ผู้วินิจฉัย 6:11-32

ผู้วินิจฉัย 6:11-32 TH1971

ฝ่ายทูตของพระเจ้ามานั่งอยู่ที่ใต้ ต้นก่อที่ตำบลโอฟราห์ ซึ่งเป็นของโยอาชตระกูลอาบีเยเซอร์ ฝ่ายกิเดโอนบุตรของท่านกำลังนวดข้าวสาลีอยู่ใน บ่อย่ำองุ่นเพื่อซ่อนให้พ้นตาคนมีเดียน ทูตของพระเจ้าปรากฏแก่กิเดโอนพูดกับเขาว่า <<เจ้าบุรุษผู้กล้าหาญเอ๋ย พระเจ้าทรงสถิตกับเจ้า>> กิเดโอนจึงทูลท่านผู้นั้นว่า <<ท่านเจ้าข้า ถ้าพระเจ้าทรงสถิตกับพวกเราแล้ว ไฉนเหตุเหล่านี้จึงเกิดขึ้นแก่เราเล่า และการอัศจรรย์ต่างๆ ของพระองค์ซึ่งปู่ย่าตายายเคยเล่าให้เราฟังว่า <พระเจ้าทรงนำเราออกจากอียิปต์มิใช่หรือ> แต่สมัยนี้พระเจ้าทรงทอดทิ้งเราเสียแล้ว และทรงมอบเราไว้ในมือของพวกมีเดียน>> และพระเจ้าทรงหันมาหาเขาตรัสว่า <<จงไปช่วยคนอิสราเอล ให้พ้นจากเงื้อมมือพวกมีเดียนด้วยกำลังของเจ้านี่แหละ เราใช้เจ้าให้ไปแล้ว มิใช่หรือ>> กิเดโอนจึงกราบทูลว่า <<ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์จะช่วยอิสราเอลได้อย่างไร ดูเถิด ตระกูลบิดาของข้าพระองค์ต่ำต้อยที่สุดในเผ่ามนัสเสห์ และตัวข้าพระองค์ก็เป็นคนเล็กน้อยที่สุดในครอบครัวของ ข้าพระองค์>> พระเจ้าตรัสกับเขาว่า <<แต่เราจะอยู่กับเจ้าแน่ และเจ้าจะได้โจมตีคนมีเดียนอย่างกับตีคนคนเดียว>> เขาก็ทูลพระองค์ว่า <<ถ้าบัดนี้ข้าพระองค์เป็นที่พอพระทัยของพระองค์ ขอพระองค์โปรดให้ข้าพระองค์เห็นหมายสำคัญว่า ผู้ที่พูดอยู่กับข้าพระองค์นี้คือพระองค์เอง ขอพระองค์อย่าเสด็จไปเสียจากที่นี่ จนกว่าข้าพระองค์จะกลับมาหาพระองค์ และนำของมาตั้งถวายต่อพระพักตร์>> และพระองค์ตรัสว่า <<เราจะคอยอยู่จนกว่าเจ้าจะกลับมาอีก>> กิเดโอนก็กลับเข้าบ้าน จัดลูกแพะตัวหนึ่งกับแป้งเอฟาห์หนึ่งทำขนมไร้เชื้อ เขาเอาเนื้อใส่กระจาด ส่วนน้ำแกงใส่ในหม้อ นำสิ่งเหล่านี้มาถวายพระองค์ที่ใต้ต้นก่อหลวง และทูตของพระเจ้าบอกเขาว่า <<จงเอาเนื้อและขนมไร้เชื้อวางไว้บนศิลานี้ เทน้ำแกงราดของเหล่านั้น>> กิเดโอนก็กระทำตาม แล้วทูตของพระเจ้าก็เอาปลายไม้ที่ถืออยู่แตะต้อง เนื้อและขนมไร้เชื้อ และมีไฟลุกขึ้นมาจากศิลาไหม้เนื้อและขนมไร้เชื้อจนหมด และทูตของพระเจ้าก็หายไปพ้นสายตาของเขา