เศคาริยาห์ 7:8-14
เศคาริยาห์ 7:8-14 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
และพระวจนะของพระยาห์เวห์มาถึงเศคาริยาห์ว่า “พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสดังนี้ว่า จงพิพากษาตามความจริง จงแสดงความกรุณาและความปรานีต่อพี่น้องของตน อย่าบีบบังคับหญิงม่าย ลูกกำพร้าพ่อ คนต่างด้าวหรือคนยากจน และอย่าคิดอุบายชั่วในใจต่อพี่น้องของตน แต่พวกเขาปฏิเสธที่จะฟัง เขาดื้อและหันหลังให้ เขาอุดหูเพื่อจะไม่ได้ยิน เออ พวกเขาได้ทำใจให้แข็งเหมือนเพชร เกรงว่าจะได้ยินพระบัญญัติและพระวจนะ ซึ่งพระยาห์เวห์จอมทัพตรัสทางผู้เผยพระวจนะรุ่นก่อนโดยพระวิญญาณของพระองค์ เพราะเหตุนั้นพระพิโรธอันยิ่งใหญ่จึงได้มาจากพระยาห์เวห์จอมทัพ พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสว่า เมื่อเราร้องเรียก เขาไม่ฟังอย่างไร เมื่อเขาร้องทูล เราก็ไม่ฟังอย่างนั้น และเราก็ให้เขากระจัดกระจายไปด้วยลมพายุท่ามกลางประชาชาติทั้งสิ้นซึ่งเขาไม่รู้จัก ดังนั้นแผ่นดินที่เขาทิ้งไปจึงว่างเปล่า จนไม่มีใครเข้าออก และแผ่นดินที่น่าอยู่ก็เป็นที่ร้างเปล่า”
เศคาริยาห์ 7:8-14 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
และพระวจนะของพระเจ้ามาถึงเศคาริยาห์ว่า <<พระเจ้าจอมโยธาตรัสดังนี้ว่า จงพิพากษาตามความจริง จงแสดงความกรุณาและความปรานีต่อพี่น้องของตน อย่าบีบบังคับหญิงม่าย ลูกกำพร้าพ่อ คนต่างด้าวหรือคนยากจน และอย่าคิดอุบายชั่วในใจต่อพี่น้องของตน>> แต่เขาปฏิเสธไม่ยอมฟังและหันบ่าดื้อเข้าใส่ และอุดหูของเขาเสียเพื่อเขาจะไม่ได้ยิน เออ เขาได้กระทำใจของเขาให้แข็งเหมือนเพชร เกรงว่าเขาจะได้ยินพระธรรมและพระวจนะ ซึ่งพระเจ้าจอมโยธาได้ทรงส่งไปทางผู้เผยพระวจนะรุ่นก่อนโดยวิญญาณของพระองค์ เหตุฉะนั้นพระพิโรธอันยิ่งใหญ่จึงได้มาจากพระเจ้าจอมโยธา พระเจ้าจอมโยธาตรัสว่า <<เมื่อเราร้องเรียก เขาไม่ฟังฉันใด เมื่อเขาร้องทูล เราก็ไม่ฟังฉันนั้น และเราก็ให้เขากระจัดกระจายไปด้วยลมบ้าหมูท่ามกลางประชาชาติทั้งสิ้นซึ่งเขามิได้รู้จัก ดังนั้นแผ่นดินที่เขาทิ้งไปจึงว่างเปล่า ไม่มีใครเข้าออก และแผ่นดินที่สุขสบายก็เป็นที่ร้างเปล่า>>
เศคาริยาห์ 7:8-14 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
แล้วมีพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงเศคาริยาห์อีกว่า “พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า ‘จงผดุงความยุติธรรมที่แท้จริง แสดงความเมตตาเห็นอกเห็นใจต่อกัน อย่ากดขี่ข่มเหงแม่ม่ายหรือลูกกำพร้าพ่อ คนต่างด้าวหรือผู้ยากไร้ อย่าให้ท่านมีใจคิดร้ายต่อกัน’ “แต่พวกเขาก็ไม่ยอมใส่ใจฟัง เขาอุดหูและหันหลังให้เราอย่างดื้อด้าน เขาทำใจให้แข็งกระด้างดั่งหินเหล็กไฟ และไม่ยอมฟังบทบัญญัติหรือถ้อยคำที่พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์มีมาถึงพวกเขาโดยพระวิญญาณของพระองค์ผ่านทางผู้เผยพระวจนะคนก่อนๆ ฉะนั้นพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์จึงทรงพระพิโรธยิ่งนัก “พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า ‘เมื่อเราร้องเรียก พวกเขาไม่ฟัง ฉะนั้นเมื่อพวกเขาร้องเรียก เราก็จะไม่ฟัง เราใช้พายุหมุนทำให้พวกเขากระจัดกระจายไปเป็นคนแปลกถิ่นในหมู่ชนชาติต่างๆ ดินแดนของเขาจะถูกทิ้งร้างอยู่ข้างหลัง ไม่มีใครผ่านไปมา เขาทำให้ดินแดนอันน่าอภิรมย์กลับเริศร้างไปเช่นนี้’ ”
เศคาริยาห์ 7:8-14 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
