1 พงศ์กษัตริย์ 12
12
อิสราเอลกบฏ
(2 พศด. 10:1-14)
1เรโหโบอัมได้ไปยังเมืองเชเคม เพราะอิสราเอลทั้งปวงได้มายังเชเคม เพื่อจะตั้งท่านให้เป็นกษัตริย์ 2และอยู่มาเมื่อเยโรโบอัมบุตรเนบัททราบเรื่อง (เพราะท่านยังอยู่ในอียิปต์ที่ซึ่งท่านหนีไปจากพระราชา ซาโลมอน เยโรโบอัมอาศัยอยู่ในอียิปต์ 3เขาทั้งหลายก็ใช้คนไปเรียกท่าน) เยโรโบอัมกับชุมนุมชนอิสราเอล ทั้งหมดได้มาทูลเรโหโบอัมว่า 4<<พระราชบิดาของฝ่าพระบาทได้กระทำให้แอกของ ข้าพระบาทหนักนัก เพราะฉะนั้น บัดนี้ขอทรงผ่อนการปรนนิบัติอย่างทุกข์หนักของ พระราชบิดาของฝ่าพระบาท และแอกอันหนักของพระองค์เหนือข้าพระบาททั้งหลาย ให้เบาลงเสีย และข้าพระบาททั้งหลายจะปรนนิบัติฝ่าพระบาท>> 5พระองค์ตรัสกับเขาว่า <<จงกลับไปเสียสักสามวัน แล้วจึงมาหาเราอีก>> ประชาชนจึงกลับไป
6แล้วพระราชาเรโหโบอัมก็ทรงปรึกษากับบรรดาผู้เฒ่า ผู้อยู่งานประจำซาโลมอนราชบิดาของพระองค์ ขณะเมื่อพระองค์ยังทรงพระชนม์อยู่ว่า <<ท่านทั้งหลายจะแนะนำเราให้ตอบประชาชนนี้อย่างไร>> 7เขาทั้งหลายทูลพระองค์ว่า <<ถ้าพระองค์จะทรงเป็นผู้รับใช้ ประชาชนนี้ในวันนี้และฟังเขา และตรัสตอบคำดีแก่เขา เขาทั้งหลายก็จะเป็นผู้รับใช้ของพระองค์เป็นนิตย์>> 8แต่พระองค์ทรงทอดทิ้งคำปรึกษาซึ่งผู้เฒ่าถวายนั้นเสีย และไปปรึกษากับคนหนุ่มซึ่งเติบโตขึ้นมาพร้อมกับพระองค์ และอยู่งานประจำพระองค์ 9และพระองค์ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า <<ท่านจะแนะนำเราอย่างไรเพื่อพวกเราจะตอบประชาชนนี้ ผู้ที่ทูลเราว่า <ขอทรงผ่อนแอกซึ่งพระราชบิดาของ พระองค์วางอยู่เหนือข้าพระบาททั้งหลายให้เบาลง> >> 10และคนหนุ่มเหล่านั้นผู้ได้เติบโต มาพร้อมกับพระองค์ทูลพระองค์ว่า <<พระองค์จงตรัสดังนี้แก่ประชาชนนี้ ผู้ทูลพระองค์ว่า <พระราชบิดาของพระองค์ได้กระทำให้แอกของ ข้าพระบาททั้งหลายหนัก แต่ขอพระองค์ทรงผ่อนแก่ข้าพระบาทให้เบาลง> นั้น พระองค์จงตรัสแก่เขาทั้งหลายอย่างนี้ว่า <นิ้วก้อยของเราก็หนากว่าเอวแห่งราชบิดาของเรา 11ที่พระราชบิดาของเราวางแอกหนักบนท่าน ทั้งหลายก็ดีแล้ว เราจะเพิ่มให้แก่แอกของท่านทั้งหลายอีก พระราชบิดาของเราตีสอนท่านทั้งหลายด้วยไม้เรียว แต่เราจะตีสอนท่านทั้งหลายด้วยแส้แมงป่อง> >>
