สดุดี 18:1-32
สดุดี 18:1-32 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
ดาวิดพูดว่า ข้าแต่พระยาห์เวห์ ผู้เป็นกำลังของข้าพเจ้า ข้าพเจ้ารักพระองค์ พระยาห์เวห์ คือหินกำบังของข้าพเจ้า คือป้อมปราการของข้าพเจ้า คือผู้ช่วยชีวิตของข้าพเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้า คือหินกำบังที่ข้าพเจ้าเข้าไปลี้ภัย คือโล่กำบังของข้าพเจ้า คือฤทธิ์อำนาจ ที่ช่วยกู้ชีวิตข้าพเจ้า คือที่ซ่อนที่ปลอดภัยของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าร้องขอความช่วยเหลือจากพระยาห์เวห์ผู้ที่ควรค่าแก่การสรรเสริญ แล้วพระองค์ก็ช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากพวกศัตรู เชือกแห่งความตายได้มัดตัวข้าพเจ้าไว้ และกระแสน้ำแห่งความตายกำลังจะทำให้ข้าพเจ้าจม เชือกแห่งแดนคนตายพันอยู่รอบๆตัวข้าพเจ้า กับดักแห่งความตายอยู่ตรงหน้าข้าพเจ้า เมื่อข้าพเจ้าตกอยู่ในความทุกข์ยาก ข้าพเจ้าร้องเรียกพระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าร้องขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าของข้าพเจ้า พระองค์ได้ยินเสียงของข้าพเจ้าจากวังของพระองค์นั้น เสียงร้องของข้าพเจ้าได้ยินไปถึงหูของพระองค์ แล้วแผ่นดินโลกก็สั่นสะเทือน พวกฐานรากของภูเขาก็สั่นไหวเพราะพระเจ้าโกรธ มีควันพุ่งออกจากจมูกของพระองค์ ไฟที่เผาผลาญพุ่งออกมาจากปากของพระองค์ ถ่านหินลุกแดงพุ่งออกมา พระองค์แหวกท้องฟ้า และเสด็จลงมา พร้อมด้วยเมฆทึบสีดำใต้เท้าของพระองค์ แล้วพระองค์ก็ขึ้นขี่ทูตสวรรค์ที่มีปีก แล้วเหาะลงมา พระองค์ก็ร่อนอยู่บนปีกของลม พระองค์ทรงซ่อนตัวอยู่ในหมู่เมฆฝนที่มืดครึ้ม ที่ปกคลุมพระองค์ไว้เหมือนกับเต็นท์ แล้วรัศมีอันเจิดจ้าของพระองค์ก็ส่องทะลุหมู่เมฆลงมา พร้อมกับลูกเห็บ และถ่านหินลุกแดง แล้วพระยาห์เวห์ทำให้ฟ้าร้องดังกึกก้องท้องฟ้า พระเจ้าผู้ใหญ่ยิ่งสูงสุดก็เปล่งเสียงดังไปทั่ว พระเจ้ายิงธนูของพระองค์ออกไปซึ่งทำให้พวกศัตรูแตกกระเจิง พระองค์ทำสายฟ้าผ่าหลายหนจนพวกนั้นแตกกระเจิง สับสนวุ่นวายไปทั่ว ข้าแต่พระยาห์เวห์ เมื่อพระองค์ตะโกนคำสั่งของพระองค์ออกไป เมื่อลมที่พวยพุ่งออกมาจากจมูกของพระองค์ ทำให้น้ำทะเลถอยร่นกลับไป ก้นทะเลและรากฐานของโลกปรากฏขึ้น พระองค์เอื้อมมือลงมาจากเบื้องบนมาฉวยข้าพเจ้าไว้ พระองค์ดึงข้าพเจ้าขึ้นมาจากกระแสน้ำเชี่ยวกรากนั้น พระองค์ช่วยให้ข้าพเจ้ารอดพ้นจากศัตรูที่มีพลัง พระองค์ช่วยให้ข้าพเจ้ารอดพ้นจากพวกศัตรูที่แข็งแรงกว่าข้าพเจ้า พวกเขาปะทะกับข้าพเจ้าตอนที่ข้าพเจ้าเจอกับภัยพิบัติ แต่พระยาห์เวห์ช่วยสนับสนุนค้ำจุนข้าพเจ้า พระองค์นำข้าพเจ้าออกไปยังที่โล่งกว้าง พระองค์ช่วยชีวิตข้าพเจ้า เพราะพระองค์ชื่นชมยินดีในข้าพเจ้า พระยาห์เวห์ให้รางวัลกับข้าพเจ้าเพราะข้าพเจ้าทำสิ่งที่ถูกต้อง พระองค์ตอบแทนข้าพเจ้าเพราะมือของข้าพเจ้าสะอาดบริสุทธิ์ ข้าพเจ้าใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังอย่างที่พระยาห์เวห์ต้องการให้ข้าพเจ้าเป็น ข้าพเจ้าไม่ได้หันเหไปจากพระเจ้าของข้าพเจ้าเพื่อจะได้ไปทำสิ่งที่ชั่วร้าย เพราะข้าพเจ้าคิดถึงกฎเกณฑ์และข้อบังคับต่างๆของพระองค์อยู่เสมอ และข้าพเจ้าไม่ได้ทอดทิ้งพวกกฎของพระองค์ ข้าพเจ้าไม่มีที่ติต่อหน้าพระองค์ ข้าพเจ้าได้รักษาตัวเองให้พ้นจากบาป พระยาห์เวห์ตอบแทนข้าพเจ้าเพราะข้าพเจ้าทำสิ่งที่ถูกต้อง เพราะพระองค์เห็นว่ามือของข้าพเจ้านั้นสะอาดบริสุทธิ์ พระองค์จะจงรักภักดีกับคนที่จงรักภักดีกับพระองค์ และพระองค์จะไร้ที่ติกับคนที่ไร้ที่ติ พระองค์จะบริสุทธิ์กับคนที่บริสุทธิ์กับพระองค์ แต่กับคนที่เหลี่ยมจัด พระองค์จะรู้ทัน และลงโทษเขาอย่างที่เขาคาดไม่ถึง เพราะพระองค์ช่วยกู้คนต่ำต้อย แต่พระองค์ทำให้คนหยิ่งยโสตกต่ำลง ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์จุดตะเกียงของข้าพเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้า ตอนที่ข้าพเจ้าอยู่ในความมืด พระองค์นำความสว่างมาให้ พระองค์ช่วยให้ข้าพเจ้าสามารถลุยเข้าไปสู้กับกองทัพได้ พระเจ้าของข้าพเจ้าช่วยให้ข้าพเจ้าสามารถกระโดดข้ามกำแพงของศัตรูไปได้ ทางของพระเจ้าไม่มีที่ติ สัญญาของพระยาห์เวห์นั้นได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเชื่อถือได้ พระองค์เป็นโล่ให้กับทุกคนที่ลี้ภัยในพระองค์ ใครเป็นพระเจ้า นอกจากพระยาห์เวห์ ใครเป็นหินกำบัง นอกจากพระเจ้าของพวกเรา พระเจ้าเป็นผู้ที่เอาความแข็งแกร่งรัดเอวของข้าพเจ้าไว้ พระองค์ทำให้ทางของข้าพเจ้าไม่มีอุปสรรคขัดขวาง
สดุดี 18:1-32 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
