เยเรมียาห์ 52
52
เยรูซาเล็มแตกและชาวเยรูซาเล็มถูกจับไปเป็นเชลย
(2 พกษ. 24:18–25:30; 2 พศด. 36:11-20; ยรม. 39:1-10)
1เศเดคียาห์มีอายุยี่สิบเอ็ดปีตอนที่ขึ้นเป็นกษัตริย์ แล้วพระองค์ก็ครองบัลลังก์อยู่สิบเอ็ดปี แม่ของพระองค์ชื่อฮามุทาล เป็นลูกสาวของเยเรมียาห์ผู้มาจากลิบนาห์ 2พระองค์ทำสิ่งที่พระยาห์เวห์เห็นว่าชั่วร้ายเหมือนกับที่เยโฮยาคิมเคยทำ 3ดังนั้น พระยาห์เวห์โกรธเยรูซาเล็มและยูดาห์มากจนถึงกับไล่พวกเขาไปจากพระองค์ เศเดคียาห์กบฏต่อกษัตริย์บาบิโลน 4ในวันที่สิบ เดือนสิบ ปีที่เก้าที่เศเดคียาห์เป็นกษัตริย์ กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลน และกองทัพทั้งหมดของพระองค์ก็ยกมาที่เยรูซาเล็มและตั้งค่ายรอบเมือง และสร้างอุปกรณ์โจมตีทั้งหลายไว้รอบกำแพงเมือง
5พวกนั้นโจมตีป้อมปราการครั้งแล้วครั้งเล่า จนถึงปีที่สิบเอ็ดของกษัตริย์เศเดคียาห์ 6ในวันที่เก้า เดือนสี่ ความอดอยากในเมืองนั้นก็แสนสาหัสนัก จนไม่มีอาหารให้ประชาชนกินกัน 7แล้วศัตรูก็ทลายกำแพงเข้ามาในเมือง ทหารทั้งหมดก็วิ่งหนี พวกเขาหนีออกนอกเมืองตอนกลางคืนไปตามถนน ผ่านทางประตูที่อยู่ระหว่างกำแพงสองชั้น ใกล้ๆสวนของกษัตริย์ ในขณะที่พวกบาบิโลนล้อมเมืองไว้ และพวกเขาก็หนีไปตามถนนที่ไปยังทะเลทรายอารบา
8ทหารบาบิโลนก็ไล่ตามกษัตริย์เศเดคียาห์ไป แล้วก็จับพระองค์ได้ในที่ราบของเยริโค แล้วทหารของเขาต่างพากันหนีกระเจิดกระเจิงไป 9พวกเขาจึงจับกุมกษัตริย์ไว้ และนำตัวไปให้กษัตริย์บาบิโลนที่ริบลาห์ในเขตฮามัท แล้วกษัตริย์บาบิโลนก็ตัดสินโทษพระองค์ 10กษัตริย์บาบิโลนฆ่าบรรดาลูกชายของเศเดคียาห์ต่อหน้าพระองค์ แล้วก็ฆ่าเจ้านายทั้งหมดของยูดาห์ที่ริบลาห์ด้วย 11พระองค์ได้ควักดวงตาทั้งสองข้างของกษัตริย์เศเดคียาห์ และเอาโซ่ทองสัมฤทธิ์มาล่ามพระองค์ไว้ กษัตริย์บาบิโลนเอาเศเดคียาห์ไปบาบิโลน แล้วขังพระองค์ไว้ในคุกจนตาย
คนยูดาห์ตกเป็นเชลย
12ในวันที่สิบเดือนที่ห้า ปีที่สิบเก้าที่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ปกครองบาบิโลน เนบูซาระดานหัวหน้าทหารองครักษ์ เจ้าหน้าที่ของกษัตริย์ ได้เข้าไปที่เยรูซาเล็ม 13เขาได้เผาวิหารของพระยาห์เวห์ วังของกษัตริย์ และบ้านเรือนทั้งหมดในเยรูซาเล็ม เขาเผาบ้านที่ใหญ่โตทุกหลัง
14แล้วกองทัพบาบิโลนทั้งสิ้นที่มากับหัวหน้าองครักษ์ ก็ทลายกำแพงทั้งหมดที่อยู่ล้อมรอบเมืองเยรูซาเล็มลง 15แล้วเนบูซาระดานหัวหน้าองครักษ์ ได้กวาดต้อน คนจนบางคน คนที่ยังหลงเหลืออยู่ในเมือง และคนที่ก่อนหน้านี้ได้ไปมอบตัวกับชาวบาบิโลนแล้ว และพวกช่างฝีมือที่เหลือ ไปบาบิโลนจนหมด 16แต่เนบูซาระดานหัวหน้าองครักษ์ ได้ทิ้งคนจนบางคนไว้ในแผ่นดิน เพื่อดูแลไร่องุ่นและทุ่งนา
17เสาทองสัมฤทธิ์ที่อยู่ในวิหารของพระยาห์เวห์ รวมทั้งแท่นบูชาเคลื่อนที่ และขันทะเลทองสัมฤทธิ์ที่อยู่ในวิหารของพระยาห์เวห์ พวกทหารบาบิโลนก็ทุบเป็นชิ้นๆแล้วขนเอาทองสัมฤทธิ์ทั้งหมดกลับไปที่บาบิโลน 18แล้วพวกบาบิโลนก็ขนเอา พวกหม้อ พลั่ว กรรไกรตัดไส้ตะเกียง พวกชามประพรม ชามเครื่องหอม และเครื่องใช้ทองสัมฤทธิ์ที่ใช้ในวิหารไปด้วย
