วิวรณ์ 19:3-10

วิวรณ์ 19:3-10 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

พวกเขา​ยัง​พูด​อีก​ว่า “สรรเสริญ​พระยาห์เวห์ ควันไฟ​จะ​ลอย​ขึ้นมา​จาก​นคร​นั้น​ตลอดไป” จากนั้น​พวก​ผู้​อาวุโส​ทั้ง​ยี่สิบสี่​องค์ และ​สิ่งมีชีวิต​ทั้ง​สี่​ตน ก็​ก้มลง​กราบไหว้​พระเจ้า​ที่​นั่ง​อยู่​บน​บัลลังก์ และ​พูดว่า “อาเมน สรรเสริญ​พระยาห์เวห์” แล้ว​มี​เสียงดัง​มา​จาก​บัลลังก์​ว่า “ท่านทั้งหลาย​ที่​เป็น​ทาส​ของ​พระองค์​ที่​นับถือ​พระเจ้า ทั้ง​ผู้​ยิ่งใหญ่​และ​ผู้ต่ำต้อย มา​สรรเสริญ​พระเจ้า​ของ​เรา​กันเถอะ” จากนั้น​ผม​ได้ยิน​เสียง​เหมือน​เสียง​ของ​คน​จำนวน​มาก เสียงนั้น​ดัง​เหมือนกับ​เสียง​ของ​น้ำตก​และ​เสียง​ฟ้าร้อง​กึกก้อง เสียงนั้น​พูดว่า “สรรเสริญ​พระยาห์เวห์ องค์​เจ้า​ชีวิต พระเจ้า​ผู้​มี​ฤทธิ์​ทั้งสิ้น​ได้​ขึ้น​ครองราชย์ ให้​เรา​ชื่นชม​ยินดี​และ​มี​ความสุข และ​สรรเสริญ​พระองค์​เถิด เพราะ​ว่า​เวลา​แห่ง​การ​สมรส​ของ​ลูกแกะ​ได้​มาถึง​แล้ว และ​เจ้าสาว​ของ​พระองค์​ก็​ได้​เตรียม​ตัว​พร้อมแล้ว เธอ​ได้รับ​ผ้าลินิน​ที่​สะอาด​สดใส​เป็น​ประกาย​ซึ่ง​เธอ​จะ​ใช้ใส่” (ผ้าลินิน​ที่​งดงาม​นั้น​หมายถึง​สิ่งดีๆ​ที่​คน​ของ​พระเจ้า​ได้ทำ) แล้ว​ทูตสวรรค์​นั้น​พูด​กับ​ผม​ว่า “เขียน​ลง​ไป​ว่า คน​ที่​ได้รับ​เชิญ​มา​ใน​งาน​เลี้ยง​สมรส​ของ​ลูกแกะ​นั้น ถือ​ว่า​มี​เกียรติ​จริงๆ” และ​พูด​อีกว่า “สิ่งเหล่านี้​เป็น​คำพูด​ที่​แท้จริง​ของ​พระเจ้า” ผม​ได้​ก้มลง​แทบเท้า​เพื่อ​กราบไหว้​ทูตสวรรค์​องค์นั้น แต่​ท่าน​พูดว่า “อย่า​ทำ​อย่างนั้น เพราะ​เรา​เป็น​เพื่อนทาส​ของ​คุณ​และ​พี่น้อง​คนอื่นๆ​ของ​คุณ​ที่​ซื่อสัตย์​ใน​ความจริง​ที่​พระเยซู​ได้​เปิดเผย​ให้​รู้ ดังนั้น​ให้​กราบไหว้​พระเจ้า เพราะ​ความจริง​ที่​พระเยซู​ได้​เปิดเผย​นั้น เป็น​สิ่ง​ที่​ดลใจ​ให้​พวก​ผู้​พูดแทน​พระเจ้า​พูด”

