วิวรณ์ 5:2-14
วิวรณ์ 5:2-14 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
จากนั้นผมเห็นทูตสวรรค์ผู้ทรงอำนาจองค์หนึ่ง ประกาศด้วยเสียงอันดังว่า “ใครเหมาะสมที่จะแกะตราและเปิดหนังสือม้วนนี้ออก” แต่ก็ไม่มีใครในสวรรค์ บนโลกหรือใต้แผ่นดินโลก ที่เหมาะสมจะเปิดหนังสือม้วนนี้ออกมาอ่าน ผมร้องไห้แล้วร้องไห้อีก เพราะยังไม่มีใครเหมาะสมที่จะเปิดหนังสือม้วนนี้ออกมาอ่านได้ แต่มีผู้อาวุโสองค์หนึ่งพูดกับผมว่า “อย่าร้องไห้เลย ดูนั่นสิ สิงโตจากเผ่าของยูดาห์ ผู้เป็นสายเลือดอันยิ่งใหญ่ของดาวิด ได้รับชัยชนะ และสามารถแกะตราประทับทั้งเจ็ดดวง และเปิดหนังสือม้วนนี้ออกได้” แล้วผมก็เห็นลูกแกะตัวหนึ่งยืนอยู่ตรงกลางใกล้ๆกับบัลลังก์ และมีสิ่งมีชีวิตทั้งสี่และพวกผู้อาวุโสล้อมรอบมันอยู่ ดูเหมือนว่าลูกแกะตัวนั้นเคยถูกฆ่ามาแล้ว มันมีเจ็ดเขา และเจ็ดตา ซึ่งเป็นพระวิญญาณทั้งเจ็ดของพระเจ้าที่พระองค์ส่งออกไปทั่วโลก แล้วลูกแกะตัวนั้นก็เดินเข้ามารับหนังสือม้วนนั้นจากมือขวาของพระเจ้า ผู้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ เมื่อลูกแกะตัวนั้นรับหนังสือม้วนนั้น สิ่งมีชีวิตทั้งสี่กับพวกผู้อาวุโสทั้งยี่สิบสี่องค์ ก็ก้มกราบลงต่อหน้าลูกแกะตัวนั้น ทุกคนถือพิณ และขันทองคำที่เต็มไปด้วยเครื่องหอม ซึ่งเป็นคำอธิษฐานของคนของพระเจ้า พวกเขาทั้งหลายก็ร้องเพลงบทใหม่ให้กับลูกแกะตัวนั้นว่า “พระองค์เป็นผู้ที่เหมาะสมที่จะได้รับหนังสือม้วนนี้และแกะตราออก เพราะพระองค์เคยถูกฆ่าและด้วยเลือดของพระองค์เองนั้น พระองค์ได้ซื้อคนให้พระเจ้า จากทุกเผ่า ทุกภาษา ทุกเชื้อชาติ และทุกชนชาติ พระองค์ทำให้พวกเขาเป็นพวกกษัตริย์และเป็นพวกนักบวชของพระเจ้าของเรา และพวกเขาครอบครองโลกนี้” แล้วผมก็มองเห็นและได้ยินเสียงของทูตสวรรค์จำนวนเป็นล้านๆที่อยู่ล้อมรอบบัลลังก์ สิ่งมีชีวิตทั้งสี่และผู้อาวุโสทั้งหลาย พูดด้วยเสียงอันดังว่า “ลูกแกะที่ถูกฆ่า คือผู้ที่เหมาะสมจะได้รับฤทธิ์อำนาจ ความมั่งคั่ง สติปัญญา พละกำลัง เกียรติยศ ความรุ่งโรจน์ และคำสรรเสริญ” จากนั้นผมก็ได้ยินเสียงพวกสิ่งมีชีวิตทั้งปวงในสวรรค์ บนโลก ใต้แผ่นดินโลก และในทะเล ใช่แล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในจักรวาลนี้ พูดว่า “ขอคำสรรเสริญ เกียรติยศ ความรุ่งโรจน์ และฤทธิ์อำนาจ จงมีแด่พระองค์ผู้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ และแด่ลูกแกะตลอดกาล” จากนั้นสิ่งมีชีวิตทั้งสี่ ก็พูดว่า “อาเมน” แล้วผู้อาวุโสทั้งยี่สิบสี่องค์ก็ก้มลงกราบนมัสการ
