มาระโก 8:1-30

มาระโก 8:1-30 TH1971

คราวนั้น เมื่อประชาชนพากันมามากมายอีก ก็ไม่มีอาหารกิน พระเยซูจึงทรงเรียกเหล่าสาวกตรัสแก่เขาว่า <<เราสงสารคนเหล่านี้ เพราะเขาค้างอยู่กับเราได้สามวันแล้ว และไม่มีอาหารจะกิน ถ้าเราจะให้เขากลับไปบ้านเมื่อยังอดอาหารอยู่ เขาจะหิวโหยสิ้นแรงลงตามทาง เพราะว่าบางคนมาไกล>> เหล่าสาวกจึงทูลตอบพระองค์ว่า <<ในถิ่นทุรกันดารนี้จะหาอาหารให้เขากินอิ่มได้ที่ไหน>> พระองค์ตรัสถามเขาว่า <<พวกท่านมีขนมปังกี่ก้อน>> เขาทูลว่า <<มีเจ็ดก้อนเจ้าข้า>> พระองค์จึงตรัสสั่งประชาชนให้นั่งลงที่พื้นดิน แล้วทรงรับขนมปังเจ็ดก้อนนั้นมา โมทนาพระคุณ แล้วจึงทรงหักส่งให้เหล่าสาวกให้เขาแจก เหล่าสาวกจึงแจกให้ประชาชน และเขามีปลาเล็กๆอยู่บ้าง พระองค์จึงถวายคำสาธุการ แล้วสั่งเหล่าสาวกให้เอาปลานั้นแจกด้วย คนทั้งปวงได้รับประทานจนอิ่ม และเศษอาหารที่เหลือนั้นเขาเก็บได้เจ็ดตะกร้า คนที่รับประทานนั้นประมาณสี่พัน แล้วพระองค์ตรัสสั่งให้เขาไป ในทันใดนั้นพระองค์ก็เสด็จลงเรือกับเหล่าสาวกของพระองค์มาถึงเขตเมืองดาลมานูธา พวกฟาริสีออกมาและเริ่มโต้เถียงกับพระองค์ ขอพระองค์สำแดงหมายสำคัญจากฟ้าสวรรค์ หมายจะทดลองพระองค์ พระองค์ทรงถอนพระทัยแล้วตรัสว่า <<คนยุคนี้แสวงหาหมายสำคัญทำไม เราว่าแก่เจ้าทั้งหลายจริงๆว่า จะไม่โปรดให้หมายสำคัญแก่คนยุคนี้>> แล้วพระองค์เสด็จไปจากเขาและลงเรือข้ามฟากไปอีก ฝ่ายเหล่าสาวก ลืมเอาขนมปังไปและในเรือเขามีขนมปังอยู่ก้อนเดียวเท่านั้น พระองค์ทรงกำชับเหล่าสาวกว่า <<จงสังเกตและระวังเชื้อแห่งพวกฟาริสี และเชื้อแห่งเฮโรดให้ดี>> เหล่าสาวกจึงพูดกันว่า <<เพราะเหตุที่เราไม่มีขนมปัง>> เมื่อพระเยซูทรงทราบจึงตรัสแก่เขาว่า <<เหตุไฉนพวกท่าน จึงพูดกันและกัน ถึงเรื่องไม่มีขนมปัง ท่านยังไม่รู้และไม่เข้าใจหรือ ใจของท่านมืดมัวหรือ มีตาแล้วยังไม่เห็นหรือ มีหูแล้วยังไม่ได้ยินหรือ ท่านทั้งหลายจำไม่ได้หรือ เมื่อเราหักขนมปังห้าก้อน ให้แก่คนห้าพันคนนั้น ท่านทั้งหลายเก็บเศษที่เหลือนั้นได้กี่กระบุง>> เขาทูลตอบว่า <<ได้สิบสองกระบุง>> <<เมื่อเราแจกขนมปังเจ็ดก้อนให้แก่คนสี่พันคนนั้น ท่านทั้งหลายเก็บเศษที่เหลือได้กี่ตะกร้า>> เขาทูลตอบว่า <<ได้เจ็ดตะกร้า>> พระองค์จึงตรัสแก่เขาว่า <<พวกท่านยังไม่เข้าใจหรือ>> พระองค์กับสาวกจึงไปยังเมืองเบธไซดา เขาพาคนตาบอดคนหนึ่งมาหาพระองค์ ทูลอ้อนวอนขอพระองค์ให้โปรดถูกต้องคนนั้น พระองค์ได้ทรงจูงมือคนตาบอดออกไปนอกหมู่บ้าน เมื่อได้ทรงบ้วนน้ำลายลงที่ตาคนนั้น และวางพระหัตถ์บนเขาแล้ว พระองค์จึงตรัสถามว่า <<เจ้าเห็นสิ่งใดบ้างหรือไม่>> คนนั้นเงยหน้าดูแล้วทูลว่า <<ข้าพระองค์แลเห็นคนเหมือนต้นไม้เดินไปเดินมา>> พระองค์จึงวางพระหัตถ์บนตาเขาอีก แล้วเขาก็เพ่งดู และตาก็หายเป็นปกติ แลเห็นสิ่งทั้งหลายได้ชัด พระองค์จึงตรัสสั่งคนนั้นให้กลับตรงไปยังบ้านของตน แล้วกำชับว่า <<อย่าเข้าไปในหมู่บ้านนั้น>> พระเยซูได้เสด็จกับเหล่าสาวกออกไปยังหมู่บ้านแขวงซีซารียา ฟีลิปปี เมื่ออยู่ตามทางนั้นพระองค์ตรัสถามเหล่าสาวกว่า <<คนทั้งหลายพูดกันว่าเราเป็นผู้ใด>> เขาทูลตอบพระองค์ว่า <<เขาว่าเป็นยอห์น ผู้ให้รับบัพติศมา แต่บางคนว่าเป็นเอลียาห์ และบางคนว่าเป็นคนหนึ่งในพวกผู้เผยพระวจนะ>> พระองค์จึงตรัสถามเขาว่า <<ฝ่ายพวกท่านเล่าว่าเราเป็นใคร>> เปโตรทูลตอบว่า <<พระองค์ทรงเป็นพระคริสต์>> แล้วพระองค์ทรงกำชับห้ามเหล่าสาวก ไม่ให้เขาบอกผู้ใดให้รู้