พวกท่านเป็นคนหน้าไหว้หลังหลอก อิสยาห์ได้เผยคำกล่าวของพระเจ้าถึงพวกท่านถูกต้องแล้วว่า ‘คนเหล่านี้ให้เกียรติเราเพียงแค่ปาก แต่ใจของเขาห่างไกลจากเรา พวกเขากราบนมัสการเราโดยไร้ประโยชน์ เขาสอนกฎเกณฑ์ของมนุษย์ เสมือนว่าเป็นคำสั่งสอนของพระเจ้า’” หลังจากพระองค์ได้เรียกฝูงชนมาแล้ว พระองค์กล่าวว่า “จงฟังและเข้าใจว่า ไม่ใช่สิ่งที่เข้าปากที่ทำให้คนเป็นมลทิน แต่สิ่งที่ออกจากปากนั่นแหละที่ทำให้คนเป็นมลทิน” บรรดาสาวกมาพูดกับพระองค์ว่า “พระองค์ทราบไหมว่า พวกฟาริสีโกรธเคืองมากที่ได้ยินพระองค์กล่าวเช่นนั้น” พระองค์กล่าวตอบว่า “ต้นไม้ทุกต้นที่พระบิดาในสวรรค์ของเราไม่ได้ปลูกไว้จะถูกถอนรากเสีย ช่างพวกเขาเถิด พวกคนตาบอดเป็นคนนำคนตาบอดเอง ถ้าชายตาบอดคนหนึ่งนำคนตาบอดอีกคนหนึ่ง ทั้งสองก็จะพากันตกบ่อ” เปโตรพูดตอบพระองค์ว่า “โปรดอธิบายคำอุปมาแก่พวกเราด้วย” พระเยซูกล่าวว่า “เจ้ายังไม่เข้าใจเช่นกันหรือ เจ้าไม่เข้าใจหรือว่า ทุกสิ่งที่เข้าปาก ผ่านเข้าไปในท้อง แล้วก็ออกนอกกายไป แต่สิ่งที่ออกจากปากมาจากใจ สิ่งนี้แหละที่ทำให้คนเป็นมลทิน เพราะว่าสิ่งที่ออกจากใจคือความคิดชั่วร้าย การฆ่าคน การผิดประเวณี การประพฤติผิดทางเพศ การลักขโมย การเป็นพยานเท็จ การใส่ร้าย สิ่งเหล่านี้ทำให้คนเป็นมลทิน แต่การรับประทานด้วยมือที่ไม่ล้างไม่ทำให้คนเป็นมลทิน” พระเยซูไปจากสถานที่นั้น และไปยังเขตเมืองไทระและไซดอน มีหญิงชาวคานาอันคนหนึ่งมาจากชายแดนนั้นส่งเสียงร้องว่า “พระองค์ท่าน บุตรของดาวิด โปรดเมตตาข้าพเจ้าด้วย ลูกสาวของข้าพเจ้าถูกมารสิงจนแย่แล้ว” พระองค์ไม่ตอบนางสักคำเดียว บรรดาสาวกของพระองค์มาขอร้องพระองค์ว่า “โปรดขับไล่นางไปเถิด เพราะนางร้องตะโกนตามพวกเรามา” พระองค์กล่าวตอบว่า “พระเจ้าส่งเรามายังชนชาติอิสราเอลเท่านั้น เพราะพวกเขาเป็นเสมือนฝูงแกะที่หลงหาย” นางมาก้มกราบเบื้องหน้าพระองค์แล้วกล่าวว่า “พระองค์ท่าน โปรดช่วยข้าพเจ้าด้วย” พระองค์กล่าวตอบว่า “การที่จะเอาอาหารของเด็กๆ โยนให้พวกสุนัขนั้นไม่ถูกต้อง” นางพูดว่า “ใช่แล้ว พระองค์ท่าน แต่ว่าแม้พวกสุนัขก็ยังกินเศษอาหารที่ตกจากโต๊ะของนายมัน” พระเยซูกล่าวตอบนางว่า “หญิงเอ๋ย เจ้ามีความเชื่อสูงส่ง จงเป็นไปตามที่เจ้าต้องการเถิด” ครั้นแล้วลูกสาวของนางก็หายดีเป็นปกติทันที พระเยซูจากที่นั่นไปตามริมทะเลสาบกาลิลี แล้วขึ้นไปนั่งอยู่บนภูเขา มหาชนพาคนง่อย คนพิการ คนตาบอด คนใบ้และอื่นๆ อีกมากมาหาพระองค์ พวกเขานำคนเหล่านั้นมาอยู่ที่แทบเท้าของพระองค์ แล้วพระองค์ก็รักษาพวกเขาให้หายขาด ฝูงชนพากันอัศจรรย์ใจเมื่อเห็นคนใบ้พูดได้ คนพิการหายเป็นปกติ คนง่อยเดินได้ คนตาบอดมองเห็น และเขาเหล่านั้นก็สรรเสริญพระเจ้าของอิสราเอล พระเยซูเรียกบรรดาสาวกของพระองค์มาหาและกล่าวว่า “เราสงสารบรรดาฝูงชน เพราะพวกเขาอยู่กับเรามาได้ 3 วันแล้วโดยไม่มีอะไรรับประทาน เราไม่อยากให้เขาเดินหิวกลับบ้านไป เขาอาจจะเป็นลมระหว่างทางก็ได้” บรรดาสาวกพูดกับพระองค์ว่า “ในที่กันดารเช่นนี้ พวกเราจะเอาขนมปังจากไหนมาเลี้ยงฝูงชนจำนวนมากได้” พระเยซูกล่าวกับพวกเขาว่า “พวกเจ้ามีขนมปังกี่ก้อน” เขาตอบว่า “7 ก้อนกับปลาเล็กๆ อีกสองสามตัว”
อ่าน มัทธิว 15
แบ่งปัน
เปรียบเทียบฉบับแปลทั้งหมด: มัทธิว 15:7-34
บันทึกข้อพระคำ อ่านแบบออฟไลน์ ดูคลิปการสอน และอื่น ๆ อีกมากมาย!
หน้าหลัก
พระคัมภีร์
แผนการอ่าน
วิดีโอ