วิวรณ์ 5:2-14 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
และข้าพเจ้าได้เห็นทูตสวรรค์ที่มีฤทธิ์องค์หนึ่ง ประกาศด้วยเสียงดังว่า “ใครเป็นผู้ที่สมควรเปิดหนังสือม้วนและแกะตราของมันออก?” และไม่มีใครในสวรรค์ หรือบนแผ่นดินโลก หรือใต้แผ่นดินโลกที่สามารถเปิดหนังสือม้วนหรือดูหนังสือนั้น แล้วข้าพเจ้าก็ร้องไห้อย่างมาก เพราะไม่พบใครที่สมควรจะเปิดหนังสือม้วนหรือดูหนังสือนั้น แล้วมีคนหนึ่งในพวกผู้อาวุโสบอกกับข้าพเจ้าว่า “อย่าร้องไห้เลย นี่แน่ะ สิงโตแห่งเผ่ายูดาห์ ซึ่งเป็นรากเหง้าของดาวิดทรงมีชัยชนะแล้ว พระองค์จึงทรงสามารถเปิดหนังสือและแกะตราทั้งเจ็ดดวงได้” และระหว่างพระที่นั่งกับสิ่งมีชีวิตทั้งสี่นั้น และท่ามกลางพวกผู้อาวุโส ข้าพเจ้าเห็นพระเมษโปดกทรงยืนอยู่ เหมือนดังถูกปลงพระชนม์แล้ว พระองค์ทรงมีเขาเจ็ดเขาและมีดวงตาเจ็ดดวง ซึ่งเป็นพระวิญญาณทั้งเจ็ดของพระเจ้า ที่พระเจ้าทรงส่งออกไปทั่วแผ่นดินโลกแล้ว และพระเมษโปดกทรงเข้ามา และทรงรับม้วนหนังสือจากพระหัตถ์ขวาของพระองค์ผู้ประทับบนพระที่นั่งนั้น เมื่อพระองค์ทรงรับหนังสือนั้นแล้ว สิ่งมีชีวิตทั้งสี่และผู้อาวุโสยี่สิบสี่คนนั้น ก็ทรุดตัวลงเฉพาะพระพักตร์พระเมษโปดก แต่ละคนถือพิณและถือชามทองคำบรรจุเครื่องหอม ซึ่งเป็นคำอธิษฐานของบรรดาธรรมิกชน และเขาทั้งหลายก็ร้องเพลงบทใหม่ ว่า “พระองค์ทรงเป็นผู้ที่สมควรจะรับม้วนหนังสือ และทรงแกะตราหนังสือนั้นออก เพราะพระองค์ถูกปลงพระชนม์และทรงไถ่คนด้วยพระโลหิตเพื่อถวายพระเจ้า คือคนจากทุกเผ่า ทุกภาษา ทุกชนชาติและทุกประชาชาติ พระองค์ทรงทำให้เขาเป็นอาณาจักรและเป็นปุโรหิตของพระเจ้าของเรา และพวกเขาจะครอบครองบนแผ่นดินโลก” แล้วข้าพเจ้าก็ได้เห็นและได้ยินเสียงของทูตสวรรค์มากมายนับจำนวนเป็นแสนๆ เป็นล้านๆ ที่อยู่รอบพระที่นั่ง รอบพวกสิ่งมีชีวิต และรอบบรรดาผู้อาวุโส ร้องเสียงดังว่า “พระเมษโปดกผู้ถูกปลงพระชนม์แล้วนั้นทรงสมควรได้รับ ฤทธานุภาพ ทรัพย์สมบัติ พระปัญญา พระกำลัง พระเกียรติ พระสิริ และคำสดุดี” แล้วข้าพเจ้าได้ยินเสียงสิ่งที่ทรงสร้างทั้งหมด ทั้งในสวรรค์ บนแผ่นดินโลก ใต้แผ่นดินโลก ในมหาสมุทร และทุกสิ่งซึ่งอยู่ในที่เหล่านั้น ร้องว่า “ขอให้คำสดุดี พระเกียรติ พระสิริและอานุภาพ จงมีแด่พระองค์ผู้ประทับบนพระที่นั่งและแด่พระเมษโปดก ตลอดไปเป็นนิตย์” และสิ่งมีชีวิตทั้งสี่นั้นก็ร้องว่า “อาเมน” และบรรดาผู้อาวุโสก็ทรุดตัวลงและนมัสการ
