เพราะฉะนั้นจึงมีประชาชนขึ้นไปที่นั่นเพียงสามพันคน แต่ต้องแตกหนีจากชาวเมืองอัย ฝ่ายชาวเมืองอัยก็ฆ่าฟันคนเหล่านั้นตาย ประมาณสามสิบหกคน โดยขับไล่คนเหล่านั้นจากประตูเมืองไปยัง เชบาริมฟันเขาตามทางลง และจิตใจของประชาชนก็แหลกเหลวไปอย่างน้ำ ฝ่ายโยชูวาก็ฉีกเสื้อผ้าของตนซบหน้าลงถึงดิน หน้าหีบแห่งพระเจ้าจนถึงเวลาเย็น ทั้งท่านกับพวกผู้ใหญ่ของคนอิสราเอล ต่างก็เอาผงคลีดินใส่ศีรษะของตน โยชูวากราบทูลว่า <<ข้าแต่พระเยโฮวาห์เจ้า เป็นไฉนพระองค์จึงทรงนำชนชาตินี้ข้ามแม่น้ำจอร์แดนมา เพื่อจะมอบเราทั้งหลายไว้ในมือของคนอาโมไรต์ให้ ทำลายเสีย พวกข้าพระองค์มีความเสียดายที่ไม่พอใจอยู่เพียงฟาก ตะวันออกของจอร์แดน ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์จะทูลประการใดได้เล่า เมื่ออิสราเอลหันหลังหนีศัตรูเสียแล้ว เพราะว่าคนคานาอันกับบรรดาชาวเมืองคงจะได้ยิน แล้วคงจะยกมาตั้งล้อมพวกข้าพระองค์ และตัดชื่อของบรรดาข้าพระองค์เสียจากโลก และพระองค์จะทรงกระทำประการใด เพื่อพระนามอันยิ่งใหญ่ของพระองค์>> ฝ่ายพระเจ้าตรัสกับโยชูวาว่า <<จงลุกขึ้นเถิด ไฉนเจ้าจึงซบหน้าลงดังนี้เล่า คนอิสราเอลได้กระทำบาป เขาได้ละเมิดพันธสัญญาซึ่งเราได้บัญชาเขาไว้ เขาได้ยักยอกของที่ต้องถวาย เขาได้ขโมยและปิดบัง และได้เอาของรวมไว้กับข้าวของของตน เพราะฉะนั้นคนอิสราเอลจึงยืนหยัดต่อสู้ศัตรูของตนไม่ได้ ได้หันหลังหนีศัตรู เพราะเขากลายเป็นสิ่งที่ต้องถูกทำลาย เราจะไม่อยู่กับเจ้าทั้งหลายอีกต่อไป เว้นแต่เจ้าจะทำลายสิ่งของที่ต้อง ถวายเหล่านั้นเสียจากท่ามกลางพวกเจ้า จงลุกขึ้นชำระประชาชนให้บริสุทธิ์และกล่าวว่า <จงชำระตัวเสีย เพื่อวันพรุ่งนี้ เพราะพระเยโฮวาห์พระเจ้าของคนอิสราเอลกล่าวเช่นนี้ว่า <<โอ อิสราเอลเอ๋ย มีสิ่งของที่ต้องถวายอยู่ในหมู่พวกเจ้า เจ้าจะยืนหยัดต่อสู้ศัตรูของเจ้าไม่ได้ จนกว่าเจ้าจะนำสิ่งของที่ต้องถวายนั้น ออกเสียจากหมู่พวกเจ้า>> พอรุ่งเช้าเจ้าทั้งหลายจงเข้ามาทีละเผ่า เผ่าใดที่พระเจ้าทรงเลือกจับไว้ก็ต้องเข้ามาทีละตระกูล ตระกูลใดที่พระเจ้าทรงเลือกจับไว้ก็ให้เข้ามาทีละ ครอบครัว ครอบครัวใดที่พระเจ้าทรงเลือกจับไว้ก็ให้เข้ามาทีละคน ผู้ใดถูกจับว่ามีของต้องถวาย ก็ต้องถูกเผาเสียด้วยไฟ ทั้งตัวเขาและสารพัดที่เป็นของเขา เพราะเขาได้ละเมิดพันธสัญญาของพระเจ้า