ดาวิดทูลว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ ผู้ทรงเป็นกำลังของข้าพระองค์ ข้าพระองค์รักพระองค์” พระยาห์เวห์ทรงเป็นศิลา ป้อมปราการ และผู้ช่วยกู้ของข้าพเจ้า ทรงเป็นพระเจ้าของข้าพเจ้า เป็นศิลาซึ่งข้าพเจ้าเข้าลี้ภัย ทรงเป็นโล่ เป็นพลังแห่งความรอด เป็นที่กำบังอันแข็งแกร่งของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าร้องทูลพระยาห์เวห์ผู้ทรงสมควรแก่การสรรเสริญ และพระองค์ทรงช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากศัตรู บ่วงมรณาล้อมข้าพเจ้าไว้ กระแสแห่งความหายนะท่วมทับข้าพเจ้า สายใยของแดนคนตายพันตัวข้าพเจ้า บ่วงมัจจุราชอยู่ต่อหน้าข้าพเจ้า เมื่อมีความทุกข์ลำบาก ข้าพเจ้าร้องทูลพระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าทูลขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าของข้าพเจ้า จากพระวิหารของพระองค์ พระองค์ทรงสดับเสียงของข้าพเจ้า และเสียงร้องของข้าพเจ้าได้ยินไปถึงพระกรรณของพระองค์ แล้วแผ่นดินก็สั่นสะเทือนและโคลงเคลง รากฐานของภูเขาก็หวั่นไหวด้วย และสั่นสะเทือน เพราะพระองค์กริ้ว ควันออกไปตามช่องพระนาสิกของพระองค์ และเพลิงผลาญออกมาจากพระโอษฐ์ของพระองค์ ถ่านก็ติดเปลวไฟนั้น พระองค์ทรงโน้มฟ้าสวรรค์ลงด้วยและเสด็จลงมา ความมืดทึบอยู่ใต้พระบาทของพระองค์ พระองค์ทรงเครูบตนหนึ่ง แล้วทรงเหาะไป พระองค์เสด็จไปอย่างรวดเร็วโดยปีกของลม พระองค์ทรงทำให้ความมืดปกคลุมพระองค์ไว้ ให้เมฆมืดที่อุ้มน้ำเป็นปะรำของพระองค์ มีลูกเห็บและถ่านเพลิงแตกออกมาทะลุเมฆ จากความสว่างสุกใสข้างหน้าพระองค์ พระยาห์เวห์ทรงคำรนครืนครั่นในฟ้าสวรรค์ และองค์ผู้สูงสุดก็เปล่งพระสุรเสียง เป็นลูกเห็บและถ่านเพลิง พระองค์ทรงแผลงศร ทำให้พวกเขากระจัดกระจาย พระองค์ทรงพุ่งสายฟ้าออกไป ทำให้พวกเขาแตกหนี แล้วก้นทะเลก็ปรากฏ อีกทั้งรากฐานของพิภพก็เผยโฉม เมื่อพระองค์ทรงกำราบมัน ข้าแต่พระยาห์เวห์ ด้วยลมที่พวยพุ่งจากช่องพระนาสิกของพระองค์ พระองค์ทรงเอื้อมมาจากที่สูง ทรงจับข้าพเจ้า ทรงดึงข้าพเจ้าออกมาจากน้ำมากหลาย พระองค์ทรงช่วยกู้ข้าพเจ้าให้พ้นจากศัตรูเข้มแข็ง และจากบรรดาผู้ที่เกลียดชังข้าพเจ้า เพราะพวกเขาแข็งแรงกว่าข้าพเจ้ายิ่งนัก พวกเขาปะทะข้าพเจ้าในวันที่ข้าพเจ้าประสบภัยพิบัติ แต่พระยาห์เวห์ทรงเป็นที่พึ่งของข้าพเจ้า พระองค์ทรงนำข้าพเจ้าออกมายังที่กว้างใหญ่ และทรงช่วยกู้ข้าพเจ้าไว้เพราะพระองค์พอพระทัยข้าพเจ้า พระยาห์เวห์ประทานรางวัลแก่ข้าพเจ้าตามความชอบธรรมของข้าพเจ้า พระองค์ทรงตอบแทนข้าพเจ้าเพราะข้าพเจ้าเป็นคนมือสะอาด เพราะข้าพเจ้ารักษาพระมรรคาของพระยาห์เวห์ และไม่ได้ทำบาปโดยหันจากพระเจ้าของข้าพเจ้า เพราะกฎหมายทั้งสิ้นของพระองค์อยู่ต่อหน้าข้าพเจ้า และข้าพเจ้ามิได้ผลักกฎเกณฑ์ของพระองค์ไปเลย ข้าพเจ้าไร้ตำหนิต่อพระองค์ และข้าพเจ้ารักษาตัวไว้ไม่ทำชั่ว เพราะฉะนั้น พระยาห์เวห์จึงทรงตอบแทนข้าพเจ้า ตามความชอบธรรมของข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้าเป็นคนมือสะอาดในสายพระเนตรของพระองค์ พระองค์ทรงสำแดงพระองค์ว่าซื่อสัตย์ต่อผู้ที่ซื่อสัตย์ พระองค์ทรงสำแดงพระองค์ว่าไร้ตำหนิต่อผู้ที่ไร้ตำหนิ พระองค์ทรงสำแดงพระองค์บริสุทธิ์ต่อผู้ที่บริสุทธิ์ พระองค์ทรงสำแดงพระองค์เป็นปฏิปักษ์ต่อผู้ที่คดโกง เพราะพระองค์ทรงช่วยประชาชนที่ถ่อมตัวให้รอด แต่ดวงตาที่หยิ่งยโสนั้น พระองค์ทรงทำให้ต่ำลง เพราะพระองค์ทรงจุดตะเกียงของข้าพระองค์ พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทรงทำความมืดของข้าพระองค์ให้สว่าง เพราะโดยพระองค์ ข้าพระองค์ตะลุยกองทัพได้ และโดยพระเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์กระโดดข้ามกำแพงได้ สำหรับพระเจ้าพระองค์นี้ พระมรรคาของพระองค์ไร้ตำหนิ พระดำรัสของพระยาห์เวห์พิสูจน์จนเห็นจริงแล้ว พระองค์ทรงเป็นโล่ของทุกคนที่ลี้ภัยอยู่ในพระองค์ เพราะผู้ใดเป็นพระเจ้า นอกจากพระยาห์เวห์? และผู้ใดเล่าเป็นพระศิลา เว้นแต่พระเจ้าของพวกเรา? คือพระเจ้าผู้ทรงทำให้ข้าพเจ้าแข็งแรง และทรงทำให้ทางของข้าพเจ้าปลอดภัย
สดุดี 18:1-32 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นกำลังของข้าพระองค์ ข้าพระองค์รักพระองค์ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นศิลา เป็นป้อมปราการ และผู้กอบกู้ของข้าพเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้าทรงเป็นศิลาที่ข้าพเจ้าเข้าไปลี้ภัย ทรงเป็นโล่ เป็นกำลังแห่งความรอดและเป็นที่มั่นของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าร้องทูลต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงสมควรแก่การสรรเสริญ แล้วข้าพเจ้าก็ได้รับการช่วยให้รอดพ้นจากเหล่าศัตรู บ่วงแห่งความตายพันธนาการข้าพเจ้าไว้ กระแสแห่งความหายนะท่วมท้นข้าพเจ้า บ่วงแห่งแดนผู้ตายรัดรอบตัวข้าพเจ้า บ่วงแร้วแห่งความตายอยู่ตรงหน้าข้าพเจ้า ในยามทุกข์โศก ข้าพเจ้าร้องทูลองค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าร้องทูลขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าของข้าพเจ้า พระองค์ทรงสดับเสียงของข้าพเจ้าจากพระวิหารของพระองค์ เสียงร่ำร้องของข้าพเจ้าไปถึงพระองค์ ถึงพระกรรณของพระองค์ แผ่นดินโลกสะเทือนเลื่อนลั่น รากของภูเขาทั้งหลายสั่นคลอน ภูเขาเหล่านั้นสั่นสะเทือนเพราะพระองค์ทรงพระพิโรธ ควันพลุ่งออกมาจากพระนาสิก เปลวไฟเผาผลาญและถ่านไฟลุกโชน ออกมาจากพระโอษฐ์ของพระองค์ พระองค์ทรงแหวกฟ้าสวรรค์และเสด็จลงมา เมฆมืดทึบอยู่ใต้พระบาทของพระองค์ พระองค์ทรงประทับเหนือเครูบและทะยานมา เสด็จมาด้วยปีกแห่งกระแสลม พระองค์ทรงให้ความมืดปกคลุมอยู่รายรอบพระองค์ ทรงให้เมฆฝนดำทะมึนในท้องฟ้าอยู่รอบพระองค์ แสงสว่างเจิดจ้าแห่งการปรากฏของพระองค์ผ่านหมู่เมฆออกมา ด้วยสายฟ้าแลบและพายุลูกเห็บ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเปล่งกัมปนาทจากฟ้าสวรรค์ พระสุรเสียงขององค์ผู้สูงสุดดังก้อง ทรงยิงลูกศรของพระองค์ ทำให้เหล่าศัตรูกระเจิดกระเจิงไป ทรงส่งฟ้าแลบแวบวาบทำให้พวกเขาแตกพ่ายไป ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า