วิวรณ์ 5:2-14 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
และข้าพเจ้าได้เห็นทูตสวรรค์ที่มีฤทธิ์องค์หนึ่ง ประกาศด้วยเสียงอันดังว่า <<ใครเป็นผู้ที่สมควรจะแกะตราและคลี่หนังสือม้วนนั้นออก>> และไม่มีผู้ใดในสวรรค์ บนแผ่นดินโลก หรือใต้แผ่นดินที่สามารถคลี่หนังสือม้วนนั้นออก หรือดูหนังสือนั้นได้ และข้าพเจ้าก็ร่ำไห้ เพราะไม่มีผู้ใดสมควรจะคลี่หนังสือม้วนนั้นออกหรือดูหนังสือนั้นได้ และมีผู้หนึ่งในพวกผู้อาวุโสนั้น บอกแก่ข้าพเจ้าว่า <<อย่าร้องไห้เลย นี่แน่ะ สิงห์แห่งเผ่ายูดาห์ เชื้อสายของดาวิด พระองค์ทรงมีชัยแล้ว พระองค์จึงทรงสามารถแกะตราทั้งเจ็ดดวงและคลี่หนังสือม้วนนั้นออกได้>> และระหว่างพระที่นั่งกับสัตว์ทั้งสี่นั้น และท่ามกลางพวกผู้อาวุโส ข้าพเจ้าแลเห็นพระเมษโปดกประทับยืนอยู่ประหนึ่งทรงถูกปลงพระชนม์ พระเมษโปดกทรงมีเขาเจ็ดเขาและมีตาเจ็ดดวง ซึ่งเป็นวิญญาณทั้งเจ็ดของพระเจ้า ที่ทรงส่งออกไปทั่วแผ่นดินโลก และพระเมษโปดกนั้นได้เข้ามารับม้วนหนังสือจากพระหัตถ์เบื้องขวาของพระองค์ ผู้ประทับบนพระที่นั่งนั้น เมื่อพระองค์ทรงรับหนังสือนั้นแล้ว สัตว์ทั้งสี่กับผู้อาวุโสยี่สิบสี่คนนั้น ก็ทรุดตัวลงถวายบังคมพระเมษโปดก ทุกคนถือพิณและถือขันทองคำบรรจุเครื่องหอม ซึ่งเป็นคำอธิษฐานของธรรมิกชนทั้งปวง และเขาทั้งหลายก็ร้องเพลงใหม่ ว่าดังนี้ <<พระองค์ทรงเป็นผู้ที่สมควรจะทรงรับม้วนหนังสือ และแกะตราม้วนหนังสือนั้นออก เพราะว่าพระองค์ทรงถูกปลงพระชนม์แล้ว และด้วยพระโลหิตของพระองค์นั้น พระองค์ได้ทรงไถ่คนทุกเผ่า ทุกภาษา ทุกชาติและทุกประเทศเพื่อถวายแด่พระเจ้า พระองค์ได้ทรงโปรดให้เขาเป็นราชอาณาจักร และเป็นปุโรหิตของพระเจ้าของเรา และพวกเขาจะได้ครอบครองแผ่นดินโลก>> แล้วข้าพเจ้าก็มองดู และข้าพเจ้าได้ยินเสียงทูตสวรรค์เป็นอันมากนับเป็นโกฏิๆ เป็นแสนๆ ซึ่งอยู่ล้อมรอบพระที่นั่งรอบสัตว์และผู้อาวุโสทั้งหลายนั้น ร้องเสียงดังว่า <<พระเมษโปดกผู้ทรงถูกปลงพระชนม์แล้วนั้น เป็นผู้ที่สมควรได้รับฤทธิ์เดช ทรัพย์สมบัติ ปัญญา อานุภาพ เกียรติ พระสิริ และคำสดุดี>> และข้าพเจ้าได้ยินเสียงสิ่งมีชีวิตทั้งหมด ทั้งในสวรรค์ ในแผ่นดินโลก ใต้แผ่นดิน ในมหาสมุทร บรรดาที่อยู่ในที่เหล่านั้น ร้องว่า <<ขอให้คำสดุดีและเกียรติ และพระสิริและฤทธิ์เดช จงมีแด่พระองค์ผู้ประทับบนพระที่นั่ง และแด่พระเมษโปดกตลอดไปเป็นนิตย์>> และสัตว์ทั้งสี่นั้นก็ร้องว่า <<อาเมน>> และผู้อาวุโสเหล่านั้นก็ทรุดตัวลงกราบนมัสการ
