ดาเนียล 11:7-35

ดาเนียล 11:7-35 TNCV

“คนหนึ่งในวงศ์ตระกูลของนางจะขึ้นมาแทนที่นาง เขาจะโจมตีกองกำลังของกษัตริย์ฝ่ายเหนือ ทะลวงป้อมปราการ ต่อสู้ขับเคี่ยว และได้รับชัยชนะ ทั้งจะชิงรูปเทพเจ้า เทวรูปโลหะกับภาชนะเงินและทองอันล้ำค่าขนกลับไปอียิปต์ เขาจะปล่อยกษัตริย์ฝ่ายเหนือไว้ตามลำพังอยู่หลายปี แล้วกษัตริย์ฝ่ายเหนือจะบุกอาณาจักรของกษัตริย์ฝ่ายใต้ แต่จะถอยทัพกลับประเทศของตน ลูกๆ ของเขาจะเตรียมรบ ระดมกำลังเป็นทัพใหญ่ ซึ่งถาโถมเข้ามาเหมือนน้ำท่วมซัดที่ไม่มีอะไรยับยั้งได้ และรบมาถึงป้อมของเขา “แล้วกษัตริย์ฝ่ายใต้จะยกทัพออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว รบกับกษัตริย์ฝ่ายเหนือ ซึ่งระดมทัพใหญ่มาแต่จะพ่ายแพ้ เมื่อฝ่ายเหนือถอยทัพกลับไป กษัตริย์ฝ่ายใต้จะภาคภูมิใจยิ่งนัก และประหารคนหลายพันคน แต่ก็มีชัยชนะอยู่ได้ไม่นาน เพราะกษัตริย์ฝ่ายเหนือจะยกทัพมาอีกเป็นทัพที่ยิ่งใหญ่กว่าคราวแรก และหลังจากนั้นอีกหลายปีจะยกทัพมหึมา เสบียงอาวุธครบครันบุกเข้ามา “เมื่อถึงเวลานั้น หลายคนจะลุกฮือขึ้นต่อสู้กษัตริย์ฝ่ายใต้ เพื่อให้เป็นไปตามนิมิตที่กล่าวมาแล้วว่าพวกหัวรุนแรงในหมู่พี่น้องร่วมชาติของท่านเองจะกบฏ แต่ไม่สำเร็จ แล้วกษัตริย์ฝ่ายเหนือจะมาก่อเชิงเทินล้อมเมือง และยึดเมืองป้อมปราการได้เมืองหนึ่ง กองกำลังของฝ่ายใต้จะหมดอานุภาพที่จะต้านทาน แม้กองทหารที่ดีที่สุดก็หมดกำลังที่จะยืนหยัด ผู้รุกรานจะทำอะไรตามใจชอบโดยไม่มีใครยับยั้งได้ เขาจะสถาปนาตัวเองในดินแดนอันงดงามนั้นและมีอำนาจที่จะทำลายมันลง เขาจะตัดสินใจยกกำลังทั้งอาณาจักรมา และจะทำสัญญาไมตรีกับกษัตริย์ฝ่ายใต้ ยอมยกธิดาให้สมรสด้วย เพื่อโค่นอาณาจักรฝ่ายใต้ แต่แผนการของเขาจะไม่ประสบความสำเร็จและช่วยอะไรเขาไม่ได้เลย แล้วเขาจะหันความสนใจไปยังดินแดนแถบชายฝั่งทะเล และเอาชนะชนชาติต่างๆ ได้ แต่แม่ทัพคนหนึ่งจะทำให้เขาสิ้นความผยอง และถอยทัพกลับไปด้วยความอับอาย หลังจากนี้เขาจะกลับไปยังป้อมปราการต่างๆ ในประเทศของตน แต่จะพ่ายแพ้และไม่มีใครพบเห็นอีก “ผู้ครองราชย์สืบต่อจากเขาจะส่งคนออกไปเก็บภาษีเพื่อรักษาความมั่งคั่งของตนไว้ แต่ในเวลาไม่กี่ปีเขาก็จะถูกทำลาย แต่ก็ไม่ใช่จากความโกรธแค้นหรือจากสงคราม “ผู้ที่ครองราชย์สืบต่อจากเขา เป็นบุคคลที่น่าเหยียดหยามเพราะเขาไม่มีสิทธิ์ในราชบัลลังก์เลย