วิวรณ์ 19:3-10 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

คนเหล่านั้นร้องอีกเป็นครั้งที่สองว่า “ฮาเลลูยา ควันไฟของนครนั้นพลุ่งขึ้นตลอดไปเป็นนิตย์” และพวกผู้อาวุโสทั้งยี่สิบสี่คนกับสิ่งมีชีวิตทั้งสี่ ก็ทรุดตัวลงนมัสการพระเจ้าผู้ประทับบนพระที่นั่ง และร้องว่า “อาเมน ฮาเลลูยา” และมีเสียงออกมาจากพระที่นั่งว่า “ผู้รับใช้ทุกคนของพระเจ้า และบรรดาคนที่เกรงกลัวพระองค์ ทั้งคนเล็กน้อยและคนใหญ่โต จงสรรเสริญพระเจ้าของเรา” แล้วข้าพเจ้าได้ยินเสียงเหมือนอย่างเสียงมหาชน เหมือนอย่างเสียงน้ำมากหลาย และเหมือนอย่างเสียงฟ้าร้องกึกก้องว่า “ฮาเลลูยา เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงครอบครองอยู่ คือพระเจ้าของเราผู้ทรงฤทธานุภาพสูงสุด ขอให้เรายินดีและเปรมปรีดิ์ และถวายพระเกียรติแด่พระองค์ เพราะงานอภิเษกสมรสของพระเมษโปดกมาถึงแล้ว และเจ้าสาวของพระองค์ก็เตรียมตัวพร้อมแล้ว และโปรดให้เจ้าสาวสวมใส่ ผ้าป่านเนื้อละเอียด มันระยับและสะอาด เพราะว่าผ้าป่านเนื้อละเอียดนั้นคือการประพฤติอันชอบธรรมของธรรมิกชน” และทูตสวรรค์องค์นั้นบอกข้าพเจ้าว่า “จงเขียนลงไปว่า ความสุขมีแก่คนทั้งหลายที่ได้รับเชิญมาในงานเลี้ยงอภิเษกสมรสของพระเมษโปดก” และท่านบอกอีกว่า “ถ้อยคำเหล่านี้เป็นคำที่สัตย์จริงของพระเจ้า” แล้วข้าพเจ้าก็ทรุดตัวลงแทบเท้าของท่านเพื่อจะนมัสการท่าน แต่ท่านกล่าวกับข้าพเจ้าว่า “อย่าทำแบบนี้ เราเป็นผู้ร่วมรับใช้เช่นเดียวกับท่านและพี่น้องของท่านที่ยึดถือคำพยานของพระเยซู จงนมัสการพระเจ้าเถิด” เพราะว่าคำพยานของพระเยซูนั้นเป็นหัวใจของการเผยพระวจนะ

วิวรณ์ 19:3-10 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

และพวกเขาร้องตะโกนอีกครั้งว่า “ฮาเลลูยา! ควันไฟจากนครนั้นพลุ่งขึ้นสืบๆ ไปเป็นนิตย์” ผู้อาวุโสทั้งยี่สิบสี่คนกับสิ่งมีชีวิตทั้งสี่หมอบกราบนมัสการพระเจ้าผู้ประทับบนพระที่นั่ง และร้องว่า “อาเมน ฮาเลลูยา!” แล้วมีเสียงหนึ่งดังจากพระที่นั่งกล่าวว่า “ท่านทั้งปวงที่เป็นผู้รับใช้ของพระองค์ ผู้ที่ยำเกรงพระองค์ ทั้งผู้ใหญ่และผู้น้อย จงสรรเสริญพระเจ้าของเรา” จากนั้นข้าพเจ้าได้ยินเสียงคล้ายเสียงผู้คนมากมายเหมือนเสียงน้ำเชี่ยวกรากและเหมือนเสียงฟ้าร้องกึกก้องตะโกนว่า “ฮาเลลูยา! เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ ของเราทรงครอบครองอยู่ ให้เราทั้งหลายชื่นชมยินดีและเปรมปรีดิ์ และถวายพระเกียรติสิริแด่พระองค์! เพราะถึงกำหนดอภิเษกสมรสของพระเมษโปดกแล้ว และเจ้าสาวของพระองค์เตรียมตัวพร้อมแล้ว ทรงให้เจ้าสาวสวมชุดผ้าลินินเนื้อดี ที่สะอาดสดใสแล้ว” (ผ้าลินินเนื้อดีหมายถึงการประพฤติอันชอบธรรมของประชากรของพระเจ้า) แล้วทูตสวรรค์นั้นบอกข้าพเจ้าว่า “จงเขียนว่า ‘ความสุขมีแก่บรรดาผู้ที่ได้รับเชิญมายังงานเลี้ยงฉลองอภิเษกสมรสของพระเมษโปดก!’ ” และทูตนั้นกล่าวอีกว่า “สิ่งเหล่านี้เป็นพระวจนะแท้ของพระเจ้า” ถึงตรงนี้ข้าพเจ้าหมอบลงแทบเท้าทูตสวรรค์เพื่อนมัสการ แต่ทูตนั้นกล่าวแก่ข้าพเจ้าว่า “อย่าทำเช่นนั้น! เราเป็นเพื่อนผู้รับใช้ร่วมกับท่านและร่วมกับพี่น้องของท่านที่ยึดมั่นในคำพยานเรื่องพระเยซู จงนมัสการพระเจ้า! เพราะคำพยานเรื่องพระเยซูนั้นคือหัวใจของการเผยพระวจนะ”

