โรม 3:10-26

โรม 3:10-26 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

เหมือน​กับ​ที่​พระคัมภีร์​เขียน​ไว้​ว่า “ไม่​มี​ใคร​ทำ​ตามใจ​พระเจ้า​เลย ไม่​มี​เลย​สัก​คน​เดียว ไม่​มี​ใคร​เลย​ที่​เข้าใจ ไม่​มี​ใคร​เลย​ที่​แสวงหา​พระเจ้า ทุก​คน​หัน​หน้า​หนี​ไป​จาก​พระองค์ ทุก​คน​กลาย​เป็น​คน​ไร้ค่า ไม่​มี​ใคร​มี​น้ำใจ ไม่​มี​เลย​สัก​คน​เดียว” “ลำคอ​ของ​พวก​เขา​เหมือน​หลุมศพ​ที่​เปิด​อยู่ ลิ้น​ของ​พวก​เขา​ชอบ​หลอกลวง” “ริมฝีปาก​ของ​พวก​เขา​อาบ​ด้วย​พิษ​งู​ร้าย” “ปาก​ของ​พวก​เขา​เต็ม​ไป​ด้วย​คำ​แช่งด่า​และ​คำ​พูด​ที่​ขมขื่น” “เท้า​ของ​พวก​เขา​รีบ​วิ่ง​ไป​ฆ่า​คน เขา​ไป​ไหน ก็​ทำลาย​ทุก​อย่าง​จน​หมด และ​สร้าง​ความ​ทุกขเวทนา​ที่นั่น พวก​เขา​ไม่​รู้จัก​ทาง​แห่ง​สันติสุข” “เขา​ไม่​เคย​คิด​ที่​จะ​เกรง​กลัว​พระเจ้า​เลย” เรา​รู้​แล้ว​ว่า ทุก​อย่าง​ที่​กฎ​บอก ก็​เพื่อ​บอก​กับ​คน​ที่​อยู่​ภาย​ใต้​กฎนั้น เพื่อ​ปิด​ปาก​ทุก​คน​ไม่​ให้​มี​ข้อ​แก้ตัว และ​เพื่อ​ทุก​คน​ใน​โลก​จะ​ต้อง​อยู่​ภายใต้​การ​ตัดสิน​ของ​พระเจ้า ไม่​มี​ใคร​หรอก​ที่​พระเจ้า​จะ​ยอมรับ​เนื่อง​จาก​ทำ​สิ่ง​ที่​กฎ​บอก​ให้​ทำ เพราะ​กฎ​นั้น​มี​ไว้​ชี้​ให้​เรา​เห็น​ถึง​ความบาป​ของ​ตัวเอง แต่​ตอนนี้ พระเจ้า​ได้​เปิดเผย​ให้​เห็น​ว่า​พระองค์​นั้น​ซื่อสัตย์​และ​ทำ​ใน​สิ่ง​ที่​ถูกต้อง​เสมอ โดย​ไม่​เกี่ยวข้อง​กับ​กฎ​เลย แต่​ว่า​ทั้ง​กฎ​และ​พวก​ผู้​พูด​แทน​พระเจ้า​ได้​เป็น​พยาน​ถึง​ความ​ซื่อสัตย์​ของ​พระองค์ พระเจ้า​ทำ​ให้​เรา​เห็น​ว่า​พระองค์​นั้น​ซื่อสัตย์ และ​ทำ​ใน​สิ่ง​ที่​ถูกต้อง​เสมอ พระองค์​ทำ​อย่างนี้​ผ่าน​ทาง​ความ​ซื่อสัตย์​ของ​พระเยซู​คริสต์ เพื่อ​เป็น​ประโยชน์​สำหรับ​ทุกๆ​คน​ที่​ไว้วางใจ ไม่​มี​ใคร​แตกต่าง​กัน​เลย เพราะ​ทุก​คน​ทำ​บาป​เหมือน​กัน​หมด และ​เสื่อม​จาก​พระบารมี​ของ​พระเจ้า พระเจ้า​มี​ความ​เมตตา​กรุณา​และ​พระองค์​ยอมรับ​ทุก​คนมา​เป็น​คน​ของ​พระองค์​โดย​ไม่​คิด​มูลค่า และ​เพราะ​สิ่ง​ที่​พระเยซู​คริสต์​ได้​ทำ พระเจ้า​ได้​ปลดปล่อย​พวก​เขา​ให้​เป็น​อิสระ​จาก​การ​เป็น​ทาส​ของ​บาป พระเจ้า​ให้​พระเยซู​คริสต์​เป็น​เครื่อง​บูชา​เพื่อ​จัดการ​กับ​บาป ที่​พระเจ้า​ทำ​อย่างนี้​ได้​ก็​เพราะ​พระเยซู​นั้น​ซื่อสัตย์ และ​ยอม​ที่​จะ​หลั่ง​เลือด​และ​ตาย พระเจ้า​ให้​พระเยซู​เป็น​เครื่อง​บูชา เพื่อ​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​พระองค์​นั้น​ซื่อสัตย์​และ​ทำ​ใน​สิ่ง​ที่​ถูกต้อง​เสมอ เพราะ​พระองค์​อดทน และ​ไม่​ได้​ลงโทษ​คน​ที่​ทำ​บาป​ใน​อดีต นอกจากนี้​พระเจ้า​ยัง​ต้องการ​แสดง​ให้​เห็น​ใน​ปัจจุบันนี้​ว่า​พระองค์​นั้น​ซื่อ​สัตย์​และ​ทำ​ใน​สิ่ง​ที่​ถูกต้อง​เสมอ และ​พระองค์​ยอมรับ​คน​ที่​มี​ส่วนรวม​ใน​ความ​ไว้วางใจ​ของ​พระเยซู

