สดุดี 73:12-28
สดุดี 73:12-28 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
คนชั่วเป็นเช่นนี้แหละ สุขสบายอยู่ร่ำไป พวกเขาร่ำรวยขึ้นเรื่อยๆ แน่ทีเดียว ข้าพเจ้ารักษาใจให้บริสุทธิ์ และชำระมือให้ปราศจากมลทินโดยเปล่าประโยชน์ ข้าพเจ้าถูกรุมเล่นงานวันยังค่ำ และถูกลงโทษอยู่ทุกเช้า หากข้าพเจ้าได้กล่าวว่า “เราจะพูดเช่นนั้น” ข้าพเจ้าก็คงจะได้ทรยศต่อลูกๆ ของพระองค์ เมื่อข้าพเจ้าพยายามที่จะเข้าใจทั้งหมดนี้ ก็ทำให้ลำบากใจยิ่งนัก จนกระทั่งข้าพเจ้าเข้าไปยังสถานนมัสการของพระเจ้า ข้าพเจ้าจึงเข้าใจถึงจุดหมายปลายทางสุดท้ายของพวกเขา แน่ทีเดียว พระองค์ทรงให้เขายืนอยู่บนที่ลื่น พระองค์ทรงเหวี่ยงเขาลงสู่หายนะ เขาถูกทำลายไปทันที ถูกกวาดล้างหมดสิ้นไปด้วยความสยดสยอง! ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า เมื่อพระองค์ทรงลุกขึ้นก็เหมือนคนที่ตื่นจากฝัน พระองค์จะทรงเหยียดหยามเขาว่าเป็นเพียงภาพเพ้อฝัน เมื่อจิตใจของข้าพระองค์ทุกข์โศก เมื่อดวงวิญญาณของข้าพระองค์ขมขื่น ข้าพระองค์ก็ไม่รู้จักคิดและโง่เขลา ข้าพระองค์เป็นเหมือนสัตว์เดียรัจฉานต่อพระองค์ แต่ถึงกระนั้น ข้าพระองค์ยังอยู่กับพระองค์เสมอ พระองค์ทรงยึดมือขวาของข้าพระองค์ไว้ พระองค์ทรงนำข้าพระองค์ด้วยคำปรึกษาของพระองค์ และภายหลังพระองค์จะทรงรับข้าพระองค์เข้าสู่เกียรติสิริ นอกจากพระองค์แล้วข้าพระองค์มีผู้ใดอื่นในฟ้าสวรรค์หรือ? และในโลกนี้ข้าพระองค์ไม่ปรารถนาสิ่งใดนอกจากพระองค์ กายใจของข้าพระองค์อาจจะเสื่อมถอย แต่พระเจ้าทรงเป็นพลังใจและเป็นส่วนมรดกของข้าพระองค์ตลอดไป บรรดาผู้ที่ห่างไกลพระองค์จะพินาศ พระองค์ทรงทำลายล้างคนทั้งปวงที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อพระองค์ แต่ส่วนข้าพระองค์ ดีเหลือเกินที่ได้เข้ามาใกล้พระเจ้า ข้าพระองค์ได้ให้พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตเป็นที่ลี้ภัยของข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะเล่าถึงพระราชกิจทั้งสิ้นของพระองค์
สดุดี 73:12-28 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
ดูเอาเถอะ คนชั่วก็เป็นอย่างนั้นแหละ พวกเขาอยู่กันอย่างสบายๆและยังรวยเอารวยเอา ดังนั้น ข้าพเจ้าคิดในใจว่า “มันจะมีประโยชน์อะไร ที่ข้าพเจ้าจะต้องรักษาใจให้บริสุทธิ์ และล้างมือของข้าพเจ้าเพื่อแสดงว่าข้าพเจ้าบริสุทธิ์ ข้าพเจ้าต้องทนทุกข์ตลอดเวลา และถูกลงโทษทุกๆเช้าอยู่” แต่ถ้าข้าพเจ้าตั้งใจที่จะพูดอย่างนั้น ก็จะเป็นการหักหลังคนของพระองค์ ข้าพเจ้าพยายามอย่างหนักที่จะเข้าใจถึงสิ่งเหล่านี้ แต่มันยากเกินกว่าที่ข้าพเจ้าจะเข้าใจได้ จนกระทั่งข้าพเจ้าได้เข้าไปยังวิหารของพระเจ้า ตอนนั้นแหละข้าพเจ้าถึงได้เข้าใจจุดจบของพวกเขา ข้าแต่พระเจ้า แน่นอน