วิวรณ์ 5:2-14 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
และข้าพเจ้าได้เห็นทูตสวรรค์ที่มีฤทธิ์องค์หนึ่ง ประกาศด้วยเสียงอันดังว่า “ใครเป็นผู้ที่สมควรจะแกะตราและคลี่หนังสือม้วนนั้นออก” และไม่มีผู้ใดในสวรรค์ บนแผ่นดินโลก หรือใต้แผ่นดินที่สามารถคลี่หนังสือม้วนนั้นออก หรือดูหนังสือนั้นได้ และข้าพเจ้าก็ร่ำไห้มากมาย เพราะไม่มีผู้ใดสมควรจะคลี่หนังสือม้วนนั้นออกและอ่านหนังสือนั้น หรือดูหนังสือนั้นได้ และมีผู้หนึ่งในพวกผู้อาวุโสนั้น บอกแก่ข้าพเจ้าว่า “อย่าร้องไห้เลย ดูเถิด สิงโตแห่งตระกูลยูดาห์ เป็นมูลรากของดาวิด พระองค์ทรงมีชัยแล้ว พระองค์จึงทรงสามารถแกะตราทั้งเจ็ดดวงและคลี่หนังสือม้วนนั้นออกได้” และในท่ามกลางพระที่นั่งกับสัตว์ทั้งสี่นั้น และท่ามกลางพวกผู้อาวุโส ดูเถิด ข้าพเจ้าแลเห็นพระเมษโปดกประทับยืนอยู่ประหนึ่งทรงถูกปลงพระชนม์ ทรงมีเขาเจ็ดเขาและมีตาเจ็ดดวง ซึ่งเป็นพระวิญญาณทั้งเจ็ดของพระเจ้า ที่ทรงส่งออกไปทั่วแผ่นดินโลก และพระเมษโปดกนั้นได้เข้ามารับม้วนหนังสือจากพระหัตถ์เบื้องขวาของพระองค์ ผู้ทรงประทับบนพระที่นั่งนั้น เมื่อพระองค์ทรงรับหนังสือม้วนนั้นแล้ว สัตว์ทั้งสี่กับผู้อาวุโสยี่สิบสี่คนนั้นก็ทรุดตัวลงจำเพาะพระพักตร์พระเมษโปดก ทุกคนถือพิณเขาคู่และถือขันทองคำบรรจุเครื่องหอม ซึ่งเป็นคำอธิษฐานของพวกวิสุทธิชนทั้งปวง และเขาทั้งหลายก็ร้องเพลงใหม่ ว่าดังนี้ “พระองค์ทรงเป็นผู้ที่สมควรจะทรงรับม้วนหนังสือ และแกะตราม้วนหนังสือนั้นออก เพราะว่าพระองค์ทรงถูกปลงพระชนม์แล้ว และด้วยพระโลหิตของพระองค์นั้น พระองค์ได้ทรงไถ่เราทั้งหลายซึ่งมาจากทุกตระกูล ทุกภาษาทุกชาติและทุกประเทศ ให้ไปถึงพระเจ้า พระองค์ได้ทรงโปรดให้เราทั้งหลายเป็นกษัตริย์และเป็นปุโรหิตของพระเจ้าของเรา และเราทั้งหลายจะได้ครอบครองแผ่นดินโลก” แล้วข้าพเจ้าก็มองดู และข้าพเจ้าได้ยินเสียงทูตสวรรค์เป็นอันมากนับเป็นโกฏิๆเป็นแสนๆ ซึ่งอยู่ล้อมรอบพระที่นั่งรอบสัตว์และผู้อาวุโสทั้งหลายนั้น ร้องเสียงดังว่า “พระเมษโปดกผู้ทรงถูกปลงพระชนม์แล้วนั้น เป็นผู้ที่สมควรได้รับฤทธิ์เดช ทรัพย์สมบัติ ปัญญา อานุภาพ เกียรติ สง่าราศี และคำสดุดี” และข้าพเจ้าได้ยินเสียงสิ่งมีชีวิตทั้งหมด ทั้งในสวรรค์ ในแผ่นดินโลก ใต้แผ่นดินโลก ในมหาสมุทร และบรรดาที่อยู่ในที่เหล่านั้น ร้องว่า “ขอให้คำสดุดีและเกียรติ และสง่าราศีและฤทธิ์เดช จงมีแด่พระองค์ผู้ประทับบนพระที่นั่ง และแด่พระเมษโปดกตลอดไปเป็นนิตย์” และสัตว์ทั้งสี่นั้นก็ร้องว่า “เอเมน” และผู้อาวุโสทั้งยี่สิบสี่ก็ทรุดตัวลงนมัสการพระองค์ ผู้ทรงพระชนม์อยู่ตลอดไปเป็นนิตย์
