เนหะมีย์ 4:1-23

เนหะมีย์ 4:1-23 TH1971

ต่อมาเมื่อสันบาลลัททราบว่า เรากำลังก่อสร้างกำแพง เขาโกรธและเดือดดาลมาก และเขาเยาะเย้ยพวกยิว และเขาพูดต่อหน้าพี่น้องของเขาและต่อหน้า กองทัพของสะมาเรียว่า <<พวกยิวที่อ่อนแอเหล่านี้ทำอะไรกัน เขาจะซ่อมกันหรือ เขาจะทำสัตวบูชาหรือ เขาจะทำให้เสร็จในวันเดียวหรือ เขาจะกู้เอาหินที่ถูกเผาจากกองขยะมาใช้อีกหรือ>> โทบีอาห์คนอัมโมนอยู่ข้างๆท่าน และเขาพูดว่า <<เออ สิ่งที่เขากำลังสร้างอยู่นั้น ถ้าสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งวิ่งขึ้นไป มันจะพังกำแพงหินของเขาลงมา>> ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลายขอทรงฟัง เพราะข้าพระองค์ทั้งหลายเป็นที่ดูถูกดูหมิ่น ขอทรงหันการเยาะเย้ยของเขาให้ตกบนศีรษะของเขาเอง และขอทรงมอบเขาไว้ให้ถูกปล้นบนแผ่นดินที่เขาจะไปเป็น เชลยนั้น ขออย่าทรงปกปิดกรรมชั่วของเขาไว้ และขออย่าลบล้างบาปของเขาทั้งหลายจาก สายพระเนตรของพระองค์ เพราะเขาทั้งหลายได้ยั่วเย้าให้ทรงกริ้วต่อหน้า บรรดาผู้ก่อสร้าง เราจึงสร้างกำแพงขึ้น และกำแพงทั้งสิ้นก็ต่อกันสูงครึ่งหนึ่งแล้ว เพราะประชาชนมีน้ำใจที่จะทำงาน แต่เมื่อสันบาลลัทและโทบีอาห์กับชาวอาหรับ และคนอัมโมนและชาวอัศโดด ได้ยินว่าการซ่อมแซมกำแพงเยรูซาเล็มนั้น กำลังคืบหน้าต่อไป และกำลังปิดช่องโหว่ต่างๆ เขาทั้งหลายก็โกรธมาก และเขาก็ปองร้ายกันจะมาสู้รบกับเยรูซาเล็ม และก่อการโกลาหลขึ้นในนั้น แต่เราทั้งหลายได้อ้อนวอนต่อพระเจ้าของเรา และวางยามป้องกันเขาทั้งหลายทั้งกลางวันและกลางคืน แต่ยูดาห์กล่าวว่า <<เรี่ยวแรงของคนที่ขนของก็กำลังทรุดลง และมีสิ่งปรักหักพังมาก เราไม่สามารถซ่อมกำแพงได้>> และศัตรูของเรากล่าวว่า <<เขาจะไม่รู้ไม่เห็นจนกว่าเราจะเข้ามาท่ามกลางเขา และฆ่าเขากับยับยั้งงานของเขา>> เมื่อพวกยิวที่อยู่ใกล้เขาทั้งหลายมาก็ได้ บอกเราตั้งสิบครั้งว่า <<เขาจะลุกขึ้นมาต่อสู้เราจากที่อยู่ของเขาทุกแห่ง>> ข้าพเจ้าจึงตั้งประชาชนไว้ในส่วนที่ต่ำที่สุดข้างหลังกำแพง ในที่ช่องโหว่ ตามตระกูลของเขา โดยมีดาบ หอก และคันธนู ข้าพเจ้ามองดู แล้วลุกขึ้นพูดกับขุนนางและเจ้าหน้าที่ทั้งหลาย กับคนนอกนั้นว่า <<อย่ากลัวเขาเลย จงระลึกถึงพระเจ้าผู้ใหญ่ยิ่งและน่าเกรงกลัว และต่อสู้เพื่อพี่น้องของท่าน บุตรชายบุตรหญิงของท่าน ภรรยาและเรือนของท่าน>> อยู่มาเมื่อศัตรูของเราได้ยินว่าเราทราบเรื่องแล้ว และพระเจ้าได้ทรงทำลายแผนงานของเขา เราต่างก็มายังกำแพงที่งานของตนทุกคน ตั้งแต่วันนั้นมา ผู้รับใช้ของข้าพเจ้าครึ่งหนึ่งทำการก่อสร้าง อีกครึ่งหนึ่งถือหอก โล่ คันธนู และเสื้อเกราะ บรรดาประมุขทั้งหลายหนุนหลังพวกยูดาห์ ผู้ที่ก่อสร้างกำแพง และบรรดาผู้ที่ขนของก็ยกของขึ้น ทุกคนมือหนึ่งทำงาน อีกมือหนึ่งถืออาวุธไว้ ผู้ก่อสร้างทุกคนมีดาบคาดอยู่ที่สีข้างขณะที่เขาสร้าง ชายที่เป่าเขาสัตว์อยู่ข้างข้าพเจ้า ข้าพเจ้าพูดกับขุนนางและเจ้าหน้าที่ทั้งปวงกับคนนอกนั้นว่า <<การงานก็ใหญ่โตและกระจายกันไปมาก เพราะเราแยกกันอยู่บนกำแพงห่างจากกัน เมื่อท่านทั้งหลายได้ยินเสียงเป่าเขาสัตว์อยู่ตรงไหน จงวิ่งกรูกันไปที่พวกเราพระเจ้าของ เราทั้งหลายจะทรงต่อสู้เพื่อพวกเรา>> เราจึงทำงานกัน พวกเราครึ่งหนึ่งถือหอกตั้งแต่ เช้ามืดจนดาวขึ้น ครั้งนั้นข้าพเจ้าพูดกับประชาชนอีกว่า <<ขอให้ผู้ชายทุกคนกับคนใช้ของเขาด้วย ค้างคืนเสียภายในเยรูซาเล็มเพื่อเขาจะ เป็นยามให้เราในกลางคืนและทำงานกลางวัน>> ข้าพเจ้า พี่น้องของข้าพเจ้า หรือคนใช้ของข้าพเจ้า หรือคนยามผู้ติดตามข้าพเจ้าก็ดี ไม่มีใครถอดเครื่องแต่งกายออก ต่างก็ถืออาวุธไว้