มัทธิว 21:18-32

มัทธิว 21:18-32 TH1971

ครั้นเวลาเช้า ขณะเสด็จกลับไปยังกรุงอีก ก็ทรงหิวพระกระยาหาร และเมื่อทอดพระเนตรไป ทรงเห็นต้นมะเดื่อต้นหนึ่งอยู่ริมทาง ก็ทรงดำเนินเข้าไปใกล้ เห็นต้นมะเดื่อนั้นไม่มีผลมีแต่ใบเท่านั้น จึงตรัสกับต้นมะเดื่อนั้นว่า <<เจ้าจงอย่าผลิผลอีกต่อไป>> ทันใดนั้นต้นมะเดื่อก็เหี่ยวแห้งไป ครั้นเหล่าสาวกได้เห็นก็ประหลาดใจ แล้วว่า <<เป็นอย่างไรหนอต้นมะเดื่อจึงเหี่ยวแห้งไปในทันใด>> ฝ่ายพระเยซูตรัสตอบเขาว่า <<เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า เพียงท่านจะมีความเชื่อและมิได้สงสัย ท่านจะกระทำได้เช่นที่เราได้กระทำแก่ต้นมะเดื่อนี้ ยิ่งกว่านั้น ถึงแม้ท่านจะสั่งภูเขานี้ว่า <จงลอยไปลงทะเล> ก็จะสำเร็จได้ สิ่งสารพัดซึ่งท่านอธิษฐานขอด้วยความเชื่อ ท่านจะได้>> เมื่อพระองค์เสด็จเข้าไปในบริเวณพระวิหาร ในเวลาที่ทรงสั่งสอนอยู่ พวกมหาปุโรหิตและพวกผู้ใหญ่ของประชาชนมาหาพระองค์ ทูลถามว่า <<ท่านมีสิทธิอันใดจึงได้ทำเช่นนี้ ใครให้สิทธิแก่ท่าน>> พระเยซูตรัสตอบเขาว่า <<เราจะถามท่านทั้งหลายสักข้อหนึ่งเหมือนกัน ถ้าท่านตอบได้ เราจะบอกท่าน ว่าเรากระทำการนี้โดยสิทธิอันใด คือบัพติศมาของยอห์นนั้น มาจากไหน มาจากสวรรค์หรือจากมนุษย์>> เขาได้ปรึกษากันว่า <<ถ้าเราจะว่า <มาจากสวรรค์> ท่านจะถามเราว่า <เหตุไฉนจึงไม่เชื่อยอห์นเล่า> แต่ถ้าเราจะว่า <มาจากมนุษย์> ก็กลัวประชาชน เพราะประชาชนทั้งปวงถือว่ายอห์นเป็นผู้เผยพระวจนะ>> เขาจึงทูลตอบพระเยซูว่า <<พวกข้าพเจ้าไม่ทราบ>> พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า <<เราจะไม่บอกท่านทั้งหลายเหมือนกันว่า เรากระทำการนี้โดยสิทธิอันใด <<แต่ท่านทั้งหลายคิดเห็นอย่างไร คนหนึ่งมีบุตรชายสองคน บิดาไปหาบุตรคนแรกว่า <ลูกเอ๋ย วันนี้จงไปทำงานในสวนองุ่นเถิด> บุตรคนนั้นตอบว่า <ไม่ไป> แต่ภายหลังกลับใจแล้วไปทำ บิดาจึงไปหาบุตรคนที่สองพูดเช่นเดียวกัน บุตรนั้นกล่าวว่า <ไปขอรับ> แต่ไม่ไป ก็บุตรสองคนนี้คนไหนเป็นผู้ทำตามใจของบิดาเล่า>> เขาทูลตอบว่า <<คือบุตรคนแรก>> พระเยซูตรัสตอบเขาว่า <<เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า พวกเก็บภาษีและหญิงแพศยาก็เข้าในแผ่นดินของพระเจ้าก่อนท่านทั้งหลาย ด้วยยอห์นได้มาหาพวกท่านสอนทางชอบธรรม ท่านหาเชื่อไม่ แต่พวกเก็บภาษีและพวกหญิงแพศยาได้เชื่อ ฝ่ายท่านทั้งหลาย ถึงแม้ได้เห็นแล้วภายหลังก็มิได้กลับใจเชื่อยอห์น