สดุดี 27:1-8
สดุดี 27:1-8 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
พระยาห์เวห์คือแสงสว่างและผู้ช่วยให้รอดของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะต้องไปหวาดกลัวใครอีก พระยาห์เวห์คือที่ลี้ภัยของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะต้องไปหวั่นเกรงใครอีก ถ้าคนชั่วโจมตีข้าพเจ้าและพยายามที่จะกินเลือดกินเนื้อข้าพเจ้า พวกปรปักษ์และศัตรูเหล่านั้นก็จะสะดุดล้มลง แม้ว่าจะมีกองทัพตั้งค่ายล้อมข้าพเจ้าไว้ ข้าพเจ้าจะไม่กลัว ถึงแม้พวกเขามาบุกข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็ยังคงไว้วางใจพระยาห์เวห์อยู่ดี ข้าพเจ้าขอเพียงสิ่งหนึ่งจากพระยาห์เวห์ เป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าอยากได้มากที่สุด คือ ขอให้ได้อาศัยอยู่ในวิหารของพระองค์ทุกวันตลอดชีวิต เพื่อข้าพเจ้าจะได้สัมผัสถึงความปรานีของพระยาห์เวห์ และแสวงหาการทรงนำของพระองค์ในวิหารของพระองค์ เพราะพระองค์จะได้ปกป้องข้าพเจ้าไว้ในที่กำบังของพระองค์ในวันที่มีภัยอันตราย พระองค์จะซ่อนข้าพเจ้าไว้ในเต็นท์ของพระองค์ พระองค์จะยกข้าพเจ้าไว้ในที่ปลอดภัยบนผาสูง และตอนนี้ พระยาห์เวห์จะยกหัวของข้าพเจ้าขึ้นเหนือพวกศัตรูที่ล้อมรอบข้าพเจ้าอยู่ ข้าพเจ้าจะถวายเครื่องบูชาพร้อมเสียงโห่ร้องยินดีในวิหารของพระองค์ และข้าพเจ้าจะร้องเพลงและเล่นดนตรีเพื่อถวายเกียรติให้กับพระยาห์เวห์ ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดฟังเสียงของข้าพเจ้าเมื่อข้าพเจ้าร้องเรียกพระองค์ โปรดเมตตา และตอบข้าพเจ้าด้วยเถิด จิตใจของข้าพเจ้าบอกข้าพเจ้าว่า “แสวงหาหน้าของพระยาห์เวห์สิ” ดังนั้น พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าจึงแสวงหาหน้าของพระองค์อยู่
สดุดี 27:1-8 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
พระยาห์เวห์ทรงเป็นความสว่างและความรอดของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะกลัวผู้ใดเล่า? พระยาห์เวห์ทรงเป็นที่กำบังอันแข็งแกร่งแห่งชีวิตข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะเกรงผู้ใดเล่า? เมื่อพวกคนชั่วมาหาข้าพเจ้า เพื่อจะกินเนื้อข้าพเจ้า คือบรรดาคู่อริและศัตรูของข้าพเจ้า พวกเขาจะสะดุดและล้มลง แม้กองทัพตั้งค่ายสู้ข้าพเจ้า ใจข้าพเจ้าจะไม่กลัว แม้สงครามถาโถมใส่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้ายังวางใจพระเจ้าอยู่ ข้าพเจ้าทูลขอสิ่งหนึ่งจากพระยาห์เวห์ ซึ่งข้าพเจ้าจะเสาะแสวงหา คือที่ข้าพเจ้าจะได้อยู่ในพระนิเวศของพระยาห์เวห์ ตลอดวันคืนแห่งชีวิตของข้าพเจ้า เพื่อจะดูความงามของพระยาห์เวห์ และเพื่อจะพินิจพิจารณาอยู่ในพระวิหารของพระองค์ เพราะพระองค์จะทรงซ่อนข้าพเจ้าไว้ในที่ประทับของพระองค์ ในยามยากลำบาก พระองค์จะทรงกำบังข้าพเจ้าไว้ในที่กำบังแห่งพลับพลาของพระองค์ พระองค์จะทรงตั้งข้าพเจ้าไว้สูงบนศิลา และบัดนี้ศีรษะของข้าพเจ้าจะเชิดขึ้น เหนือบรรดาศัตรูของข้าพเจ้าที่อยู่รอบข้าง และข้าพเจ้าจะถวายเครื่องสัตวบูชาในพลับพลาของพระองค์ด้วยการโห่ร้องยินดี ข้าพเจ้าจะร้องเพลงและเล่นดนตรีสดุดีพระยาห์เวห์ ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอทรงฟัง เมื่อข้าพระองค์ร้องทูล ขอทรงพระกรุณาและตรัสตอบข้าพระองค์เถิด ใจของข้าเอ๋ย พระองค์ตรัสกับเจ้าว่า “จงแสวงหาหน้าของเรา” ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพระองค์จะแสวงหาพระพักตร์ของพระองค์
