1 ซามูเอล 30:4-31

1 ซามูเอล 30:4-31 TH1971

แล้วดาวิดกับประชาชนที่อยู่กับท่านก็ร้องไห้เสียง ดังจนเขาไม่มีกำลังจะร้องไห้อีก อาหิโนอัมชาวยิสเรเอล และอาบีกายิลแม่ม่ายของนาบาลชาวคารเมล ภรรยาทั้งสองของดาวิดก็ถูกกวาดไปเป็นเชลย ด้วย และดาวิดก็เป็นทุกข์หนักเพราะประชาชนพูดกันว่า จะขว้างท่าน เสียด้วยก้อนหินด้วยจิตใจของประชาชนต่างก็ขมขื่นมาก เพราะบุตรชายและบุตรหญิงของเขา แต่ดาวิดก็มีกำลังขึ้นในพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ดาวิดจึงพูดกับอาบียาธาร์ ปุโรหิตบุตรของอาหิเมเลคว่า <<ขอนำเอโฟดมาให้ข้าพเจ้า>> อาบียาธาร์ก็นำเอโฟดมาให้ดาวิด และดาวิดทูลถามพระเจ้าว่า <<สมควรที่ข้าพระองค์จะติดตามกองปล้นนี้หรือ ข้าพระองค์จะขับทันเขาหรือ>> พระองค์ตอบท่านว่า <<จงติดตามเถิด เจ้าจะไปทันเขาแน่ และจะช่วยได้แน่>> ดาวิดก็ยกออกติดตามพร้อมกับคนที่อยู่กับท่านหกร้อยนั้น และเขามาถึงลำธารเบโสร์ คนที่ล้าหลังก็พักอยู่ที่นั่น แต่ดาวิดติดตามต่อไป ทั้งตัวท่านและคนสี่ร้อย สองร้อยที่อ่อนเพลียเกินที่จะข้ามลำธารเบโสร์ก็หยุดพักอยู่ เขาทั้งหลายพบชาวอียิปต์คนหนึ่งอยู่ที่กลางแจ้ง จึงนำเขามาหาดาวิด ให้ขนมปังและเขาก็รับประทานและให้น้ำเขาดื่ม และให้ขนมมะเดื่อแผ่นหนึ่งกับช่อองุ่นแห้งสองช่อ เมื่อเขารับประทานแล้ว จิตใจของเขาก็ฟื้นขึ้น เพราะเขาไม่ได้รับประทานขนมปังหรือ ดื่มน้ำมาสามวันสามคืนแล้ว และดาวิดถามเขาว่า <<เจ้าเป็นคนพวกไหน และเจ้ามาจากไหน>> เขาตอบว่า <<ข้าพเจ้าเป็นคนหนุ่มชาวอียิปต์ เป็นคนใช้ของคนอามาเลข คนหนึ่ง เมื่อสามวันมาแล้วข้าพเจ้าป่วยนายข้าพเจ้าจึงทิ้งข้าพเจ้าไว้ เรามาปล้นที่ถิ่นใต้ของคนเคเรธี และปล้นที่ส่วนของยูดาห์ และที่ถิ่นใต้ของคาเลบ และเราเผาเมืองศิกลากเสียด้วยไฟ>> ดาวิดถามเขาว่า <<เจ้าจะพาเราลงไปถึงกองปล้นนี้หรือไม่>> เขาตอบว่า <<ขอปฏิญาณแก่ข้าพเจ้าในพระนามของพระเจ้าว่า จะไม่ฆ่าข้าพเจ้า และท่านจะไม่มอบข้าพเจ้าไว้ในมือนายของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจึงจะพาท่านไปที่กองปล้นนั้น>> เมื่อเขาพาท่านลงไปแล้ว ดูเถิด ก็พบเขาทั้งหลายแผ่กันอยู่เต็มดินไปหมด ต่างกินและดื่มและเต้นรำเพราะเขาริบได้ข้าว