สดุดี 139:10-24
สดุดี 139:10-24 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
แม้ที่นั่น พระหัตถ์ของพระองค์จะจูงข้าพระองค์ และพระหัตถ์ขวาของพระองค์จะฉวยข้าพระองค์ไว้ ถ้าข้าพระองค์จะว่า “ความมืดจะบังข้าไว้แน่ทีเดียว และความสว่างรอบข้าจะเป็นกลางคืน” สำหรับพระองค์ แม้ความมืดก็ไม่มืด กลางคืนก็สว่างอย่างกลางวัน ความมืดเป็นอย่างความสว่าง เพราะพระองค์ทรงสร้างชิ้นส่วนภายในข้าพระองค์ พระองค์ทรงถักทอข้าพระองค์เข้าด้วยกันในครรภ์มารดา ข้าพระองค์ขอบพระคุณพระองค์ เพราะพระองค์ทรงสร้างข้าพระองค์อย่างอัศจรรย์น่าครั่นคร้าม บรรดาพระราชกิจของพระองค์อัศจรรย์ ข้าพระองค์ทราบดี โครงร่างของข้าพระองค์ไม่ได้ถูกซ่อนไว้จากพระองค์ เมื่อข้าพระองค์ถูกสร้างอยู่ในที่ลับลี้ ประดิษฐ์ขึ้นมา ณ ภายในที่ลึกแห่งโลก พระเนตรของพระองค์เห็นข้าพระองค์ตั้งแต่ยังไม่เป็นรูปทรง วันทั้งสิ้นที่กำหนดให้ข้าพระองค์นั้น ถูกบันทึกไว้ในหนังสือของพระองค์ ตั้งแต่ยังไม่มีวันนั้นเลย ข้าแต่พระเจ้า สำหรับข้าพระองค์แล้ว พระดำริของพระองค์ล้ำค่ายิ่ง รวมกันเข้าก็มากมายนักหนา ถ้าข้าพระองค์จะนับพระดำรินั้นก็มากกว่าเม็ดทราย เมื่อข้าพระองค์ตื่นขึ้น ข้าพระองค์จะยังอยู่กับพระองค์ ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงสังหารคนอธรรมเสีย ส่วนเจ้า พวกคนกระหายเลือด จงไปให้พ้นข้า พวกเขากล่าวถึงพระองค์ด้วยเจตนาร้าย พวกศัตรูของพระองค์ใช้พระนามไปในทางที่ผิด ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพระองค์มิได้เกลียดผู้ที่เกลียดพระองค์หรือ? และข้าพระองค์มิได้ชิงชังผู้ที่ลุกขึ้นต่อสู้พระองค์ดอกหรือ? ข้าพระองค์เกลียดพวกเขาเข้ากระดูกดำ และนับเขาเป็นศัตรูของข้าพระองค์ ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงตรวจค้นข้าพระองค์และทรงรู้จักจิตใจของข้าพระองค์ ขอทรงทดสอบข้าพระองค์และทรงรู้จักความคิดของข้าพระองค์ และขอทอดพระเนตรว่ามีทางชั่วใดๆ ในข้าพระองค์หรือไม่ และขอทรงนำข้าพระองค์ไปในทางนิรันดร์
สดุดี 139:10-24 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
แม้แต่ที่นั่น พระหัตถ์ของพระองค์ก็จะทรงนำข้าพระองค์ พระหัตถ์ขวาของพระองค์ก็จะยึดข้าพระองค์ไว้มั่น หากข้าพระองค์กล่าวว่า “แน่นอน ความมืดจะบังเราไว้ และความสว่างจะกลายเป็นค่ำคืนรอบตัวเรา” สำหรับพระองค์ แม้ความมืดก็ไม่มืด กลางคืนก็สว่างดั่งกลางวัน เพราะสำหรับพระองค์ ความมืดก็เป็นดั่งความสว่าง เพราะพระองค์ทรงสร้างส่วนลึกล้ำภายในตัวข้าพระองค์ พระองค์ทรงถักทอข้าพระองค์ขึ้นในครรภ์มารดา ข้าพระองค์สรรเสริญพระองค์ เพราะพระองค์ทรงสร้างข้าพระองค์อย่างมหัศจรรย์และน่าครั่นคร้าม