อพยพ 34:4-35

อพยพ 34:4-35 TH1971

ฝ่ายโมเสสจึงสกัดศิลาสองแผ่นเหมือนสองแผ่นแรก แล้วท่านก็ตื่นแต่เช้า ขึ้นไปบนภูเขาซีนายตามรับสั่งของพระเจ้า ถือศิลาไปสองแผ่น ฝ่ายพระเจ้าเสด็จลงมาในเมฆ และโมเสสยืนอยู่กับพระองค์ที่นั่น และออกพระนามพระเจ้า พระเจ้าเสด็จผ่านไปข้างหน้าท่าน ตรัสว่า <<พระเยโฮวาห์ พระเยโฮวาห์ พระเจ้าผู้ทรงพระกรุณา ทรงกอปรด้วยพระคุณ ทรงกริ้วช้า และบริบูรณ์ด้วยความรักมั่นคง และความสัตย์จริง ผู้ทรงสำแดงความรักมั่นคงต่อมนุษย์กระทั่งพันชั่วอายุ ผู้ทรงโปรดยกโทษการล่วงละเมิด การทรยศ และบาปของเขาเสีย แต่จะทรงถือว่า ไม่มีโทษก็หามิได้ และให้โทษบิดาตกทอดไปถึงลูกหลานสามชั่ว สี่ชั่วอายุคน>> ฝ่ายโมเสสจึงรีบกราบลงที่พื้นดินนมัสการ แล้วทูลว่า <<ข้าแต่พระเจ้า ถ้าแม้ข้าพระองค์ได้รับความโปรดปรานจากพระองค์ แม้ว่าชนชาตินั้นหัวแข็ง ก็ขอพระองค์โปรดเสด็จไปท่ามกลางพวกข้าพระองค์ และขอทรงโปรดยกโทษ และบาปของพวกข้าพระองค์ และโปรดรับพวกข้าพระองค์เป็นมรดกของพระองค์ด้วย>> ฝ่ายพระองค์ตรัสว่า <<ดูเถิด เราจะทำพันธสัญญาไว้ เราจะทำการอัศจรรย์ต่อหน้าชนชาติของเจ้า ซึ่งไม่มีผู้ใดกระทำในประชาชาติใดทั่ว พิภพและประชาชนทั้งปวง ซึ่งเจ้าอยู่ท่ามกลางเขานั้น จะเห็นกิจการของพระเจ้า เพราะการซึ่งเราจะทำต่อเจ้านั้น จะเป็นสิ่งที่น่ากลัวยิ่งนัก <<จงถือตามคำซึ่งเราบัญชาเจ้าในวันนี้ ดูเถิด เราจะไล่คนอาโมไรต์ คนคานาอัน คนฮิตไทต์ คนเปริสซี คนฮีไวต์ และคนเยบุส ไปให้พ้นหน้าเจ้า จงระวังตัวให้ดี อย่ากระทำพันธสัญญากับชาวเมืองซึ่งเจ้าจะไปถึงนั้น เกรงว่าจะเป็นบ่วงแร้วดักพวกเจ้า แต่เจ้าทั้งหลายจงทำลายแท่นบูชาและทุบเสา อันศักดิ์สิทธิ์ของเขาให้แหลกละเอียด และโค่นบรรดาอาเชริมของเขาเสีย (เจ้าอย่านมัสการพระอื่นเลย เพราะพระเจ้าผู้ทรงพระนามว่าหวงแหน เป็นพระเจ้าผู้ทรงหวงแหน) เกรงว่าเจ้าจะทำพันธสัญญากับชาวเมืองนั้น และเมื่อเขาเล่นชู้กับพระของเขา และถวายสัตวบูชาแก่รูปเคารพนั้น เขาจะเชิญ พวกเจ้าไปร่วมด้วย และพวกเจ้าจะไปกินของที่เขาถวายบูชานั้น เกรงว่าเจ้าจะรับบุตรหญิงของเขามาเป็นภรรยาบุตรชายของเจ้า และบุตรหญิงของเขานั้นจะไปเล่นชู้กับพระของเขา และชักชวนให้บุตรชายของเจ้าไปเล่นชู้กับพระนั้นด้วย <<เจ้าอย่าหล่อรูปพระไว้สำหรับตัวเองเลย <<เจ้าทั้งหลายจงถือเทศกาลกินขนมปัง ไร้เชื้อ จงกินขนมปังไร้เชื้อ ให้ครบเจ็ดวันตามกำหนดในเดือนอาบีบตามที่เราบัญชาเจ้า