แบ่งปัน
อ่าน โรม 3

โรม 3:10-26 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

ตามที่พระคัมภีร์มีเขียนไว้ว่า “ไม่มีผู้ใดเป็นคนชอบธรรมสักคนเดียวไม่มีเลย ไม่มีคนที่เข้าใจ ไม่มีคนที่แสวงหาพระเจ้า เขาทุกคนหลงผิดไปหมด พวกเขาเลวทรามเหมือนกันสิ้น ไม่มีสักคนเดียวที่ทำดี ไม่มีเลย ลำคอของพวกเขาคือหลุมฝังศพที่เปิดอยู่ เขาใช้ลิ้นของเขาในการล่อลวง พิษงูร้ายอยู่ใต้ริมฝีปากของเขา ปากของพวกเขาเต็มด้วยคำแช่งด่าอันขมขื่น เท้าของเขาว่องไวในการทำให้นองเลือด ในทางเดินของเขามีความพินาศและความทุกข์ และเขาไม่รู้จักทางแห่งสันติสุข เขาไม่เคยคิดจะยำเกรงพระเจ้า ” เรารู้แล้วว่า ธรรมบัญญัติทุกข้อที่ได้กล่าวนั้น ก็กล่าวแก่พวกที่อยู่ใต้ธรรมบัญญัติ เพื่อปิดปากทุกคน และให้โลกทั้งหมดอยู่ใต้การพิพากษาของพระเจ้า เพราะว่าในสายพระเนตรของพระเจ้า ไม่มีใครถูกชำระให้ชอบธรรมได้โดยการประพฤติตามธรรมบัญญัติ เพราะว่าธรรมบัญญัตินั้นทำให้เรารู้จักบาป แต่เดี๋ยวนี้ความชอบธรรมของพระเจ้านั้นปรากฏนอกเหนือธรรมบัญญัติ ความชอบธรรมดังกล่าวก็ได้รับการยืนยันจากหมวดธรรมบัญญัติและพวกผู้เผยพระวจนะ คือความชอบธรรมของพระเจ้า ซึ่งปรากฏโดยความเชื่อในพระเยซูคริสต์แก่ทุกคนที่เชื่อ โดยไม่ทรงถือว่าเขาแตกต่างกัน เพราะว่าทุกคนทำบาป และเสื่อมจากพระสิริของพระเจ้า แต่พระเจ้าทรงมีพระคุณให้เขาเป็นผู้ชอบธรรมโดยไม่คิดมูลค่า โดยที่พระเยซูคริสต์ทรงไถ่เขาให้พ้นบาปแล้ว พระเจ้าได้ทรงตั้งพระเยซูไว้ให้เป็นเครื่องบูชาไถ่บาปโดยพระโลหิตของพระองค์ ความเชื่อจึงได้ผล ทั้งนี้เพื่อแสดงให้เห็นความชอบธรรมของพระเจ้า ในการที่พระองค์ได้ทรงอดกลั้นพระทัย และทรงยกบาปที่ได้ทำไปแล้วนั้น และเพื่อจะสำแดงในปัจจุบันนี้ว่าพระองค์ทรงเป็นผู้ชอบธรรม และทรงให้ผู้ที่เชื่อในพระเยซูเป็นผู้ชอบธรรมด้วย

