ชัยชนะเหนือการทดลอง (1 และ 2 เปโตร)ตัวอย่าง

สัปดาห์ที่ 3 : วันที่ 5 "ให้ความรักนำทุกสิ่งที่คุณทำ"

ลงลึกในพระคำ

ในฐานะผู้เชื่อ เรากำลังดำเนินชีวิตที่คาดหวังการเสด็จกลับมาของพระคริสต์ และเป็นความจริงที่ควรกำหนดรูปแบบชีวิตของเรา ในระหว่างที่รอคอย เราไม่ได้ถูกเรียกให้เกียจคร้าน แต่เพื่อให้รักและรับใช้พระกายของพระคริสต์อย่างตั้งใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาแห่งการทดสอบและการข่มเหง ชุมชนคริสเตียนที่เป็นเอกภาพและเปี่ยมด้วยความรักส่องสว่างในโลกที่มืดมน เหมือนเมืองที่อยู่บนเนินเขา (มัทธิว 5:14-16)

คำสั่งนั้นชัดเจน คือ เราต้องรักกันและกัน ความรักไม่ใช่การอยู่เฉย แต่ต้องกระทำอยู่ ไม่ใช่ความรู้สึก แต่เป็นทางเลือกที่เราตัดสินใจทุกวัน เห็นได้จากอาหารที่เตรียมไว้สำหรับคุณแม่มือใหม่ การอธิษฐานอย่างจริงจังสำหรับเพื่อนที่กำลังประสบปัญหา และประตูบ้านที่เปิดอยู่

พระเจ้าไม่ได้ปล่อยให้เรามือเปล่าในการทรงเรียกอันสูงส่งนี้ พระองค์ประทานของประทานพิเศษเฉพาะแก่เราแต่ละคนอย่างมากมาย ซึ่งออกแบบมาเพื่อรับใช้ เสริมสร้างคริสตจักรและคนอื่นๆ (โรม 12:4-8) ของประทานเหล่านี้ไม่ใช่เพื่อศักดิ์ศรีของเราเอง แต่พระเจ้าประทานแก่เราเพื่อเสริมสร้างให้ประชากรของพระองค์ใกล้ชิดกันมากขึ้น และสะท้อนถึงความรักของพระองค์ต่อโลกที่เฝ้าดูเราอยู่ (เอเฟซัส 4:11-12)

เมื่อเราเห็นความต้องการภายในคริสตจักร ใจของเราก็ควรจะตื่นตัวเพื่อตอบสนองต่อความต้องการนั้น ไม่ว่าจะเป็นการให้กำลังใจ ความช่วยเหลือทางการเงิน การอธิษฐาน หรือการรับฟัง ให้เรามุ่งไปสู่ความต้องการเหล่านั้น ไม่ใช่ออกห่าง ในการทำเช่นนี้ เราเป็นผู้อารักขาที่ซื่อสัตย์ในพระคุณของพระเจ้า แจกจ่ายพระคุณอย่างไม่เห็นแก่ตัวเช่นเดียวกับที่พระเจ้าทรงประทานแก่เราอย่างล้นเหลือ

เมื่อเราช่วยเหลือผู้อื่นและใช้ของประทานที่พระเจ้าประทานให้แก่เราในการรับใช้ โลกเห็นการแสดงออกของพระเยซูในเรา ความรักของเรากลายเป็นประภาคารที่ส่องสว่าง ซึ่งชี้ไปที่พระองค์ผู้ทรงรักเราก่อน (1 ยอห์น 4:19) ในการรับใช้ของเรา พระเจ้าได้รับพระเกียรติ และอาณาจักรของพระองค์สำแดงออกมาอย่างเป็นรูปธรรมผ่านทางมือและเท้าของเรา

อธิษฐาน : พระเยซูที่รัก ขอบพระคุณที่มอบของประทานแก่เราเพื่อรับใช้พระกายของพระองค์ โปรดช่วยให้เรารักอย่างจริงใจและแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราเห็นความต้องการภายในครอบครัวคริสตจักรของเรา ขอให้ชีวิตของเราขับเคลื่อนด้วยความรักของพระองค์ ส่องสว่างอย่างสดใส และดึงดูดผู้อื่นมาหาพระองค์ อาเมน

*ในการศึกษาพระคัมภีร์ เราใช้วิธีศึกษาแบบ SOAP ซึ่งย่อมาจาก S (Scripture) พระคัมภีร์, O (Observation) สังเกต, A (Application) ประยุกต์ใช้ และ P (Prayer) อธิษฐาน

1.S - scripture (พระคัมภีร์) เขียนข้อพระคัมภีร์ลงไป คุณจะประหลาดใจกับสิ่งที่พระเจ้าเปิดเผยแก่คุณเพียงแค่ใช้เวลาช้าลงและเขียนสิ่งที่คุณกำลังอ่าน

2.O - observation (สังเกต) คุณเห็นอะไรในข้อที่คุณกำลังอ่าน? เป้าหมายคือใคร? มีคำซ้ำกันมั้ย? คำไหนที่โดดเด่นสำหรับคุณ?

3.A - application (ประยุกต์ใช้) วันนี้พระเจ้ากำลังพูดอะไรกับคุณ? คุณจะนำสิ่งที่คุณเพิ่งอ่านไปประยุกต์ใช้กับชีวิตส่วนตัวของคุณได้อย่างไร? คุณต้องเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง? คุณต้องลงมือทำสิ่งใดหรือไม่?

4.P - prayer (อธิษฐาน) อธิษฐานพระวจนะของพระเจ้าใช้เวลาขอบคุณพระองค์ หากพระองค์ทรงเปิดเผยบางสิ่งแก่คุณในช่วงเวลานี้ผ่านพระคำของพระองค์ อธิษฐานเกี่ยวกับสิ่งนั้น หากพระองค์ทรงเปิดเผยความบาปบางอย่างในชีวิตของคุณ สารภาพมัน และจำไว้ว่าพระองค์ทรงรักคุณอย่างสุดซึ้ง