เพราะเจ้าออกจากอียิปต์ในเดือนอาบีบ ทุกสิ่งซึ่งออกจากครรภ์ครั้งแรกเป็นของเรา คือสัตว์ตัวผู้ทั้งหมดของเจ้า ลูกหัวปีของโคและของแกะ ส่วนลูกลาหัวปีนั้นเจ้าจงนำลูกแกะมาไถ่ไว้ ถ้าแม้เจ้ามิได้ไถ่ก็จงหักคอมันเสีย บุตรหัวปีทั้งหลายของพวกเจ้านั้นจะต้องไถ่ไว้ ด้วย อย่าให้ผู้ใดมาเฝ้าเรามือเปล่าเลย <<เจ้าจงทำการงานในกำหนดหกวัน แต่วันที่เจ็ดจงพัก แม้ว่าในฤดูไถนาและฤดูเกี่ยวข้าวก็จงพัก จงถือเทศกาลสัปดาห์ คือเทศกาลเลี้ยงฉลองผลต้นฤดูเกี่ยวข้าวสาลี และถือเทศกาลเลี้ยงฉลองการเก็บผลิตผลในปลาย ปี บรรดาผู้ชายทั้งหลายของพวกเจ้าต้องมาประชุมกันต่อ พระพักตร์พระเจ้าแห่งอิสราเอลปีละสามครั้ง เพราะเราจะขับไล่ชนชาติทั้งหลายออกไปให้พ้นหน้าพวกเจ้า และจะขยายเขตแดนเมืองของเจ้าให้กว้างออกไป เมื่อพวกเจ้าจะขึ้นไปเฝ้าพระเจ้าของเจ้าปีละสามครั้งนั้น จะไม่มีใครอยากได้แผ่นดินของเจ้าเลย <<อย่าถวายเลือดบูชา พร้อมกับขนมปังมีเชื้อ และเครื่องบูชาอันเกี่ยวกับเทศกาลเลี้ยงปัสกานั้น อย่าให้เหลือไว้จนถึงวันรุ่งขึ้น จงคัดพืชผลแรกจากผลรุ่นแรกในไร่นามาถวายใน พระนิเวศพระเจ้าของเจ้า อย่าต้มเนื้อลูกแพะด้วยน้ำนมแม่ของมันเลย>> พระเจ้าตรัสกับโมเสสอีกว่า <<คำเหล่านี้จงเขียนไว้ เพราะเราทำพันธสัญญาไว้กับเจ้า และพวกอิสราเอลตามข้อความเหล่านี้แล้ว>> ฝ่ายโมเสสเฝ้าพระเจ้าอยู่ที่นั่นสี่สิบวันสี่สิบคืน มิได้รับประทานอาหารหรือน้ำเลย และท่านจารึกคำพันธสัญญาไว้ที่แผ่นศิลา คือพระบัญญัติสิบประการ อยู่ต่อมาเมื่อโมเสสได้ลงมาจากภูเขาซีนาย ถือแผ่นพระโอวาทสองแผ่นมาด้วย เวลาที่ลงมาจากภูเขานั้น โมเสสก็ไม่ทราบว่าผิวหน้าของตนทอแสงเนื่องด้วย พระเจ้าทรงสนทนากับท่าน เมื่ออาโรนและคนอิสราเอลทั้งปวงมองดูโมเสส ก็เห็นว่าผิวหน้าของท่านทอแสง และเขาก็กลัวไม่กล้าเข้ามาใกล้ท่าน ฝ่ายโมเสสเรียกเขามา แล้วอาโรนกับบรรดาประมุข ของประชาชนก็กลับมาหาโมเสส และท่านสนทนากับเขา แล้วหลังจากที่คนอิสราเอลเข้ามาใกล้ โมเสสก็ให้บัญญัติแก่เขาตามที่พระเจ้าตรัส แก่ท่านทุกข้อบนภูเขาซีนาย เมื่อท่านพูดจบแล้ว ก็ใช้ผ้าคลุมหน้าไว้ แต่เมื่อไรที่โมเสสเข้าเฝ้าทูลพระเจ้า ท่านก็ปลดผ้านั้นออกเสีย จนกว่าจะกลับออกมาแล้วท่านออกมาเล่าให้คนอิสราเอลฟัง ตามที่ท่านรับพระบัญชามาแล้วนั้น และคนอิสราเอลดูหน้าของโมเสส คือเห็นผิวหน้าของโมเสสทอแสง ฝ่ายโมเสสใช้ผ้าคลุมหน้าไว้อีกทุกครั้ง จนกว่าจะเข้าไปทูลพระองค์

อ่าน อพยพ 34