เมื่อพระองค์ทรงกำราบ เมื่อลมพวยพุ่งออกจากพระนาสิกของพระองค์ หุบเขาในทะเลก็เผยออก รากฐานของโลกก็ปรากฏ พระองค์ทรงเอื้อมพระหัตถ์จากเบื้องบนลงมายึดข้าพเจ้าไว้ ทรงดึงข้าพเจ้าขึ้นจากห้วงน้ำลึก พระองค์ทรงช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากศัตรูผู้ทรงอำนาจ จากปฏิปักษ์ผู้แข็งแกร่งกว่าข้าพเจ้า พวกเขาบุกโจมตีในยามที่ข้าพเจ้าประสบภัยพิบัติ แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงค้ำชูข้าพเจ้าไว้ พระองค์ทรงนำข้าพเจ้าออกมายังที่กว้างขวาง ทรงช่วยข้าพเจ้าไว้เพราะทรงปีติยินดีในตัวข้าพเจ้า องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงตอบแทนข้าพเจ้าตามความชอบธรรมของข้าพเจ้า ทรงปูนบำเหน็จแก่ข้าพเจ้าเนื่องจากข้าพเจ้าเป็นคนมือสะอาด เพราะข้าพเจ้ารักษาทางขององค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าไม่ได้ทำชั่วโดยหันไปจากพระเจ้าของข้าพเจ้า บทบัญญัติทั้งสิ้นของพระองค์อยู่ต่อหน้าข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่ได้หันไปจากกฎหมายของพระองค์ ข้าพเจ้าไร้ตำหนิต่อหน้าพระองค์ และได้รักษาตนให้พ้นจากบาป องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปูนบำเหน็จแก่ข้าพเจ้าตามความชอบธรรมของข้าพเจ้า ตามที่ทรงเห็นว่าข้าพเจ้าเป็นคนมือสะอาด ต่อผู้ที่ซื่อสัตย์ ทรงสำแดงพระองค์ว่าซื่อสัตย์ ต่อผู้ที่ไร้ที่ติ ทรงสำแดงพระองค์ว่าไร้ที่ติ ต่อผู้ที่บริสุทธิ์ ทรงสำแดงพระองค์ว่าบริสุทธิ์ แต่กับผู้ที่คดโกง ทรงสำแดงพระองค์ว่าฉลาดหลักแหลม พระองค์ทรงช่วยผู้ที่ถ่อมใจให้รอดพ้น ส่วนผู้ที่หยิ่งผยอง ทรงทำให้ตกต่ำลง ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงรักษาประทีปของข้าพระองค์ให้โชติช่วง พระเจ้าของข้าพระองค์ทรงเปลี่ยนความมืดมนของข้าพระองค์ให้กลายเป็นความสว่าง ข้าพระองค์สามารถตะลุยกองทัพได้ด้วยความช่วยเหลือจากพระองค์ และข้าพระองค์ปีนข้ามกำแพงเมืองได้โดยพระเจ้าของข้าพระองค์ สำหรับพระเจ้า วิถีของพระองค์นั้นดีพร้อม พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าไม่มีข้อผิดพลาด พระองค์ทรงเป็นโล่ สำหรับทุกคนที่เข้าลี้ภัยในพระองค์ ใครเล่าเป็นพระเจ้า นอกจากพระยาห์เวห์? ผู้ใดเล่าคือพระศิลา เว้นแต่พระเจ้าของเรา? พระเจ้านี่แหละ ทรงเป็นผู้ประทานกำลังแก่ข้าพเจ้า ทรงกระทำให้หนทางของข้าพเจ้าดีพร้อม
สดุดี 18:1-32 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
ข้าแต่พระเจ้า พระกำลังของข้าพระองค์ ข้าพระองค์รักพระองค์ พระเจ้าทรงเป็นพระศิลา ป้อมปราการ และผู้ช่วยกู้ของข้าพระองค์ เป็นพระเจ้าของข้าพระองค์เป็นพระศิลาซึ่งข้าพระองค์เข้าลี้ภัยอยู่ในพระองค์ เป็นโล่ เป็นพลังแห่งความรอดของข้าพระองค์ เป็นที่กำบังเข้มแข็งของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ร้องทูลต่อพระเจ้าผู้ทรง สมควรแก่การสรรเสริญ และข้าพระองค์ได้ รับการช่วยให้พ้นจากศัตรูของข้าพระองค์ สายมัจจุราชล้อมข้าพระองค์ไว้ กระแสแห่งความหายนะท่วมทับข้าพระองค์ สายใยของแดนผู้ตายพันตัวข้าพระองค์ บ่วงมัจจุราชปะทะข้าพระองค์ ในยามทุกข์ระทมใจ ข้าพเจ้าร้องทูลต่อพระเจ้า ข้าพเจ้าร้องทูลขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าของข้าพเจ้า จากพระวิหารของพระองค์ พระองค์ทรงสดับเสียงของข้าพเจ้า และเสียงร้องของข้าพเจ้าได้ยินไปถึงพระกรรณของพระองค์ แล้วแผ่นดินโลกก็สั่นสะเทือนและโคลงเคลง รากฐานของภูเขาก็หวั่นไหวด้วย และสั่นสะเทือน เพราะพระองค์ทรงกริ้ว ควันออกไปตามช่องพระนาสิกของพระองค์ และเพลิงผลาญออกมาจากพระโอษฐ์ของพระองค์ ถ่านก็ติดเปลวไฟนั้น พระองค์ทรงโน้มฟ้าสวรรค์ลงด้วยและเสด็จลงมา ความมืดทึบอยู่ใต้พระบาทของพระองค์ พระองค์ทรงเครูบตนหนึ่ง แล้วทรงเหาะไป พระองค์เสด็จโดยปีกของลมอย่างรวดเร็ว พระองค์ทรงกระทำให้ความมืดปกคลุมพระองค์ไว้ ให้เมฆมืดเพราะอุ้มน้ำเป็นปะรำของพระองค์ มีลูกเห็บและถ่านเพลิงแตกออกมาทะลุเมฆ จากความสว่างสุกใสข้างหน้าพระองค์ พระเจ้าทรงคะนองกึกก้องในฟ้าสวรรค์ และองค์ผู้สูงสุดก็เปล่งพระสุรเสียง คือลูกเห็บและถ่านเพลิง พระองค์ทรงยิงลูกธนูของพระองค์ออกไป ทำให้เขาต่างกระจัดกระจายไป พระองค์ทรงปล่อยฟ้าแลบแปลบปลาบ ทำให้เขาโกลาหล แล้วก็เห็นก้นทะเล ตลอดจนรากฐานของพิภพก็ปรากฏแจ้ง เมื่อพระองค์ทรงขนาบทะเล ด้วยลมที่พวยพุ่งจากช่องพระนาสิกของพระองค์ พระองค์ทรงเอื้อมมาจากที่สูงทรงจับข้าพเจ้า พระองค์ทรงดึงข้าพเจ้าออกมาจากน้ำอันมากหลาย พระองค์ทรงช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากศัตรูเข้มแข็งของข้าพเจ้า และจากบรรดาผู้ที่เกลียดชังข้าพเจ้า เพราะเขามีอานุภาพเกินกว่าข้าพเจ้ามากนัก เขาปะทะข้าพเจ้าในวันที่ข้าพเจ้าเกิดภัยพิบัติ แต่พระเจ้าทรงเป็นที่พึ่งของข้าพเจ้า พระองค์ทรงนำข้าพเจ้าออกมายังที่กว้างใหญ่ และทรงช่วยกู้ข้าพเจ้าไว้เพราะพระองค์ทรงชื่นชม ยินดีในข้าพเจ้า พระเจ้าประทานรางวัลแก่ข้าพเจ้าตามความ ชอบธรรมของข้าพเจ้า พระองค์ทรงตอบแทนข้าพเจ้าตามความสะอาด แห่งมือของข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้ารักษาบรรดามรรคาของพระเจ้า และไม่ได้พรากจากพระเจ้าของข้าพเจ้าอย่างอธรรม เพราะกฎหมายทั้งสิ้นของพระองค์อยู่ต่อหน้าข้าพเจ้า และข้าพเจ้ามิได้ผลักกฎเกณฑ์ของพระองค์ไปเลย ต่อพระพักตร์พระองค์ข้าพเจ้าไร้ตำหนิ และข้าพเจ้ารักษาตัวไว้ไม่ทำบาปต่อพระองค์ เพราะฉะนั้นพระเจ้าจึงทรงตอบแทนข้าพเจ้า ตามความชอบธรรมของข้าพเจ้า ตามความสะอาดแห่งมือของ ข้าพเจ้าในสายพระเนตรของพระองค์ พระองค์ทรงสำแดงความรักมั่นคงต่อผู้ที่จงรักภักดี พระองค์ทรงสำแดงพระองค์อย่างไร้ตำหนิต่อผู้ที่ไร้ ตำหนิ พระองค์ทรงสำแดงพระองค์บริสุทธิ์ต่อผู้ที่บริสุทธิ์ พระองค์ทรงสำแดงพระองค์เป็นปฏิปักษ์ต่อผู้ที่คดโกง เพราะพระองค์ทรงช่วยกู้ประชาชนที่ยากแค้น แต่ตาที่หยิ่งยโสนั้นพระองค์ทรงกระทำให้ต่ำลง พระองค์ทรงจุดตะเกียงของข้าพระองค์ พระเจ้าของข้าพระองค์ทรงกระทำความ มืดของข้าพระองค์ให้สว่าง พระเจ้าข้า ข้าพระองค์ตะลุยกองทัพได้โดยพระองค์ และโดยพระเจ้าของข้าพเจ้านี้ ข้าพเจ้าสามารถกระโดดข้ามกำแพงได้ สำหรับพระเจ้าพระองค์นี้ พระมรรคาของพระองค์บริบูรณ์ พระสัญญาของพระเจ้า พิสูจน์แล้วเป็นความจริง พระองค์ทรงเป็นโล่ของบรรดาผู้ที่ลี้ภัยอยู่ในพระองค์ เพราะผู้ใดจะเป็นพระเจ้า นอกจากพระเยโฮวาห์ และผู้ใดเล่าเป็นพระศิลา เว้นแต่พระเจ้าของเรา คือพระเจ้าผู้ทรงเอากำลังคาดเอวของข้าพเจ้าไว้ และทรงกระทำให้ทางของข้าพเจ้าปลอดภัย
สดุดี 18:1-32 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
ดาวิดพูดว่า ข้าแต่พระยาห์เวห์ ผู้เป็นกำลังของข้าพเจ้า ข้าพเจ้ารักพระองค์ พระยาห์เวห์ คือหินกำบังของข้าพเจ้า คือป้อมปราการของข้าพเจ้า คือผู้ช่วยชีวิตของข้าพเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้า คือหินกำบังที่ข้าพเจ้าเข้าไปลี้ภัย คือโล่กำบังของข้าพเจ้า คือฤทธิ์อำนาจ ที่ช่วยกู้ชีวิตข้าพเจ้า คือที่ซ่อนที่ปลอดภัยของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าร้องขอความช่วยเหลือจากพระยาห์เวห์ผู้ที่ควรค่าแก่การสรรเสริญ แล้วพระองค์ก็ช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากพวกศัตรู เชือกแห่งความตายได้มัดตัวข้าพเจ้าไว้ และกระแสน้ำแห่งความตายกำลังจะทำให้ข้าพเจ้าจม เชือกแห่งแดนคนตายพันอยู่รอบๆตัวข้าพเจ้า กับดักแห่งความตายอยู่ตรงหน้าข้าพเจ้า เมื่อข้าพเจ้าตกอยู่ในความทุกข์ยาก ข้าพเจ้าร้องเรียกพระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าร้องขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าของข้าพเจ้า พระองค์ได้ยินเสียงของข้าพเจ้าจากวังของพระองค์นั้น เสียงร้องของข้าพเจ้าได้ยินไปถึงหูของพระองค์ แล้วแผ่นดินโลกก็สั่นสะเทือน พวกฐานรากของภูเขาก็สั่นไหวเพราะพระเจ้าโกรธ มีควันพุ่งออกจากจมูกของพระองค์ ไฟที่เผาผลาญพุ่งออกมาจากปากของพระองค์ ถ่านหินลุกแดงพุ่งออกมา พระองค์แหวกท้องฟ้า และเสด็จลงมา พร้อมด้วยเมฆทึบสีดำใต้เท้าของพระองค์ แล้วพระองค์ก็ขึ้นขี่ทูตสวรรค์ที่มีปีก แล้วเหาะลงมา พระองค์ก็ร่อนอยู่บนปีกของลม พระองค์ทรงซ่อนตัวอยู่ในหมู่เมฆฝนที่มืดครึ้ม ที่ปกคลุมพระองค์ไว้เหมือนกับเต็นท์ แล้วรัศมีอันเจิดจ้าของพระองค์ก็ส่องทะลุหมู่เมฆลงมา พร้อมกับลูกเห็บ และถ่านหินลุกแดง แล้วพระยาห์เวห์ทำให้ฟ้าร้องดังกึกก้องท้องฟ้า พระเจ้าผู้ใหญ่ยิ่งสูงสุดก็เปล่งเสียงดังไปทั่ว พระเจ้ายิงธนูของพระองค์ออกไปซึ่งทำให้พวกศัตรูแตกกระเจิง พระองค์ทำสายฟ้าผ่าหลายหนจนพวกนั้นแตกกระเจิง สับสนวุ่นวายไปทั่ว ข้าแต่พระยาห์เวห์ เมื่อพระองค์ตะโกนคำสั่งของพระองค์ออกไป เมื่อลมที่พวยพุ่งออกมาจากจมูกของพระองค์ ทำให้น้ำทะเลถอยร่นกลับไป ก้นทะเลและรากฐานของโลกปรากฏขึ้น พระองค์เอื้อมมือลงมาจากเบื้องบนมาฉวยข้าพเจ้าไว้ พระองค์ดึงข้าพเจ้าขึ้นมาจากกระแสน้ำเชี่ยวกรากนั้น พระองค์ช่วยให้ข้าพเจ้ารอดพ้นจากศัตรูที่มีพลัง พระองค์ช่วยให้ข้าพเจ้ารอดพ้นจากพวกศัตรูที่แข็งแรงกว่าข้าพเจ้า พวกเขาปะทะกับข้าพเจ้าตอนที่ข้าพเจ้าเจอกับภัยพิบัติ แต่พระยาห์เวห์ช่วยสนับสนุนค้ำจุนข้าพเจ้า พระองค์นำข้าพเจ้าออกไปยังที่โล่งกว้าง พระองค์ช่วยชีวิตข้าพเจ้า เพราะพระองค์ชื่นชมยินดีในข้าพเจ้า พระยาห์เวห์ให้รางวัลกับข้าพเจ้าเพราะข้าพเจ้าทำสิ่งที่ถูกต้อง พระองค์ตอบแทนข้าพเจ้าเพราะมือของข้าพเจ้าสะอาดบริสุทธิ์ ข้าพเจ้าใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังอย่างที่พระยาห์เวห์ต้องการให้ข้าพเจ้าเป็น ข้าพเจ้าไม่ได้หันเหไปจากพระเจ้าของข้าพเจ้าเพื่อจะได้ไปทำสิ่งที่ชั่วร้าย เพราะข้าพเจ้าคิดถึงกฎเกณฑ์และข้อบังคับต่างๆของพระองค์อยู่เสมอ และข้าพเจ้าไม่ได้ทอดทิ้งพวกกฎของพระองค์ ข้าพเจ้าไม่มีที่ติต่อหน้าพระองค์ ข้าพเจ้าได้รักษาตัวเองให้พ้นจากบาป พระยาห์เวห์ตอบแทนข้าพเจ้าเพราะข้าพเจ้าทำสิ่งที่ถูกต้อง เพราะพระองค์เห็นว่ามือของข้าพเจ้านั้นสะอาดบริสุทธิ์ พระองค์จะจงรักภักดีกับคนที่จงรักภักดีกับพระองค์ และพระองค์จะไร้ที่ติกับคนที่ไร้ที่ติ พระองค์จะบริสุทธิ์กับคนที่บริสุทธิ์กับพระองค์ แต่กับคนที่เหลี่ยมจัด พระองค์จะรู้ทัน และลงโทษเขาอย่างที่เขาคาดไม่ถึง เพราะพระองค์ช่วยกู้คนต่ำต้อย แต่พระองค์ทำให้คนหยิ่งยโสตกต่ำลง ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์จุดตะเกียงของข้าพเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้า ตอนที่ข้าพเจ้าอยู่ในความมืด พระองค์นำความสว่างมาให้ พระองค์ช่วยให้ข้าพเจ้าสามารถลุยเข้าไปสู้กับกองทัพได้ พระเจ้าของข้าพเจ้าช่วยให้ข้าพเจ้าสามารถกระโดดข้ามกำแพงของศัตรูไปได้ ทางของพระเจ้าไม่มีที่ติ สัญญาของพระยาห์เวห์นั้นได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเชื่อถือได้ พระองค์เป็นโล่ให้กับทุกคนที่ลี้ภัยในพระองค์ ใครเป็นพระเจ้า นอกจากพระยาห์เวห์ ใครเป็นหินกำบัง นอกจากพระเจ้าของพวกเรา พระเจ้าเป็นผู้ที่เอาความแข็งแกร่งรัดเอวของข้าพเจ้าไว้ พระองค์ทำให้ทางของข้าพเจ้าไม่มีอุปสรรคขัดขวาง
