นางบัทเชบาจึงก้มกราบลงถึงพื้นต่อหน้ากษัตริย์ และพูดว่า “ขอให้กษัตริย์ดาวิดเจ้านายของข้าพเจ้ามีชีวิตยืนยาวตลอดไป” กษัตริย์ดาวิดพูดว่า “ให้เรียกนักบวชศาโดก นาธันผู้พูดแทนพระเจ้า และเบไนยาห์ลูกชายเยโฮยาดาเข้ามาที่นี่” เมื่อพวกเขามาอยู่ต่อหน้ากษัตริย์แล้ว กษัตริย์จึงพูดกับพวกเขาว่า “เอาพวกคนรับใช้ของเราผู้เป็นเจ้านายพวกเจ้า ไปกับพวกเจ้า และนำตัวซาโลมอนลูกชายของเราขึ้นขี่ล่อของเราและพาเขาลงไปที่ตาน้ำกิโฮน ให้นักบวชศาโดกและนาธันผู้พูดแทนพระเจ้าแต่งตั้งเขาขึ้นเป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอลที่นั่น ให้พวกเจ้าเป่าแตรเขาสัตว์ และโห่ร้องว่า ‘กษัตริย์ซาโลมอนจงเจริญ’ แล้วให้พวกเจ้าตามเขาขึ้นมา และเขาจะขึ้นนั่งบนบัลลังก์ของเราและปกครองแทนเรา เราได้แต่งตั้งเขาให้เป็นผู้ครอบครองเหนืออิสราเอลและยูดาห์แล้ว” เบไนยาห์ลูกชายเยโฮยาดาตอบกษัตริย์ว่า “อาเมน ขอให้พระยาห์เวห์ ผู้เป็นพระเจ้าของกษัตริย์เจ้านายข้าพเจ้า สั่งให้เป็นอย่างนั้นเถิด กษัตริย์เจ้านายของข้าพเจ้า พระยาห์เวห์เคยอยู่กับท่านมาแล้วยังไง ก็ขอให้พระองค์อยู่กับซาโลมอนอย่างนั้นด้วย และทำให้บัลลังก์ของเขายิ่งใหญ่กว่าบัลลังก์ของท่านกษัตริย์ดาวิดเจ้านายของข้าพเจ้าด้วยเถิด” ดังนั้น นักบวชศาโดก นาธันผู้พูดแทนพระเจ้า เบไนยาห์ลูกชายเยโฮยาดา รวมทั้งชาวเคเรธีและชาวเปเลท ต่างก็ลงไปพาซาโลมอนขึ้นขี่ล่อของกษัตริย์ดาวิดและออกเดินทางไปพร้อมๆกับพวกเขาไปที่ตาน้ำกิโฮน นักบวชศาโดกนำเขาสัตว์ที่ใส่น้ำมัน ออกมาจากเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ และเจิมให้กับซาโลมอนเป็นกษัตริย์ แล้วพวกเขาก็เป่าแตรขึ้นและประชาชนทั้งหมดต่างก็ร้องตะโกนว่า “กษัตริย์ซาโลมอนจงเจริญ” และประชาชนทั้งหมดก็ได้ติดตามเขาขึ้นไป พวกเขาต่างเป่าขลุ่ย เฉลิมฉลองกันด้วยความชื่นชมยินดีเป็นอย่างมาก จนพื้นดินสั่นสะเทือนไปด้วยเสียงนั้น อาโดนียาห์และแขกทั้งหมดที่อยู่กับเขาก็ได้ยินเสียงนั้นด้วย ในขณะที่งานเลี้ยงของพวกเขากำลังจะเลิก เมื่อโยอาบได้ยินเสียงแตรเขาสัตว์จึงถามว่า “เสียงอึกทึกครึกโครมในเมืองนั้น มันอะไรกัน” ในขณะที่เขากำลังพูดอยู่ โยนาธานลูกชายนักบวชอาบียาธาร์ก็มาถึง