เอเสเคียล 19
19
ร้องเพลงไว้อาลัยให้กับพวกเจ้าชายของอิสราเอล
1พระยาห์เวห์สั่งผมว่า “ให้ร้องเพลงไว้อาลัยนี้ให้กับพวกเจ้าชายของอิสราเอลว่า
2‘แม่ของเจ้าเป็นสิงโตตัวเมียในหมู่สิงห์ทั้งหลาย
นางหมอบลงท่ามกลางสิงห์หนุ่มมากมายและเลี้ยงดูลูกๆของนาง
3นางได้เลี้ยงลูกตัวหนึ่งของนางให้เติบใหญ่
และมันได้กลายเป็นสิงห์หนุ่มที่แข็งแรง
มันเรียนรู้ที่จะฉีกเหยื่อของมัน
และขย้ำคนกิน
4ชนชาติต่างๆได้ข่าวเกี่ยวกับมัน
มันได้ตกลงไปในหลุมกับดักของคนเหล่านั้น
พวกเขาใช้พวกตะขอเกี่ยวปาก
ลากมันไปถึงแผ่นดินอียิปต์#19:4 พวกเขาใช้ … อียิปต์ นี่พูดถึงสิงห์หนุ่มตัวแรกหมายถึงกษัตริย์เยโฮอาหาส หรือมีอีกชื่อหนึ่งว่าชัลลูม แห่งยูดาห์ พระองค์ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์หลังจากที่กษัตริย์โยสิยาห์ พ่อของพระองค์ตาย แต่พระองค์ครองราชย์ได้แค่สามเดือนเท่านั้น ก็ถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลยที่อียิปต์ ในปี 609 ก่อนพระเยซูมาเกิด อ่านเพิ่มเติมได้จากหนังสือ 2 พงศ์กษัตริย์ 23:31-34; เยเรมียาห์ 22:10-12
5เมื่อนางสิงห์เห็นว่าแผนของนางถูกขัดขวางเสียแล้ว
ความหวังของนางก็หมดสิ้นไป
นางจึงเอาลูกอีกตัวหนึ่งของนางมา
และทำให้มันเป็นสิงห์ที่แข็งแรง
6มันออกล่าเหยื่อท่ามกลางสิงห์มากมาย
และกลายเป็นสิงห์หนุ่มที่แข็งแรง
มันเรียนรู้ที่จะฉีกเนื้อเหยื่อของมัน
และขย้ำคนกิน
7มันพังป้อมของคนเหล่านั้นและทำลายเมืองต่างๆของพวกเขา
แผ่นดินและคนที่อยู่ในนั้นทั้งหมดต่างหวาดกลัวเสียงคำรามของมัน
8แล้วชนชาติทั้งหลายจากแคว้นต่างๆรอบข้างได้มาต่อต้านมัน
พวกเขากางตาข่ายออกคลุมมัน
มันตกลงไปในหลุมกับดักของพวกเขา
9พวกเขาใช้พวกตะขอเกี่ยวปากสิงห์นั้นจับมันไปขังไว้ในกรง
และนำตัวมันไปให้กับกษัตริย์เมืองบาบิโลน
พวกเขาขังมันไว้ในคุก
จึงไม่มีใครได้ยินเสียงคำรามของมันบนเทือกเขาของอิสราเอลอีกต่อไป#19:9 ขังมันไว้ … อิสราเอลอีกต่อไป พูดถึงสิงห์หนุ่มตัวที่สองหมายถึง กษัตริย์เยโฮยาคีน แห่งยูดาห์ ถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลยที่บาบิโลนในปี 597 ก่อนพระเยซูมาเกิด ดูเพิ่มเติมได้จาก 2 พงศ์กษัตริย์ 25:27-30
10แม่ของเจ้าเป็นเหมือนต้นองุ่นในไร่องุ่นที่ปลูกไว้ริมน้ำ
มันออกผลและกิ่งก้านสาขามากมาย
เพราะมีน้ำอย่างเหลือเฟือ
11กิ่งของมันแข็งแรง
เหมาะสำหรับทำคทาของกษัตริย์
มันงอกสูงขึ้นเหนือต้นอื่นๆทั้งปวง
และกิ่งก้านของมันก็แผ่ขยายออกไปอย่างกว้างขวาง
12แต่มันถูกถอนรากถอนโคนอย่างบ้าคลั่ง
และถูกโยนทิ้งลงกับพื้นดิน
ลมตะวันออกทำให้มันเหี่ยวเฉา
ผลของมันถูกเด็ดไปหมดเกลี้ยง
กิ่งทั้งหลายของมันเหี่ยวแห้งลง
แล้วไฟได้เผามันจนหมด
13เดี๋ยวนี้ มันถูกปลูกอยู่ในทะเลทราย
ในแผ่นดินที่แห้งแล้งและหิวกระหายน้ำ
14ไฟได้ลุกลามจากกิ่งใหญ่กิ่งหนึ่งของมัน
และไหม้ไปจนถึงผลของมัน
ไม่มีกิ่งที่แข็งแรงหลงเหลืออยู่
ที่เหมาะสำหรับเอามาทำคทาของกษัตริย์ได้อีกเลย’
นี่คือบทเพลงไว้อาลัย และมันจะถูกใช้ร้องสำหรับไว้อาลัย”
ที่ได้เลือกล่าสุด:
เอเสเคียล 19: THA-ERV
เน้นข้อความ
แบ่งปัน
คัดลอก
ต้องการเน้นข้อความที่บันทึกไว้ตลอดทั้งอุปกรณ์ของคุณหรือไม่? ลงทะเบียน หรือลงชื่อเข้าใช้
Bible League International