ยอห์น 11:1-44

ยอห์น 11:1-44 TH1971

มีชายคนหนึ่ง ชื่อลาซารัสกำลังป่วยอยู่ที่หมู่บ้านเบธานี ซึ่งเป็นชนบทที่มารีย์และมารธาพี่สาวของเธออยู่นั้น มารีย์ผู้นี้คือหญิงที่เอาน้ำมันหอมชโลมพระองค์ และเอาผมของนางเช็ดพระบาทของพระองค์ ลาซารัสน้องชายของเธอกำลังป่วยอยู่ ดังนั้นพี่สาวทั้งสอง จึงให้คนไปเฝ้าพระเยซูทูลว่า <<พระองค์เจ้าข้า ผู้ที่พระองค์ทรงรักนั้นกำลังป่วยอยู่>> แต่เมื่อพระเยซูทรงได้ยินแล้วก็ตรัสว่า <<โรคนั้นจะไม่ถึงตาย แต่เกิดขึ้นเพื่อเชิดชูพระเกียรติของพระเจ้า เพื่อให้พระบุตรของพระเจ้าทรงได้รับเกียรติเพราะโรคนั้น>> พระเยซูทรงรักมารธาและน้องสาวของเธอและลาซารัส ครั้นพระองค์ทรงได้ยินว่าลาซารัสป่วยอยู่ พระองค์จึงทรงพักอยู่ที่ที่พระองค์ทรงอยู่นั้นอีกสองวัน หลังจากนั้นพระองค์ก็ตรัสกับพวกสาวกว่า <<เราเข้าไปในแคว้นยูเดียกันอีกเถิด>> พวกสาวกทูลพระองค์ว่า <<พระอาจารย์เจ้าข้า เมื่อเร็วๆนี้ พวกยิวหาโอกาสเอาหินขว้างพระองค์ให้ตาย แล้วพระองค์ยังจะเสด็จไปที่นั่นอีกหรือ>> พระเยซูตรัสตอบว่า <<กลางวันมีสิบสองชั่วโมงมิใช่หรือ ถ้าผู้ใดเดินในตอนกลางวันเขาก็จะไม่สะดุด เพราะเขาเห็นความสว่างของโลกนี้ แต่ถ้าผู้ใดเดินในตอนกลางคืนเขาก็จะสะดุด เพราะไม่มีความสว่างในตัวเขา>> พระองค์ตรัสดังนั้นแล้วจึงตรัสกับเขาว่า <<ลาซารัสสหายของเราหลับไปแล้ว แต่เราไปเพื่อจะปลุกเขาให้ตื่น>> พวกสาวกทูลว่า <<พระองค์เจ้าข้า ถ้าเขาหลับอยู่เขาก็คงจะหายดี>> พระเยซูตรัสถึงความตายของลาซารัส แต่พวกสาวกคิดว่าพระองค์ตรัสถึงการนอนหลับพักผ่อน ฉะนั้นพระเยซูจึงตรัสกับเขาตรงๆว่า <<ลาซารัสตายแล้ว เพื่อเห็นแก่ท่านทั้งหลาย เราจึงยินดีที่เรามิได้อยู่ที่นั่น เพื่อท่านจะได้เชื่อ เราไปหาเขากันเถิด>> โธมัสที่เรียกว่า แฝดจึงพูดกับเพื่อนสาวกว่า <<พวกเราไปกับพระองค์ด้วยเถิด เพื่อจะได้ตายด้วยกันกับพระองค์>> ครั้นพระเยซูเสด็จมาถึง ก็ทรงทราบว่าเขาเอาลาซารัสไปไว้ในอุโมงค์ฝังศพสี่วันแล้ว หมู่บ้านเบธานีอยู่ใกล้กรุงเยรูซาเล็ม ห่างกันประมาณสามกิโลเมตร พวกยิวหลายคนได้มาหามารธาและมารีย์ เพื่อจะปลอบโยนเธอเรื่องน้องชายของเธอ ครั้นมารธารู้ข่าวว่าพระเยซูกำลังเสด็จมา เธอก็ออกไปต้อนรับพระองค์ แต่มารีย์นั่งอยู่ในเรือน มารธาทูลพระเยซูว่า <<พระองค์เจ้าข้า ถ้าพระองค์อยู่ที่นี่น้องชายของข้าพระองค์ก็คงไม่ตาย ถึงแม้เดี๋ยวนี้ข้าพระองค์ก็ทราบว่าสิ่งใดๆที่พระองค์จะทูลขอจากพระเจ้า พระเจ้าจะทรงโปรดประทานแก่พระองค์>> พระเยซูตรัสกับนางว่า <<น้องชายของเจ้าจะฟื้นขึ้นมาอีก>> มารธาทูลพระองค์ว่า <<ข้าพระองค์ทราบแล้วว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาอีกในวันสุดท้าย