โรม 8:11-17
โรม 8:11-17 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
ถ้าคุณมีพระวิญญาณที่ทำให้พระเยซูฟื้นขึ้นจากความตายอยู่ในพวกคุณ พระเจ้าผู้ทำให้พระคริสต์ฟื้นขึ้นจากความตาย ก็จะใช้พระวิญญาณของพระองค์ที่อยู่ในพวกคุณนั้น ให้ชีวิตกับร่างที่ต้องตายนี้ของคุณ ดังนั้นพี่น้องครับ เราไม่ได้เป็นหนี้อะไรกับสันดานเลยถึงจะต้องทำตามที่มันสั่ง ถ้าคุณยังใช้ชีวิตตามสันดานอยู่ คุณจะต้องตาย แต่ถ้าคุณยอมให้พระวิญญาณฆ่าการกระทำบาปของร่างกาย คุณก็จะมีชีวิต เพราะพระวิญญาณของพระเจ้านำใคร คนนั้นก็เป็นลูกของพระเจ้า เพราะพระวิญญาณที่คุณได้รับนั้นไม่ได้ทำให้คุณเป็นทาสที่ต้องกลัวอีก แต่ทำให้คุณเป็นลูกๆของพระเจ้า และพระวิญญาณนี้ทำให้เราร้องดังๆว่า “อับบา พ่อ” พระวิญญาณนั้นทำให้เรามั่นใจว่าเราเป็นลูกๆของพระเจ้า ถ้าเราเป็นลูกๆของพระเจ้าแล้ว เราก็เป็นทายาท คือทายาทของพระเจ้า และเป็นทายาทร่วมกับพระคริสต์ แต่เราจะต้องร่วมทุกข์กับพระคริสต์ก่อน เพื่อที่เราจะได้รับศักดิ์ศรีร่วมกับพระองค์ด้วย
โรม 8:11-17 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
ถ้าพระวิญญาณของพระองค์ ผู้ทรงให้พระเยซูเป็นขึ้นมาจากตายสถิตอยู่ในท่านทั้งหลาย พระองค์ผู้ทรงให้พระเยซูคริสต์เป็นขึ้นมาจากตายแล้วนั้น จะทรงทำให้กายซึ่งต้องตายของพวกท่านเป็นขึ้นมาใหม่ โดยพระวิญญาณของพระองค์ซึ่งสถิตอยู่ในท่าน เพราะฉะนั้น พี่น้องทั้งหลาย เราเป็นหนี้ แต่ไม่ใช่เป็นหนี้ฝ่ายเนื้อหนัง ที่จะดำเนินชีวิตตามเนื้อหนัง เพราะว่าถ้าท่านดำเนินชีวิตตามเนื้อหนังแล้ว ท่านจะต้องตาย แต่ถ้าโดยทางพระวิญญาณ ท่านทำลายกิจการของร่างกาย ท่านก็จะดำรงชีวิตได้ เพราะว่าพระวิญญาณของพระเจ้าทรงนำใคร คนนั้นก็เป็นบุตรของพระเจ้า เพราะว่าพระวิญญาณที่พระเจ้าประทานมานั้นจะไม่ทรงให้ท่านเป็นทาสซึ่งทำให้ตกในความกลัวอีก แต่พระวิญญาณจะทรงให้ท่านมีฐานะเป็นบุตรของพระเจ้า โดยพระวิญญาณนั้นเราจึงร้องเรียกพระเจ้าว่า “อับบา (พ่อ)” พระวิญญาณนั้นเป็นพยานร่วมกับจิตวิญญาณของเราว่า เราเป็นลูกของพระเจ้า และถ้าเราเป็นลูกแล้ว เราก็เป็นทายาท คือเป็นทายาทของพระเจ้า และเป็นทายาทร่วมกับพระคริสต์ เมื่อเราทนทุกข์ทรมานด้วยกันกับพระองค์ก็เพื่อจะได้ศักดิ์ศรีด้วยกันกับพระองค์ด้วย
โรม 8:11-17 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
แต่ถ้าพระวิญญาณของพระองค์ ผู้ทรงชุบให้พระเยซูเป็นขึ้นมาจากความตายทรงสถิตอยู่ในท่านทั้งหลาย พระองค์ผู้ทรงชุบให้พระคริสต์เป็นขึ้นมาจากความตายแล้วนั้น จะทรงกระทำให้กายซึ่งต้องตายของท่าน เป็นขึ้นมาใหม่ด้วย โดยพระวิญญาณของพระองค์ซึ่งทรงสถิตอยู่ในท่านทั้งหลาย ท่านพี่น้องทั้งหลาย เหตุฉะนั้นเราทั้งหลายเป็นหนี้ แต่มิใช่เป็นหนี้ฝ่ายเนื้อหนังที่จะดำเนินชีวิตตามเนื้อหนัง เพราะว่าถ้าท่านทั้งหลายดำเนินชีวิตตามฝ่ายเนื้อหนังแล้ว ท่านจะต้องตาย แต่ถ้าโดยฝ่ายพระวิญญาณท่านได้ทำลายการของฝ่ายกายเสีย ท่านก็จะดำรงชีวิตได้ ด้วยว่าพระวิญญาณของพระเจ้าได้ทรงนำพาคนหนึ่งคนใด คนเหล่านั้นก็เป็นบุตรของพระเจ้า เหตุว่าท่านไม่ได้รับนิสัยอย่างทาสซึ่งทำให้ตกในความกลัวอีก แต่ท่านได้รับพระวิญญาณผู้ทรงให้เป็นบุตรซึ่งให้เราทั้งหลายร้องเรียกพระเจ้าว่า “อับบา” คือพระบิดา พระวิญญาณนั้นเป็นพยานร่วมกับจิตวิญญาณของเราทั้งหลายว่า เราทั้งหลายเป็นบุตรของพระเจ้า และถ้าเราทั้งหลายเป็นบุตรแล้ว เราก็เป็นทายาทคือเป็นทายาทของพระเจ้า และเป็นทายาทร่วมกับพระคริสต์ เมื่อเราทั้งหลายทนทุกข์ทรมานด้วยกันกับพระองค์นั้น ก็เพื่อเราทั้งหลายจะได้สง่าราศีด้วยกันกับพระองค์ด้วย
โรม 8:11-17 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
ถ้าพระวิญญาณของพระองค์ ผู้ทรงชุบให้พระเยซูเป็นขึ้นมาจากความตาย ทรงสถิตอยู่ในท่านทั้งหลาย พระองค์ผู้ทรงชุบให้พระเยซูคริสต์เป็นขึ้นมาจากความตายแล้วนั้น จะทรงกระทำให้กายซึ่งต้องตายของท่าน เป็นขึ้นมาใหม่ โดยเดชแห่งพระวิญญาณของพระองค์ซึ่งทรงสถิตอยู่ในท่านทั้งหลาย ดูก่อน พี่น้องทั้งหลาย เหตุฉะนั้นเราทั้งหลายเป็นหนี้ แต่มิใช่เป็นหนี้ฝ่ายเนื้อหนัง ที่จะดำเนินชีวิตตามเนื้อหนัง เพราะว่าถ้าท่านทั้งหลายดำเนินชีวิตตามฝ่ายเนื้อหนังแล้ว ท่านจะต้องตาย แต่ถ้าโดยฝ่ายพระวิญญาณ ท่านได้ทำลายการของฝ่ายกายเสียท่านก็จะดำรงชีวิตได้ เพราะว่าพระวิญญาณของพระเจ้าทรงนำผู้ใด ผู้นั้นก็เป็นบุตรของพระเจ้า เหตุว่าท่านไม่ได้รับน้ำใจทาสซึ่งทำให้ตกในความกลัวอีก แต่ท่านได้รับพระวิญญาณผู้ทรงให้เป็นบุตรของพระเจ้า ให้เราทั้งหลายร้องเรียกพระเจ้าว่า <<อับบา>> คือพระบิดา พระวิญญาณนั้นเป็นพยานร่วมกับวิญญาณจิตของเราทั้งหลายว่า เราทั้งหลายเป็นบุตรของพระเจ้า และถ้าเราทั้งหลายเป็นบุตรแล้ว เราก็เป็นทายาท คือเป็นทายาทของพระเจ้า และเป็นทายาทร่วมกับพระคริสต์ เมื่อเราทั้งหลายทนทุกข์ทรมานด้วยกันกับพระองค์นั้น ก็เพื่อเราทั้งหลายจะได้ศักดิ์ศรีด้วยกันกับพระองค์ด้วย