สดุดี 27:1-8 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
พระเยโฮวาห์ทรงเป็นความสว่างและความรอดของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะกลัวผู้ใดเล่า พระเยโฮวาห์ทรงเป็นที่กำบังเข้มแข็งแห่งชีวิตข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะต้องเกรงใคร เมื่อคนชั่วได้เข้ามาหาข้าพเจ้าเพื่อจะกินเนื้อข้าพเจ้า คือปฏิปักษ์และคู่อริของข้าพเจ้า เขาได้สะดุดและล้มลง แม้กองทัพตั้งค่ายสู้ข้าพเจ้า จิตใจของข้าพเจ้าจะไม่กลัว แม้ข้าพเจ้าจะได้รับภัยสงคราม ข้าพเจ้ายังไว้ใจได้อยู่ ข้าพเจ้าทูลขอสิ่งหนึ่งจากพระเยโฮวาห์ซึ่งข้าพเจ้าจะเสาะแสวงหาเสมอ คือที่ข้าพเจ้าจะได้อยู่ในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ตลอดวันเวลาชั่วชีวิตของข้าพเจ้า เพื่อจะดูความงามของพระเยโฮวาห์ และเพื่อจะพินิจพิจารณาอยู่ในพระวิหารของพระองค์ เพราะพระองค์จะทรงซ่อนข้าพเจ้าในที่กำบังของพระองค์ในยามยากลำบาก พระองค์จะปิดข้าพเจ้าไว้ในที่ซ่อนเร้นแห่งพลับพลาของพระองค์ พระองค์จะทรงตั้งข้าพเจ้าไว้สูงบนศิลา และบัดนี้ศีรษะของข้าพเจ้าจะเชิดขึ้นเหนือศัตรูของข้าพเจ้าที่อยู่รอบข้าง ฉะนั้นข้าพเจ้าจะถวายเครื่องสัตวบูชาแห่งการโห่ร้องในพลับพลาของพระองค์ ข้าพเจ้าจะร้องเพลงและร้องเพลงสรรเสริญแด่พระเยโฮวาห์ โอ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ ขอทรงสดับเมื่อข้าพระองค์ร้องทูลด้วยเสียงของข้าพระองค์ ขอทรงกรุณาและตรัสตอบข้าพระองค์ พระองค์ตรัสแล้วว่า “จงหาหน้าของเรา” จิตใจของข้าพระองค์ทูลพระองค์ว่า “ข้าแต่พระเยโฮวาห์ ข้าพระองค์จะแสวงหาพระพักตร์ของพระองค์”
สดุดี 27:1-8 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
พระเจ้าทรงเป็นความสว่างและความรอดของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะกลัวผู้ใดเล่า พระเจ้าทรงเป็นที่กำบังเข้มแข็งแห่งชีวิตข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะต้องเกรงใคร เมื่อคนทำชั่วเข้ามาหาข้าพเจ้า เพื่อจะกินเนื้อข้าพเจ้า คือปฏิปักษ์และคู่อริของข้าพเจ้า เขาจะสะดุดและล้มลง แม้กองทัพตั้งค่ายสู้ข้าพเจ้า จิตใจของข้าพเจ้าจะไม่กลัว แม้ข้าพเจ้าจะได้รับภัยสงคราม ข้าพเจ้ายังไว้ใจได้อยู่ ข้าพเจ้าทูลขอสิ่งหนึ่งจากพระเจ้า ซึ่งข้าพเจ้าจะเสาะแสวงหาเสมอ คือที่ข้าพเจ้าจะได้อยู่ในพระนิเวศของพระเจ้า ตลอดวันเวลาชั่วชีวิตของข้าพเจ้า เพื่อจะดูความงามของพระเจ้า และเพื่อจะพินิจพิจารณาอยู่ในพระวิหารของพระองค์ เพราะพระองค์จะทรงซ่อนข้าพเจ้าในที่กำบังของพระองค์ ในยามยากลำบาก พระองค์จะปิดข้าพเจ้าไว้ภายใต้ร่มพลับพลาของพระองค์ พระองค์จะทรงตั้งข้าพเจ้าไว้สูงบนศิลา และบัดนี้ศีรษะของข้าพเจ้าจะเชิดขึ้น เหนือศัตรูของข้าพเจ้าที่อยู่รอบข้าง และข้าพเจ้าจะถวายเครื่องสัตวบูชาในพลับพลาของพระองค์ด้วยการโห่ร้อง ข้าพเจ้าจะร้องเพลงและถวายสดุดีแด่พระเจ้า ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงฟัง เมื่อข้าพระองค์ร้องทูล ขอทรงกรุณาและตรัสตอบข้าพระองค์ พระองค์ตรัสแล้วว่า <<จงหาหน้าของเรา>> จิตใจของข้าพระองค์ทูลพระองค์ว่า <<ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์แสวงพระพักตร์ของพระองค์>>