ของมากมายมาจากแผ่นดินฟีลิสเตียและจากแผ่นดินยูดาห์ และดาวิดก็ฆ่าฟันเขาตั้งแต่โพล้เพล้จนถึงเวลา เย็นของวันรุ่งขึ้น ไม่มีชายคนใดหนีรอดไปได้สักคนเดียว เว้นแต่ชายสี่ร้อยคนซึ่งขี่อูฐหนีไป ดาวิดได้สิ่งของต่างๆ ที่คนอามาเลขริบคืนมาทั้งหมด และดาวิดช่วยภรรยาทั้งสองของท่านมาได้ ไม่มีอะไรขาดจากท่านไปเลย ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ บุตรชายหรือบุตรหญิง ในสิ่งที่ริบไปหรือสิ่งที่เขาเหล่านั้นเอาไป ดาวิดได้คืนมาหมด ดาวิดยังจับได้บรรดาฝูงแพะ แกะ ฝูงโค และเขาไล่ต้อนฝูงสัตว์ไปข้างหน้า ท่านกล่าวว่า <<นี่เป็นส่วนหนึ่งของดาวิดริบมา>> แล้วดาวิดกลับมายังคน สองร้อยผู้ที่อ่อนเพลียเกินที่จะตามดาวิดไป ซึ่งให้พักอยู่ที่ลำธารเบโสร์ และเขาก็ออกไปต้อนรับดาวิด และต้อนรับประชาชนที่อยู่กับท่าน เมื่อดาวิดเข้ามาใกล้ประชาชน ท่านก็คำนับเขาทั้งหลาย คนอธรรมและคนถ่อยทั้งสิ้น ในพวกพลที่ติดตามดาวิดไปจึงกล่าวว่า <<เพราะเขาไม่ไปกับเรา เราจะไม่ให้สิ่งที่เรากู้มาได้แก่เขาเลย นอกจากให้ต่างคนมาพาภรรยาและบุตรของเขาไปก็แล้วกัน>> แต่ดาวิดกล่าวว่า <<พี่น้องทั้งหลายของข้าพเจ้าเอ๋ย ท่านอย่าทำอย่างนั้นกับสิ่งซึ่งพระเจ้าทรงมอบแก่เรา ผู้ได้ทรงพิทักษ์รักษาเราไว้และทรงมอบกองปล้นซึ่ง มาต่อสู้กับเราไว้ในมือของเรา ในเรื่องนี้ใครจะฟังเสียงของท่าน เพราะคนที่ลงไปรบได้ส่วนแบ่งของเขาอย่างไร คนที่เฝ้ากองสัมภาระอยู่ก็ควรได้ส่วนแบ่งอย่างนั้น ให้เขาทั้งหลายรับส่วนแบ่งเหมือนกัน>> ตั้งแต่นั้นเป็นต้นไป ดาวิดก็ตั้งข้อนี้ให้เป็นกฎเกณฑ์และกฎหมายแก่ อิสราเอลจนทุกวันนี้ เมื่อดาวิดมาถึงเมืองศิกลากแล้ว ก็ส่งของที่ริบได้นั้นส่วนหนึ่งไปให้เพื่อน ซึ่งเป็นพวกผู้ใหญ่ในยูดาห์กล่าวว่า <<นี่เป็นของขวัญฝากมาให้ท่านซึ่งเป็นส่วนของของริบจาก ศัตรูของพระเจ้า>> คือแก่คนที่อยู่ในเบธเอลในราโมทที่เนเกบ ในยัททีร ในอาโรเออร์ ในสิฟโมท ในเอชเทโมอา ในราคาล ในหัวเมืองของคนเยราเมเอล ในหัวเมืองของคนเคไนต์ ในโฮเรมาห์ ในโบราชาน ในอาธาค ในเฮโบรน คือให้แก่ทุกตำบลที่ดาวิดกับคนของท่านได้เคยไปๆมาๆ

วิดีโอสำหรับ 1 ซามูเอล 30:4-31

แผนการอ่าน และบทใคร่ครวญประจำวัน ตามหัวข้อ 1 ซามูเอล 30:4-31 ฟรี