เฉลยธรรมบัญญัติ 19
19
เมืองลี้ภัยและขอบเขตโบราณ
(กดว. 35:9-28; ยชว. 20:1-9)
1<<เมื่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของ ท่านทั้งหลายทรงอเปหิบรรดาประชาชาติ ผู้ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของ ท่านประทานแผ่นดินของเขาแก่ท่าน และท่านทั้งหลายขับไล่เขาออกไป และเข้าไปอยู่ในหัวเมืองและในบ้านเรือนของเขาเหล่านั้น 2ท่านจงแยกเมืองไว้สามเมือง#ยชว. 20:1-9สำหรับ พวกท่านทั้งหลาย ในแผ่นดินซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ประทานแก่ท่านเป็นกรรมสิทธิ์นั้น 3ท่านจงจัดเตรียมให้มีทาง และจงแบ่งแผ่นดินซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้า ของท่านประทานแก่ท่านเป็นกรรมสิทธิ์นั้นออกเป็นสามส่วน เพื่อว่าผู้ใดที่ได้ฆ่าคนแล้วจะหลบหนีไป อยู่ในเมืองเหล่านั้นได้
4<<ต่อไปนี้เป็นเรื่องของคนฆ่าคนผู้ที่หนีไปอยู่ ในเมืองเหล่านั้นได้และรอดชีวิตอยู่ คือผู้ใดที่ได้ฆ่าเพื่อนบ้านของตนโดยมิได้เจตนา โดยมิได้เป็นอริกันมาก่อน 5อาทิเช่นชายคนหนึ่งเข้าไปในป่าพร้อม กับเพื่อนบ้านของเขาเพื่อจะตัดไม้ เมื่อเขาเหวี่ยงขวานเพื่อจะโค่นต้นไม้ลง หัวขวานหลุดจากด้ามถูกเพื่อนบ้านของเขาและคนนั้นก็ถึงตาย ก็ให้เขาหนีไปยังเมืองเหล่านี้เมืองใดเมืองหนึ่งและรอด ตายได้ 6ด้วยเกรงว่าผู้อาฆาตกำลังโกรธจัดจะไล่ตาม ชายผู้ฆ่าคนคนนั้นทัน เพราะหนทางไกลแล้วฆ่าเขาเสียแม้ว่าชายผู้นั้น ไม่มีโทษถึงตาย เพราะเขามิได้เป็นอริกับเพื่อนบ้านของเขามาก่อน 7เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าจึงบัญชาท่านว่า ให้ท่านจัดแยกหัวเมืองไว้สามหัวเมือง 8และถ้าพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านขยาย อาณาเขตของท่าน ดังที่พระองค์ได้ทรงปฏิญาณไว้กับบรรพบุรุษของท่าน และประทานแผ่นดินทั้งสิ้นซึ่งพระองค์ทรงสัญญาจะประทาน แก่บรรพบุรุษของท่านให้แก่ท่าน 9โดยมีข้อแม้ว่า ท่านได้ระวังที่จะรักษาบัญญัติทั้งหมดนี้ ซึ่งข้าพเจ้าได้บัญชาท่านในวันนี้โดยที่ท่านทั้งหลายรัก พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน และดำเนินอยู่ในพระมรรคาของพระองค์เสมอ แล้วท่านจงเพิ่มหัวเมืองอีกสามหัวเมืองนอกจาก สามหัวเมืองเหล่านั้น 10ด้วยเกรงว่าผู้ที่ไม่มีผิดจะตายในแผ่นดินของท่าน ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านประทานแก่ท่านเป็นมรดก และท่านทั้งหลายจึงต้องรับผิดชอบความผิดในเรื่อง ที่เขาตายนั้น
11<<แต่ทว่าผู้ใดเกลียดชังเพื่อนบ้านของตน และซุ่มคอยดักเขาอยู่และได้ลอบตีเขาถึงแก่ความตาย แล้วชายผู้นั้นก็หนีเข้าไปในหัวเมืองเหล่านั้นเมืองใดเมืองหนึ่ง 12แล้วพวกผู้ใหญ่ในเมืองของชาย ผู้นั้นจะส่งคนให้ไปรับตัวชายผู้นั้นมาจากที่นั่น และส่งตัวเขาให้แก่ผู้อาฆาต เพื่อเขาจะต้องถูกโทษถึงตาย 13ท่านอย่าเมตตาสงสารเขาเลย แต่ท่านจงกำจัดความผิดอันเนื่องจาก ความตายของผู้ที่มิได้กระทำผิดนั้น ให้สิ้นไปจากอิสราเอลเพื่อท่านทั้งหลายจะได้ไปดีมาดี
14<<ในเรื่องมรดกซึ่งท่านจะรับในแผ่นดิน ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านประทานแก่ ท่านเป็นกรรมสิทธิ์นั้น ท่านอย่ายกย้ายเสาเขตของเพื่อนบ้านของท่าน#ฉธบ. 27:17 ซึ่งคนโบราณได้ปักไว้
กฎหมายเกี่ยวกับพยาน
15<<อย่าให้พยานปากเดียวยืนยันกล่าวโทษผู้หนึ่งผู้ใด ไม่ว่าในเรื่องอาชญากรรม หรือในเรื่องความผิดใดๆซึ่งเขาได้กระทำผิดไป แต่ต้องมีพยานสองหรือสามปาก คำพยานนั้นจึงจะเป็นที่เชื่อถือได้#กดว. 35:30; ฉธบ. 17:6; มธ. 18:16; ยน. 19:31; 2 คร. 13:1; 1 ทธ. 5:19; ฮบ. 10:28 16ถ้ามีพยานกล่าวปรักปรำความผิดของคนหนึ่งคนใด 17ก็ให้ทั้งสองฝ่ายที่ต่อสู้คดีกันนั้นเข้าเฝ้าพระเจ้า ต่อหน้าปุโรหิตและผู้พิพากษาซึ่งประจำหน้าที่อยู่ในกาลนั้นๆ 18ผู้พิพากษาจะอุตส่าห์ไต่สวน ถ้าพยานนั้นเป็นพยานเท็จกล่าวปรักปรำพี่น้องของตน เป็นความเท็จ 19ท่านจงกระทำต่อพยานคนนั้นดังที่เขาตั้งใจจะ กระทำแก่พี่น้องของตน ดังนี้แหละท่านจะกำจัดความชั่วจากท่ามกลางท่านเสีย 20คนอื่นๆจะได้ยินได้ฟัง และยำเกรงไม่กระทำผิดเช่นนั้นท่ามกลางพวกท่านทั้งหลายอีก 21อย่าให้นัยน์ตาของท่านเมตตาสงสาร ควรให้ชีวิตแทนชีวิต ตาแทนตา ฟันแทนฟัน#อพย. 21:23-25; ลนต. 24:19-20; มธ. 5:38 มือแทนมือ เท้าแทนเท้า
ที่ได้เลือกล่าสุด:
เฉลยธรรมบัญญัติ 19: TH1971
เน้นข้อความ
แบ่งปัน
คัดลอก
ต้องการเน้นข้อความที่บันทึกไว้ตลอดทั้งอุปกรณ์ของคุณหรือไม่? ลงทะเบียน หรือลงชื่อเข้าใช้