สดุดี 22:1-13
สดุดี 22:1-13 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
พระเจ้าของข้าพระองค์ พระเจ้าของข้าพระองค์ ทำไมทรงทอดทิ้งข้าพระองค์? เหตุใดพระองค์จึงทรงห่างไกล ไม่มาช่วยกู้ข้าพระองค์? ทรงห่างไกล ไม่ฟังคำคร่ำครวญของข้าพระองค์? ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ร้องทูลตลอดวัน แต่พระองค์ไม่ทรงตอบ ยามค่ำคืนข้าพระองค์ก็ไม่หยุดวิงวอน ถึงกระนั้นพระองค์ทรงประทับบนบัลลังก์ เป็นองค์บริสุทธิ์ พระองค์ทรงเป็นที่สรรเสริญของอิสราเอล บรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายวางใจในพระองค์ เขาเหล่านั้นวางใจในพระองค์ และพระองค์ทรงช่วยกู้พวกเขา พวกเขาร้องทูลพระองค์และได้รับการช่วยกู้ พวกเขาวางใจในพระองค์และไม่ผิดหวัง แต่ข้าพระองค์เป็นตัวหนอน ไม่ใช่คน ผู้คนก็ประณาม ประชาชนก็ดูแคลน คนทั้งปวงที่เห็นข้าพระองค์ก็เย้ยหยัน พวกเขาส่ายหน้าและพูดเหยียดหยามใส่ข้าพระองค์ว่า “เขาวางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้า ก็ให้องค์พระผู้เป็นเจ้าช่วยเขาสิ ในเมื่อพระองค์ปีติยินดีในตัวเขา ก็ให้พระองค์ช่วยกู้เขาสิ” ถึงกระนั้นพระองค์ทรงนำข้าพระองค์ออกมาจากครรภ์ พระองค์ทรงทำให้ข้าพระองค์วางใจใน พระองค์ตั้งแต่อยู่ในอ้อมอกแม่ ตั้งแต่เกิด ข้าพระองค์ก็ถูกทิ้งให้พึ่งพิงพระองค์ ตั้งแต่ข้าพระองค์ยังอยู่ในครรภ์มารดา พระองค์ก็ทรงเป็นพระเจ้าของข้าพระองค์ ขออย่าทรงไกลห่างจากข้าพระองค์ เพราะความทุกข์ร้อนอยู่ใกล้ และไม่มีใครช่วยได้เลย เหล่ากระทิงห้อมล้อมข้าพระองค์ ฝูงโคถึกแห่งบาชานรุมล้อมข้าพระองค์ พวกเขาอ้าปากกว้างเข้าใส่ข้าพระองค์ ดั่งสิงโตคำรามและกัดฉีกเหยื่อ
สดุดี 22:1-13 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
พระเจ้าข้า พระเจ้าข้า ไฉนทรงทอดทิ้งข้าพระองค์เสีย เหตุใด พระองค์ทรงเมินเฉยที่จะช่วยข้าพระองค์ และต่อถ้อยคำคร่ำครวญของข้าพระองค์ ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ร้องทูลในเวลากลางวัน แต่พระองค์มิได้ตรัสตอบ ถึงกลางคืนข้าพระองค์ยังร่ำทูลต่อไปไม่หยุด ถึงอย่างไรพระองค์ทรงเป็นองค์บริสุทธิ์ พระองค์ประทับเหนือคำสรรเสริญของคนอิสราเอล บรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายวางใจในพระองค์ เขาทั้งหลายวางใจ และพระองค์ทรงช่วยกู้เขา เขาร้องทูล พระองค์ก็ทรงช่วยเขาให้รอด เขาวางใจในพระองค์ เขาจึงมิได้รับความอับอาย ข้าพระองค์เป็นดุจตัวหนอน มิใช่คน คนก็ด่า ประชาก็ดูหมิ่น ผู้ที่เห็นข้าพระองค์ก็เย้ยหยัน เขาบุ้ยปากและสั่นศีรษะใส่ข้าพระองค์กล่าวว่า เขามอบตัวไว้กับพระเจ้า ให้พระองค์ทรงช่วยเขาสิ ให้พระองค์ช่วยเขา