19รวมทั้งชามเล็ก พวกกระถางใส่ขี้เถ้า และพวกชามสำหรับประพรม พวกหม้อ ที่ตั้งตะเกียง และชามสำหรับเครื่องหอม ขันเครื่องดื่มบูชา หัวหน้าองครักษ์เอาทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำจากทองและทำจากเงิน เพราะอยากได้ทองและเงินนั้น
20ส่วนทองสัมฤทธิ์ที่ได้จากเสาสองต้น ขันทะเล วัวทองสัมฤทธิ์สิบสองตัวที่เป็นฐานรองอยู่ใต้ขันทะเล และพวกแท่นบูชาเคลื่อนที่ ที่กษัตริย์ซาโลมอนได้สร้างไว้สำหรับวิหารของพระยาห์เวห์นั้น หนักเกินกว่าที่จะชั่งได้
21ส่วนพวกเสานั้น เสาต้นหนึ่งสูงสิบแปดศอก วัดโดยรอบได้สิบสองศอก หนาหนึ่งฝ่ามือ และตรงกลางกลวง 22หัวของเสาทำจากทองสัมฤทธิ์ สูงห้าศอก มีลายตาข่าย มีผลทับทิมล้อมอยู่รอบหัวเสานั้น ทั้งหมดทำจากทองสัมฤทธิ์ เสาต้นที่สองและผลทับทิมก็สร้างแบบเดียวกัน 23ในแต่ละด้านมีผลทับทิมฝังอยู่เก้าสิบหกลูก และมีผลทับทิมร้อยลูกล้อมรอบตาข่ายแต่ละอัน
24จากวิหาร หัวหน้าองครักษ์ ได้จับตัวเสไรอาห์หัวหน้านักบวช เศฟันยาห์ รองหัวหน้านักบวช และผู้ดูแลประตูวิหารสามคนไป 25จากเมือง หัวหน้าองครักษ์ได้จับแม่ทัพคนหนึ่งที่เคยดูแลทหาร พร้อมกับที่ปรึกษาเจ็ดคนของกษัตริย์ที่เขาเจอในเมือง และเลขาที่เป็นแม่ทัพที่เป็นคนเกณฑ์ทหาร และชาวบ้านหกสิบคนที่พบอยู่ที่กลางเมือง
26เนบูซาระดานหัวหน้าองครักษ์ ได้ส่งคนพวกนี้ทั้งหมดไปให้กษัตริย์แห่งบาบิโลนที่ริบลาห์ 27กษัตริย์แห่งบาบิโลนได้แทงพวกเขาตายในริบลาห์ในเขตฮามัท ชาวยูดาห์ก็เลยถูกกวาดต้อนไปจากแผ่นดินของตน
28นี่คือจำนวนคนที่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ได้กวาดต้อนไป ในปีที่เจ็ดของการปกครองของพระองค์ พระองค์ได้กวาดต้อนพลเมืองยูดาห์ไปสามพันยี่สิบสามคน 29ในปีที่สิบแปด พระองค์ได้กวาดต้อนคนไปจากเยรูซาเล็มแปดร้อยสามสิบสองคน 30ในปีที่ยี่สิบสามแห่งรัชกาลของกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ เนบูซาระดานหัวหน้าองครักษ์กวาดต้อนพลเมืองยูดาห์ไปเจ็ดร้อยสี่สิบห้าคน รวมคนที่ถูกกวาดต้อนไปทั้งหมดได้สี่พันหกร้อยคน
เยโฮยาคีนได้รับเกียรติในบาบิโลน
(2 พกษ. 25:27-30)
31ในวันที่ยี่สิบห้า เดือนสิบสอง ปีที่สามสิบเจ็ดที่กษัตริย์เยโฮยาคีนแห่งยูดาห์เป็นเชลยนั้น ในปีที่เอวิลเมโรดักเป็นกษัตริย์แห่งบาบิโลน พระองค์ได้ยกฐานะของกษัตริย์เยโฮยาคีนขึ้นมา แล้วกษัตริย์เอวิลเมโรดักได้นำตัวกษัตริย์เยโฮยาคีนออกมาจากคุก
32กษัตริย์เอวิลเมโรดักพูดกับกษัตริย์เยโฮยาคีนอย่างสุภาพ และให้พระองค์นั่งในที่สำคัญกว่ากษัตริย์องค์อื่นๆที่อยู่กับพระองค์ในบาบิโลน
33กษัตริย์เยโฮยาคีนได้ถอดชุดนักโทษของพระองค์ แล้วได้กินอาหารร่วมกับกษัตริย์เอวิลเมโรดักทุกวันตลอดชีวิต
34กษัตริย์เยโฮยาคีนก็ได้รับส่วนแบ่งจากกษัตริย์บาบิโลนทุกๆวันตามความจำเป็น ตลอดชีวิตจนถึงวันตายของพระองค์
ที่ได้เลือกล่าสุด:
เยเรมียาห์ 52: THA-ERV
เน้นข้อความ
แบ่งปัน
คัดลอก
ต้องการเน้นข้อความที่บันทึกไว้ตลอดทั้งอุปกรณ์ของคุณหรือไม่? ลงทะเบียน หรือลงชื่อเข้าใช้
Bible League International