พระองค์ได้วางพวกเขาไว้บนทางลื่น และพระองค์พร้อมที่จะให้พวกเขาตกลงไปสู่ความพินาศ แล้วพวกเขาจะถูกทำลายในชั่วพริบตา พวกเขาจะพบกับจุดจบจากความตายอันน่าสะพรึงกลัว พวกเขาจะเป็นเหมือนกับฝันที่พอเราตื่นขึ้นมาก็ลืมหมด องค์เจ้าชีวิต เมื่อพระองค์ลุกขึ้นมา พระองค์จะทำให้พวกเขาหายไปเหมือนภาพในฝันนั้น เมื่อจิตใจของข้าพเจ้าขมขื่น และความเจ็บปวดเสียบแทงเข้าในใจ ตอนนั้นข้าพเจ้าช่างโง่เขลาเบาปัญญา และสิ้นคิดเหมือนสัตว์ต่อหน้าพระองค์ แต่ข้าพเจ้ายังคงอยู่กับพระองค์เสมอ พระองค์จับมือขวาของข้าพเจ้าไว้ พระองค์นำทางข้าพเจ้าด้วยคำชี้แนะของพระองค์ และหลังจากนั้นพระองค์จะนำข้าพเจ้าเข้าไปสู่เกียรติยศ ในฟ้าสวรรค์ ข้าพเจ้าไม่มีใครเลยนอกจากพระองค์ ในโลกนี้ มีแต่พระองค์เท่านั้นที่ข้าพเจ้าอยากได้ กายใจของข้าพเจ้าอาจอ่อนแอลง แต่พระเจ้าคือหินกำบังแห่งจิตใจของข้าพเจ้าและเป็นมรดกของข้าพเจ้าตลอดไป แต่คนเหล่านั้นที่อยู่ห่างไกลจากพระองค์จะพบกับความหายนะ เพราะพระองค์จะทำลายล้างคนเหล่านั้นที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อพระองค์ แต่ส่วนข้าพเจ้านั้น มันช่างดีจริงที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับพระองค์ ข้าพเจ้าเอาพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตเป็นที่ลี้ภัย และข้าพเจ้าจะเล่าถึงทุกสิ่งที่พระองค์ได้ทำ
สดุดี 73:12-28 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
ดูเถิด คนอธรรมเป็นเช่นนี้แหละ อยู่อย่างสบายเป็นนิตย์ และร่ำรวยขึ้น ข้าพเจ้าได้รักษาใจให้สะอาด และชำระมือด้วยความบริสุทธิ์ก็เปล่าประโยชน์แน่ทีเดียว เพราะข้าพเจ้ารับภัยอยู่วันแล้ววันเล่า และถูกตีสอนอยู่ทุกเช้า ถ้าข้าพระองค์ได้กล่าวว่า “ข้าพเจ้าจะพูดอย่างนี้” ข้าพระองค์ก็จะทรยศต่อพวกบุตรของพระองค์ แต่เมื่อข้าพระองค์ตรึกตรองว่า จะเข้าใจเรื่องนี้ได้อย่างไร ข้าพระองค์รู้สึกว่าเป็นงานที่เหน็ดเหนื่อย จนข้าพระองค์เข้าไปในสถานนมัสการของพระเจ้า แล้วข้าพระองค์จึงพิเคราะห์เห็นปลายทางของเขาทั้งหลาย แน่ทีเดียว พระองค์ทรงวางเขาทั้งหลายไว้ในที่ลื่น พระองค์ทรงทำให้พวกเขาล้มถึงความพินาศ แหม เขาทั้งหลายถูกทำลายเสียในครู่เดียว ถูกเหตุการณ์สยดสยองกวาดไปอย่างสิ้นเชิง ข้าแต่องค์เจ้านาย เหมือนความฝันที่หายไปเมื่อตื่นขึ้น เมื่อทรงตื่น พระองค์ก็ทรงดูหมิ่นภาพของพวกเขา เมื่อใจของข้าพระองค์ขมขื่น เมื่อข้าพระองค์เสียวแปลบถึงหัวใจ ข้าพระองค์เขลาและไม่รู้เรื่อง ข้าพระองค์ประพฤติตัวเหมือนสัตว์ต่อพระองค์ ถึงกระนั้นก็ดี ข้าพระองค์อยู่กับพระองค์เสมอ พระองค์ทรงจับมือขวาของข้าพระองค์ไว้ พระองค์ทรงนำข้าพระองค์ด้วยคำปรึกษาของพระองค์ และภายหลังพระองค์จะทรงนำข้าพระองค์ให้ได้รับเกียรติยศ นอกจากพระองค์ ข้าพระองค์ไม่มีผู้ใดในฟ้าสวรรค์ นอกจากพระองค์แล้ว ข้าพระองค์ไม่ประสงค์สิ่งใดในโลก ร่างกายและจิตใจของข้าพระองค์จะวายไป แต่พระเจ้าทรงเป็นกำลังใจและเป็นมรดกส่วนของข้าพระองค์เป็นนิตย์ เพราะนี่แน่ะ บุคคลผู้ห่างเหินจากพระองค์จะพินาศ ทุกคนที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อพระองค์จะถูกพระองค์ทำลาย แต่ส่วนข้าพระองค์ ที่จะเข้าใกล้พระเจ้านั้นดี ข้าพระองค์ได้ให้พระยาห์เวห์องค์เจ้านายเป็นที่ลี้ภัยของข้าพระองค์ เพื่อข้าพระองค์จะได้เล่าถึงพระราชกิจทั้งสิ้นของพระองค์
สดุดี 73:12-28 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
ดูเถิด คนอธรรมเป็นเช่นนี้แหละ เขาเจริญในแผ่นดินโลกและร่ำรวยขึ้น แท้จริง ข้าพเจ้าชำระใจให้สะอาด และชำระมือด้วยความบริสุทธิ์ก็เปล่าประโยชน์ เพราะข้าพเจ้ารับภัยอยู่วันยังค่ำและถูกขนาบอยู่ทุกเช้า ถ้าข้าพระองค์ได้พูดว่า “ข้าพเจ้าจะพูดอย่างนี้” ดูเถิด ข้าพระองค์จะทำผิดต่อชั่วอายุแห่งบุตรทั้งหลายของพระองค์แล้ว แต่เมื่อข้าพระองค์ตริตรองว่า จะเข้าใจเรื่องนี้ได้อย่างไร ข้าพระองค์รู้สึกว่า เป็นงานที่เหน็ดเหนื่อย จนข้าพระองค์เข้าไปในสถานบริสุทธิ์ของพระเจ้า แล้วข้าพระองค์จึงพิเคราะห์เห็นปลายทางของเขาทั้งหลาย จริงละ พระองค์ทรงวางเขาไว้ในที่ลื่น พระองค์ทรงกระทำให้เขาล้มถึงความพินาศ เขาถูกนำไปสู่การรกร้างในครู่เดียวเสียจริงๆ เขาถูกครอบงำด้วยความสยดสยองอย่างสิ้นเชิง โอ ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า เหมือนความฝันทั้งที่ตื่นอยู่ เมื่อพระองค์ทรงตื่นอยู่ พระองค์จะดูหมิ่นภาพของเขา เมื่อจิตใจของข้าพระองค์ขมขื่น เมื่อข้าพระองค์เสียวแปลบถึงหัวใจ ข้าพระองค์โฉดและไม่เดียงสา ข้าพระองค์ประพฤติเหมือนสัตว์ต่อพระพักตร์พระองค์ ถึงกระนั้นก็ดี ข้าพระองค์อยู่กับพระองค์เสมอ พระองค์ทรงจับมือขวาของข้าพระองค์ไว้ พระองค์จะทรงนำข้าพระองค์ด้วยความปรึกษาของพระองค์ และภายหลังพระองค์จะทรงนำข้าพระองค์ให้ได้รับเกียรติยศ นอกจากพระองค์ ข้าพระองค์มิมีผู้ใดในฟ้าสวรรค์ นอกจากพระองค์แล้ว ข้าพระองค์ไม่ปรารถนาผู้ใดในโลก เนื้อหนังและจิตใจของข้าพระองค์จะวายไป แต่พระเจ้าทรงเป็นกำลังใจของข้าพระองค์ และเป็นส่วนของข้าพระองค์เป็นนิตย์ เพราะดูเถิด บุคคลผู้ห่างเหินจากพระองค์จะพินาศ พระองค์ทรงให้บุคคลที่ไม่จริงต่อพระองค์ดับไป แต่ส่วนข้าพระองค์ ที่จะเข้าใกล้พระเจ้านั้นดี ข้าพระองค์ได้วางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้า เพื่อข้าพระองค์จะได้เล่าถึงพระราชกิจทั้งสิ้นของพระองค์
สดุดี 73:12-28 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