สดุดี 18:1-32 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
ดาวิดทูลว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ ผู้ทรงเป็นกำลังของข้าพระองค์ ข้าพระองค์รักพระองค์” พระยาห์เวห์ทรงเป็นศิลา ป้อมปราการ และผู้ช่วยกู้ของข้าพเจ้า ทรงเป็นพระเจ้าของข้าพเจ้า เป็นศิลาซึ่งข้าพเจ้าเข้าลี้ภัย ทรงเป็นโล่ เป็นพลังแห่งความรอด เป็นที่กำบังอันแข็งแกร่งของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าร้องทูลพระยาห์เวห์ผู้ทรงสมควรแก่การสรรเสริญ และพระองค์ทรงช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากศัตรู บ่วงมรณาล้อมข้าพเจ้าไว้ กระแสแห่งความหายนะท่วมทับข้าพเจ้า สายใยของแดนคนตายพันตัวข้าพเจ้า บ่วงมัจจุราชอยู่ต่อหน้าข้าพเจ้า เมื่อมีความทุกข์ลำบาก ข้าพเจ้าร้องทูลพระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าทูลขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าของข้าพเจ้า จากพระวิหารของพระองค์ พระองค์ทรงสดับเสียงของข้าพเจ้า และเสียงร้องของข้าพเจ้าได้ยินไปถึงพระกรรณของพระองค์ แล้วแผ่นดินก็สั่นสะเทือนและโคลงเคลง รากฐานของภูเขาก็หวั่นไหวด้วย และสั่นสะเทือน เพราะพระองค์กริ้ว ควันออกไปตามช่องพระนาสิกของพระองค์ และเพลิงผลาญออกมาจากพระโอษฐ์ของพระองค์ ถ่านก็ติดเปลวไฟนั้น พระองค์ทรงโน้มฟ้าสวรรค์ลงด้วยและเสด็จลงมา ความมืดทึบอยู่ใต้พระบาทของพระองค์ พระองค์ทรงเครูบตนหนึ่ง แล้วทรงเหาะไป พระองค์เสด็จไปอย่างรวดเร็วโดยปีกของลม พระองค์ทรงทำให้ความมืดปกคลุมพระองค์ไว้ ให้เมฆมืดที่อุ้มน้ำเป็นปะรำของพระองค์ มีลูกเห็บและถ่านเพลิงแตกออกมาทะลุเมฆ จากความสว่างสุกใสข้างหน้าพระองค์ พระยาห์เวห์ทรงคำรนครืนครั่นในฟ้าสวรรค์ และองค์ผู้สูงสุดก็เปล่งพระสุรเสียง เป็นลูกเห็บและถ่านเพลิง พระองค์ทรงแผลงศร ทำให้พวกเขากระจัดกระจาย พระองค์ทรงพุ่งสายฟ้าออกไป ทำให้พวกเขาแตกหนี แล้วก้นทะเลก็ปรากฏ อีกทั้งรากฐานของพิภพก็เผยโฉม เมื่อพระองค์ทรงกำราบมัน ข้าแต่พระยาห์เวห์ ด้วยลมที่พวยพุ่งจากช่องพระนาสิกของพระองค์ พระองค์ทรงเอื้อมมาจากที่สูง ทรงจับข้าพเจ้า ทรงดึงข้าพเจ้าออกมาจากน้ำมากหลาย พระองค์ทรงช่วยกู้ข้าพเจ้าให้พ้นจากศัตรูเข้มแข็ง และจากบรรดาผู้ที่เกลียดชังข้าพเจ้า เพราะพวกเขาแข็งแรงกว่าข้าพเจ้ายิ่งนัก พวกเขาปะทะข้าพเจ้าในวันที่ข้าพเจ้าประสบภัยพิบัติ แต่พระยาห์เวห์ทรงเป็นที่พึ่งของข้าพเจ้า พระองค์ทรงนำข้าพเจ้าออกมายังที่กว้างใหญ่ และทรงช่วยกู้ข้าพเจ้าไว้เพราะพระองค์พอพระทัยข้าพเจ้า พระยาห์เวห์ประทานรางวัลแก่ข้าพเจ้าตามความชอบธรรมของข้าพเจ้า พระองค์ทรงตอบแทนข้าพเจ้าเพราะข้าพเจ้าเป็นคนมือสะอาด เพราะข้าพเจ้ารักษาพระมรรคาของพระยาห์เวห์ และไม่ได้ทำบาปโดยหันจากพระเจ้าของข้าพเจ้า เพราะกฎหมายทั้งสิ้นของพระองค์อยู่ต่อหน้าข้าพเจ้า และข้าพเจ้ามิได้ผลักกฎเกณฑ์ของพระองค์ไปเลย ข้าพเจ้าไร้ตำหนิต่อพระองค์ และข้าพเจ้ารักษาตัวไว้ไม่ทำชั่ว เพราะฉะนั้น พระยาห์เวห์จึงทรงตอบแทนข้าพเจ้า ตามความชอบธรรมของข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้าเป็นคนมือสะอาดในสายพระเนตรของพระองค์ พระองค์ทรงสำแดงพระองค์ว่าซื่อสัตย์ต่อผู้ที่ซื่อสัตย์ พระองค์ทรงสำแดงพระองค์ว่าไร้ตำหนิต่อผู้ที่ไร้ตำหนิ พระองค์ทรงสำแดงพระองค์บริสุทธิ์ต่อผู้ที่บริสุทธิ์ พระองค์ทรงสำแดงพระองค์เป็นปฏิปักษ์ต่อผู้ที่คดโกง เพราะพระองค์ทรงช่วยประชาชนที่ถ่อมตัวให้รอด แต่ดวงตาที่หยิ่งยโสนั้น พระองค์ทรงทำให้ต่ำลง เพราะพระองค์ทรงจุดตะเกียงของข้าพระองค์ พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทรงทำความมืดของข้าพระองค์ให้สว่าง เพราะโดยพระองค์ ข้าพระองค์ตะลุยกองทัพได้ และโดยพระเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์กระโดดข้ามกำแพงได้ สำหรับพระเจ้าพระองค์นี้ พระมรรคาของพระองค์ไร้ตำหนิ พระดำรัสของพระยาห์เวห์พิสูจน์จนเห็นจริงแล้ว พระองค์ทรงเป็นโล่ของทุกคนที่ลี้ภัยอยู่ในพระองค์ เพราะผู้ใดเป็นพระเจ้า นอกจากพระยาห์เวห์? และผู้ใดเล่าเป็นพระศิลา เว้นแต่พระเจ้าของพวกเรา? คือพระเจ้าผู้ทรงทำให้ข้าพเจ้าแข็งแรง และทรงทำให้ทางของข้าพเจ้าปลอดภัย
สดุดี 18:1-32 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
โอ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ กำลังของข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะรักพระองค์ พระเยโฮวาห์เป็นศิลา ป้อมปราการ และผู้ช่วยให้พ้นของข้าพระองค์ เป็นพระเจ้าของข้าพระองค์ เป็นกำลังของข้าพระองค์ ซึ่งข้าพระองค์จะวางใจในพระองค์ เป็นดั้ง เป็นเขาแห่งความรอดของข้าพระองค์ เป็นที่กำบังเข้มแข็งของข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะร้องทูลต่อพระเยโฮวาห์ผู้ทรงสมควรแก่การสรรเสริญ และข้าพระองค์จะได้รับการช่วยให้พ้นจากศัตรูของข้าพระองค์ ความโศกเศร้าแห่งความตายล้อมข้าพระองค์ไว้ กระแสแห่งคนอธรรมที่ท่วมทับข้าพระองค์ทำให้ข้าพระองค์กลัว ความโศกเศร้าแห่งนรกล้อมข้าพระองค์ไว้ บ่วงมัจจุราชปะทะข้าพระองค์ ในยามทุกข์ระทมใจ ข้าพเจ้าร้องทูลต่อพระเยโฮวาห์ ข้าพเจ้าร้องทูลขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าของข้าพเจ้า พระองค์ทรงสดับเสียงของข้าพเจ้าจากพระวิหารของพระองค์ และเสียงร้องของข้าพเจ้าได้ยินต่อพระพักตร์พระองค์ ไปถึงพระกรรณของพระองค์ แล้วแผ่นดินโลกก็สั่นสะเทือนและโคลงเคลง รากฐานของภูเขาก็หวั่นไหวด้วย และสั่นสะเทือน เพราะพระองค์ทรงกริ้ว ควันออกไปตามช่องพระนาสิกของพระองค์ และเพลิงผลาญออกมาจากพระโอษฐ์ของพระองค์ ถ่านก็ติดเปลวไฟนั้น พระองค์ทรงโน้มฟ้าสวรรค์ลงด้วยและเสด็จลงมา ความมืดทึบอยู่ใต้พระบาทของพระองค์ พระองค์ทรงเครูบตนหนึ่ง แล้วทรงเหาะไป พระองค์ทรงเหาะไปโดยปีกของลมอย่างรวดเร็ว พระองค์ทรงกระทำให้ความมืดปกคลุมพระองค์ไว้ ให้เมฆมืดและอุ้มน้ำเป็นพลับพลาของพระองค์ มีลูกเห็บและถ่านเพลิงแตกออกมาทะลุเมฆจากความสว่างสุกใสข้างหน้าพระองค์ พระเยโฮวาห์ทรงคะนองกึกก้องในฟ้าสวรรค์ และองค์ผู้สูงสุดก็เปล่งพระสุรเสียง คือลูกเห็บและถ่านเพลิง พระองค์ทรงยิงลูกธนูของพระองค์ออกไป ทำให้เขาต่างกระจัดกระจายไป พระองค์ทรงปล่อยฟ้าแลบแปลบปลาบ ทำให้เขาโกลาหล โอ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ แล้วก็เห็นก้นทะเลตลอดจนรากฐานของพิภพก็ปรากฏแจ้ง เมื่อพระองค์ทรงขนาบทะเลด้วยลมที่พวยพุ่งจากช่องพระนาสิกของพระองค์ พระองค์ทรงเอื้อมมาจากที่สูงทรงจับข้าพเจ้า พระองค์ทรงดึงข้าพเจ้าออกมาจากน้ำอันมากหลาย พระองค์ทรงช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากศัตรูเข้มแข็งของข้าพเจ้า และจากบรรดาผู้ที่เกลียดชังข้าพเจ้า เพราะเขามีอานุภาพเกินกว่าข้าพเจ้ามากนัก เขาขัดขวางข้าพเจ้าในวันที่ข้าพเจ้าประสบหายนะ แต่พระเยโฮวาห์ทรงเป็นที่พักพิงของข้าพเจ้า พระองค์ทรงนำข้าพเจ้าออกมายังที่กว้างใหญ่ และทรงช่วยข้าพเจ้าให้พ้น เพราะพระองค์ทรงชื่นชมยินดีในข้าพเจ้า พระเยโฮวาห์ประทานรางวัลแก่ข้าพเจ้าตามความชอบธรรมของข้าพเจ้า พระองค์ทรงตอบแทนข้าพเจ้าตามความสะอาดแห่งมือของข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้ารักษาบรรดามรรคาของพระเยโฮวาห์ และไม่ได้พรากจากพระเจ้าของข้าพเจ้าอย่างชั่วร้าย เพราะคำตัดสินทั้งสิ้นของพระองค์อยู่ต่อหน้าข้าพเจ้า และข้าพเจ้ามิได้ผลักกฎเกณฑ์ของพระองค์ไปเลย ต่อพระพักตร์พระองค์ข้าพเจ้าไร้ตำหนิ และข้าพเจ้ารักษาตัวไว้ไม่ทำความชั่วช้า เพราะฉะนั้นพระเยโฮวาห์จึงทรงตอบแทนข้าพเจ้าตามความชอบธรรมของข้าพเจ้า ตามความสะอาดแห่งมือของข้าพเจ้าในสายพระเนตรของพระองค์ พระองค์จะทรงสำแดงความเมตตาต่อผู้ที่มีความเมตตา พระองค์จะทรงสำแดงพระองค์อย่างไร้ตำหนิต่อผู้ที่ไร้ตำหนิ พระองค์จะทรงสำแดงพระองค์บริสุทธิ์ต่อผู้ที่บริสุทธิ์ พระองค์จะทรงสำแดงพระองค์เป็นปฏิปักษ์ต่อผู้ที่คดโกง เพราะพระองค์จะทรงช่วยประชาชนที่ยากแค้นให้พ้น แต่ตาที่หยิ่งยโสนั้นพระองค์จะทรงกระทำให้ต่ำลง พระองค์จะทรงจุดตะเกียงของข้าพระองค์ พระเยโฮวาห์พระเจ้าของข้าพระองค์จะทรงกระทำความมืดของข้าพระองค์ให้สว่าง พระเจ้าข้า ข้าพระองค์ตะลุยกองทัพได้โดยพระองค์ และโดยพระเจ้าของข้าพเจ้านี้ข้าพเจ้าสามารถกระโดดข้ามกำแพงได้ สำหรับพระเจ้าพระองค์นี้ พระมรรคาของพระองค์ดีเลิศทุกประการ พระวจนะของพระเยโฮวาห์พิสูจน์แล้วเป็นความจริง พระองค์ทรงเป็นดั้งของบรรดาผู้ที่วางใจในพระองค์ เพราะผู้ใดจะเป็นพระเจ้า นอกจากพระเยโฮวาห์ และผู้ใดเล่าเป็นศิลา เว้นแต่พระเจ้าของเรา คือพระเจ้าผู้ทรงเอากำลังคาดเอวของข้าพเจ้าไว้ และทรงกระทำให้ทางของข้าพเจ้ารอบคอบ
สดุดี 18:1-32 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
ข้าแต่พระเจ้า พระกำลังของข้าพระองค์ ข้าพระองค์รักพระองค์ พระเจ้าทรงเป็นพระศิลา ป้อมปราการ และผู้ช่วยกู้ของข้าพระองค์ เป็นพระเจ้าของข้าพระองค์เป็นพระศิลาซึ่งข้าพระองค์เข้าลี้ภัยอยู่ในพระองค์ เป็นโล่ เป็นพลังแห่งความรอดของข้าพระองค์ เป็นที่กำบังเข้มแข็งของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ร้องทูลต่อพระเจ้าผู้ทรง สมควรแก่การสรรเสริญ และข้าพระองค์ได้ รับการช่วยให้พ้นจากศัตรูของข้าพระองค์ สายมัจจุราชล้อมข้าพระองค์ไว้ กระแสแห่งความหายนะท่วมทับข้าพระองค์ สายใยของแดนผู้ตายพันตัวข้าพระองค์ บ่วงมัจจุราชปะทะข้าพระองค์ ในยามทุกข์ระทมใจ ข้าพเจ้าร้องทูลต่อพระเจ้า ข้าพเจ้าร้องทูลขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าของข้าพเจ้า จากพระวิหารของพระองค์ พระองค์ทรงสดับเสียงของข้าพเจ้า และเสียงร้องของข้าพเจ้าได้ยินไปถึงพระกรรณของพระองค์ แล้วแผ่นดินโลกก็สั่นสะเทือนและโคลงเคลง รากฐานของภูเขาก็หวั่นไหวด้วย และสั่นสะเทือน เพราะพระองค์ทรงกริ้ว ควันออกไปตามช่องพระนาสิกของพระองค์ และเพลิงผลาญออกมาจากพระโอษฐ์ของพระองค์ ถ่านก็ติดเปลวไฟนั้น พระองค์ทรงโน้มฟ้าสวรรค์ลงด้วยและเสด็จลงมา ความมืดทึบอยู่ใต้พระบาทของพระองค์ พระองค์ทรงเครูบตนหนึ่ง แล้วทรงเหาะไป พระองค์เสด็จโดยปีกของลมอย่างรวดเร็ว พระองค์ทรงกระทำให้ความมืดปกคลุมพระองค์ไว้ ให้เมฆมืดเพราะอุ้มน้ำเป็นปะรำของพระองค์ มีลูกเห็บและถ่านเพลิงแตกออกมาทะลุเมฆ จากความสว่างสุกใสข้างหน้าพระองค์ พระเจ้าทรงคะนองกึกก้องในฟ้าสวรรค์ และองค์ผู้สูงสุดก็เปล่งพระสุรเสียง คือลูกเห็บและถ่านเพลิง พระองค์ทรงยิงลูกธนูของพระองค์ออกไป ทำให้เขาต่างกระจัดกระจายไป พระองค์ทรงปล่อยฟ้าแลบแปลบปลาบ ทำให้เขาโกลาหล