โรม 8:11-17 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
และถ้าพระวิญญาณของพระองค์ผู้ทรงให้พระเยซูเป็นขึ้นจากตายสถิตในท่าน พระองค์ผู้ทรงให้พระคริสต์เป็นขึ้นจากตายจะประทานชีวิตแก่กายซึ่งต้องตายของท่านด้วย พระองค์ประทานชีวิตนั้นโดยทางพระวิญญาณของพระองค์ผู้สถิตในท่าน เหตุฉะนั้นพี่น้องทั้งหลาย เราจึงมีพันธะ แต่ไม่ใช่พันธะต่อวิสัยบาปที่จะต้องดำเนินชีวิตตามนั้น เพราะถ้าท่านดำเนินชีวิตตามวิสัยบาป ท่านก็จะตาย แต่ถ้าท่านได้ประหารการกระทำอันชั่วร้ายของกายของท่านโดยพระวิญญาณ ท่านก็จะมีชีวิตอยู่ เพราะพระวิญญาณของพระเจ้าทรงนำผู้ใด ผู้นั้นเป็นบุตรของพระเจ้า ท่านไม่ได้รับวิญญาณซึ่งทำให้ท่านเป็นทาสของความกลัวอีก แต่ท่านได้รับพระวิญญาณผู้ทำให้ท่านเป็นบุตรของพระเจ้า และโดยพระองค์ เราร้องว่า “อับบา พ่อ” พระวิญญาณเองทรงยืนยันร่วมกับวิญญาณจิตของเรา ว่าเราเป็นบุตรของพระเจ้า บัดนี้ถ้าเราเป็นบุตรของพระองค์แล้ว เราก็เป็นทายาทคือเป็นทายาทของพระเจ้า และเป็นทายาทร่วมกับพระคริสต์ ถ้าเราร่วมทนทุกข์อย่างแท้จริงกับพระองค์ เราก็จะร่วมในพระเกียรติสิริของพระองค์ด้วย
โรม 8:11-17 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
ถ้าพระวิญญาณของพระองค์ผู้ให้พระเยซูฟื้นคืนชีวิตจากความตาย ดำรงอยู่ในตัวท่าน พระองค์ผู้ให้พระคริสต์ฟื้นคืนชีวิตจากความตาย จะให้สังขารอันไม่ยั่งยืนของท่านมีชีวิตขึ้นด้วย โดยพระวิญญาณของพระองค์ที่ดำรงอยู่ในตัวท่าน ดังนั้น พี่น้องเอ๋ย เราเป็นหนี้ซึ่งไม่ใช่หนี้ฝ่ายเนื้อหนัง ที่ต้องดำเนินชีวิตตามฝ่ายเนื้อหนัง ถ้าท่านใช้ชีวิตตามฝ่ายเนื้อหนังท่านจะต้องตาย แต่ถ้าโดยฝ่ายพระวิญญาณ ท่านทำลายการกระทำชั่วฝ่ายกายเสีย ท่านก็จะมีชีวิตอยู่ เพราะทุกคนที่มีพระวิญญาณของพระเจ้านำทาง ก็ได้เป็นบรรดาบุตรของพระเจ้า และท่านไม่ได้รับวิญญาณแห่งทาสซึ่งนำไปสู่ความกลัวได้อีก แต่ท่านได้พระวิญญาณแห่งการได้รับการยกฐานะเป็นบุตร และเราร้องเรียกว่า “อับบา พระบิดา” ได้ก็เพราะพระวิญญาณ พระวิญญาณเองได้เป็นพยานต่อวิญญาณของเราว่า เราเป็นบรรดาบุตรของพระเจ้า ถ้าเราเป็นบรรดาบุตร เราก็เป็นผู้รับมรดก คือเป็นผู้รับมรดกของพระเจ้า และเป็นผู้รับมรดกร่วมกับพระคริสต์ ถ้าเรามีส่วนร่วมในการทนทุกข์ทรมานร่วมกับพระองค์ เราจะได้มีส่วนร่วมกับพระบารมีของพระองค์ด้วย