กิเดโอนก็ทราบว่า เป็นทูตของพระเจ้าจริง และกิเดโอนพูดว่า <<ข้าแต่พระเจ้า บัดนี้ ข้าพระองค์ได้เห็นทูตของพระเจ้าต่อหน้าต่อตาอนิจจาเอ๋ย>> แต่พระเจ้าตรัสกับกิเดโอนว่า <<สวัสดิภาพจงมีอยู่แก่เจ้า เจ้าอย่ากลัวเลย เพราะเจ้าจะไม่ตาย>> ฝ่ายกิเดโอนก็สร้างแท่นบูชาแท่นหนึ่งถวายพระเจ้าที่นั่น และเรียกตำบลนั้นว่า พระเจ้าคือสวัสดิภาพ ทุกวันนี้แท่นนั้นก็ยังอยู่ที่โอฟราห์ ซึ่งเป็นของตระกูลอาบีเยเซอร์ อยู่มาในคืนวันนั้นพระเจ้าตรัสสั่งกิเดโอนว่า <<จงเอาโคผู้ของบิดาคือโคผู้ตัวที่สองที่มีอายุเจ็ดปีมา ไปพังแท่นพระบาอัลซึ่งบิดาของเจ้ามีอยู่นั้นลงเสีย จงโค่นอาเชราห์ซึ่งอยู่ข้างๆแท่นเสียด้วย และสร้างแท่นบูชาถวายแด่ พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าที่บนป้อมนี้ ใช้ก้อนหินก่อให้เป็นระเบียบ แล้วนำโคตัวที่สองนั้นฆ่าเสีย ถวายเป็นเครื่องเผาบูชา เผาด้วยไม้รูปอาเชราห์ซึ่งเจ้าโค่นมานั้น>> กิเดโอนจึงนำคนใช้สิบคนไป กระทำตามที่พระเจ้าตรัสสั่งแก่เขา แต่เพราะกิเดโอนกลัวครอบครัวของตน และกลัวชาวเมือง จนไม่กล้าทำกลางวัน จึงกระทำในเวลากลางคืน เมื่อชาวเมืองตื่นขึ้นในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ดูเถิด แท่นบูชาพระบาอัลพังทลาย และอาเชราห์ที่อยู่ข้างๆก็ถูกโค่นลง และมีโคผู้ตัวที่สองวางบูชาอยู่บนแท่นที่สร้างขึ้นใหม่นั้น เขาจึงพูดกันและกันว่า <<ใครทำอย่างนี้นะ>> เมื่อเขาได้สืบถามแล้ว เขาทั้งหลายจึงกล่าวว่า <<กิเดโอนบุตรของโยอาชได้กระทำสิ่งนี้>> แล้วชาวเมืองจึงบอกโยอาชว่า <<จงมอบลูกของเจ้านั้นมาให้ประหารชีวิตเสีย เพราะเขาได้พังแท่นของพระบาอัล และโค่นอาเชราห์ที่อยู่ข้างแท่นนั้น>> แต่โยอาชได้ตอบคนที่มาฟ้องนั้นว่า <<ท่านทั้งหลายจะเป็นพยานแทนพระบาอัลหรือ จะสู้ความแทนหรือ ผู้ใดที่เป็นทนายแทนพระบาอัลจะต้องถูก ประหารชีวิตเช้านี้แหละ ถ้าพระบาอัลเป็นพระแท้ก็ให้สู้คดีเองเถิด เพราะมีคนมาพังแท่นของท่านลง>> วันนั้นเขาจึงตั้งชื่อท่านว่า เยรุบบาอัล ใจความว่า <<ให้บาอัลสู้คดีเอง>> เพราะเขาพังแท่นของท่าน

แผนการอ่าน และบทใคร่ครวญประจำวัน ตามหัวข้อ ผู้วินิจฉัย 6:11-32 ฟรี