เพราะพระองค์ทรงพอพระทัยในเขา ถึงกระนั้นพระองค์ก็ทรงเป็นผู้นำ ข้าพระองค์ออกมาจากครรภ์มารดา และทรงให้ข้าพระองค์ปลอดภัยอยู่ที่อกแม่ ตั้งแต่คลอด ข้าพระองค์ก็ต้องพึ่งพระองค์ พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของข้าพระองค์ ตั้งแต่ข้าพระองค์ยังอยู่ในครรภ์มารดา ขออย่าทรงห่างไกลข้าพระองค์ เพราะความยากลำบากอยู่ใกล้ และไม่มีผู้ใดช่วยได้เลย เหล่าโคผู้ล้อมข้าพระองค์ โคผู้แข็งแรงแห่งบาชานล้อมข้าพระองค์ไว้ มันอ้าปากกว้างเข้าใส่ข้าพระองค์ ดั่งสิงห์ขณะกัดฉีกและคำรามร้อง
สดุดี 22:1-13 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
พระเจ้าของข้าพเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้า ทำไมพระองค์ถึงได้ละทิ้งข้าพเจ้าเสีย ทำไมพระองค์ถึงได้อยู่ห่างไกลจากข้าพเจ้าเสียเหลือเกิน ทำไมไม่ช่วยข้าพเจ้าให้รอด ทำไมไม่ได้ยินเสียงร้องขอให้ช่วยของข้าพเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าร้องเรียกพระองค์ตลอดทั้งวัน แต่พระองค์ก็ไม่ตอบข้าพเจ้า และข้าพเจ้าก็ยังร้องเรียกต่อไปตลอดทั้งคืน ข้าพเจ้าก็ไม่ได้รับการบรรเทาทุกข์ แต่อย่างไรก็ตาม พระองค์ก็ยังเป็นองค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ พระองค์นั่งอยู่บนบัลลังก์ของพระองค์ และชาวอิสราเอลสรรเสริญพระองค์ บรรพบุรุษของเราไว้วางใจในพระองค์ และพระองค์ช่วยกู้พวกเขา พวกเขาตะโกนร้องขอความช่วยเหลือจากพระองค์ และได้รับการช่วยเหลือจากพระองค์ พวกเขาวางใจในพระองค์ พวกเขาจึงไม่ผิดหวัง ข้าพเจ้ามันก็แค่ตัวหนอน ไม่ใช่คน ข้าพเจ้ามันก็แค่ตัวอะไร ที่ผู้คนพูดดูถูก มันก็แค่ตัวอะไร ที่ผู้คนพูดดูหมิ่น ทุกคนที่เห็นข้าพเจ้า ต่างก็เย้ยหยันข้าพเจ้า พวกเขาพากันทำหน้าและส่ายหัวใส่ข้าพเจ้า แล้วพูดว่า “เขาวางใจในพระยาห์เวห์ไม่ใช่หรือ ให้พระยาห์เวห์ช่วยให้เขารอดสิ ถ้าพระยาห์เวห์ชื่นชอบเขา ก็ให้พระยาห์เวห์ปลดปล่อยเขาสิ” พระเจ้าของข้าพเจ้า ความจริงแล้ว พระองค์คือผู้ที่ดึงข้าพเจ้าออกมาจากครรภ์ พระองค์ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกปลอดภัยในอ้อมอกของแม่ ตอนที่ข้าพเจ้าเกิดมา ข้าพเจ้าก็ถูกวางไว้ในอ้อมแขนของพระองค์แล้ว พระองค์เป็นพระเจ้าของข้าพเจ้าตั้งแต่ข้าพเจ้าคลอดออกมาจากท้องแม่แล้ว ดังนั้น โปรดอย่าได้อยู่ห่างไกลจากข้าพเจ้า เพราะความทุกข์ยากอยู่ใกล้ตัวข้าพเจ้า และก็ไม่มีใครช่วยด้วย มีวัวตัวผู้จำนวนมากที่ล้อมรอบข้าพเจ้าอยู่ วัวตัวผู้ที่ดุร้ายของบาชานกำลังรายล้อมข้าพเจ้าอยู่ พวกมันอ้าปากกว้างใส่ข้าพเจ้า เหมือนกับสิงโตที่กำลังร้องคำรามฉีกกินเหยื่อของมัน
สดุดี 22:1-13 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
