สดุดี 142:1-5
สดุดี 142:1-5 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
ข้าพเจ้าร้องทูลพระยาห์เวห์ ด้วยเสียงของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าขอพระกรุณาจากพระยาห์เวห์ ด้วยเสียงของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าระบายความทุกข์ของข้าพเจ้าต่อพระองค์ ข้าพเจ้าทูลเรื่องความลำบากต่อพระองค์ เมื่อจิตวิญญาณของข้าพระองค์อ่อนระอา พระองค์ทรงรู้จักทางของข้าพระองค์ ในวิถีที่ข้าพระองค์เดินไป พวกเขาซ่อนกับไว้ดักข้าพระองค์ ขอทรงมองทางขวาข้าพระองค์และทอดพระเนตร เพราะไม่มีใครเหลียวแลข้าพระองค์ ข้าพระองค์ไม่มีที่หลบภัย ไม่มีใครห่วงใยข้าพระองค์ ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพระองค์ร้องทูลพระองค์ ข้าพระองค์ทูลว่า พระองค์ทรงเป็นที่ลี้ภัยของข้าพระองค์ เป็นมรดกส่วนของข้าพระองค์ในแผ่นดินของคนเป็น
สดุดี 142:1-5 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
ข้าพเจ้าร้องตะโกนต่อพระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าร้องต่อพระยาห์เวห์เพื่อขอความเมตตา ข้าพเจ้าระบายความทุกข์ทั้งหลายออกมาต่อหน้าพระองค์ ข้าพเจ้าเล่าให้พระองค์ฟังถึงความทุกข์ยากทั้งหมดของข้าพเจ้า เมื่อข้าพเจ้ารู้สึกท้อใจ พระองค์เฝ้าดูทางเดินของข้าพเจ้าอยู่ พวกศัตรูวางกับดักไว้ตามทางที่ข้าพเจ้ากำลังเดินไปนั้น ดูสิ ข้าพเจ้าไม่มีเพื่อนสักคนที่อยู่เคียงข้าง ข้าพเจ้าไม่มีที่หลบภัย ไม่มีใครสนใจว่าข้าพเจ้าจะอยู่หรือจะตาย ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าร้องเรียกพระองค์ และบอกกับพระองค์ว่า “พระองค์คือที่ลี้ภัยของข้าพเจ้า พระองค์คือทุกสิ่งทุกอย่างที่ข้าพเจ้าต้องการในโลกนี้”
สดุดี 142:1-5 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
ข้าพเจ้าร้องทูลพระยาห์เวห์ ด้วยเสียงของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าขอพระกรุณาจากพระยาห์เวห์ ด้วยเสียงของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าระบายความทุกข์ของข้าพเจ้าต่อพระองค์ ข้าพเจ้าทูลเรื่องความลำบากต่อพระองค์ เมื่อจิตวิญญาณของข้าพระองค์อ่อนระอา พระองค์ทรงรู้จักทางของข้าพระองค์ ในวิถีที่ข้าพระองค์เดินไป พวกเขาซ่อนกับไว้ดักข้าพระองค์ ขอทรงมองทางขวาข้าพระองค์และทอดพระเนตร เพราะไม่มีใครเหลียวแลข้าพระองค์ ข้าพระองค์ไม่มีที่หลบภัย ไม่มีใครห่วงใยข้าพระองค์ ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพระองค์ร้องทูลพระองค์ ข้าพระองค์ทูลว่า พระองค์ทรงเป็นที่ลี้ภัยของข้าพระองค์ เป็นมรดกส่วนของข้าพระองค์ในแผ่นดินของคนเป็น
สดุดี 142:1-5 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