แบ่งปัน
อ่าน โรม 3

โรม 3:10-26 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

ตามที่​มี​เข​ียนไว้​แล​้​วว​่า ‘​ไม่มี​ผู้​ใดเป็นคนชอบธรรมสักคนเดียว ไม่มี​เลย ไม่มี​คนที​่​เข้าใจ ไม่มี​คนที​่แสวงหาพระเจ้า เขาทุกคนหลงทางไปหมด เขาทั้งปวงเป็นคนไร้ค่าเหมือนกันทั้งสิ้น ไม่มี​สักคนเดียวที่​ทำดี ไม่มี​เลย ลำคอของเขาคือหลุมฝังศพที่เปิ​ดอย​ู่ เขาใช้ลิ้นของเขาในการล่อลวง ภายใต้​ริมฝีปากของเขามีพิษของงู​ร้าย ปากของเขาเต็​มด​้วยคำแช่​งด​่าและคำขมขื่น เท​้าของเขาว่องไวในการทำให้​นองเลือด ในทางเดินของเขามีความพินาศและความทุกข์ และเขาไม่​รู้​จักทางแห่งสันติ​สุข ในแววตาของเขาไม่​มี​ความเกรงกลัวพระเจ้า’ บัดนี้ เรารู้​แล​้​วว​่าพระราชบัญญั​ติ​ทุ​กข้อที่​ได้​กล​่าวนั้น ก็ได้​กล​่าวแก่คนเหล่านั้​นที​่​อยู่​ใต้​พระราชบัญญัติ​เพื่อปิดปากทุกคน และเพื่อให้​มนุษย์​ทุ​กคนในโลกมีความผิดจำเพาะพระพักตร์​พระเจ้า เพราะฉะนั้นจึงไม่​มี​เนื้อหนังคนหนึ่งคนใดเป็นผู้ชอบธรรมในสายพระเนตรของพระเจ้าได้โดยการประพฤติตามพระราชบัญญั​ติ เพราะว่าโดยพระราชบัญญั​ติ​นั้นเราจึงรู้จักบาปได้ แต่​บัดนี้​ได้​ปรากฏแล้​วว​่าความชอบธรรมของพระเจ้านั้นปรากฏนอกเหนือพระราชบัญญั​ติ ซึ่งพระราชบัญญั​ติ​กับพวกศาสดาพยากรณ์เป็นพยานอยู่ คือความชอบธรรมของพระเจ้าซึ่งทรงประทานโดยความเชื่อในพระเยซู​คริสต์​สำหรั​บท​ุกคนและแก่​ทุ​กคนที่​เชื่อ เพราะว่าคนทั้งหลายไม่​ต่างกัน เหตุ​ว่าทุกคนทำบาป และเสื่อมจากสง่าราศีของพระเจ้า แต่​พระเจ้าทรงพระกรุณาให้เราเป็นผู้​ชอบธรรม โดยไม่คิ​ดม​ูลค่า โดยที่​พระเยซู​คริสต์​ทรงไถ่เราให้พ้นบาปแล้ว พระเจ้าได้ทรงตั้งพระเยซู​ไว้​ให้​เป็​นที​่ลบล้างพระอาชญา โดยความเชื่อในพระโลหิตของพระองค์ เพื่อสำแดงให้​เห​็นความชอบธรรมของพระองค์ในการที่พระเจ้าได้ทรงอดกลั้นพระทัย และทรงยกบาปที่​ได้​ทำไปแล้​วน​ั้น และเพื่อจะสำแดงความชอบธรรมของพระองค์ในปัจจุบันนี้ว่าพระองค์ทรงเป็นผู้​ชอบธรรม และทรงโปรดให้​ผู้​ที่​เชื่อในพระเยซูเป็นผู้ชอบธรรมด้วย

