อีสเตอร์เกิดขึ้นจริงๆ!ตัวอย่าง
อีสเตอร์นั้นเกี่ยวกับ/สำหรับคนจริง ๆ
อีสเตอร์เป็นมากกว่าเรื่องเล่า มันคือประวัติศาสตร์ เพราะประวัติศาสตร์คือเรื่องของบุคคลจริง สถานที่จริง และสิ่งของจริง ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราพบในพระกิตติคุณของจอห์น(ยอห์น) ลองดูคนจริงจากสถานที่จริงที่เราพบในวันที่พระเยซูฟื้นขึ้นมาจากความตายสิ---“รุ่งสางวันแรกของสัปดาห์ ในขณะที่ฟ้ายังมืดอยู่แมรี่แม็กดาลีน(มารีย์ชาวมักดาลา)ไปที่หลุมฝังศพและเห็นก้อนหินนั้นถูกยกออก เธอจึงวิ่งมาหาไซมอน(ซีโมน) ปีเตอร์(เปโตร) และสาวกคนอื่น ๆ ที่พระเยซูรัก” (ยอห์น 20: 1,2)
คนแรกคือมารีย์จากเมืองมักดาลา (นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเธอจึงชื่อแม็กดาลีน) จากนั้นก็ปีเตอร์(เปโตร)ชาวประมงจากเบธไซดา ที่อยู่หกไมล์ห่างออกไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองคาเปอรนาอุม ผู้ที่กล้าหาญ(และหุนหันพลันแล่น)มากพอที่จะวิ่งตรงเข้าไปในหลุมฝังศพ แม้ว่าจะมีข่าวลือว่ามีโจรขโมยศพของพระเยซูก็ตาม แล้วก็มีจอห์น(ยอห์น) --- “สาวกอีกคนหนึ่ง” จอห์นคงเป็นคนประเภทที่ชอบการแข่งขันมาก ๆ เพราะในตอนหลังเขาพูดถึงวิธีการที่เขาชนะปีเตอร์ด้วยการวิ่ง 5 กิโลเมตรเพื่อไปที่หลุมฝังศพของพระเยซูเป็นคนแรกในวันอีสเตอร์ครั้งแรก แมรี่ ปีเตอร์ และจอห์นเป็นบุคคนที่มีตัวตนจริง
ซึ่งก็เป็นข่าวดีจริง ๆ หมายความว่าอีสเตอร์เป็นเรื่องเกี่ยวกับคนจริง ๆ ในตอนนั้น และก็จริงแม้กระทั่งกับคนในตอนนี้ คนจริง ๆ อย่างคุณกับผมที่พบความสุขในการพูดคุยกับพระเยซูผู้ที่มีชีวิตอยู่ในวันนี้ และวันหนึ่งเราจะวิ่งผ่านหลุมศพของเราไปสู่ชีวิตอันเป็นนิรันดร์ ขอบคุณพระเจ้าที่อีสเตอร์คือประวัติศาสตร์ เหตุการณ์จริงที่มอบพระพรให้กับคนจริง ๆ !
ข้อพระคัมภีร์
เกี่ยวกับแผนฯ
อีสเตอร์เป็นมากกว่าเรื่องเล่า มันคือประวัติศาสตร์ มันเกิดขึ้นจริง ๆ และนั่นหมายความว่าคุณได้รับพรมากมายจากพระเจ้าก็เพราะวันอีสเตอร์ พระเยซูมีชีวิตและคุณก็เช่นกัน!
More
เราขอขอบคุณ Time of Grace Ministry ที่ให้แผนนี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดไปที่ https://timeofgrace.org/welcome-to-time-of-grace/?togipsrc=youversion&togpreselect=1-2