ผู้วินิจฉัย 1
1
อิสราเอลต่อสู้กับชาวคานาอันที่เหลือ
(ยชว.15:15-19)
1หลังจากที่โยชูวาสิ้นชีวิตแล้ว ชนอิสราเอลทูลถามองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “ใครควรออกทำศึกกับชาวคานาอันก่อน?”
2 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสตอบว่า “ให้ยูดาห์ไปก่อน เราได้มอบดินแดนนั้นไว้ในมือของพวกเขาแล้ว”
3ชนเผ่ายูดาห์กล่าวกับพี่น้องเผ่าสิเมโอนว่า “โปรดมาช่วยเรารบกับชาวคานาอันในดินแดนซึ่งเป็นของเราตามที่ได้แบ่งสรรแล้ว และเราจะไปช่วยเมื่อถึงคราวของท่านบ้าง” ฉะนั้นชาวสิเมโอนจึงไปสมทบกับชาวยูดาห์
4เมื่อยูดาห์เข้าโจมตี องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมอบชาวคานาอันและชาวเปริสซีไว้ในมือพวกเขา พวกเขาฆ่าคนเหล่านั้นไปหนึ่งหมื่นคนที่เบเซก 5พวกเขาพบอาโดนีเบเซกที่นั่นและสู้รบกับเขา จนชาวคานาอันกับชาวเปริสซีแตกพ่ายไป 6อาโดนีเบเซกหนีไป แต่พวกเขาไล่ตามและจับกุมตัวไว้ได้ แล้วตัดนิ้วหัวแม่มือกับนิ้วหัวแม่เท้าของเขา
7แล้วอาโดนีเบเซกกล่าวว่า “เราเคยตัดนิ้วหัวแม่มือและนิ้วหัวแม่เท้ากษัตริย์เจ็ดสิบองค์ และให้พวกเขากินเศษอาหารจากใต้โต๊ะของเรา บัดนี้พระเจ้าทรงแก้แค้นในสิ่งที่เราได้ทำแล้ว” พวกเขานำตัวอาโดนีเบเซกไปยังเยรูซาเล็ม และเขาสิ้นชีวิตที่นั่น
8ชาวยูดาห์โจมตีเยรูซาเล็มและยึดเมืองได้ พวกเขาประหารชาวเมืองนั้น แล้วจุดไฟเผาเมือง
9หลังจากนั้นคนของยูดาห์ลงไปรบกับชาวคานาอันซึ่งอยู่ในดินแดนเทือกเขาในเนเกบและแถบเชิงเขาทางตะวันตก 10แล้วไปสู้รบกับชาวคานาอันในเฮโบรน (เดิมเรียกว่า คีริยาทอารบา) และพิชิตเชชัย อาหิมาน และทัลมัย
11จากนั้นพวกเขาบุกเข้าโจมตีชาวเมืองเดบีร์ (เดิมเรียกว่า คีริยาทเสเฟอร์) 12และคาเลบประกาศว่า “ใครบุกเข้าโจมตีและยึดคีริยาทเสเฟอร์ได้ เราจะยกอัคสาห์ลูกสาวของเราให้เป็นภรรยา” 13โอทนีเอลบุตรชายของเคนัสซึ่งเป็นน้องชายของคาเลบยึดเมืองได้ ดังนั้นคาเลบจึงยกอัคสาห์ลูกสาวของเขาให้เป็นภรรยา
14วันหนึ่งเมื่อนางมาหาโอทนีเอล นางรบเร้าเขา#1:14 ฉบับ LXX. และ Vulg. ว่าเขารบเร้านางให้ขอที่ดินจากบิดาของนาง เมื่อนางลงจากหลังลา คาเลบถามนางว่า “พ่อจะช่วยอะไรเจ้าได้บ้าง?”