และเพราะเขาได้กระทำสิ่งที่น่าอายในอิสราเอล> >> โยชูวาจึงลุกขึ้นแต่เช้าตรู่ และนำคนอิสราเอลเข้ามาทีละเผ่า และพระเจ้าทรงเลือกเผ่ายูดาห์ จึงนำตระกูลในเผ่ายูดาห์เข้ามา และตระกูลเศ-ราห์ถูกทรงเลือก แล้วจึงนำตระกูลเศ-ราห์มาทีละคนและศับดีถูกทรงเลือก และนำครอบครัวของท่านเข้ามาทีละคน และคนที่ถูกทรงเลือกคืออาคานบุตรคารมี ผู้เป็นบุตรศับดีผู้เป็นบุตรเศ-ราห์ เผ่ายูดาห์ ฝ่ายโยชูวาจึงกล่าวแก่อาคานว่า <<ลูกเอ๋ย จงถวายพระสิริแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของอิสราเอล และถวายสรรเสริญแด่พระองค์ จงบอกข้ามาว่าเจ้าได้กระทำอะไรไป อย่าปิดบังไว้ จากข้าเลย>> และอาคานตอบโยชูวาว่า <<เป็นความจริงแล้วที่ข้าพเจ้าได้กระทำบาปต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของอิสราเอล ข้าพเจ้าได้กระทำดังนี้ ในหมู่ของที่ริบมา ข้าพเจ้าได้เห็นเสื้อคลุมงามตัวหนึ่ง ของเมืองบาบิโลนกับเงินสองร้อยเชเขล และทองคำแท่งหนึ่งหนักห้าสิบเชเขล ข้าพเจ้าก็โลภอยากได้ของเหล่านั้น ข้าพเจ้าจึงเอามา ดูเถิด ของเหล่านั้นซ่อนอยู่ใต้ดินในเต็นท์ของข้าพเจ้า เงินนั้นอยู่ข้างล่าง>> ฝ่ายโยชูวาก็ให้ผู้สื่อสารออกไปและเขาทั้งหลายก็ วิ่งไปที่เต็นท์ ดูเถิด ของนั้นฝังอยู่ภายในเต็นท์ของเขา มีเงินอยู่ข้างล่าง เขาก็เอาออกมาจากเต็นท์นำไปให้โยชูวาและ คนอิสราเอลทั้งปวง แล้วเขาก็วางของเหล่านั้นลงต่อพระพักตร์พระเจ้า และโยชูวากับบรรดาคนอิสราเอลจึงพาอาคานบุตรเศ-ราห์ พร้อมกับเงิน เสื้อคลุมตัวนั้น และทองแท่งนั้น ทั้งบุตรชายหญิงของเขา ทั้งวัว ลา แพะ แกะ และเต็นท์ของเขาทุกสิ่งที่เขามีอยู่ และนำคนกับของทั้งหมดขึ้นไปยังหุบเขาอาโคร์ และโยชูวากล่าวว่า <<ทำไมเจ้าจึงนำความยากร้ายมาให้เรา พระเจ้าทรงนำความยากร้ายมาถึงเจ้าในวันนี้>> และบรรดาคนอิสราเอลก็เอาหินขว้างเขาให้ตาย เผาเขาทั้งหลายด้วยไฟ และขว้างเขาด้วยก้อนหิน แล้วเอาหินถมกองทับเขาไว้เป็นกองใหญ่ยังอยู่จนทุกวันนี้ และพระเจ้าก็ทรงหันกลับจากพระพิโรธอันแรงกล้าของพระองค์ เพราะฉะนั้นจนถึงทุกวันนี้ เขายังเรียกที่นั้นว่าหุบเขาอาโคร์
อ่าน โยชูวา 7
แบ่งปัน
เปรียบเทียบพระคัมภีร์ทั้งหมด: โยชูวา 7:4-26
บันทึกข้อพระคำ อ่านแบบออฟไลน์ ดูคลิปการสอน และอื่น ๆ อีกมากมาย!
หน้าหลัก
พระคัมภีร์
แผนการอ่านต่างๆ
วิดีโอ