พระเจ้าข้า พระเจ้าข้า ไฉนทรงทอดทิ้งข้าพระองค์เสีย? เหตุใดพระองค์ทรงเมินเฉยต่อการช่วยกู้ข้าพระองค์และต่อถ้อยคำคร่ำครวญของข้าพระองค์? ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ร้องทูลในเวลากลางวัน แต่พระองค์มิได้ตรัสตอบ ถึงเวลากลางคืน ข้าพระองค์ไม่มีความสงบเลย ถึงอย่างไร พระองค์ทรงเป็นองค์บริสุทธิ์ ผู้ประทับเหนือคำสรรเสริญของคนอิสราเอล บรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายวางใจในพระองค์ เขาทั้งหลายวางใจ และพระองค์ทรงช่วยเขาให้พ้นภัย พวกเขาร้องทูล พระองค์ก็ทรงช่วยเขาให้รอด เขาวางใจในพระองค์ เขาจึงไม่อับอาย ข้าพระองค์เป็นดุจตัวหนอน มิใช่มนุษย์ คนก็เยาะเย้ย ประชาก็ดูหมิ่น ทุกคนที่เห็นข้าพระองค์ก็เย้ยหยัน เขาบุ้ยปากและสั่นศีรษะกล่าวว่า “เขามอบตัวไว้กับพระยาห์เวห์ ให้พระองค์ช่วยเขาให้พ้นภัยสิ ให้พระองค์ช่วยกู้เขา เพราะพระองค์พอพระทัยเขา” ถึงกระนั้น พระองค์ก็ทรงเป็นผู้นำข้าพระองค์ออกมาจากครรภ์ และทรงให้ข้าพระองค์ปลอดภัยอยู่ที่อกแม่ ตั้งแต่คลอด ข้าพระองค์ก็ต้องพึ่งพระองค์ พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของข้าพระองค์ ตั้งแต่ข้าพระองค์ยังอยู่ในครรภ์มารดา ขออย่าทรงห่างไกลข้าพระองค์ เพราะความยากลำบากอยู่ใกล้ และไม่มีผู้ใดช่วยได้เลย โคผู้มากมายล้อมข้าพระองค์ไว้ โคบึกบึนแห่งบาชานรุมล้อมข้าพระองค์ พวกศัตรูอ้าปากกว้างเข้าใส่ข้าพระองค์ ดั่งสิงห์ขณะกัดฉีกและคำรามร้อง
สดุดี 22:1-13 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
พระเจ้าของข้าพระองค์ พระเจ้าของข้าพระองค์ ไฉนพระองค์ทรงทอดทิ้งข้าพระองค์เสีย เหตุใดพระองค์ทรงเมินเฉยที่จะช่วยข้าพระองค์ และต่อถ้อยคำคร่ำครวญของข้าพระองค์ โอ ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ร้องทูลในเวลากลางวัน แต่พระองค์มิได้ทรงฟัง ถึงกลางคืนข้าพระองค์ยังร่ำทูลต่อไปไม่หยุด ถึงอย่างไรพระองค์ทรงเป็นองค์บริสุทธิ์ โอ พระองค์ประทับเหนือคำสรรเสริญของคนอิสราเอล บรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายวางใจในพระองค์ เขาทั้งหลายวางใจ และพระองค์ทรงช่วยเขาให้พ้น เขาร้องทูล พระองค์ก็ทรงช่วยเขาให้รอด เขาวางใจในพระองค์ เขาจึงมิได้รับความอับอาย ข้าพระองค์เป็นดุจตัวหนอน มิใช่คน คนก็ด่า ประชาชนก็ดูหมิ่น บรรดาผู้ที่เห็นข้าพระองค์ก็หัวเราะเยาะเย้ยข้าพระองค์ เขาบุ้ยริมฝีปากและสั่นศีรษะกล่าวว่า “เขาวางใจในพระเยโฮวาห์ว่าพระองค์จะทรงช่วยเขาให้พ้น จงให้พระองค์ทรงช่วยเขาให้พ้น เพราะพระองค์ทรงพอพระทัยในเขา” ถึงกระนั้นพระองค์ก็ทรงเป็นผู้นำข้าพระองค์ออกมาจากครรภ์มารดา