เมื่อคนทั้งปวงจะฟื้นขึ้นมา>> พระเยซูตรัสกับเธอว่า <<เราเป็นเหตุให้คนทั้งปวงเป็นขึ้นและมีชีวิต ผู้ที่วางใจในเรานั้น ถึงแม้ว่าเขาตายแล้วก็ยังจะมีชีวิตอีก และทุกคนที่มีชีวิตและวางใจในเราจะไม่ตายเลย เจ้าเชื่ออย่างนี้ไหม>> มารธาทูลพระองค์ว่า <<เชื่อพระองค์เจ้าข้า ข้าพระองค์เชื่อว่าพระองค์ทรงเป็นพระคริสต์ พระบุตรของพระเจ้าที่เสด็จมาในโลก>> เมื่อเธอทูลดังนี้แล้ว เธอก็กลับไปเรียกมารีย์น้องสาว กระซิบว่า <<พระอาจารย์เสด็จมาแล้ว และทรงเรียกเจ้า>> เมื่อมารีย์ได้ยินแล้วเธอก็รีบลุกขึ้นไปเฝ้าพระองค์ ฝ่ายพระเยซูยังไม่เสด็จเข้าไปในหมู่บ้าน แต่ยังประทับอยู่ ณ ที่ซึ่งมารธาพบพระองค์นั้น เมื่อพวกยิวที่อยู่กับมารีย์ในเรือนกำลังปลอบโยนเธออยู่ เห็นมารีย์รีบลุกขึ้นเดินออกไป เขาทั้งหลายจึงตามเธอไป นึกว่าเธอจะไปร้องไห้ที่อุโมงค์ ครั้นมารีย์มาถึงที่ซึ่งพระเยซูประทับอยู่และเห็นพระองค์แล้ว จึงกราบลงที่พระบาทของพระองค์ทูลว่า <<พระองค์เจ้าข้า ถ้าพระองค์ประทับอยู่ที่นี่ น้องชายของข้าพระองค์ก็คงไม่ตาย>> เมื่อพระเยซูทรงเห็นเธอร้องไห้ และพวกยิวที่มากับเธอก็ร้องไห้ด้วย พระองค์ก็ทรงสะเทือนพระทัยและทรงเป็นทุกข์ พระองค์ตรัสว่า <<พวกเจ้าเอาศพเขาไปไว้ที่ไหน>> เขาทูลพระองค์ว่า <<พระองค์เจ้าข้า เชิญเสด็จมาดูเถิด>> พระเยซูทรงพระกันแสง พวกยิวจึงกล่าวว่า <<ดูซิพระองค์ทรงรักเขาเพียงไร>> แต่บางคนก็พูดว่า <<ท่านผู้นี้ทำให้คนตาบอดมองเห็น จะทำให้คนนี้ไม่ตายไม่ได้หรือ>> พระเยซูทรงสะเทือนพระทัยอีก จึงเสด็จมาถึงอุโมงค์ฝังศพ อุโมงค์นั้นเป็นถ้ำ มีหินก้อนหนึ่งวางปิดปากไว้ พระเยซูตรัสว่า <<จงเอาหินออกเสีย>> มารธาพี่สาวของผู้ตายจึงทูลพระองค์ว่า <<พระองค์เจ้าข้า ป่านนี้ศพมีกลิ่นเหม็นแล้ว เพราะว่าเขาตายมาสี่วันแล้ว>> พระเยซูตรัสกับเธอว่า <<เราบอกเจ้าแล้วมิใช่หรือว่า ถ้าเจ้าเชื่อเจ้าก็จะได้เห็นความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า>> พวกเขาจึงเอาหินออก พระเยซูทรงแหงนพระพักตร์ขึ้นตรัสว่า <<ข้าแต่พระบิดา ข้าพระองค์ขอบพระคุณพระองค์ ที่พระองค์ทรงโปรดฟังข้าพระองค์ ข้าพระองค์ทราบว่าพระองค์ทรงฟังข้าพระองค์อยู่เสมอ แต่ที่ข้าพระองค์กล่าวอย่างนี้ก็เพราะเห็นแก่ประชาชนที่ยืนอยู่ที่นี่ เพื่อเขาจะได้เชื่อว่าพระองค์ทรงใช้ข้าพระองค์มา>> เมื่อพระองค์ตรัสดังนั้นแล้วจึงเปล่งพระสุรเสียง ตรัสว่า <<ลาซารัสเอ๋ย ออกมาเถิด>> ผู้ตายนั้นก็ออกมา มีผ้าพันมือและเท้า และที่หน้าก็มีผ้าพันอยู่ด้วย พระเยซูตรัสกับเขาทั้งหลายว่า <<จงแก้ผ้าที่พันออกเสีย แล้วปล่อยเขาเถิด>>

อ่าน ยอห์น 11

แผนการอ่าน และบทใคร่ครวญประจำวัน ตามหัวข้อ ยอห์น 11:1-44 ฟรี