สดุดี 27:1-8 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นความสว่างและความรอดของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะต้องเกรงกลัวผู้ใด? องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นที่กำบังแข็งแกร่งสำหรับชีวิตของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะต้องหวาดกลัวผู้ใด? เมื่อคนชั่วรุกเข้ามา จะกินเลือดกินเนื้อข้าพเจ้า เมื่อศัตรูและปฏิปักษ์จู่โจมข้าพเจ้า พวกเขาจะสะดุดและล้มลง แม้กองทัพรุมล้อมข้าพเจ้า จิตใจของข้าพเจ้าก็จะไม่หวาดกลัว แม้ศึกสงครามจู่โจมข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็ยังจะเชื่อมั่น สิ่งหนึ่งที่ข้าพเจ้าทูลขอองค์พระผู้เป็นเจ้า สิ่งหนึ่งที่ข้าพเจ้าใฝ่หา คือการที่ข้าพเจ้าจะได้อยู่ในพระนิเวศขององค์พระผู้เป็นเจ้า ตลอดวันคืนชีวิตของข้าพเจ้า เพื่อชื่นชมความงามขององค์พระผู้เป็นเจ้า และเพื่อแสวงหาพระองค์ในพระวิหารของพระองค์ เพราะในยามทุกข์ยาก พระองค์จะทรงปกปักรักษาข้าพเจ้าไว้อย่างปลอดภัยในที่ประทับของพระองค์ พระองค์จะทรงซ่อนข้าพเจ้าไว้ในร่มพลับพลาของพระองค์ และจะทรงตั้งข้าพเจ้าไว้สูงบนศิลา แล้วข้าพเจ้าจะได้รับการเชิดชูเหนือบรรดาศัตรูที่รุมล้อมข้าพเจ้า ในพลับพลาของพระองค์ ข้าพเจ้าจะถวายเครื่องบูชาพร้อมด้วยเสียงโห่ร้องยินดี ข้าพเจ้าจะขับร้องและบรรเลงเพลงถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอโปรดฟังเมื่อข้าพระองค์ร้องทูล ขอทรงกรุณาและตอบข้าพระองค์เถิด ใจของข้าพระองค์บอกว่า “จงแสวงหาพระพักตร์ของพระองค์!” ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าข้าพระองค์จะแสวงหาพระพักตร์ของพระองค์
สดุดี 27:1-8 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
พระผู้เป็นเจ้าเป็นแสงสว่างและความรอดพ้นของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะกลัวใครเล่า พระผู้เป็นเจ้าเป็นที่หลบภัยของชีวิตข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะหวั่นกลัวผู้ใด เวลาคนชั่วต่อต้านเพื่อทำร้าย ดั่งจะกลืนกินข้าพเจ้า เวลาฝ่ายตรงข้ามและศัตรูโจมตีข้าพเจ้า พวกเขาจะพลาดและล้มลง แม้จะมีกองทัพตีวงล้อมข้าพเจ้า ใจข้าพเจ้าก็ไม่หวาดหวั่น แม้จะมีใครก่อศึกรุกรานข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็ยังจะมีความมั่นใจ มีสิ่งเดียวที่ข้าพเจ้าวอนขอจาก พระผู้เป็นเจ้าผู้ซึ่งข้าพเจ้าแสวงหา คือขอให้ได้อยู่ในพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า ชั่วชีวิตของข้าพเจ้า เพื่อทอดสายตาดูความงามสง่าของพระผู้เป็นเจ้า และใคร่ครวญอยู่ในพระวิหารของพระองค์ เพราะพระองค์จะซ่อนข้าพเจ้าไว้ ในที่กำบังของพระองค์ในยามคับขัน พระองค์จะช่วยข้าพเจ้าให้ปลอดภัยอยู่ในกระโจมของพระองค์ และยกข้าพเจ้าไว้บนศิลาสูง มาบัดนี้ศีรษะข้าพเจ้าจะถูกยก ให้สูงเหนือศัตรูรอบข้าง และข้าพเจ้าจะมอบเครื่องสักการะโดยส่งเสียงร้องแสดงความยินดีในกระโจมของพระองค์ ข้าพเจ้าจะร้องเพลงและบรรเลงเพลงแด่พระผู้เป็นเจ้า โอ พระผู้เป็นเจ้า โปรดฟังในยามข้าพเจ้าตะโกนร้อง โปรดเมตตาข้าพเจ้า และตอบข้าพเจ้า ใจข้าพเจ้าบอกว่า “มาเถิด มาแสวงหาพระองค์เถิด” โอ พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าแสวงหาพระองค์