แบ่งปัน
อ่าน โรม 3

โรม 3:10-26 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

ตามที่พระคัมภีร์มีเขียนไว้ว่า ไม่มีผู้ใดเป็นคนชอบธรรมสักคนเดียว ไม่มีเลย ไม่มีคนที่เข้าใจ ไม่มีคนที่แสวงหาพระเจ้า เขาทุกคนหลงผิดไปหมด เขาทั้งปวงเลวทรามเหมือนกันสิ้น ไม่มีสักคนเดียวที่กระทำดี ไม่มีเลย ลำคอของเขาคือหลุมฝังศพที่เปิดอยู่ เขาใช้ลิ้นของเขาในการล่อลวง พิษงูร้ายอยู่ใต้ริมฝีปากของเขา ปากของเขาเต็มไปด้วยคำแช่งด่าและคำเผ็ดร้อน เท้าของเขาว่องไวในการทำให้นองเลือด ในทางเดินของเขามีความพินาศและความทุกข์ และเขาไม่รู้จักทางแห่งสันติสุข เขาไม่เคยคิดที่จะยำเกรงพระเจ้าเลย เรารู้แล้วว่า ธรรมบัญญัติทุกข้อที่ได้กล่าวนั้น ก็ได้กล่าวแก่คนเหล่านั้นที่อยู่ใต้ธรรมบัญญัติ เพื่อปิดปากทุกคน และเพื่อให้มนุษย์ทุกคนในโลกอยู่ใต้การพิพากษาของพระเจ้า เพราะว่าในสายพระเนตรของพระเจ้าไม่มีผู้หนึ่งผู้ใดเป็นคนชอบธรรมโดยการประพฤติตามธรรมบัญญัติได้ เพราะว่าธรรมบัญญัตินั้นทำให้เรารู้จักบาปได้ แต่บัดนี้ได้ปรากฏแล้วว่า ความชอบธรรมซึ่งมาจากพระเจ้านั้นปรากฏนอกเหนือกฎบัญญัติ ธรรมบัญญัติกับพวกผู้เผยพระวจนะเป็นพยานอยู่ คือความชอบธรรมของพระเจ้า ซึ่งทรงประทานโดยความเชื่อในพระเยซูคริสต์แก่ทุกคนที่เชื่อ เพราะว่าคนทั้งหลายไม่ต่างกัน เพราะว่าทุกคนทำบาป และเสื่อมจากพระสิริของพระเจ้า แต่พระเจ้าทรงพระกรุณาให้เขาเป็นผู้ชอบธรรม โดยไม่คิดมูลค่า โดยที่พระเยซูคริสต์ทรงไถ่เขาให้พ้นบาปแล้ว พระเจ้าได้ทรงตั้งพระเยซูไว้ให้เป็นที่ลบล้างพระอาชญาโดยพระโลหิตของพระองค์ โดยความเชื่อจึงได้ผล ทั้งนี้เพื่อสำแดงให้เห็นความชอบธรรมของพระเจ้า ในการที่พระองค์ได้ทรงอดกลั้นพระทัย และทรงยกบาปที่ได้ทำไปแล้วนั้น และเพื่อจะสำแดงในปัจจุบันนี้ว่าพระองค์ทรงเป็นผู้ชอบธรรม และทรงโปรดให้ผู้ที่เชื่อในพระเยซูเป็นผู้ชอบธรรมด้วย