12เยโรโบอัมกับประชาชนทั้งปวงจึงเข้ามา เฝ้าเรโหโบอัมในวันที่สาม ดังที่พระราชารับสั่งว่า <<จงมาหาเราอีกในวันที่สาม>> 13และพระราชาตรัสตอบประชาชนอย่างดุดัน ทรงทอดทิ้งคำปรึกษาซึ่งผู้เฒ่าได้ถวายนั้นเสีย 14และตรัสกับเขาทั้งหลายตามคำปรึกษาของพวกคนหนุ่มว่า <<พระราชบิดาของเราทำแอกของท่านทั้งหลายให้หนัก แต่เราจะเพิ่มให้แก่แอกของท่านทั้งหลายอีก พระราชบิดาของเราตีสอนท่านทั้งหลายด้วยไม้เรียว แต่เราจะตีสอนท่านทั้งหลายด้วยแส้แมงป่อง>> 15พระราชาจึงมิได้ฟังเสียงประชาชนเพราะ เหตุการณ์นั้นเป็นมาแต่พระเจ้า เพื่อพระองค์จะทรงกระทำให้พระวจนะของพระองค์ได้สำเร็จ ซึ่งพระเจ้าตรัสโดยอาหิยาห์ชาวชีโลห์แก่ เยโรโบอัมบุตรเนบัท
16และเมื่ออิสราเอลทั้งปวงเห็นว่า พระราชามิได้ทรงฟังเขาทั้งหลาย ประชาชนก็ทูลตอบพระราชาว่า
<<ข้าพระบาททั้งหลายมีส่วนอะไรในดาวิด
ข้าพระบาททั้งหลายไม่มีส่วนมรดกในบุตรชายของเจสซี
โอ อิสราเอลเอ๋ย กลับไปเต็นท์ของตนเถิด#2 ซมอ. 20:1
ข้าแต่ดาวิด จงดูแลราชวงศ์ของพระองค์เองเถิด>>
อิสราเอลจึงจากไปยังบ้านเรือนของเขาทั้งหลาย 17แต่เรโหโบอัมทรงปกครองเหนือประชาชนอิสราเอล ผู้อาศัยอยู่ในหัวเมืองของยูดาห์ 18แล้วพระราชาเรโหโบอัมทรงใช้อาโดรัม นายงานเหนือแรงงานเกณฑ์ไป และอิสราเอลทั้งปวงก็เอาหินขว้างท่านถึงตาย แล้วพระราชาเรโหโบอัมก็ทรงรีบขึ้นรถรบของพระองค์ ทรงหนีไปยังกรุงเยรูซาเล็ม 19อิสราเอลจึงกบฏต่อราชวงศ์ของดาวิดจนทุกวันนี้ 20และอยู่มาเมื่ออิสราเอลทั้งปวงได้ ยินว่าเยโรโบอัมได้กลับมาแล้ว เขาก็ใช้ให้ไปเชิญท่านมายังที่ประชุม แล้วก็ตั้งท่านให้เป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอลทั้งปวง ไม่มีผู้ใดติดตามเชื้อวงศ์ของดาวิด เว้นแต่เผ่ายูดาห์เท่านั้น
21เมื่อเรโหโบอัมมายังกรุงเยรูซาเล็มแล้ว พระองค์ได้เรียกประชุมพงศ์พันธุ์ยูดาห์ทั้งหมด และเผ่าเบนยามินเป็นนักรบที่คัดเลือกแล้ว หนึ่งแสนแปดหมื่นคน เพื่อจะสู้รบกับพงศ์พันธุ์อิสราเอล เพื่อจะเอาราชอาณาจักรคืนมา ให้แก่เรโหโบอัมโอรสของซาโลมอน 22แต่พระวจนะของพระเจ้ามายังเชไมอาห์คนของพระเจ้า 23ว่า <<จงไปทูลเรโหโบอัมโอรสของซาโลมอน พระราชาแห่งยูดาห์ และบอกแก่พงศ์พันธุ์ทั้งสิ้นของยูดาห์ และของเบนยามิน และแก่ประชาชนที่เหลืออยู่ว่า 24<พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า เจ้าอย่าขึ้นไปสู้รบกับประชาชน อิสราเอลญาติพี่น้องของเจ้าเลย จงกลับไปยังบ้านของตนทุกคนเถิด เพราะสิ่งนี้เป็นมาจากเรา> >> เหตุฉะนี้เขาจึงจะเชื่อฟังพระวจนะของพระเจ้า และกลับไปบ้านเสียตามพระวจนะของพระเจ้า
