใจเหลือกำลัง จนเราเกือบหมดหวังที่จะเอาชีวิตรอดมาได้ ที่จริงเราคาดว่าเราถึงที่ตายแล้ว แต่ที่เป็นเช่นนี้ก็เพื่อมิให้เราไว้ใจในตนเอง แต่ให้ไว้ใจในพระเจ้าผู้ทรงโปรดให้คนทั้งปวงฟื้นจากความตาย พระองค์ทรงช่วยเราให้พ้นจากมรณภัย และพระองค์จะทรงช่วยเราอีก เราไว้ใจพระองค์ว่า พระองค์จะทรงช่วยเราต่อไปอีก ขอให้ท่านอธิษฐานเผื่อเราด้วย เพื่อว่าคนเป็นอันมากจะได้ขอบพระคุณเพราะเรา เนื่องจากพระคุณที่ทรงประทานแก่เรา อันเป็นการทรงตอบคำอธิษฐานของคนเป็นอันมากนั้น นี่เป็นสิ่งที่เราอวดได้ คือใจสำนึกผิดชอบของเราเป็นพยานว่า เราได้ประพฤติตนเป็นที่ประจักษ์แก่โลก และยิ่งกว่านั้นก็คือการประพฤติต่อท่านทั้งหลายด้วยน้ำใจบริสุทธิ์ และด้วยความจริงใจซึ่งมาจากพระเจ้า และมิใช่ตามปัญญาของโลก แต่ตามพระคุณซึ่งพระเจ้าได้ทรงโปรดประทาน
2 โครินธ์ 1:4-12 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
ผู้ทรงปลอบประโลมใจเราในความทุกข์ร้อนทั้งสิ้นของเรา เพื่อเราจะสามารถปลอบประโลมใจบรรดาผู้ทุกข์ร้อนในเรื่องใดๆ ด้วยการปลอบประโลมใจซึ่งเราเองได้รับจากพระเจ้า เพราะการทนทุกข์ของพระคริสต์หลั่งล้นเข้ามาในชีวิตของเราฉันใด การปลอบประโลมใจของเราก็ท่วมท้นโดยทางพระคริสต์ฉันนั้น หากเราทนทุกข์ ก็เพื่อการปลอบประโลมใจและเพื่อความรอดของท่าน หากเราได้รับการปลอบประโลมใจ ก็เพื่อให้ท่านได้รับการปลอบประโลมใจ ซึ่งส่งผลให้ท่านมีความอดทนอดกลั้นในความทุกข์ยากเดียวกันกับที่เราทนทุกข์อยู่ และเราหวังใจมั่นคงในท่านเพราะรู้ว่าท่านร่วมในความทุกข์ยากกับเราฉันใด ท่านย่อมร่วมในการปลอบประโลมใจกับเราด้วยฉันนั้น พี่น้องทั้งหลาย เราอยากให้ท่านทราบถึงความยากลำบากที่เราได้เผชิญในแคว้นเอเชีย เราถูกบีบคั้นหนักหน่วงสุดจะทานทนจนหมดหวังที่จะเอาชีวิตรอด อันที่จริงเรารู้สึกในใจประหนึ่งว่าได้ถูกตัดสินประหารชีวิต แต่ที่เป็นเช่นนี้ก็เพื่อเราจะไม่พึ่งตัวเอง แต่พึ่งพระเจ้าผู้ทรงให้คนตายเป็นขึ้น พระองค์ได้ทรงช่วยเราพ้นจากมรณภัยและจะทรงช่วยเราอีก เราตั้งความหวังในพระองค์ว่าจะทรงช่วยเราต่อไป เช่นเดียวกับที่ท่านช่วยเราโดยคำอธิษฐานของท่าน แล้วคนมากมายก็จะขอบพระคุณพระเจ้าเนื่องจากเรา สำหรับความกรุณาที่ประทานแก่เราอันเป็นการตอบคำอธิษฐานของคนมากมาย สิ่งที่เราโอ้อวดได้ คือจิตสำนึกของเรายืนยันว่าเราประพฤติตนในโลกโดยเฉพาะในความสัมพันธ์กับท่านด้วยความบริสุทธิ์และความจริงใจซึ่งมาจากพระเจ้า เราไม่ได้ประพฤติตามปัญญาฝ่ายโลก แต่ตามพระคุณของพระเจ้า
2 โครินธ์ 1:4-12 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
