เจ้าจะลักทรัพย์ ฆ่าคน ล่วงประเวณี สาบานเท็จ เผาเครื่องบูชาถวายพระบาอัลและติดตามพระอื่น ซึ่งเจ้าทั้งหลายไม่รู้จัก แล้วก็มายืนต่อหน้าเราในนิเวศนี้ ซึ่งเรียกตามชื่อของเรา และกล่าวว่า ‘เราทั้งหลายได้รับการช่วยกู้แล้ว’ เพื่อจะไปทำสิ่งน่าเกลียดน่าชังเหล่านั้นทั้งสิ้นอีกหรือ? ในสายตาของเจ้า นิเวศซึ่งเรียกตามชื่อของเราได้กลายเป็นถ้ำของพวกโจรไปแล้วหรือ? นี่แน่ะ ตัวเราได้เห็นเอง พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ แต่จงไปยังสถานที่ของเราซึ่งเคยอยู่ในเมืองชิโลห์ ซึ่งตอนแรกได้ทำให้ชื่อของเราอยู่ที่นั่น จงดูว่าเพราะความชั่วร้ายของอิสราเอลประชากรของเรา เราได้ทำอะไรต่อสถานที่นั้น และบัดนี้ เพราะเจ้าทั้งหลายได้ทำสิ่งเหล่านี้ทั้งสิ้น พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ และเมื่อเราพูดกับเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เจ้าทั้งหลายไม่ได้ฟัง และเมื่อเราได้เรียกพวกเจ้า แต่เจ้าไม่ได้ตอบ ดังนั้นเราจะทำต่อนิเวศนี้ซึ่งเราเรียกตามชื่อของเรา และซึ่งพวกเจ้าได้วางใจนั้น และทำต่อสถานที่ซึ่งเราได้ยกให้แก่เจ้าและแก่บรรพบุรุษของเจ้าเหมือนเราได้ทำต่อชิโลห์ และเราจะเหวี่ยงเจ้าทิ้งจากสายตาของเรา เหมือนอย่างที่เราได้ทิ้งบรรดาพวกพี่น้องของเจ้า คือบรรดาเชื้อสายของเอฟราอิมทั้งหมดนั้น “ส่วนเจ้า อย่าอธิษฐานเพื่อประชากรนี้ อย่าร้องขอหรืออธิษฐานเพื่อเขา และอย่าวิงวอนต่อเรา เพราะเราจะไม่ฟังเจ้า เจ้าไม่เห็นหรือว่า เขาทำอะไรกันในเมืองทั้งหลายของยูดาห์ และตามถนนหนทางในเยรูซาเล็ม พวกเด็กๆ ก็เก็บฟืน พวกพ่อๆ ก็ก่อไฟ พวกผู้หญิงก็นวดแป้ง เพื่อทำขนมถวายแด่เจ้าแม่แห่งฟ้าสวรรค์ และเขาเทเครื่องดื่มบูชาถวายแด่พระอื่นๆ เพื่อยั่วยุให้เราโกรธ พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า เขายั่วยุเราหรือ ไม่ใช่ยั่วยุตัวเขาเองให้ได้รับความอับอายหรือ? ฉะนั้น พระยาห์เวห์องค์เจ้านายจึงตรัสดังนี้ว่า นี่แน่ะ ความกริ้วและความโกรธของเราจะเทลงบนสถานที่นี้ บนมนุษย์และสัตว์ บนต้นไม้ในท้องทุ่ง และบนพืชผลของแผ่นดิน จะเผาผลาญเสียและจะดับไม่ได้” พระยาห์เวห์จอมทัพ พระเจ้าแห่งอิสราเอล ตรัสดังนี้ว่า “จงเพิ่มเครื่องบูชาเผาทั้งตัวเข้ากับเครื่องบูชาของเจ้า และจงรับประทานเนื้อ เพราะในวันที่เราได้พาบรรพบุรุษของเจ้าออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ เราไม่ได้พูดกับพวกเขาหรือสั่งเขาเรื่องเครื่องบูชาเผาทั้งตัวและเครื่องบูชา