เยโรโบอัมนำอิสราเอลให้กระทำบาป
25แล้วเยโรโบอัมก็สร้างเมืองเชเคมในถิ่นเทือกเขาเอฟราอิม และอาศัยอยู่ที่นั่น และท่านก็ออกไปจากที่นั่น ไปสร้างเมืองพนูเอล 26และเยโรโบอัมรำพึงในใจว่า <<คราวนี้ราชอาณาจักรจะหันกลับไปยังราชวงศ์ของดาวิด 27ถ้าชนชาติเหล่านี้ขึ้นไปถวายเครื่องสัตวบูชาใน พระนิเวศของพระเจ้าที่กรุงเยรูซาเล็ม แล้วจิตใจของชนชาติเหล่านี้จะหันกลับ ไปยังเจ้านายของเขาทั้งหลาย คือหันไปยังเรโหโบอัมพระราชาแห่งยูดาห์ และเขาทั้งหลายจะฆ่าเราเสีย และกลับไปยังเรโหโบอัมพระราชาแห่งยูดาห์>> 28ดังนั้นพระราชาจึงทรงปรึกษา และได้ทรงสร้างลูกวัวสองตัวด้วยทองคำ แล้วพระองค์ตรัสแก่ประชาชนว่า <<ที่ท่านทั้งหลายขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็มนานพออยู่แล้ว โอ อิสราเอลเอ๋ย จงดูพระเจ้าของท่านนี่แน่ะ พระองค์ผู้ทรงนำท่านทั้งหลายออกจากประเทศ อียิปต์>>#อพย. 32:4 29และพระองค์ก็ประดิษฐานไว้ที่เบธเอลรูปหนึ่ง และอีกรูปหนึ่งทรงประดิษฐานไว้ในเมืองดาน 30และสิ่งนี้ได้เป็นบาปเพราะว่าประชาชน ได้ไปยังรูปหนึ่งที่เบธเอล และไปยังอีกรูปหนึ่งไกลไปจนถึงเมืองดาน 31แล้วพระองค์ได้ทรงสร้างนิเวศที่ปูชนียสถานสูง ทรงกำหนดตั้งปุโรหิตจากหมู่ประชาชนทั้งปวง ผู้มิได้ เป็นคนเลวี 32และเยโรโบอัมทรงกำหนดเทศกาลเลี้ยง ในวันที่สิบห้าของเดือนที่แปดเหมือนกับการ เลี้ยงที่อยู่ในยูดาห์ และพระองค์ทรงถวายเครื่องสัตวบูชาบนแท่นบูชา พระองค์ทรงกระทำในเบธเอลดังนี้แหละ คือถวายเครื่องสัตวบูชาแก่รูปลูกวัวที่พระองค์ได้ทรงสร้างไว้นั้น และพระองค์ทรงสถาปนาปุโรหิตใน เบธเอลประจำที่ปูชนียสถานสูง ซึ่งพระองค์ทรงสร้างไว้ 33พระองค์ทรงขึ้นไปยังแท่นบูชา ซึ่งพระองค์ ทรงสร้างไว้ที่เบธเอลในวันที่สิบห้าเดือนที่แปด ในเดือนซึ่งพระองค์ทรงดำริเอง#ลนต. 23:33-34 และพระองค์ทรงกำหนดเทศกาลเลี้ยงสำหรับคนอิสราเอล และทรงขึ้นไปยังแท่นบูชาเพื่อถวายเครื่องหอม
ที่ได้เลือกล่าสุด:
1 พงศ์กษัตริย์ 12: TH1971
เน้นข้อความ
แบ่งปัน
คัดลอก
ต้องการเน้นข้อความที่บันทึกไว้ตลอดทั้งอุปกรณ์ของคุณหรือไม่? ลงทะเบียน หรือลงชื่อเข้าใช้