พระองค์ผู้ทรงหนุนใจเราในความยากลำบากทั้งหมดของเรา เพื่อเราจะสามารถหนุนใจคนทั้งหลาย ที่มีความยากลำบากอย่างใดอย่างหนึ่งได้ด้วยการหนุนใจ ซึ่งเราเองได้รับจากพระเจ้า เพราะความรักของพระคริสต์มากท่วมท้นเราอย่างไร การหนุนใจของพระคริสต์ก็มากท่วมท้นเราอย่างนั้น ที่เราทนความยากลำบากนั้น ก็เพื่อให้พวกท่านได้รับการหนุนใจและได้รับความรอด และที่เราได้รับการหนุนใจ ก็เพื่อให้พวกท่านได้รับการหนุนใจด้วย ซึ่งท่านจะได้รับเมื่อสู้ทนความทุกข์เช่นเดียวกับที่เราทนอยู่นั้น และเราก็มีความหวังแน่นอนในท่านทั้งหลาย เพราะรู้ว่าพวกท่านมีส่วนในความทุกข์ของเราอย่างไร ท่านก็จะมีส่วนในการหนุนใจของเราอย่างนั้น พี่น้องทั้งหลาย เราอยากให้พวกท่านรู้ถึงความยากลำบากที่เกิดกับเราในแคว้นเอเชีย คือเราเผชิญความทุกข์หนักอย่างยิ่งชนิดที่เกินกำลัง จนเราหมดหวังที่จะเอาชีวิตรอดมาได้ ที่จริงเรารู้สึกว่าถูกตัดสินให้ถึงที่ตายแล้ว ทั้งนี้เพื่อเราจะไม่ไว้ใจตัวเอง แต่ไว้ใจพระเจ้าผู้ทรงให้คนทั้งหลายเป็นขึ้นจากตาย พระองค์ทรงช่วยเราให้พ้นจากมรณภัยมาแล้ว และพระองค์จะทรงช่วยเราอีก เราหวังในพระองค์ว่าพระองค์จะทรงช่วยเราต่อไปอีก ในเมื่อพวกท่านก็มีส่วนช่วยโดยการทูลขอเผื่อเรา เพื่อคนจำนวนมากจะขอบพระคุณเพราะเรา เนื่องจากพระคุณที่ประทานแก่เราผ่านคำทูลขอของคนจำนวนมากนั้น นี่เป็นสิ่งที่เราอวด คือมโนธรรมของเราเป็นพยานว่า เราประพฤติตัวในโลกด้วยความบริสุทธิ์ใจ และด้วยความจริงใจที่มาจากพระเจ้า ไม่ใช่ประพฤติโดยปัญญาของมนุษย์แต่โดยพระคุณของพระเจ้า และต่อพวกท่านเราประพฤติยิ่งกว่านั้นเสียอีก
2 โครินธ์ 1:4-12 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
พระองค์ผู้ทรงปลอบประโลมใจเราในการทุกข์ยากทั้งสิ้นของเรา เพื่อเราจะสามารถปลอบประโลมใจคนเหล่านั้นที่มีความทุกข์ยากอย่างใดอย่างหนึ่งได้ ด้วยการปลอบประโลมใจซึ่งตัวเราเองได้รับจากพระเจ้า เพราะว่าเรามีส่วนทนทุกข์กับพระคริสต์มากฉันใด การปลอบประโลมใจของเราเนื่องจากพระคริสต์ก็มากฉันนั้น ที่เราทนความทุกข์ยากนั้น ก็เพื่อให้ท่านทั้งหลายได้ความชูใจและความรอด หรือที่เราได้รับการปลอบประโลมใจนั้น ก็เพื่อให้ท่านทั้งหลายได้รับความชูใจและความรอด ซึ่งทำให้ท่านทั้งหลายเพียรสู้ทนความทุกข์เหมือนอย่างเราได้ทนนั้น เราจึงมีความหวังแน่นอนในท่านทั้งหลาย เพราะเรารู้ว่าท่านทั้งหลายได้มีส่วนในความทุกข์ยากฉันใด ท่านทั้งหลายจะได้มีส่วนในการปลอบประโลมใจฉันนั้น พี่น้องทั้งหลาย เราอยากให้ท่านทราบถึงความทุกข์ยากที่เกิดแก่เราในแคว้นเอเชีย ซึ่งทำให้เราหนักใจจนเหลือกำลัง จนเราเกือบหมดหวังที่จะเอาชีวิตรอดมาได้ ที่จริงเราคาดว่าเราถึงที่ตายแล้ว แต่ที่เป็นเช่นนี้ก็เพื่อมิให้เราไว้ใจในตนเอง แต่ให้ไว้ใจในพระเจ้าผู้ทรงโปรดให้คนทั้งปวงฟื้นจากความตาย พระองค์ทรงช่วยเราให้พ้นจากความตายอันใหญ่หลวง และพระองค์จะทรงช่วยเราอีก เราไว้ใจพระองค์ว่า พระองค์จะทรงช่วยเราต่อไปอีก ท่านทั้งหลายจะช่วยเราได้ด้วยการอธิษฐานเพื่อเรา เพื่อว่าคนเป็นอันมากจะได้ขอบพระคุณเพราะเรา เนื่องจากของประทานที่ทรงประทานแก่เรา อันเป็นการทรงตอบคำอธิษฐานของคนเป็นอันมากนั้น นี่เป็นสิ่งที่เราชื่นชมยินดีได้ คือใจสำนึกผิดชอบของเราเป็นพยานว่าเราได้ประพฤติตนเป็นที่ประจักษ์แก่โลก และยิ่งกว่านั้นก็คือการประพฤติต่อท่านทั้งหลาย ด้วยน้ำใจบริสุทธิ์ และด้วยความจริงใจซึ่งมาจากพระเจ้า และมิใช่ตามปัญญาฝ่ายเนื้อหนัง แต่ตามพระคุณของพระเจ้า
2 โครินธ์ 1:4-12 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
พระองค์ปลอบโยนพวกเราเมื่อเรามีความทุกข์ยากลำบากสารพัน เพื่อว่าเราจะสามารถปลอบโยนบรรดาผู้ที่ตกอยู่ในความลำบากได้ เพราะเราเองก็ได้รับการปลอบโยนจากพระเจ้าแล้ว เพราะเมื่อเรามีส่วนทนทุกข์กับพระคริสต์มากฉันใด เราก็มีส่วนรับการปลอบโยนผ่านพระคริสต์มากฉันนั้น ถ้าเราต้องทนทุกข์ก็เป็นเพื่อว่า ท่านจะได้รับการปลอบโยนและความรอดพ้น ถ้าเราได้รับการปลอบโยนก็เป็นเพื่อว่า ท่านจะได้รับการปลอบโยน ในยามที่ท่านทนทรมานกับความทุกข์ยากแบบเดียวกับที่เราเผชิญ เรามั่นใจในตัวท่านมาก เพราะเราทราบว่าขณะที่ท่านมีความทุกข์ยากร่วมกับเรา ท่านก็ได้รับการปลอบโยนของเราด้วย เราอยากให้ท่านพี่น้องตระหนักถึงการทนทุกข์ทรมานซึ่งเกิดขึ้นกับเราในแคว้นเอเชีย เราตกอยู่ภายใต้ความกดดันเกินขีดจำกัดของเรา ถึงขนาดว่าเราหมดหวังที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป เรารู้สึกเหมือนว่าเราต้องโทษประหารชีวิต แต่นั่นก็เป็นไปเพื่อช่วยให้เราไม่วางใจในตัวเอง แต่วางใจในพระเจ้าผู้ทำให้คนตายฟื้นคืนชีวิต พระองค์ได้ช่วยเราให้พ้นจากภัยอันตรายถึงชีวิต และจะช่วยเราให้รอดปลอดภัย เรามีความหวังในพระองค์ว่าจะช่วยเราให้พ้นภัยต่อไปอีก ในเมื่อพวกท่านช่วยเราในการอธิษฐานด้วย คนจำนวนมากก็จะกล่าวขอบคุณพระเจ้า สำหรับพระพรที่เราได้รับเนื่องจากคำอธิษฐานของคนจำนวนมาก สิ่งที่เราโอ้อวดได้คือ มโนธรรมของเราเป็นพยานให้เห็นแล้วว่า เราได้ประพฤติตนอย่างสมควรในโลกแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประพฤติต่อท่าน ทั้งในด้านความบริสุทธิ์และความจริงใจที่มาจากพระเจ้า เราไม่ได้ประพฤติโดยปัญญาของโลก แต่โดยพระคุณของพระเจ้า