แต่เราบัญชาเขาทั้งหลายอย่างนี้ว่า จงเชื่อฟังเสียงของเรา และเราจะเป็นพระเจ้าของเจ้า และเจ้าจะเป็นประชากรของเรา และเจ้าจงดำเนินในหนทางที่เราได้บัญชาเจ้าไว้ เพื่อเจ้าจะได้อยู่เย็นเป็นสุข แต่พวกเขาไม่ได้เชื่อฟังหรือเงี่ยหูฟัง แต่กลับดำเนินตามแผนการของเขาเอง และในความดื้อกระด้างตามจิตใจชั่วของเขา และเดินถอยหลัง แทนที่จะเดินไปข้างหน้า ตั้งแต่วันที่บรรพบุรุษของพวกเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์จนทุกวันนี้ เราได้ส่งบรรดาผู้เผยพระวจนะผู้รับใช้ของเราไปยังเขาครั้งแล้วครั้งเล่า ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่ฟังเรา หรือเงี่ยหูฟัง แต่ได้ทำให้คอของตนแข็ง เขาได้ทำชั่วยิ่งกว่าบรรดาบรรพบุรุษของเขาเสียอีก “เจ้าจงกล่าวถ้อยคำเหล่านี้แก่เขา แต่เขาจะไม่ฟังเจ้า เจ้าจงร้องเรียกเขา แต่เขาจะไม่ยอมตอบเจ้า เจ้าจงพูดแก่เขาว่า ‘นี่เป็นประชาชาติที่ไม่เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขา และไม่ยอมรับการตีสอน สัจจะพินาศเสียแล้ว ถูกตัดขาดจากปากของเขาแล้ว ‘จงตัดผมของเจ้าออกเหวี่ยงทิ้งไป จงคร่ำครวญบนที่สูงโล่ง เพราะว่าพระยาห์เวห์ทรงปฏิเสธ และทรงละทิ้งชาติพันธุ์ที่ยั่วยุพระพิโรธของพระองค์แล้ว’ “พงศ์พันธุ์ของยูดาห์ได้ทำความชั่วในสายตาของเรา” พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ “พวกเขาได้วางสิ่งน่าสะอิดสะเอียนไว้ในนิเวศซึ่งเรียกตามชื่อของเรา ทำให้มีมลทิน และได้สร้างปูชนียสถานสูงของโทเฟท ซึ่งอยู่ในหุบเขาเบนฮินโนม เพื่อเผาบุตรชายและบุตรสาวของพวกเขาเสียด้วยไฟ ซึ่งเราไม่ได้บัญชา และไม่เคยมีขึ้นในใจของเรา เพราะฉะนั้น นี่แน่ะ วันเวลาจะมาถึง” พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ “เมื่อเขาจะไม่เรียกที่นั้นอีกว่าโทเฟท หรือหุบเขาเบนฮินโนม แต่จะเรียกว่า หุบเขาแห่งการฆ่าฟันกัน เพราะเขาจะฝังกันไว้ในโทเฟท จนไม่มีที่ฝังแล้ว และศพของประชาชนนี้จะเป็นอาหารของนกในอากาศ และของสัตว์บนแผ่นดินโลก และไม่มีใครจะขับไล่มันไปเสียได้ เราจะทำให้เสียงบันเทิงและเสียงรื่นเริง เสียงของเจ้าบ่าวและเสียงของเจ้าสาว ขาดไปเสียจากเมืองต่างๆ ของยูดาห์ และจากถนนหนทางแห่งเยรูซาเล็ม เพราะว่าแผ่นดินนั้นจะต้องเป็นที่ทิ้งร้าง”
อ่าน เยเรมีย์ 7
ฟัง เยเรมีย์ 7
แบ่งปัน
เปรียบเทียบฉบับแปลทั้งหมด: เยเรมีย์ 7:9-34
บันทึกข้อพระคำ อ่านแบบออฟไลน์ ดูคลิปการสอน และอื่น ๆ อีกมากมาย!
หน้าหลัก
พระคัมภีร์
แผนการอ่าน
วิดีโอ