ถ้อยคำของพระยาห์เวห์มาถึงเศคาริยาห์ พูดอย่างนี้ว่า “นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูด ‘ให้ตัดสินอย่างยุติธรรม ให้มีน้ำใจต่อกันและเห็นอกเห็นใจกัน อย่ากดขี่ข่มเหงแม่หม้าย เด็กกำพร้า คนต่างชาติ หรือคนจน อย่าวางแผนชั่วในใจต่อกัน’ แต่คนพวกนั้นก็ไม่ยอมฟัง พวกเขาทำเป็นเมิน ดื้อดึง และยังอุดหูไม่ยอมฟัง เขาทำให้ใจตัวเองแข็งเหมือนเพชรเพื่อจะไม่ได้ยินกฎและคำสั่งต่างๆ ที่พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นส่งผ่านมาทางพระวิญญาณของพระองค์ โดยพวกผู้พูดแทนพระเจ้าในสมัยก่อน พระยาห์เวห์จึงโกรธแค้นมาก ดังนั้นพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดว่า ‘ตอนที่เราเรียกพวกเขา พวกเขาก็ไม่ยอมฟังเรา ดังนั้น ตอนนี้พวกเขาขอความช่วยเหลือจากเรา เราก็จะไม่ยอมฟังพวกเขาเหมือนกัน แล้วเราได้พัดพวกเขาให้กระจัดกระจายไปอยู่ท่ามกลางชนชาติที่พวกเขาไม่รู้จัก จนแผ่นดินรกร้างว่างเปล่าจนไม่มีใครเดินผ่านไปมา เมื่อชนชาติต่างๆเหล่านั้นบุกเข้ามา และแผ่นดินที่น่าอยู่ก็ถูกทำลายไป’”
เศคาริยาห์ 7:8-14 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
และพระวจนะของพระเยโฮวาห์มาถึงเศคาริยาห์ว่า “พระเยโฮวาห์จอมโยธาตรัสดังนี้ว่า จงพิพากษาตามความจริง ทุกคนจงแสดงความเมตตากรุณาและความสงสารต่อพี่น้องของตน อย่าบีบบังคับหญิงม่าย ลูกกำพร้าพ่อ คนต่างด้าวหรือคนยากจน และอย่าคิดอุบายชั่วในใจต่อพี่น้องของตน” แต่เขาปฏิเสธไม่ยอมฟังและหันบ่าดื้อเข้าใส่ และอุดหูของเขาเสียเพื่อเขาจะไม่ได้ยิน เออ เขาได้กระทำใจของเขาเหมือนก้อนหินแข็ง เกรงว่าเขาจะได้ยินพระราชบัญญัติและพระวจนะ ซึ่งพระเยโฮวาห์จอมโยธาได้ทรงส่งไปทางผู้พยากรณ์รุ่นก่อนโดยพระวิญญาณของพระองค์ เหตุฉะนั้นพระพิโรธอันยิ่งใหญ่จึงได้มาจากพระเยโฮวาห์จอมโยธา ดังนั้นต่อมาพระเยโฮวาห์จอมโยธาตรัสว่า “เมื่อเราร้องเรียก เขาไม่ฟังฉันใด เมื่อเขาร้องทูล เราก็ไม่ฟังฉันนั้น และเราก็ให้เขากระจัดกระจายไปด้วยลมหมุนท่ามกลางประชาชาติทั้งสิ้นซึ่งเขาไม่รู้จัก ดังนั้นแผ่นดินจึงรกร้างอยู่เบื้องหลังเขา ไม่มีใครผ่านไปหรือกลับเข้าไป เพราะเขาได้ปล่อยให้แผ่นดินที่น่าพึงพอใจนั้นรกร้างไปเสียแล้ว”
เศคาริยาห์ 7:8-14 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
และคำกล่าวของพระผู้เป็นเจ้าก็มาถึงเศคาริยาห์ว่า พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวดังนี้ “จงปกครองด้วยความเป็นธรรมอย่างแท้จริง แสดงความเมตตาและความสงสารต่อกันและกัน อย่ากดขี่ข่มเหงหญิงม่ายหรือเด็กกำพร้าพ่อ คนต่างด้าวหรือผู้ยากไร้ และอย่าคิดร้ายในใจต่อกัน” แต่พวกเขาปฏิเสธที่จะใส่ใจ และยังหัวรั้นหันหลัง และทำหูทวนลมไม่ฟัง พวกเขาทำจิตใจแข็งกระด้างดั่งหินเหล็กไฟ ไม่ฟังกฎบัญญัติและคำกล่าวที่พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาได้ส่งมาให้โดยพระวิญญาณผ่านบรรดาผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้ารุ่นก่อนๆ ฉะนั้นความกริ้วอันร้อนแรงจึงมาจากพระผู้เป็นเจ้าจอมโยธา “เวลาเราร้องบอก พวกเขาก็ไม่ฟัง ดังนั้นเวลาพวกเขาร้องบอก เราก็จะไม่ฟัง” พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวดังนั้น “เราทำให้พวกเขากระจัดกระจายกันไปด้วยพายุหมุนในท่ามกลางประชาชาติทั้งปวงที่พวกเขาไม่เคยรู้จัก แผ่นดินถูกทิ้งร้างไว้เบื้องหลัง จึงไม่มีใครไปมาหาสู่กันได้ พวกเขาทำให้แผ่นดินอันน่าอยู่กลายเป็นที่รกร้าง”