วิวรณ์ 19:3-10 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

คนเหล่านั้​นร​้องอีกครั้งว่า “อาเลลู​ยา ‘ควันไฟที่​เก​ิดจากนครนั้นพลุ่งขึ้นตลอดไปเป็นนิตย์’” และพวกผู้​อาว​ุโสทั้งยี่​สิ​บสี่คนกับสัตว์ทั้งสี่​นั้น ก็ได้​ทรุดตัวลงนมัสการพระเจ้า ผู้​ประทับบนพระที่นั่งนั้นและร้องว่า “เอเมน อาเลลู​ยา​” และมีเสียงออกมาจากพระที่นั่งว่า “‘ท่านทั้งหลายที่เป็นผู้​รับใช้​ของพระองค์ และผู้​ที่​ยำเกรงพระองค์ ทั้งผู้น้อยและผู้​ใหญ่ จงสรรเสริญพระเจ้าของเรา’” แล​้วข้าพเจ้าได้ยินเสียงดุจเสียงฝูงชนเป็​นอ​ันมาก ดุ​จเสียงน้ำมากหลาย และดุจเสียงฟ้าร้องสนั่​นว​่า “อาเลลู​ยา เพราะว่าองค์​พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้า ผู้​ทรงฤทธานุภาพสูงสุด ทรงครอบครองอยู่ ขอให้​เราทั้งหลายร่าเริงยินดีและถวายพระเกียรติ​แด่​พระองค์ เพราะว่าถึงเวลามงคลสมรสของพระเมษโปดกแล้ว และมเหสีของพระองค์​ได้​เตรียมตัวพร้อมแล้ว และทรงโปรดให้เธอสวมผ้าป่านเนื้อละเอียด สะอาดและขาว เพราะผ้าป่านเนื้อละเอียดนั้นเป็นความชอบธรรมของพวกวิ​สุทธิ​ชน​” และทูตสวรรค์​องค์​นั้นสั่งข้าพเจ้าว่า “จงเขียนไว้เถิดว่า ความสุ​ขม​ี​แก่​คนทั้งหลายที่​ได้​รับเชิญมาในการมงคลสมรสของพระเมษโปดก” และท่านบอกข้าพเจ้าว่า “ถ้อยคำเหล่านี้เป็นพระดำรัสแท้ของพระเจ้า” แล​้วข้าพเจ้าได้ทรุดตัวลงแทบเท้าของท่านเพื่อจะนมัสการท่าน แต่​ท่านได้​กล​่าวแก่ข้าพเจ้าว่า “อย่าเลย ข้าพเจ้าเป็นเพื่อนผู้​รับใช้​เหมือนกั​บท​่าน และพวกพี่น้องของท่านที่ยึดถือคำพยานของพระเยซู จงนมัสการพระเจ้าเถิด เพราะว่าคำพยานของพระเยซูนั้นเป็นหัวใจของการพยากรณ์”

วิวรณ์ 19:3-10 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

คนเหล่านั้นร้องอีกเป็นครั้งที่สองว่า <<อาเลลูยา ควันไฟที่เกิดจากนครนั้นพลุ่งขึ้นตลอดไปเป็นนิตย์>> และพวกผู้ปกครองทั้งยี่สิบสี่คนกับสัตว์ทั้งสี่นั้น ก็ได้ทรุดตัวลงนมัสการพระเจ้าผู้ประทับบนพระที่นั่งนั้น และร้องว่า <<อาเมน อาเลลูยา>> และมีเสียงออกมาจากพระที่นั่งว่า <<ท่านทั้งหลายที่เป็นผู้รับใช้ของพระองค์ ที่ยำเกรงพระองค์ทั้งผู้ใหญ่และผู้น้อยจงสรรเสริญพระเจ้าของเรา>> แล้วข้าพเจ้าได้ยินเสียงดุจเสียงฝูงชนเป็นอันมาก ดุจเสียงน้ำมากหลาย และดุจเสียงฟ้าร้องสนั่นว่า <<อาเลลูยา เพราะว่าพระเจ้าของเราผู้ทรงฤทธานุภาพสูงสุดทรงครอบครองอยู่ ขอให้เราทั้งหลายร่าเริงยินดีและเต้นโลดถวายพระเกียรติแด่พระองค์ เพราะถึงเวลามงคลสมรสของพระเมษโปดกแล้ว และเจ้าสาวของพระองค์ได้เตรียมพร้อมแล้ว>> ทรงโปรดให้เจ้าสาวสวมผ้าป่านเนื้อละเอียดใสบริสุทธิ์ เพราะผ้าป่านเนื้อดีนั้นได้แก่ การประพฤติอันชอบธรรมของพวกธรรมิกชน>> และทูตสวรรค์องค์นั้นสั่งข้าพเจ้าว่า <<จงเขียนไว้เถิดว่า ความเจริญสุขมีแก่คนทั้งหลาย ที่ได้รับเชิญมาในการมงคลสมรสของพระเมษโปดก>> และท่านบอกข้าพเจ้าว่า <<ถ้อยคำเหล่านั้นเป็นพระวจนะแท้ของพระเจ้า>> แล้วข้าพเจ้าได้ทรุดตัวลงแทบเท้าของท่านเพื่อจะนมัสการท่าน แต่ท่านได้กล่าวแก่ข้าพเจ้าว่า <<อย่าเลย ข้าพเจ้าเป็นเพื่อนผู้รับใช้เหมือนกับท่าน และพวกพี่น้องของท่านที่ยึดถือคำพยานของพระเยซู จงนมัสการพระเจ้าเถิด>> เพราะว่าคำพยานกล่าวถึงพระเยซูนั้นเป็นหัวใจของการเผยพระวจนะ