เขารุกรานราชอาณาจักรในขณะที่ประชาชนรู้สึกปลอดภัย และเขาจะเข้ามายึดด้วยเล่ห์เพทุบาย แล้วกองทัพใหญ่จะถูกกวาดล้างไปต่อหน้าเขา ทั้งกองทัพนั้นและเจ้านายแห่งพันธสัญญาจะถูกทำลายด้วย หลังจากมีการทำข้อตกลงกับเขา เขาจะใช้เล่ห์เพทุบายและเรืองอำนาจขึ้นมาโดยอาศัยคนไม่กี่คน เมื่อแว่นแคว้นอันมั่งคั่งที่สุดรู้สึกปลอดภัย เขาก็จะบุกและกระทำการซึ่งบรรพบุรุษของเขาไม่เคยทำ เขาจะแบ่งสมบัติและข้าวของที่ปล้นมาได้กับพรรคพวก เขาจะวางแผนทลายป้อม แต่ก็เพียงชั่วระยะเวลาหนึ่ง “เขาเสริมกำลังและความกล้าด้วยกองทัพใหญ่ไปรบกับกษัตริย์ฝ่ายใต้ และกษัตริย์ฝ่ายใต้จะยกกองทัพที่ใหญ่และทรงอานุภาพมากมาสู้รบด้วย แต่ก็ต้านทานไม่ได้เพราะแผนการร้ายต่างๆ ที่คนวางไว้เพื่อต่อสู้กับเขา บรรดาผู้ร่วมโต๊ะเสวยของกษัตริย์จะพยายามทำลายเขา กองทัพของเขาจะถูกกวาดล้างไป และคนมากมายจะล้มตายในสนามรบ กษัตริย์สององค์ซึ่งมีใจคิดชั่วทั้งคู่จะนั่งร่วมโต๊ะและมุสาต่อกัน แต่ไม่มีผลอะไร เพราะจุดจบยังคงจะมาถึงในเวลาที่กำหนดไว้ กษัตริย์ฝ่ายเหนือจะกลับประเทศพร้อมด้วยทรัพย์สมบัติมากมาย แต่จิตใจของเขามุ่งร้ายต่อพันธสัญญาบริสุทธิ์ เขาจะลงมือทำการต่อต้านพันธสัญญานั้น แล้วจึงกลับไปยังดินแดนของตน “ครั้นถึงเวลาที่กำหนด เขาจะบุกดินแดนฝ่ายใต้อีก แต่ครั้งนี้ผลลัพธ์จะแตกต่างจากคราวก่อน กองเรือแห่งชายฝั่งตะวันตกจะต่อต้านเขาและเขาจะเสียขวัญ แล้วเขาจะหันกลับมาระบายโทสะเกรี้ยวกราดต่อพันธสัญญาบริสุทธิ์ เขาจะกลับไปและแสดงความโปรดปรานแก่ผู้ที่ละทิ้งพันธสัญญาบริสุทธิ์ “กองกำลังของเขาจะลุกขึ้นมาย่ำยีป้อมปราการของพระวิหารให้เป็นมลทิน และยกเลิกการถวายเครื่องบูชาประจำวัน แล้วเขาจะตั้งสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนขึ้นอันเป็นต้นเหตุของวิบัติ เขาจะใช้การประจบสอพลอล่อลวงผู้ที่ละเมิดพันธสัญญา แต่ประชาชนที่รู้จักพระเจ้าของตนจะต่อต้านเขาอย่างเข้มแข็ง “บรรดาผู้มีปัญญาจะแนะนำสั่งสอนคนเป็นอันมาก แม้ในชั่วระยะหนึ่งพวกเขาจะตายด้วยคมดาบ หรือถูกเผาหรือถูกจับเป็นเชลยหรือถูกปล้นชิง เมื่อพวกเขาล้มลงจะได้รับความช่วยเหลือเล็กน้อย และมีหลายคนซึ่งไม่จริงใจจะมาร่วมกับพวกเขา ผู้มีปัญญาบางคนจะสะดุดล้มก็เพื่อรับการถลุงชำระให้บริสุทธิ์และปราศจากรอยด่างพร้อย จนถึงวาระสุดท้ายซึ่งจะมาถึงตามกำหนด