วิวรณ์ 5:2-14 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
และข้าพเจ้าเห็นทูตสวรรค์ทรงฤทธิ์องค์หนึ่งประกาศเสียงดังว่า “ผู้ใดสมควรที่จะแกะตราและเปิดหนังสือม้วนนี้?” แต่ไม่มีใครในสวรรค์ บนแผ่นดินโลก หรือใต้แผ่นดินโลกสามารถเปิดหนังสือม้วนออกหรือแม้แต่มองดูข้างในได้ ข้าพเจ้าได้แต่ร้องไห้เพราะไม่มีใครสมควรที่จะเปิดหนังสือม้วนออกหรือดูข้างในได้ แล้วหนึ่งในเหล่าผู้อาวุโสนั้นกล่าวกับข้าพเจ้าว่า “อย่าร้องไห้! ดูเถิด สิงห์แห่งเผ่ายูดาห์ ทายาทของดาวิดทรงชนะแล้ว พระองค์ทรงสามารถเปิดหนังสือม้วนและตราทั้งเจ็ดได้” จากนั้นข้าพเจ้าเห็นพระเมษโปดกดูประหนึ่งว่าได้ถูกฆ่าแล้ว พระองค์ประทับยืนอยู่ตรงกลางพระที่นั่ง รายล้อมด้วยสิ่งมีชีวิตทั้งสี่และเหล่าผู้อาวุโส พระองค์ทรงมีเขาเจ็ดเขาและมีตาเจ็ดดวงซึ่งเป็นวิญญาณทั้งเจ็ดของพระเจ้าที่ทรงส่งออกไปทั่วโลก พระเมษโปดกเสด็จเข้ามารับหนังสือม้วนจากพระหัตถ์ขวาของพระองค์ผู้ประทับบนพระที่นั่ง เมื่อทรงรับแล้ว สิ่งมีชีวิตทั้งสี่กับเหล่าผู้อาวุโสทั้งยี่สิบสี่คนก็หมอบกราบลงเบื้องหน้าพระเมษโปดก ต่างถือพิณกับขันทองคำที่เต็มด้วยเครื่องหอมซึ่งเป็นคำอธิษฐานของประชากรของพระเจ้า และขับร้องเพลงบทใหม่ว่า “พระองค์ทรงสมควรที่จะรับหนังสือม้วน และเปิดผนึกตราของหนังสือนั้นออก เพราะพระองค์ทรงถูกประหารแล้ว และด้วยพระโลหิตของพระองค์ได้ทรงซื้อ มนุษย์ทั้งหลายถวายแด่พระเจ้า จากทุกเผ่า ทุกภาษา ทุกหมู่ชน และทุกชาติ ทรงโปรดให้เขาทั้งหลายเป็นอาณาจักรและเป็นปุโรหิตรับใช้พระเจ้าของเรา และพวกเขาจะครอบครองโลก” แล้วข้าพเจ้ามองดูและได้ยินเสียงทูตสวรรค์นับแสนนับล้านมากมายนับไม่ถ้วน ซึ่งรายล้อมพระที่นั่งกับสิ่งมีชีวิตทั้งสี่และเหล่าผู้อาวุโส ทูตสวรรค์เหล่านั้นขับร้องเสียงดังว่า “พระเมษโปดกผู้ถูกประหาร ทรงสมควรได้รับเดชานุภาพ ราชสมบัติ ปัญญา พลัง พระเกียรติ พระสิริ และคำสรรเสริญ!” จากนั้นข้าพเจ้าได้ยินเสียงทุกชีวิตในสวรรค์ บนแผ่นดินโลก ใต้แผ่นดินโลก และในมหาสมุทร ตลอดจนสรรพสิ่งในนั้นขับร้องว่า “ขอถวายคำสรรเสริญ พระเกียรติ พระสิริ และเดชานุภาพ แด่พระองค์ผู้ประทับบนพระที่นั่งและแด่พระเมษโปดก สืบๆ ไปเป็นนิตย์!” สิ่งมีชีวิตทั้งสี่ร้องว่า “อาเมน” และเหล่าผู้อาวุโสหมอบกราบนมัสการ