วิวรณ์ 19:3-10 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

และ​เขา​เหล่า​นั้น​ร้อง​อีก​ว่า “ฮาเลลูยา ควัน​ไฟ​ที่​ไหม้​ตัว​นาง​ลอย​ขึ้น​ชั่ว​นิรันดร์​กาล” บรรดา​ผู้ใหญ่ 24 ท่าน​กับ​สิ่ง​มี​ชีวิต​ทั้ง​สี่ ก็​ได้​หมอบ​ลง​นมัสการ​พระ​เจ้า​ผู้​นั่ง​อยู่​บน​บัลลังก์ และ​เขา​เหล่า​นั้น​ร้อง​ว่า “อาเมน ฮาเลลูยา” และ​มี​เสียง​จาก​บัลลังก์​ว่า “ท่าน​ทั้ง​หลาย​ที่​เป็น​ผู้​รับใช้​ของ​พระ​องค์​เอ๋ย ท่าน​ที่​เกรงกลัว​พระ​องค์ ทั้ง​ผู้ใหญ่​และ​ผู้น้อย จง​สรรเสริญ​พระ​เจ้า​ของ​เรา​เถิด” แล้ว​ข้าพเจ้า​ก็​ได้ยิน​เสียง​ที่​ดู​เหมือน​ว่า​มา​จาก​ฝูง​ชน​จำนวน​มาก และ​เป็น​เสียง​กึกก้อง​ประดุจ​เสียง​น้ำตก และ​เหมือน​เสียง​ฟ้า​คำราม​ดัง​สนั่น​หลาย​ครั้ง ร้อง​ว่า “ฮาเลลูยา เพราะ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า องค์​พระ​เจ้า​จอม​โยธา​ของ​เรา​ครอง​บัลลังก์​อยู่ ขอ​ให้​พวก​เรา​ชื่นชม​ยินดี​และ​ดีใจ และ​ถวาย​พระ​บารมี​แด่​พระ​องค์ เพราะ​ถึง​เวลา​สมรส​ของ​ลูก​แกะ และ​เจ้าสาว​ของ​พระ​องค์​ได้​เตรียมตัว​พร้อม​แล้ว เธอ​ได้​รับ​ผ้า​ป่าน​เนื้อ​ดี​สีขาว​และ​บริสุทธิ์ เพื่อ​สวม​ใส่” ด้วย​ว่า​ผ้า​ป่าน​เนื้อ​ดี​เป็น​สัญลักษณ์​แห่ง​การ​กระทำ​อัน​ชอบธรรม​ของ​บรรดา​ผู้​บริสุทธิ์​ของ​พระ​เจ้า ครั้น​แล้ว​ทูต​สวรรค์​พูด​กับ​ข้าพเจ้า​ว่า “จง​เขียน​ว่า ‘บรรดา​ผู้​ที่​ได้​รับเชิญ​ไป​รับประทาน​ใน​งาน​เลี้ยง​สมรส​ของ​ลูก​แกะ​ก็​เป็น​สุข’” และ​พูด​อีก​ว่า “นี่​เป็น​คำ​พูด​อัน​แท้​จริง​ของ​พระ​เจ้า” ข้าพเจ้า​ก็​หมอบ​ลง​ที่​แทบ​เท้า​ของ​ท่าน​เพื่อ​นมัสการ​ท่าน แต่​ท่าน​พูด​กับ​ข้าพเจ้า​ว่า “อย่า​ทำ​อย่าง​นั้น เรา​เป็น​เพื่อน​ผู้​ร่วม​รับใช้​ด้วย​กัน​กับ​ท่าน และ​กับ​พี่​น้อง​ของ​ท่าน​ที่​ยึดมั่น​ใน​คำ​ยืนยัน​ของ​พระ​เยซู จง​นมัสการ​พระ​เจ้า เพราะ​คำ​ยืนยัน​ของ​พระ​เยซู​คือ​วิญญาณ​แห่ง​การ​เผย​ความ”