ข้าพเจ้าร้องทูลพระเยโฮวาห์ด้วยเสียงของข้าพเจ้า ด้วยเสียงของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าวิงวอนต่อพระเยโฮวาห์ ข้าพเจ้าหลั่งคำคร่ำครวญของข้าพเจ้าออกมาต่อเบื้องพระพักตร์พระองค์ ข้าพเจ้าทูลเรื่องความลำบากยากเย็นของข้าพเจ้าต่อพระองค์ เมื่อจิตใจของข้าพระองค์อ่อนระอาภายใน พระองค์ทรงทราบทางของข้าพระองค์ ในวิถีที่ข้าพระองค์เดินไปเขาซ่อนกับไว้ดักข้าพระองค์ ข้าพระองค์มองทางขวามือและมองดู แต่ไม่มีใครยอมรู้จักข้าพระองค์ ข้าพระองค์ไม่มีที่หลบภัย ไม่มีใครเอาใจใส่จิตใจข้าพระองค์ โอ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ ข้าพระองค์ร้องทูลต่อพระองค์ ข้าพระองค์ว่า “พระองค์ทรงเป็นที่ลี้ภัยของข้าพระองค์ เป็นส่วนของข้าพระองค์ในแผ่นดินของคนเป็น
สดุดี 142:1-5 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
ข้าพเจ้าร้องทูลพระเจ้าด้วยเสียงของข้าพเจ้า ด้วยเสียงของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าวิงวอนต่อพระเจ้า ข้าพเจ้าหลั่งคำคร่ำครวญของข้าพเจ้าออกมาต่อเบื้องพระพักตร์พระองค์ ข้าพเจ้าทูลเรื่องความลำบากยากเย็นของข้าพเจ้า ต่อพระองค์ เมื่อใจของข้าพระองค์อ่อนระอา พระองค์ทรงทราบทางของข้าพระองค์ ในวิถีที่ข้าพระองค์เดินไป เขาซ่อนกับไว้ดักข้าพระองค์ ขอพระองค์ทรงมองทางขวาและทอดพระเนตร เพราะไม่มีใครสังเกตดูข้าพระองค์ ข้าพระองค์ไม่มีที่หลบภัย ไม่มีใครเอาใจใส่ข้าพระองค์ ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์ร้องทูลต่อพระองค์ ข้าพระองค์ว่า พระองค์ทรงเป็นที่ลี้ภัยของข้าพระองค์ เป็นส่วนของข้าพระองค์ในแผ่นดินของคนเป็น
สดุดี 142:1-5 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
ข้าพเจ้าร้องทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยเสียงดัง ข้าพเจ้าเปล่งเสียงทูลวิงวอนขอความเมตตาจากองค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าระบายความทุกข์ยากต่อหน้าพระองค์ ต่อหน้าพระองค์ ข้าพเจ้าทูลความเดือดร้อนของข้าพเจ้า เมื่อจิตวิญญาณของข้าพระองค์หดหู่อยู่ภายในข้าพระองค์ พระองค์ทรงเป็นผู้ทราบทางของข้าพระองค์ บนเส้นทางที่ข้าพระองค์เดินไป คนได้ซ่อนบ่วงแร้วดักข้าพระองค์ มองไปทางขวา ไม่มีใครเหลียวแลข้าพระองค์ ข้าพระองค์ไร้ที่พึ่ง ไม่มีใครห่วงใยชีวิตของข้าพระองค์ ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์ร้องทูลพระองค์ว่า “พระองค์ทรงเป็นที่ลี้ภัยของข้าพระองค์ เป็นส่วนมรดกของข้าพระองค์ในดินแดนของคนเป็น”
สดุดี 142:1-5 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
ข้าพเจ้าร้องด้วยเสียงอันดังต่อพระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าใช้เสียงของข้าพเจ้าขอความเมตตาจากพระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าหลั่งคำรำพันของข้าพเจ้าออกมาต่อหน้าพระองค์ และบอกถึงความทุกข์ของข้าพเจ้าต่อหน้าพระองค์ เวลาจิตวิญญาณข้าพเจ้าอ่อนล้า พระองค์เป็นผู้ที่ทราบทางของข้าพเจ้า พวกเขาซ่อนบ่วงแร้วดักข้าพเจ้า ในเส้นทางที่ข้าพเจ้าเดินไป ข้าพเจ้าเหลือบมองทางขวา แต่ไม่มีใครสังเกตดูข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่มีที่พึ่งพิงเหลืออยู่อีกแล้ว ไม่มีใครสนใจข้าพเจ้า โอ พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าร้องขอให้พระองค์ช่วย ข้าพเจ้าพูดว่า “พระองค์เป็นที่พึ่งพิงของข้าพเจ้า เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของข้าพเจ้าในดินแดนของคนเป็น”