แบ่งปัน
อ่าน โรม 3

โรม 3:10-26 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

ตามที่มีเขียนไว้ว่า “ไม่มีสักคนที่ชอบธรรม ไม่มีแม้สักคนเดียวเลย ไม่มีใครที่เข้าใจ ไม่มีใครที่แสวงหาพระเจ้า ทุกคนล้วนหันเหไป พวกเขากลายเป็นคนไร้ค่าไปด้วยกัน ไม่มีสักคนที่ทำดี ไม่มีแม้แต่คนเดียว” “ลำคอของพวกเขาคือหลุมฝังศพที่เปิดอยู่ พวกเขาตวัดลิ้นปลิ้นปล้อน” “พิษงูร้ายอยู่ที่ริมฝีปากของพวกเขา” “ริมฝีปากของเขาเต็มไปด้วยคำสาปแช่งและคำเผ็ดร้อน” “เท้าของเขาว่องไวในการทำให้นองเลือด เขาก่อหายนะและทุกข์เข็ญไว้ตามรายทางของเขา ไม่มีความยำเกรงพระเจ้าในสายตาของพวกเขา” “เขาไม่เคยคิดที่จะเกรงกลัวพระเจ้าเลย” เรารู้อยู่ว่าสิ่งใดๆ ที่บทบัญญัติกล่าวไว้ล้วนกล่าวแก่ผู้ที่อยู่ใต้บทบัญญัติ เพื่อปิดปากทุกคนไม่ให้มีข้อแก้ตัวและให้ทั้งโลกอยู่ภายใต้การพิพากษาของพระเจ้า ฉะนั้นไม่มีใครได้ชื่อว่าเป็นผู้ชอบธรรมในสายพระเนตรของพระเจ้าโดยการรักษาบทบัญญัติ บทบัญญัติเพียงแต่ทำให้เรารู้ตัวว่ามีบาป แต่บัดนี้ความชอบธรรมจากพระเจ้าซึ่งอยู่นอกเหนือบทบัญญัตินั้นเป็นที่ประจักษ์แล้ว เป็นความชอบธรรมซึ่งหนังสือบทบัญญัติและหนังสือผู้เผยพระวจนะได้เป็นพยานถึง ความชอบธรรมจากพระเจ้านี้ผ่านมาทางความเชื่อในพระเยซูคริสต์ไปถึงคนทั้งปวงที่เชื่อ ไม่มีข้อแตกต่างกัน เพราะว่าทุกคนทำบาปและเสื่อมจากพระเกียรติสิริของพระเจ้า และโดยพระคุณของพระเจ้า พระองค์ทรงนับว่าพวกเขาเป็นผู้ชอบธรรมโดยไม่คิดมูลค่า ด้วยการที่พระเยซูคริสต์ทรงไถ่พวกเขา พระเจ้าทรงให้พระเยซูเป็นเครื่องบูชาลบบาป แก่ผู้ที่มีความเชื่อในพระโลหิตของพระเยซู พระเจ้าทรงกระทำเช่นนี้เพื่อสำแดงความยุติธรรมของพระองค์ เพราะโดยความอดกลั้นพระทัย พระองค์จึงไม่ได้ทรงลงโทษบาปที่ทำไปก่อนหน้านั้น พระองค์ทรงกระทำเช่นนี้เพื่อสำแดงความยุติธรรมของพระองค์ในกาลปัจจุบัน เพื่อว่าพระองค์จะทรงเป็นผู้เที่ยงธรรมและเป็นผู้ที่ให้บรรดาคนที่มีความเชื่อในพระเยซูถูกนับเป็นผู้ชอบธรรมด้วย