วิวรณ์ 5:2-14 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
ข้าพเจ้าเห็นทูตสวรรค์ที่มีอานุภาพองค์หนึ่งประกาศด้วยเสียงอันดังว่า “ใครเป็นผู้สมควรจะแกะตราประทับและคลี่หนังสือม้วนออก” แต่ไม่มีใครในสวรรค์ หรือบนโลก หรือใต้บาดาลที่สามารถคลี่หรือจะอ่านหนังสือม้วนนั้นได้ ข้าพเจ้าก็ร้องไห้แล้วร้องไห้อีก เพราะหาคนที่สมควรจะคลี่หรือจะอ่านหนังสือม้วนนั้นไม่ได้ ครั้นแล้ว หนึ่งในบรรดาผู้ใหญ่บอกข้าพเจ้าว่า “อย่าร้องไห้เลย ดูสิ สิงโตที่มาจากเผ่ายูดาห์ คือรากแห่งดาวิดได้มีชัยชนะแล้ว พระองค์สามารถคลี่หนังสือม้วนออกและแกะตราประทับทั้งเจ็ดได้” แล้วข้าพเจ้าก็ได้เห็นลูกแกะซึ่งดูเหมือนว่าถูกสังหารแล้ว กำลังยืนอยู่ระหว่างบัลลังก์กับสิ่งมีชีวิตทั้งสี่และพวกผู้ใหญ่ ลูกแกะมี 7 เขากับตา 7 ดวง ซึ่งเป็นพระวิญญาณทั้งเจ็ดของพระเจ้าที่ถูกส่งออกไปทั่วแผ่นดินโลก ลูกแกะได้เข้ามารับหนังสือม้วนไปจากมือขวาขององค์ผู้นั่งอยู่บนบัลลังก์ ครั้นลูกแกะรับหนังสือม้วนไปแล้ว สิ่งมีชีวิตทั้งสี่และผู้ใหญ่ 24 ท่านก็หมอบลงอยู่เบื้องหน้าลูกแกะนั้น ต่างก็มีพิณและถือขันทองคำบรรจุเครื่องหอม ซึ่งเป็นคำอธิษฐานของบรรดาผู้บริสุทธิ์ของพระเจ้า และท่านทั้งหลายก็ร้องเพลงบทใหม่ว่า “พระองค์เป็นผู้สมควรจะรับหนังสือม้วน และแกะตราประทับออก เพราะพระองค์ถูกฆ่า และพระองค์ได้ไถ่มนุษย์จากทุกเผ่า ทุกภาษา ทุกชนชาติ และทุกประเทศ เพื่อพระเจ้าด้วยโลหิตของพระองค์ พระองค์ได้แต่งตั้งพวกเขาไว้ ให้เป็นอาณาจักรแห่งปุโรหิตทั้งหลาย เพื่อรับใช้พระเจ้าของเรา และเขาเหล่านั้นจะครองบนแผ่นดินโลก” ครั้นแล้วข้าพเจ้าก็เห็นและได้ยินเสียงของทูตสวรรค์ซึ่งมีจำนวนนับล้านๆ มากมายจนนับไม่ถ้วน อยู่ล้อมรอบบัลลังก์ รอบสิ่งมีชีวิต และบรรดาผู้ใหญ่ พวกเขาร้องเพลงด้วยเสียงอันดังว่า “ลูกแกะที่ถูกสังหารสมควรได้รับ อานุภาพ ความมั่งมี พระปัญญา พลานุภาพ พระเกียรติ พระบารมี และคำสรรเสริญ” และข้าพเจ้าได้ยินทุกสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นทั้งที่อยู่ในสวรรค์ บนโลก ใต้บาดาล และในทะเลทุกแห่งหน ร้องเป็นเพลงว่า “ขอคำสรรเสริญและพระเกียรติ พระบารมี และอานุภาพ จงมีแด่พระองค์ผู้นั่งบนบัลลังก์ และแด่ลูกแกะชั่วนิรันดร์กาลเถิด” สิ่งมีชีวิตทั้งสี่พูดว่า “อาเมน” และบรรดาผู้ใหญ่ก็หมอบลงนมัสการ