อาโดนียาห์พูดว่า “เข้ามาเถิด คนสำคัญอย่างท่านจะต้องนำข่าวดีมาบอกแน่” โยนาธานตอบว่า “ผิดแล้ว ดาวิดกษัตริย์นายของเราได้แต่งตั้งซาโลมอนขึ้นเป็นกษัตริย์แล้ว กษัตริย์ดาวิดได้ส่งนักบวชศาโดก นาธันผู้พูดแทนพระเจ้า เบไนยาห์ลูกชายเยโฮยาดา พร้อมกับชาวเคเรธีและชาวเปเลทไปกับเขาด้วย และพวกเขาได้พาซาโลมอนขึ้นขี่ล่อของกษัตริย์ และนักบวชศาโดกและนาธันผู้พูดแทนพระเจ้าก็ได้เจิมเขาเป็นกษัตริย์ ที่ตาน้ำกิโฮน จากที่นั่น พวกเขาได้เดินขึ้นไปพร้อมกับส่งเสียงโห่ร้องกันอย่างสนุกสนาน และเมืองทั้งเมืองก็ดังกึกก้องไปด้วยเสียงนี้ นั่นคือเสียงอึกทึกที่พวกท่านได้ยิน และเดี๋ยวนี้ ซาโลมอนกำลังนั่งอยู่บนบัลลังก์ของกษัตริย์ และพวกข้าราชการของกษัตริย์ได้มาแสดงความยินดีกับกษัตริย์ดาวิดเจ้านายของเราว่า ‘ขอให้พระเจ้าของท่านทำให้ชื่อเสียงของซาโลมอนโด่งดังยิ่งกว่าชื่อเสียงของท่านและทำให้บัลลังก์ของเขายิ่งใหญ่กว่าของท่านด้วยเถิด’ และกษัตริย์ดาวิดก็ก้มกราบนมัสการอยู่บนเตียงของเขา และพูดว่า ‘ขอสรรเสริญพระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอล ผู้ที่ยินยอมให้ตาของข้าพเจ้าได้เห็นผู้สืบทอดบัลลังก์ของข้าพเจ้าในวันนี้’” แล้วแขกทั้งหมดของอาโดนียาห์ต่างลุกขึ้นด้วยความตกใจกลัวและแตกฮือกันไป ส่วนอาโดนียาห์นั้น เพราะกลัวซาโลมอน เขาจึงออกไปและไปจับที่เชิงงอนของแท่นบูชา ไว้ แล้วมีคนมาบอกซาโลมอนว่า “อาโดนียาห์กลัวกษัตริย์ซาโลมอนและกำลังจับเชิงงอนของแท่นบูชาอยู่ เขาพูดว่า ‘ให้กษัตริย์ซาโลมอนสาบานกับข้าพเจ้าในวันนี้ก่อนว่าเขาจะไม่ให้ผู้รับใช้ของเขาต้องถูกฆ่าตายด้วยดาบ’” ซาโลมอนตอบว่า “ถ้าเขาแสดงให้เห็นว่าตัวเขาเป็นคนดีจริง แม้แต่ผมสักเส้นของเขาก็จะไม่ตกลงถึงพื้น แต่ถ้าพบว่าเขาเป็นคนชั่ว เขาก็จะต้องตาย” แล้วกษัตริย์ซาโลมอนก็ส่งคนไปที่นั่น พวกเขาได้นำตัวอาโดนียาห์ลงมาจากแท่นบูชา อาโดนียาห์ก็มาถึงและก้มกราบกษัตริย์ซาโลมอน ซาโลมอนก็พูดว่า “กลับไปบ้านท่านเถิด”
อ่าน 1 พงศ์กษัตริย์ 1
แบ่งปัน
เปรียบเทียบฉบับแปลทั้งหมด: 1 พงศ์กษัตริย์ 1:31-53
บันทึกข้อพระคำ อ่านแบบออฟไลน์ ดูคลิปการสอน และอื่น ๆ อีกมากมาย!
หน้าหลัก
พระคัมภีร์
แผนการอ่าน
วิดีโอ