แล้วก็เห็นก้นทะเล ตลอดจนรากฐานของพิภพก็ปรากฏแจ้ง เมื่อพระองค์ทรงขนาบทะเล ด้วยลมที่พวยพุ่งจากช่องพระนาสิกของพระองค์ พระองค์ทรงเอื้อมมาจากที่สูงทรงจับข้าพเจ้า พระองค์ทรงดึงข้าพเจ้าออกมาจากน้ำอันมากหลาย พระองค์ทรงช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากศัตรูเข้มแข็งของข้าพเจ้า และจากบรรดาผู้ที่เกลียดชังข้าพเจ้า เพราะเขามีอานุภาพเกินกว่าข้าพเจ้ามากนัก เขาปะทะข้าพเจ้าในวันที่ข้าพเจ้าเกิดภัยพิบัติ แต่พระเจ้าทรงเป็นที่พึ่งของข้าพเจ้า พระองค์ทรงนำข้าพเจ้าออกมายังที่กว้างใหญ่ และทรงช่วยกู้ข้าพเจ้าไว้เพราะพระองค์ทรงชื่นชม ยินดีในข้าพเจ้า พระเจ้าประทานรางวัลแก่ข้าพเจ้าตามความ ชอบธรรมของข้าพเจ้า พระองค์ทรงตอบแทนข้าพเจ้าตามความสะอาด แห่งมือของข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้ารักษาบรรดามรรคาของพระเจ้า และไม่ได้พรากจากพระเจ้าของข้าพเจ้าอย่างอธรรม เพราะกฎหมายทั้งสิ้นของพระองค์อยู่ต่อหน้าข้าพเจ้า และข้าพเจ้ามิได้ผลักกฎเกณฑ์ของพระองค์ไปเลย ต่อพระพักตร์พระองค์ข้าพเจ้าไร้ตำหนิ และข้าพเจ้ารักษาตัวไว้ไม่ทำบาปต่อพระองค์ เพราะฉะนั้นพระเจ้าจึงทรงตอบแทนข้าพเจ้า ตามความชอบธรรมของข้าพเจ้า ตามความสะอาดแห่งมือของ ข้าพเจ้าในสายพระเนตรของพระองค์ พระองค์ทรงสำแดงความรักมั่นคงต่อผู้ที่จงรักภักดี พระองค์ทรงสำแดงพระองค์อย่างไร้ตำหนิต่อผู้ที่ไร้ ตำหนิ พระองค์ทรงสำแดงพระองค์บริสุทธิ์ต่อผู้ที่บริสุทธิ์ พระองค์ทรงสำแดงพระองค์เป็นปฏิปักษ์ต่อผู้ที่คดโกง เพราะพระองค์ทรงช่วยกู้ประชาชนที่ยากแค้น แต่ตาที่หยิ่งยโสนั้นพระองค์ทรงกระทำให้ต่ำลง พระองค์ทรงจุดตะเกียงของข้าพระองค์ พระเจ้าของข้าพระองค์ทรงกระทำความ มืดของข้าพระองค์ให้สว่าง พระเจ้าข้า ข้าพระองค์ตะลุยกองทัพได้โดยพระองค์ และโดยพระเจ้าของข้าพเจ้านี้ ข้าพเจ้าสามารถกระโดดข้ามกำแพงได้ สำหรับพระเจ้าพระองค์นี้ พระมรรคาของพระองค์บริบูรณ์ พระสัญญาของพระเจ้า พิสูจน์แล้วเป็นความจริง พระองค์ทรงเป็นโล่ของบรรดาผู้ที่ลี้ภัยอยู่ในพระองค์ เพราะผู้ใดจะเป็นพระเจ้า นอกจากพระเยโฮวาห์ และผู้ใดเล่าเป็นพระศิลา เว้นแต่พระเจ้าของเรา คือพระเจ้าผู้ทรงเอากำลังคาดเอวของข้าพเจ้าไว้ และทรงกระทำให้ทางของข้าพเจ้าปลอดภัย
สดุดี 18:1-32 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นกำลังของข้าพระองค์ ข้าพระองค์รักพระองค์ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นศิลา เป็นป้อมปราการ และผู้กอบกู้ของข้าพเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้าทรงเป็นศิลาที่ข้าพเจ้าเข้าไปลี้ภัย ทรงเป็นโล่ เป็นกำลังแห่งความรอดและเป็นที่มั่นของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าร้องทูลต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงสมควรแก่การสรรเสริญ แล้วข้าพเจ้าก็ได้รับการช่วยให้รอดพ้นจากเหล่าศัตรู บ่วงแห่งความตายพันธนาการข้าพเจ้าไว้ กระแสแห่งความหายนะท่วมท้นข้าพเจ้า บ่วงแห่งแดนผู้ตายรัดรอบตัวข้าพเจ้า บ่วงแร้วแห่งความตายอยู่ตรงหน้าข้าพเจ้า ในยามทุกข์โศก ข้าพเจ้าร้องทูลองค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าร้องทูลขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าของข้าพเจ้า พระองค์ทรงสดับเสียงของข้าพเจ้าจากพระวิหารของพระองค์ เสียงร่ำร้องของข้าพเจ้าไปถึงพระองค์ ถึงพระกรรณของพระองค์ แผ่นดินโลกสะเทือนเลื่อนลั่น รากของภูเขาทั้งหลายสั่นคลอน ภูเขาเหล่านั้นสั่นสะเทือนเพราะพระองค์ทรงพระพิโรธ ควันพลุ่งออกมาจากพระนาสิก เปลวไฟเผาผลาญและถ่านไฟลุกโชน ออกมาจากพระโอษฐ์ของพระองค์ พระองค์ทรงแหวกฟ้าสวรรค์และเสด็จลงมา เมฆมืดทึบอยู่ใต้พระบาทของพระองค์ พระองค์ทรงประทับเหนือเครูบและทะยานมา เสด็จมาด้วยปีกแห่งกระแสลม พระองค์ทรงให้ความมืดปกคลุมอยู่รายรอบพระองค์ ทรงให้เมฆฝนดำทะมึนในท้องฟ้าอยู่รอบพระองค์ แสงสว่างเจิดจ้าแห่งการปรากฏของพระองค์ผ่านหมู่เมฆออกมา ด้วยสายฟ้าแลบและพายุลูกเห็บ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเปล่งกัมปนาทจากฟ้าสวรรค์ พระสุรเสียงขององค์ผู้สูงสุดดังก้อง ทรงยิงลูกศรของพระองค์ ทำให้เหล่าศัตรูกระเจิดกระเจิงไป ทรงส่งฟ้าแลบแวบวาบทำให้พวกเขาแตกพ่ายไป ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า เมื่อพระองค์ทรงกำราบ เมื่อลมพวยพุ่งออกจากพระนาสิกของพระองค์ หุบเขาในทะเลก็เผยออก รากฐานของโลกก็ปรากฏ พระองค์ทรงเอื้อมพระหัตถ์จากเบื้องบนลงมายึดข้าพเจ้าไว้ ทรงดึงข้าพเจ้าขึ้นจากห้วงน้ำลึก พระองค์ทรงช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากศัตรูผู้ทรงอำนาจ จากปฏิปักษ์ผู้แข็งแกร่งกว่าข้าพเจ้า พวกเขาบุกโจมตีในยามที่ข้าพเจ้าประสบภัยพิบัติ แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงค้ำชูข้าพเจ้าไว้ พระองค์ทรงนำข้าพเจ้าออกมายังที่กว้างขวาง ทรงช่วยข้าพเจ้าไว้เพราะทรงปีติยินดีในตัวข้าพเจ้า องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงตอบแทนข้าพเจ้าตามความชอบธรรมของข้าพเจ้า ทรงปูนบำเหน็จแก่ข้าพเจ้าเนื่องจากข้าพเจ้าเป็นคนมือสะอาด เพราะข้าพเจ้ารักษาทางขององค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าไม่ได้ทำชั่วโดยหันไปจากพระเจ้าของข้าพเจ้า บทบัญญัติทั้งสิ้นของพระองค์อยู่ต่อหน้าข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่ได้หันไปจากกฎหมายของพระองค์ ข้าพเจ้าไร้ตำหนิต่อหน้าพระองค์ และได้รักษาตนให้พ้นจากบาป องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปูนบำเหน็จแก่ข้าพเจ้าตามความชอบธรรมของข้าพเจ้า ตามที่ทรงเห็นว่าข้าพเจ้าเป็นคนมือสะอาด ต่อผู้ที่ซื่อสัตย์ ทรงสำแดงพระองค์ว่าซื่อสัตย์ ต่อผู้ที่ไร้ที่ติ ทรงสำแดงพระองค์ว่าไร้ที่ติ ต่อผู้ที่บริสุทธิ์ ทรงสำแดงพระองค์ว่าบริสุทธิ์ แต่กับผู้ที่คดโกง ทรงสำแดงพระองค์ว่าฉลาดหลักแหลม พระองค์ทรงช่วยผู้ที่ถ่อมใจให้รอดพ้น ส่วนผู้ที่หยิ่งผยอง ทรงทำให้ตกต่ำลง ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงรักษาประทีปของข้าพระองค์ให้โชติช่วง พระเจ้าของข้าพระองค์ทรงเปลี่ยนความมืดมนของข้าพระองค์ให้กลายเป็นความสว่าง ข้าพระองค์สามารถตะลุยกองทัพได้ด้วยความช่วยเหลือจากพระองค์ และข้าพระองค์ปีนข้ามกำแพงเมืองได้โดยพระเจ้าของข้าพระองค์ สำหรับพระเจ้า วิถีของพระองค์นั้นดีพร้อม พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าไม่มีข้อผิดพลาด พระองค์ทรงเป็นโล่ สำหรับทุกคนที่เข้าลี้ภัยในพระองค์ ใครเล่าเป็นพระเจ้า นอกจากพระยาห์เวห์? ผู้ใดเล่าคือพระศิลา เว้นแต่พระเจ้าของเรา? พระเจ้านี่แหละ ทรงเป็นผู้ประทานกำลังแก่ข้าพเจ้า ทรงกระทำให้หนทางของข้าพเจ้าดีพร้อม
สดุดี 18:1-32 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
ข้าพเจ้ารักพระองค์ โอ พระผู้เป็นเจ้า พละกำลังของข้าพเจ้า พระผู้เป็นเจ้าเป็นศิลาและป้อมปราการของข้าพเจ้า และเป็นผู้ช่วยข้าพเจ้าให้พ้นภัย พระเจ้าของข้าพเจ้าเป็นศิลาของข้าพเจ้าที่อาศัยพักพิงได้ พระองค์เป็นโล่ป้องกันและเขาแห่งความรอดพ้น เป็นหลักยึดอันมั่นคงของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าร้องเรียกถึงพระผู้เป็นเจ้า ผู้สมควรแก่การสรรเสริญ และข้าพเจ้ารอดพ้นจากพวกศัตรูของข้าพเจ้า สายรัดแห่งความตายพันรอบตัวข้าพเจ้า กระแสน้ำแห่งความพินาศท่วมท้นเกินทน สายรัดแห่งแดนคนตายขดรอบตัวข้าพเจ้า กับดักแห่งความตายเผชิญหน้าข้าพเจ้า ในห้วงแห่งความทุกข์ยากข้าพเจ้าร้องเรียกถึงพระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าร้องขอความช่วยเหลือจากพระเจ้า พระองค์ได้ยินเสียงข้าพเจ้าจากพระวิหารของพระองค์ เสียงร้องของข้าพเจ้าดังไปถึงหูของพระองค์ แผ่นดินสั่นสะเทือน และฐานรากของภูเขาโยกคลอน และสั่นไหวได้เพราะพระองค์โกรธ ควันพลุ่งจากช่องจมูกของพระองค์ และไฟเผาผลาญออกจากปากของพระองค์ ถ่านลุกโพลงขึ้นเป็นเปลวไฟโชติช่วงจากพระองค์ พระองค์เบิกสวรรค์ลงมา เมฆดำอยู่ใต้เท้าพระองค์ พระองค์ขึ้นนั่งบนตัวเครูบแล้วโผบิน พระองค์ล่องไปกับสายลมอย่างรวดเร็ว พระองค์ใช้ความมืดกำบังดั่งปะรำปกโดยรอบพระองค์ เมฆฝนดำทะมึนในท้องฟ้า ณ เบื้องหน้าพระองค์ มีแสงสว่างเจิดจ้า เมฆหนาทึบของพระองค์ลอยล่องไป ถ่านลุกโพลงขึ้นเป็นเปลวไฟ ครั้นแล้วพระผู้เป็นเจ้าเปล่งเสียงเป็นฟ้าร้องในสวรรค์ องค์ผู้สูงสุดเปล่งเสียงเป็นลูกเห็บหินกับถ่านลุกเป็นไฟ พระองค์ยิงลูกธนู และทำให้ศัตรูกระเจิดกระเจิงไป พระองค์ทำให้เกิดฟ้าแลบ และพวกเขาก็เตลิดเปิดเปิงไป โอ พระผู้เป็นเจ้า เมื่อพระองค์บอกห้าม เมื่อลมหายใจพ่นออกจากจมูกของพระองค์ น้ำในทะเลก็เปิดออกจนเห็นก้นบึ้งแห่งท้องทะเล และฐานรากของแผ่นดินโลกโล่งโถง พระองค์เอื้อมลงจากที่สูงคว้าตัวข้าพเจ้าไว้ได้ แล้วพระองค์ก็ดึงตัวข้าพเจ้าขึ้นจากห้วงน้ำลึก พระองค์ช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากศัตรูผู้มีอำนาจยิ่ง และจากพวกที่เกลียดชังข้าพเจ้า ด้วยว่า เขามีกำลังเกินกว่าข้าพเจ้า เขาเหล่านั้นประจันหน้าข้าพเจ้าในยามวิบัติ แต่พระผู้เป็นเจ้าเป็นหลักค้ำจุนของข้าพเจ้า พระองค์ช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากบ่วงอันตราย พระองค์ช่วยเหลือข้าพเจ้าไว้ก็เพราะพระองค์พอใจในตัวข้าพเจ้า พระผู้เป็นเจ้ากระทำต่อข้าพเจ้าตามความชอบธรรมของข้าพเจ้า พระองค์ให้รางวัลข้าพเจ้าตามความสะอาดของมือข้าพเจ้า ด้วยว่า ข้าพเจ้าเดินตามทางของพระผู้เป็นเจ้า และไม่ได้ทำความชั่วโดยหันเหไปจากพระเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้านึกถึงคำบัญชาของพระองค์เป็นที่ตั้ง ข้าพเจ้าไม่ได้เพิกเฉยต่อกฎเกณฑ์ของพระองค์ ข้าพเจ้าปราศจากข้อตำหนิใดๆ ณ เบื้องหน้าพระองค์ และข้าพเจ้าระวังไม่กระทำบาป พระผู้เป็นเจ้าได้ให้รางวัลข้าพเจ้าตามความชอบธรรมของข้าพเจ้า ตามความบริสุทธิ์ของมือข้าพเจ้าต่อหน้าพระองค์ พระองค์แสดงความรักอันมั่นคงต่อคนที่มีความภักดี พระองค์แสดงความไร้ข้อตำหนิของพระองค์ต่อคนที่ไร้ข้อตำหนิ พระองค์แสดงความบริสุทธิ์ของพระองค์ต่อคนบริสุทธิ์ และพระองค์แสดงต่อคนคดโกงอย่างปราดเปรื่อง ด้วยว่า พระองค์ช่วยคนถ่อมตัวให้รอดพ้น และพระองค์ทำให้คนใจยโสเจียมตัว โอ พระผู้เป็นเจ้า ด้วยว่า พระองค์ทำให้ตะเกียงของข้าพเจ้าสว่าง พระเจ้าของข้าพเจ้าทำให้ความมืดของข้าพเจ้าสว่างไสว ข้าพเจ้าเหยียบย่ำกองทัพได้ก็ด้วยพระองค์ ข้าพเจ้าข้ามกำแพงได้ก็ด้วยพระเจ้า พระเจ้านี้แหละ วิถีทางของพระองค์บริบูรณ์ทุกประการ คำพูดของพระผู้เป็นเจ้าบริสุทธิ์ พระองค์เป็นโล่ป้องกันสำหรับทุกคนที่แสวงหาพระองค์เป็นที่พึ่ง ใครเล่าคือพระเจ้านอกเหนือจากพระผู้เป็นเจ้า และใครคือศิลานอกเหนือจากพระเจ้าของเรา พระเจ้าช่วยให้ข้าพเจ้าพรั่งพร้อมด้วยกำลัง และทำให้วิถีทางของข้าพเจ้าบริบูรณ์ทุกประการ