ดูเถิด คนอธรรมเป็นเช่นนี้แหละ อยู่อย่างสบายเสมอ และร่ำรวยขึ้น ข้าพเจ้ารักษาใจให้สะอาด และชำระมือด้วยความบริสุทธิ์ก็เปล่าประโยชน์ เพราะข้าพเจ้ารับภัยอยู่วันยังค่ำ และถูกขนาบอยู่ทุกเช้า ถ้าข้าพระองค์ได้พูดว่า <<ข้าพเจ้าจะพูดอย่างนี้>> ข้าพระองค์จะไม่จริงต่อพวกบุตรทั้งหลายของพระองค์อยู่แล้ว แต่เมื่อข้าพระองค์ตริตรองว่า จะเข้าใจเรื่องนี้ได้อย่างไร ข้าพระองค์รู้สึกว่า เป็นงานที่เหน็ดเหนื่อย จนข้าพระองค์เข้าไปในสถานนมัสการของพระเจ้า แล้วข้าพระองค์จึงพิเคราะห์เห็นปลายทางของเขาทั้งหลาย จริงละ พระองค์ทรงวางเขาไว้ในที่ลื่น พระองค์ทรงกระทำให้เขาล้มถึงความพินาศ แหม เขาถูกทำลายเสียในครู่เดียว ถูกเหตุการณ์สยดสยองกวาดไปอย่างสิ้นเชิง ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า เหมือนความฝันทั้งที่ตื่นอยู่ เมื่อตื่นอยู่ ท่านดูหมิ่นภาพของเขา เมื่อจิตของข้าพระองค์ขมขื่น เมื่อข้าพระองค์เสียวแปลบถึงหัวใจ ข้าพระองค์โฉดและไม่เดียงสา ข้าพระองค์ประพฤติเหมือนสัตว์ต่อพระองค์ ถึงกระนั้นก็ดี ข้าพระองค์อยู่กับพระองค์เสมอ พระองค์ทรงจับมือขวาของข้าพระองค์ไว้ พระองค์ทรงนำข้าพระองค์ด้วยคำปรึกษาของพระองค์ และภายหลังพระองค์จะทรงนำข้าพระองค์ให้ได้รับเกียรติยศ นอกจากพระองค์ ข้าพระองค์มิมีผู้ใดในฟ้าสวรรค์ นอกจากพระองค์แล้ว ข้าพระองค์ไม่ปรารถนาใดใดในโลก เนื้อหนังและจิตใจของข้าพระองค์จะวายไป แต่พระเจ้าทรงเป็นกำลังใจของข้าพระองค์ และเป็นส่วนของข้าพระองค์เป็นนิตย์ เพราะนี่แนะ บุคคลผู้ห่างเหินจากพระองค์จะพินาศ พระองค์ทรงให้บุคคลที่ไม่จริงต่อพระองค์ดับไป แต่ส่วนข้าพระองค์ ที่จะเข้าใกล้พระเจ้านั้นดี ข้าพระองค์ได้ให้พระเจ้าเป็นที่ลี้ภัยของข้าพระองค์ เพื่อข้าพระองค์จะได้เล่าถึงพระราชกิจทั้งสิ้นของพระองค์
สดุดี 73:12-28 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
คนชั่วเป็นเช่นนี้แหละ สุขสบายอยู่ร่ำไป พวกเขาร่ำรวยขึ้นเรื่อยๆ แน่ทีเดียว ข้าพเจ้ารักษาใจให้บริสุทธิ์ และชำระมือให้ปราศจากมลทินโดยเปล่าประโยชน์ ข้าพเจ้าถูกรุมเล่นงานวันยังค่ำ และถูกลงโทษอยู่ทุกเช้า หากข้าพเจ้าได้กล่าวว่า “เราจะพูดเช่นนั้น” ข้าพเจ้าก็คงจะได้ทรยศต่อลูกๆ ของพระองค์ เมื่อข้าพเจ้าพยายามที่จะเข้าใจทั้งหมดนี้ ก็ทำให้ลำบากใจยิ่งนัก จนกระทั่งข้าพเจ้าเข้าไปยังสถานนมัสการของพระเจ้า ข้าพเจ้าจึงเข้าใจถึงจุดหมายปลายทางสุดท้ายของพวกเขา แน่ทีเดียว พระองค์ทรงให้เขายืนอยู่บนที่ลื่น พระองค์ทรงเหวี่ยงเขาลงสู่หายนะ เขาถูกทำลายไปทันที ถูกกวาดล้างหมดสิ้นไปด้วยความสยดสยอง! ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า เมื่อพระองค์ทรงลุกขึ้นก็เหมือนคนที่ตื่นจากฝัน พระองค์จะทรงเหยียดหยามเขาว่าเป็นเพียงภาพเพ้อฝัน เมื่อจิตใจของข้าพระองค์ทุกข์โศก เมื่อดวงวิญญาณของข้าพระองค์ขมขื่น ข้าพระองค์ก็ไม่รู้จักคิดและโง่เขลา ข้าพระองค์เป็นเหมือนสัตว์เดียรัจฉานต่อพระองค์ แต่ถึงกระนั้น ข้าพระองค์ยังอยู่กับพระองค์เสมอ พระองค์ทรงยึดมือขวาของข้าพระองค์ไว้ พระองค์ทรงนำข้าพระองค์ด้วยคำปรึกษาของพระองค์ และภายหลังพระองค์จะทรงรับข้าพระองค์เข้าสู่เกียรติสิริ นอกจากพระองค์แล้วข้าพระองค์มีผู้ใดอื่นในฟ้าสวรรค์หรือ? และในโลกนี้ข้าพระองค์ไม่ปรารถนาสิ่งใดนอกจากพระองค์ กายใจของข้าพระองค์อาจจะเสื่อมถอย แต่พระเจ้าทรงเป็นพลังใจและเป็นส่วนมรดกของข้าพระองค์ตลอดไป บรรดาผู้ที่ห่างไกลพระองค์จะพินาศ พระองค์ทรงทำลายล้างคนทั้งปวงที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อพระองค์ แต่ส่วนข้าพระองค์ ดีเหลือเกินที่ได้เข้ามาใกล้พระเจ้า ข้าพระองค์ได้ให้พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตเป็นที่ลี้ภัยของข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะเล่าถึงพระราชกิจทั้งสิ้นของพระองค์
สดุดี 73:12-28 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
ดูเถิด คนชั่วเป็นแบบนี้คือ ชอบอยู่อย่างสบายตลอดกาล และร่ำรวยขึ้น จริงทีเดียว มันเปล่าประโยชน์ที่ข้าพเจ้าได้ล้างมือ แสดงความบริสุทธิ์ใจ ข้าพเจ้าต้องทนทุกข์ตลอดวันเวลา และถูกลงโทษทุกเช้า หากข้าพเจ้าพูดว่า “ข้าพเจ้าจะพูดตามอย่างพวกเขา” ก็จะกลายเป็นว่าข้าพเจ้าไม่จริงใจต่อพวกบุตรของพระองค์ แต่เมื่อข้าพเจ้าพยายามที่จะเข้าใจเรื่องนี้ ข้าพเจ้าก็อ่อนใจ จนกระทั่งข้าพเจ้าเข้าไปในที่พำนักของพระเจ้า แล้วข้าพเจ้าจึงเข้าใจจุดจบของพวกเขา จริงทีเดียว พระองค์ให้พวกเขาอยู่ในที่ลื่น พระองค์ทำให้เขาวอดวาย พวกเขาถูกทำลายได้อย่างรวดเร็วอะไรเช่นนี้ และถูกกำจัดอย่างน่ากลัวโดยสิ้นเชิง โอ พระผู้เป็นเจ้า เมื่อพระองค์ตื่นขึ้น พระองค์ลืมพวกเขาจนหมดสิ้น เหมือนกับผู้ที่ตื่นขึ้นจากความฝัน เวลาข้าพเจ้ารู้สึกขมขื่นในใจ ในยามที่ส่วนลึกในตัวข้าพเจ้าแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ข้าพเจ้าโง่และไม่เข้าใจอะไร ณ เบื้องหน้าพระองค์ ข้าพเจ้าเป็นเพียงสัตว์ป่า ถึงกระนั้นข้าพเจ้าก็จะอยู่กับพระองค์เสมอ พระองค์จับมือขวาของข้าพเจ้าไว้ พระองค์นำทางข้าพเจ้าพร้อมด้วยคำแนะนำ และสุดท้ายพระองค์จะรับข้าพเจ้าอย่างสมเกียรติ ข้าพเจ้ามีใครในสวรรค์บ้างนอกจากพระองค์ และไม่มีอะไรในโลกที่ข้าพเจ้าต้องการนอกจากพระองค์ ทั้งกายและใจของข้าพเจ้าระทดท้อ แต่พระเจ้าเป็นพลังใจของข้าพเจ้าโดยที่ข้าพเจ้าไม่จำเป็นต้องมีสิ่งอื่นใดอีกเลย ดูเถิด พวกที่ห่างเหินจากพระองค์จะพินาศ พระองค์ทำให้ชีวิตของพวกที่ไม่จริงใจกับพระองค์จบลง แต่สำหรับข้าพเจ้าแล้ว นับว่าเป็นสิ่งดีที่ได้อยู่ใกล้ชิดพระเจ้า ข้าพเจ้าให้พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่เป็นที่พึ่งพิงของข้าพเจ้า และข้าพเจ้าจะป่าวประกาศถึงสิ่งทั้งปวงที่พระองค์ได้กระทำ