มัทธิว 22:1-22

มัทธิว 22:1-22 TH1971

พระเยซูตรัสแก่เขาเป็นคำอุปมาอีกว่า <<แผ่นดินสวรรค์ อุปมาเหมือนกษัตริย์องค์หนึ่ง ได้จัดการเลี้ยงเนื่องในพิธีอภิเษกมเหสีให้ราชโอรสของท่าน แล้วใช้ข้าราชการไปตามผู้ที่รับเชิญในการนี้ แต่เขาไม่ใคร่จะมา ท่านยังใช้ข้าราชการอื่นไปอีก รับสั่งให้บอกผู้รับเชิญนั้นว่า <ดูเถิด เราได้จัดการเลี้ยงไว้แล้ว ทั้งวัวและสัตว์ขุนแล้วของเราก็ฆ่าไว้เสร็จ สิ่งสารพัดก็เตรียมไว้พร้อม จงมาในการอภิเษกนี้เถิด> แต่เขาก็เพิกเฉยและไปเสีย บางคนไปไร่นาของตน บางคนก็ไปทำการค้าขาย ฝ่ายพวกนอกนั้นก็จับข้าราชการทำการอัปยศต่างๆ แล้วฆ่าเสีย กษัตริย์องค์นั้นก็ทรงพระพิโรธ จึงรับสั่งให้ยกกองทหารไปปราบปรามฆาตกรเหล่านั้น และให้เผาเมืองเขาเสีย แล้วท่านจึงรับสั่งแก่ข้าราชการว่า <งานสมรสก็พร้อมอยู่ แต่ผู้ถูกเชิญนั้นไม่สมกับงาน เหตุฉะนั้นจงออกไปตามทางหลวงพบใครๆ ก็ให้เชิญมาในงานนี้> พวกข้าราชการจึงออกไปเชิญคนทั้งปวงตามถนน แล้วแต่จะพบให้มาทั้งดีและชั่ว จนห้องโถงงานสมรสนั้นเต็มด้วยแขก <<แต่เมื่อกษัตริย์องค์นั้นเสด็จทอดพระเนตรแขก ก็เห็นผู้หนึ่งมิได้สวมเสื้อสำหรับงาน จึงรับสั่งถามว่า <สหายเอ๋ย เหตุไฉนจึงมาที่นี่โดยไม่สวมเสื้อสำหรับงานแต่งงาน> ผู้นั้นก็นิ่งอั้นอยู่พูดไม่ออก กษัตริย์จึงรับสั่งแก่พวกข้าราชการว่า <จงมัดมือมัดเท้าคนนี้เอาไปทิ้งเสียที่มืดภายนอก อันเป็นที่ที่มีการร้องไห้ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน> ด้วยผู้รับเชิญก็มาก แต่ผู้ที่ทรงเลือกก็น้อย>> ขณะนั้นพวกฟาริสีไปปรึกษากันวางแผนว่า จะจับผิดในถ้อยคำของพระองค์ให้ได้ จึงใช้พวกศิษย์ของตนกับพวกเฮโรดให้ไปทูลพระองค์ว่า <<อาจารย์เจ้าข้า ข้าพเจ้าทั้งหลายทราบอยู่ว่าท่านเป็นคนสัตย์ซื่อ ได้สั่งสอนทางของพระเจ้าจริงๆ โดยมิได้เอาใจผู้ใด เพราะท่านมิได้เห็นแก่หน้าผู้ใด เหตุฉะนั้นขอโปรดให้พวกข้าพเจ้าทราบว่าท่านคิดเห็นอย่างไร การที่จะส่งส่วยให้แก่จักรพรรดิซีซาร์นั้น ควรหรือไม่>> พระเยซูทรงทราบเจตนาร้ายของเขาจึงตรัสว่า <<โอ คนหน้าซื่อใจคด มาจับผิดเราทำไม จงเอาเงินที่จะเสียส่วยนั้นมาให้เราดูก่อน>> เขาจึงเอาเดนาริอันเหรียญหนึ่งถวายพระองค์ พระองค์ตรัสถามเขาว่า <<รูปและคำจารึกนี้เป็นของใคร>> เขาทูลว่า <<ของซีซาร์>> แล้วพระองค์ตรัสกับเขาว่า <<เหตุฉะนั้น ของของซีซาร์จงถวายแก่ซีซาร์ และของของพระเจ้าจงถวายแด่พระเจ้า>> คำตรัสตอบของพระองค์นั้น พวกเขานึกไม่ถึง จึงพากันกลับไป ละพระองค์ไว้