แบ่งปัน
อ่าน โรม 3

โรม 3:10-26 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

ตาม​ที่​มี​บันทึก​ไว้​ว่า “ไม่​มี​ผู้​ใด​มี​ความ​ชอบธรรม ไม่​มี​แม้​แต่​คน​เดียว ไม่​มี​ผู้​ใด​เข้าใจ ไม่​มี​ผู้​ใด​แสวงหา​พระ​เจ้า ทุก​คน​หัน​หลัง​กลับ เขา​กลาย​เป็น​คน​ไร้​ประโยชน์​กัน​หมด ไม่​มี​ผู้​ใด​กระทำ​ความ​ดี ไม่​มี​แม้แต่​คน​เดียว” “ลำคอ​ของ​พวก​เขา​คือ​หลุม​ฝัง​ศพ​เปิด​อยู่ เขา​ใช้​ลิ้น​เพื่อ​หลอก​ลวง” “พิษ​งู​เห่า​อยู่​ภาย​ใต้​ริม​ฝีปาก​ของ​เขา” “ปาก​ของ​เขา​เต็ม​ด้วย​คำ​สาป​แช่ง​และ​ความ​ขมขื่น” “เท้า​ของ​เขา​ว่องไว​เพื่อ​ทำ​ให้​เกิด​การ​นอง​เลือด ความ​พินาศ​และ​ความ​ทุกข์​อยู่​ใน​วิถี​ทาง​ของ​เขา และ​เขา​ไม่​รู้จัก​ทาง​สู่​สันติ​สุข” “เขา​ไม่​เคย​คิด​ที่​จะ​เกรง​กลัว​พระ​เจ้า​เลย” เรา​ทราบ​แล้ว​ว่า ทุก​สิ่ง​ใน​กฎ​บัญญัติ​จะ​เอา​มา​ใช้​กับ​คน​ที่​อยู่​ใต้​อำนาจ​กฎ​บัญญัติ​เพื่อ​ปิด​ปาก​ทุก​คน และ​ทั่วทั้ง​โลก​จะ​อยู่​ภาย​ใต้​การ​ตัดสิน​ของ​พระ​เจ้า ฉะนั้น​จะ​ไม่​มี​ผู้​ใด​ที่​ถูก​นับว่า มี​ความ​ชอบธรรม​ใน​สายตา​ของ​พระ​องค์​โดย​การ​ปฏิบัติ​ตาม​กฎ​บัญญัติ ด้วย​กฎ​บัญญัติ​นั้น​เอง​จึง​ทำ​ให้​เรา​รู้​สำนึก​บาป แต่​บัดนี้ ความ​ชอบธรรม​ที่​ได้​รับ​จาก​พระ​เจ้า​ได้​เป็น​ที่​ปรากฏ​แล้ว ซึ่ง​ไม่​อยู่​ภาย​ใต้​กฎ​บัญญัติ ทั้ง​หมวด​กฎ​บัญญัติ​และ​หมวด​ผู้เผย​คำกล่าว​ของ​พระ​เจ้า​ก็​ได้​เป็น​พยาน​ใน​เรื่อง​นี้ พระ​เจ้า​นับ​ทุกคน​ที่​มี​ความ​เชื่อ​ใน​พระ​เยซู​คริสต์​ว่า ได้​รับ​ความ​ชอบธรรม​จาก​พระ​เจ้า เพราะ​คน​ทั้ง​หลาย​ไม่​ต่าง​กัน​เลย ด้วย​ว่า​ทุก​คน​ได้​กระทำ​บาป และ​ไม่​สามารถ​เข้า​ถึง​พระ​บารมี​ของ​พระ​เจ้า​ได้ แต่​เรา​พ้น​ผิด​ได้​โดย​พระ​คุณ​ของ​พระ​องค์ ซึ่ง​มอบ​ให้​แก่​เรา จาก​การ​ที่​พระ​เยซู​คริสต์​เป็น​ผู้​ไถ่​บาป พระ​เจ้า​ได้​ให้​พระ​องค์​เป็น​เครื่อง​สักการะ​เพื่อ​ชดใช้​บาป​ของ​มนุษย์ โดย​ให้​พวก​เขา​มี​ความ​เชื่อ​ใน​โลหิต​ของ​พระ​องค์ พระ​องค์​ได้​กระทำ​ไป​ก็​เพื่อ​เป็น​การ​แสดง​ความ​ชอบธรรม​ของ​พระ​องค์ เพราะ​เท่า​ที่​ผ่าน​มา​ใน​อดีต พระ​องค์​อดกลั้น​ไว้ ไม่​ลง​โทษ​คน​ที่​ได้​กระทำ​บาป แต่​ใน​ปัจจุบัน​นี้​การ​กระทำ​ของ​พระ​องค์​แสดง​ถึง​ความ​ชอบธรรม และ​ใน​การ​นี้​แสดง​ว่า พระ​องค์​เป็น​ผู้​มี​ความ​ยุติธรรม และ​พระ​องค์​เป็น​ผู้​ถือว่า คน​ที่​มี​ความ​เชื่อ​ใน​พระ​เยซู​พ้นผิด​แล้ว

แบ่งปัน
อ่าน โรม 3