และทรงให้ข้าพระองค์มีความหวังใจเมื่ออยู่ที่อกแม่ ตั้งแต่คลอด ข้าพระองค์ก็ต้องพึ่งพระองค์ พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของข้าพระองค์ตั้งแต่ข้าพระองค์ยังอยู่ในครรภ์มารดา ขออย่าทรงห่างไกลข้าพระองค์ เพราะความยากลำบากอยู่ใกล้และไม่มีผู้ใดช่วยได้เลย เหล่าวัวผู้ล้อมข้าพระองค์ วัวผู้แข็งแรงแห่งบาชานล้อมข้าพระองค์ไว้ มันอ้าปากกว้างเข้าใส่ข้าพระองค์ดั่งสิงโตขณะกัดฉีกและคำรามร้อง
สดุดี 22:1-13 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
พระเจ้าข้า พระเจ้าข้า ไฉนทรงทอดทิ้งข้าพระองค์เสีย เหตุใด พระองค์ทรงเมินเฉยที่จะช่วยข้าพระองค์ และต่อถ้อยคำคร่ำครวญของข้าพระองค์ ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ร้องทูลในเวลากลางวัน แต่พระองค์มิได้ตรัสตอบ ถึงกลางคืนข้าพระองค์ยังร่ำทูลต่อไปไม่หยุด ถึงอย่างไรพระองค์ทรงเป็นองค์บริสุทธิ์ พระองค์ประทับเหนือคำสรรเสริญของคนอิสราเอล บรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายวางใจในพระองค์ เขาทั้งหลายวางใจ และพระองค์ทรงช่วยกู้เขา เขาร้องทูล พระองค์ก็ทรงช่วยเขาให้รอด เขาวางใจในพระองค์ เขาจึงมิได้รับความอับอาย ข้าพระองค์เป็นดุจตัวหนอน มิใช่คน คนก็ด่า ประชาก็ดูหมิ่น ผู้ที่เห็นข้าพระองค์ก็เย้ยหยัน เขาบุ้ยปากและสั่นศีรษะใส่ข้าพระองค์กล่าวว่า เขามอบตัวไว้กับพระเจ้า ให้พระองค์ทรงช่วยเขาสิ ให้พระองค์ช่วยเขา เพราะพระองค์ทรงพอพระทัยในเขา ถึงกระนั้นพระองค์ก็ทรงเป็นผู้นำ ข้าพระองค์ออกมาจากครรภ์มารดา และทรงให้ข้าพระองค์ปลอดภัยอยู่ที่อกแม่ ตั้งแต่คลอด ข้าพระองค์ก็ต้องพึ่งพระองค์ พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของข้าพระองค์ ตั้งแต่ข้าพระองค์ยังอยู่ในครรภ์มารดา ขออย่าทรงห่างไกลข้าพระองค์ เพราะความยากลำบากอยู่ใกล้ และไม่มีผู้ใดช่วยได้เลย เหล่าโคผู้ล้อมข้าพระองค์ โคผู้แข็งแรงแห่งบาชานล้อมข้าพระองค์ไว้ มันอ้าปากกว้างเข้าใส่ข้าพระองค์ ดั่งสิงห์ขณะกัดฉีกและคำรามร้อง
สดุดี 22:1-13 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
พระเจ้าของข้าพระองค์ พระเจ้าของข้าพระองค์ ทำไมทรงทอดทิ้งข้าพระองค์? เหตุใดพระองค์จึงทรงห่างไกล ไม่มาช่วยกู้ข้าพระองค์? ทรงห่างไกล ไม่ฟังคำคร่ำครวญของข้าพระองค์? ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ร้องทูลตลอดวัน แต่พระองค์ไม่ทรงตอบ ยามค่ำคืนข้าพระองค์ก็ไม่หยุดวิงวอน ถึงกระนั้นพระองค์ทรงประทับบนบัลลังก์ เป็นองค์บริสุทธิ์ พระองค์ทรงเป็นที่สรรเสริญของอิสราเอล บรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายวางใจในพระองค์ เขาเหล่านั้นวางใจในพระองค์ และพระองค์ทรงช่วยกู้พวกเขา พวกเขาร้องทูลพระองค์และได้รับการช่วยกู้ พวกเขาวางใจในพระองค์และไม่ผิดหวัง แต่ข้าพระองค์เป็นตัวหนอน ไม่ใช่คน ผู้คนก็ประณาม ประชาชนก็ดูแคลน คนทั้งปวงที่เห็นข้าพระองค์ก็เย้ยหยัน พวกเขาส่ายหน้าและพูดเหยียดหยามใส่ข้าพระองค์ว่า “เขาวางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้า ก็ให้องค์พระผู้เป็นเจ้าช่วยเขาสิ ในเมื่อพระองค์ปีติยินดีในตัวเขา ก็ให้พระองค์ช่วยกู้เขาสิ” ถึงกระนั้นพระองค์ทรงนำข้าพระองค์ออกมาจากครรภ์ พระองค์ทรงทำให้ข้าพระองค์วางใจใน พระองค์ตั้งแต่อยู่ในอ้อมอกแม่ ตั้งแต่เกิด ข้าพระองค์ก็ถูกทิ้งให้พึ่งพิงพระองค์ ตั้งแต่ข้าพระองค์ยังอยู่ในครรภ์มารดา พระองค์ก็ทรงเป็นพระเจ้าของข้าพระองค์ ขออย่าทรงไกลห่างจากข้าพระองค์ เพราะความทุกข์ร้อนอยู่ใกล้ และไม่มีใครช่วยได้เลย เหล่ากระทิงห้อมล้อมข้าพระองค์ ฝูงโคถึกแห่งบาชานรุมล้อมข้าพระองค์ พวกเขาอ้าปากกว้างเข้าใส่ข้าพระองค์ ดั่งสิงโตคำรามและกัดฉีกเหยื่อ
สดุดี 22:1-13 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
พระเจ้าของข้าพเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้า ทำไมพระองค์จึงทอดทิ้งข้าพเจ้า ทำไมพระองค์จึงอยู่ห่างไกลเกินที่จะช่วยข้าพเจ้า ไม่ได้ยินแม้แต่คำคร่ำครวญของข้าพเจ้า โอ พระเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าร้องไห้ในเวลากลางวัน แต่พระองค์ไม่ตอบ และในช่วงเวลากลางคืนข้าพเจ้าก็หาได้พักไม่ แต่พระองค์ยังคงความเป็นผู้บริสุทธิ์ เป็นที่สรรเสริญของอิสราเอล บรรพบุรุษของเราไว้วางใจในพระองค์ ท่านเหล่านั้นไว้วางใจ และพระองค์ช่วยให้รอดพ้น ท่านร้องถึงพระองค์ และได้รับความรอดพ้น ท่านไว้วางใจในพระองค์ และไม่ได้รับความอับอาย แต่ข้าพเจ้าเป็นหนอนตัวหนึ่งซึ่งไม่ใช่มนุษย์ ถูกผู้คนดูหมิ่นและรังเกียจ ทุกคนที่เห็นข้าพเจ้าก็ล้อเลียน พวกเขาเยาะเย้ยข้าพเจ้า พลางสั่นหัวกันไปมา พูดว่า “ปล่อยให้เป็นเรื่องของพระผู้เป็นเจ้าเถิด ให้พระองค์ช่วยเขาให้รอดพ้น ปล่อยให้พระองค์ช่วยผู้ที่พระองค์ยินดี” พระองค์เป็นผู้ที่นำข้าพเจ้าออกมาจากครรภ์ พระองค์ให้ความปลอดภัยแก่ข้าพเจ้าในอ้อมอกแม่ นับแต่เกิดมา ข้าพเจ้าถูกมอบให้กับพระองค์ พระองค์เป็นพระเจ้าของข้าพเจ้ามาโดยตลอด ตั้งแต่วันที่ออกจากครรภ์มารดา อย่าอยู่ห่างไกลจากข้าพเจ้า เพราะว่าความลำบากอยู่ใกล้ และไม่มีใครคอยช่วย มีศัตรูประดุจโคหนุ่มจำนวนมากล้อมอยู่รอบกายข้าพเจ้า โคหนุ่มของบาชาน พวกนี้มีกำลังมหาศาลตีวงเข้าล้อมข้าพเจ้า พวกมันอ้าปากกว้างเข้าใส่ข้าพเจ้าประดุจสิงโตคำราม และเขมือบอย่างตะกละตะกราม