15นางตอบว่า “ขอพ่อเมตตาลูกเป็นพิเศษ ในเมื่อพ่อได้ยกที่ดินในเนเกบให้ลูกแล้ว โปรดยกน้ำพุให้ลูกด้วยเถิด” คาเลบจึงยกน้ำพุบนและน้ำพุล่างให้นาง
16ชาวเคไนต์ซึ่งเป็นลูกหลานของพ่อตาของโมเสสได้ย้ายจากเยรีโคเมืองแห่งต้นอินทผลัม ติดตามคนยูดาห์มาอาศัยอยู่กับคนในถิ่นกันดารแห่งยูดาห์ในเนเกบใกล้อาราด
17แล้วชนยูดาห์สมทบกับคนสิเมโอนไปโจมตีชาวคานาอันที่เศฟัท ทำลายล้าง#1:17 คำนี้ในภาษาฮีบรูหมายถึงสิ่งของหรือบุคคลที่ถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าแล้วไม่อาจเรียกคืนได้ มักจะต้องทำลายให้หมดสิ้นไปหมดทั้งเมือง เมืองนั้นจึงได้ชื่อว่าโฮรมาห์#1:17 แปลว่า ความย่อยยับ 18ชนยูดาห์ยังได้ยึด#1:18 ฉบับ LXX. ว่ายูดาห์ไม่ได้ยึด กาซา อัชเคโลน และเอโครน พร้อมทั้งอาณาเขตของเมืองนั้นๆ ด้วย
19 องค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับชนยูดาห์ พวกเขายึดครองดินแดนเทือกเขาได้ แต่ไม่สามารถขับไล่ชาวเมืองออกไปจากที่ราบเพราะพวกนั้นมีรถรบเหล็ก 20เมืองเฮโบรนยกให้คาเลบตามที่โมเสสสัญญาไว้ คาเลบขับไล่บุตรชายทั้งสามของอานาคออกไป 21แต่เผ่าเบนยามินไม่สามารถขับไล่ชาวเยบุสซึ่งอาศัยอยู่ในเยรูซาเล็มได้ ชาวเยบุสยังคงอาศัยอยู่ที่นั่นกับชาวเบนยามินตราบจนทุกวันนี้
22ตระกูลโยเซฟเข้าโจมตีเบธเอล และองค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับพวกเขา 23เมื่อพวกเขาส่งคนไปดูลาดเลาที่เบธเอล (เดิมเรียกว่า ลูส) 24สายสืบเห็นชายคนหนึ่งกำลังจะออกมานอกเมือง จึงกล่าวกับเขาว่า “จงบอกทางเข้าเมืองแก่เรา และเราจะปรานีเจ้า” 25ชายผู้นั้นจึงชี้ช่องทางให้ พวกเขาก็เข้าไปประหารประชากรทั้งหมด ยกเว้นชายผู้นั้นกับครอบครัวของเขา 26ต่อมาชายผู้นั้นย้ายเข้าไปในดินแดนของชาวฮิตไทต์ สร้างเมืองขึ้นที่นั่น และตั้งชื่อเมืองนั้นว่าลูส ซึ่งยังคงเรียกกันจนถึงทุกวันนี้
27แต่มนัสเสห์ไม่ได้ขับไล่ชาวเมืองที่อาศัยอยู่ในเบธชาน ทาอานาค โดร์ อิบเลอัม เมกิดโด พร้อมทั้งหมู่บ้านโดยรอบ เพราะชาวคานาอันยังยืนกรานที่จะอยู่ในดินแดนนั้น 28เมื่ออิสราเอลแข็งแกร่งขึ้น ก็บีบบังคับชาวคานาอันให้ทำงานหนัก แต่ไม่เคยขับไล่คนเหล่านั้นออกไปจากดินแดน 29เอฟราอิมก็ไม่ได้ขับไล่ชาวคานาอันที่อาศัยอยู่ในเกเซอร์ คนเหล่านี้ยังคงอยู่ท่ามกลางพวกเขา 30เศบูลุนก็ไม่ได้ขับไล่ชาวคานาอันซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่พวกเขาในคิทโรนหรือนาหะโลล แต่เกณฑ์แรงงานคนเหล่านั้น 31อาเชอร์ก็ไม่ได้ขับไล่ชาวเมืองอัคโค ไซดอน อาห์ลาบ อัคซิบ เฮลบาห์ อาเฟค หรือเรโหบ 32ด้วยเหตุนี้ชาวอาเชอร์จึงอาศัยอยู่ร่วมกับชาวคานาอันซึ่งเป็นคนถิ่นนั้น 33นัฟทาลีก็ไม่ได้ขับไล่ชาวเมืองเบธเชเมชหรือชาวเบธอานาทออกไป แต่ชาวนัฟทาลีอาศัยอยู่ท่ามกลางชาวคานาอันและเกณฑ์แรงงานจากชาวเบธเชเมชและเบธอานาทเช่นกัน 34ชาวอาโมไรต์บังคับชาวดานให้อยู่แต่ในดินแดนเทือกเขา ไม่ยอมให้ลงมายังที่ราบเลย 35ชาวอาโมไรต์ยังคงปักหลักอยู่ที่ภูเขาเฮเรส อัยยาโลน และ ชาอัลบิม แต่เมื่อพงศ์พันธุ์ของโยเซฟมีกำลังเข้มแข็งขึ้น ก็บีบบังคับเกณฑ์แรงงานพวกเขา 36พรมแดนของชาวอาโมไรต์เริ่มจากช่องแคบแมงป่องไปสู่เสลาและเหนือขึ้นไป
ที่ได้เลือกล่าสุด:
ผู้วินิจฉัย 1: TNCV
เน้นข้อความ
แบ่งปัน
คัดลอก
ต้องการเน้นข้อความที่บันทึกไว้ตลอดทั้งอุปกรณ์ของคุณหรือไม่? ลงทะเบียน หรือลงชื่อเข้าใช้
พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย
สงวนลิขสิทธิ์ © 1999, 2001, 2007 โดยองค์การอมตธรรม
Thai New Contemporary Version
Copyright © 1999, 2001, 2007 by Biblica, Inc.®
Used by permission of Biblica, Inc.® All rights reserved worldwide.