ฝีพระหัตถ์ของพระองค์อัศจรรย์ ข้าพระองค์ทราบดี โครงร่างของข้าพระองค์ไม่ได้ซ่อนเร้นจากพระองค์ เมื่อข้าพระองค์ถูกสร้างขึ้นในที่ลี้ลับ เมื่อข้าพระองค์ถูกถักทอขึ้นในห้วงลึกแห่งแผ่นดินโลก พระเนตรของพระองค์ทรงเห็นข้าพระองค์ตั้งแต่ข้าพระองค์ยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ทุกวันคืนที่กำหนดไว้สำหรับข้าพระองค์ ทรงบันทึกไว้ในสมุดของพระองค์ ก่อนที่วันเหล่านั้นจะมาถึง ข้าแต่พระเจ้า! พระดำริของพระองค์สำหรับข้าพระองค์นั้นเลิศล้ำ! รวมกันแล้วก็ยิ่งใหญ่นัก! หากจะนับ ก็มากยิ่งกว่าเม็ดทราย เมื่อข้าพระองค์ตื่นขึ้น ข้าพระองค์ยังคงอยู่กับพระองค์ ข้าแต่พระเจ้า! ขอทรงประหารคนชั่วเถิด เจ้าคนกระหายเลือด จงไปให้พ้น! พวกเขากล่าวถึงพระองค์ด้วยเจตนาชั่ว ศัตรูของพระองค์ใช้พระนามของพระองค์ในทางมิชอบ ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์ไม่ได้เกลียดชังผู้ที่เกลียดชังพระองค์หรือ? ข้าพระองค์ไม่ได้สะอิดสะเอียนผู้ที่บังอาจลุกขึ้นต่อสู้พระองค์หรือ? สำหรับพวกเขา ข้าพระองค์มีแต่ความเกลียดชัง และนับเขาเป็นศัตรูของข้าพระองค์ ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงตรวจตราดูเถิด และทรงทราบจิตใจของข้าพระองค์ ขอทรงตรวจสอบและประจักษ์แจ้งความคิดกระวนกระวายของข้าพระองค์ โปรดดูว่ามีสิ่งใดบ้างในตัวของข้าพระองค์ซึ่งไม่เป็นที่พอพระทัย และขอทรงนำข้าพระองค์ไปตามวิถีนิรันดร์
สดุดี 139:10-24 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
แม้แต่ที่นั่น มือของพระองค์ก็ยังนำข้าพเจ้า และมือขวาของพระองค์พยุงข้าพเจ้าไว้ ถ้าข้าพเจ้าขอให้ความมืดซ่อนตัวข้าพเจ้าไว้ และขอให้กลางวันกลายเป็นกลางคืนรอบตัวข้าพเจ้า มันก็ยังไม่มืดเกินไปสำหรับพระองค์ สำหรับพระองค์แล้วกลางคืนก็สว่างเหมือนกลางวัน สำหรับพระองค์แล้วกลางคืนและกลางวันไม่แตกต่างกันเลย พระองค์สร้างทั้งจิตและใจของข้าพเจ้า พระองค์ทอข้าพเจ้าเข้าด้วยกันในท้องแม่ ข้าพเจ้าจึงขอบคุณพระองค์เพราะงานของพระองค์นั้นช่างน่าเกรงขามและน่าทึ่ง พระองค์รู้จักข้าพเจ้าอย่างทะลุปรุโปร่ง ตอนที่ข้าพเจ้าถูกก่อขึ้นมาในที่ลึกลับในท้องแม่ ตอนนั้นที่ข้าพเจ้าประกอบเข้าด้วยกันในสถานที่ที่มองไม่เห็น ไม่มีกระดูกสักชิ้นหนึ่งของข้าพเจ้าที่รอดพ้นสายตาของพระองค์ไปได้ ดวงตาของพระองค์มองดูข้าพเจ้าก่อนที่ข้าพเจ้าจะเป็นรูปเป็นร่าง ทุกวันคืนที่พระองค์ให้ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่ พระองค์ได้จดบันทึกไว้แล้วในสมุดของพระองค์ก่อนที่มันจะเกิดขึ้นเสียอีก ข้าแต่พระเจ้า ความคิดทั้งหลายของพระองค์นั้นยากเกินกว่าที่ข้าพเจ้าจะเข้าใจได้ รวมเข้าด้วยกันแล้วมันมากมายจนนับไม่ถ้วน ถ้าข้าพเจ้านับความคิดเหล่านั้นได้ก็คงมีมากกว่าเม็ดทราย ถ้าจะให้ข้าพเจ้านับหมด ข้าพเจ้าคงจะต้องมีชีวิตยืนยาวเท่ากับพระองค์ ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้าหวังจะเห็นพระองค์ฆ่าคนชั่วเหลือเกิน ไอ้พวกฆาตกรไปให้พ้นจากข้า คนพวกนั้นพูดสิ่งไม่ดีเกี่ยวกับพระองค์ พวกศัตรูของพระองค์อ้างชื่อของพระองค์ในคำสาบานที่หลอกลวง ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าเกลียดชังคนเหล่านั้นที่เกลียดชังพระองค์ ข้าพเจ้ารังเกียจคนเหล่านั้นที่กบฏต่อพระองค์ ข้าพเจ้าเกลียดคนเหล่านั้นเข้ากระดูกดำ ศัตรูของพระองค์คือศัตรูของข้าพเจ้าด้วย ข้าแต่พระเจ้า โปรดสำรวจข้าพเจ้าโปรดรู้ถึงจิตใจของข้าพเจ้า โปรดทดสอบ โปรดรู้ถึงสิ่งต่างๆที่ข้าพเจ้าเป็นห่วง ดูสิว่า ข้าพเจ้าเดินผิดทางหรือเปล่า โปรดนำข้าพเจ้าไปบนหนทางอันเก่าแก่นั้นที่ถูกต้องมาตลอด
สดุดี 139:10-24 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
แม้ถึงที่นั่น พระหัตถ์ของพระองค์จะนำข้าพระองค์ และพระหัตถ์ขวาของพระองค์จะยึดข้าพระองค์ไว้ ถ้าข้าพระองค์จะว่า “แน่นอนความมืดจะบังข้าไว้และความสว่างจะรอบข้าเป็นกลางคืน” สำหรับพระองค์ แม้ความมืดก็มิได้ซ่อนอะไรไว้จากพระองค์ กลางคืนก็แจ้งอย่างกลางวัน ความมืดเป็นอย่างความสว่าง เพราะพระองค์ทรงปั้นส่วนภายในของข้าพระองค์ พระองค์ทรงทอข้าพระองค์เข้าด้วยกันในครรภ์มารดาของข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์ เพราะข้าพระองค์ถูกสร้างมาอย่างแปลกประหลาดและน่ากลัว พระราชกิจของพระองค์มหัศจรรย์ จิตใจข้าพระองค์ทราบเรื่องนี้อย่างดี เมื่อข้าพระองค์ถูกสร้างอยู่ในที่ลับลี้ ประดิษฐ์ขึ้นมา ณ ภายในที่ลึกแห่งโลก โครงร่างของข้าพระองค์ไม่ปิดบังไว้จากพระองค์ พระเนตรของพระองค์ทรงเห็นส่วนประกอบของข้าพระองค์ในเมื่อยังไม่สมบูรณ์ ในวันทั้งหลายที่กำลังประกอบขึ้น เมื่อครั้งไม่เกิดขึ้น อวัยวะทั้งหลายของข้าพระองค์ก็ทรงจารึกไว้ในพระตำรับของพระองค์ โอ ข้าแต่พระเจ้า พระดำริของพระองค์ประเสริฐแก่ข้าพระองค์จริงๆ รวมกันเข้าก็ไพศาลนักหนา ถ้าข้าพระองค์จะนับก็มากกว่าเม็ดทราย เมื่อข้าพระองค์ตื่นขึ้น ข้าพระองค์ก็ยังอยู่กับพระองค์ โอ ข้าแต่พระเจ้า แน่นอนพระองค์จะทรงสังหารคนชั่วเสีย ดังนั้น คนกระหายเลือดเอ๋ย จงพรากไปจากข้าพระองค์ เพราะพวกเขากล่าวต่อต้านพระองค์ด้วยมุ่งร้าย และพวกศัตรูของพระองค์ใช้พระนามของพระองค์อย่างไร้ประโยชน์ โอ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ ข้าพระองค์มิได้เกลียดผู้ที่เกลียดพระองค์หรือ และข้าพระองค์มิได้สะอิดสะเอียนคนเหล่านั้นผู้ลุกขึ้นต่อสู้พระองค์ดอกหรือ ข้าพระองค์เกลียดเขาด้วยความเกลียดอย่างที่สุด และนับเขาเป็นศัตรูของข้าพระองค์ โอ ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงค้นดูข้าพระองค์ และทรงทราบจิตใจของข้าพระองค์ ขอทรงลองข้าพระองค์ และทรงทราบความคิดของข้าพระองค์ และทอดพระเนตรว่ามีทางชั่วใดๆในข้าพระองค์หรือไม่ และขอทรงนำข้าพระองค์ไปในมรรคานิรันดร์
สดุดี 139:10-24 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
แม้ถึงที่นั่น พระหัตถ์ของพระองค์จะนำข้าพระองค์ และพระหัตถ์ขวาของพระองค์จะยึดข้าพระองค์ไว้ ถ้าข้าพระองค์จะว่า <<ขอเพียงความมืด จงบังข้าไว้ และจงให้ความสว่างรอบข้าเป็นกลางคืน>> สำหรับพระองค์ แม้ความมืดก็ไม่มืด กลางคืนก็แจ้งอย่างกลางวัน ความมืดเป็นอย่างความสว่าง เพราะพระองค์ทรงปั้นส่วนภายในของข้าพระองค์ พระองค์ทรงทอข้าพระองค์เข้าด้วยกัน ในครรภ์มารดาของข้าพระองค์ ข้าพระองค์โมทนาพระคุณ พระองค์เพราะพระองค์ทรงกระทำ ให้ข้าพระองค์แปลกประหลาดอย่างน่ากลัว พระราชกิจของพระองค์อัศจรรย์ พระองค์ทรงทราบข้าพระองค์ดี เมื่อข้าพระองค์ถูกสร้างอยู่ในที่ลับลี้ ประดิษฐ์ขึ้นมา ณ ภายในที่ลึกแห่งโลก โครงร่างของข้าพระองค์ไม่ปิดบังไว้จากพระองค์ พระเนตรของพระองค์ทรงเห็นส่วนประกอบของข้าพระองค์ วันทั้งหลายทุกๆวันที่กำหนดให้ข้าพระองค์นั้น ก็ทรงจารึกไว้ในพระตำรับของพระองค์ เมื่อครั้งยังไม่เกิดวันนั้นเลย ข้าแต่พระเจ้า พระดำริของ พระองค์ประเสริฐแก่ข้าพระองค์จริงๆ รวมกันเข้าก็ไพศาลนักหนา ถ้าข้าพระองค์จะนับก็มากกว่าเม็ดทราย เมื่อข้าพระองค์ตื่นขึ้น ข้าพระองค์ก็จะยังอยู่กับพระองค์ ข้าแต่พระเจ้า อยากให้พระองค์สังหารคนชั่วเสีย และอยากให้คนกระหายเลือดพรากไปจากข้าพระองค์ คนที่กล่าวต่อต้านพระองค์ด้วยมุ่งร้าย ผู้ซึ่งยกตนขึ้นต่อสู้พระองค์เพื่อความชั่ว ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์มิได้เกลียดผู้ที่เกลียด พระองค์หรือ และข้าพระองค์มิได้สะอิดสะเอียนคนเหล่านั้นผู้ลุกขึ้น ต่อสู้พระองค์ดอกหรือ ข้าพระองค์เกลียดเขาเข้ากระดูกดำ และนับเขาเป็นศัตรูของข้าพระองค์ ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงค้นดูข้าพระองค์และทรงทราบ จิตใจของข้าพระองค์ ขอทรงลองข้าพระองค์และทรงทราบความคิดของข้าพระองค์ และทอดพระเนตรว่ามีทางชั่วใดๆ ในข้าพระองค์หรือไม่ และขอทรงนำข้าพระองค์ไปในมรรคานิรันดร์
สดุดี 139:10-24 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
มือของพระองค์ก็ยังจะอยู่ที่นั่นด้วยเพื่อนำทางให้แก่ข้าพเจ้า มือขวาของพระองค์จะช่วยข้าพเจ้าไว้ ถ้าข้าพเจ้าขอให้ความมืดซ่อนข้าพเจ้าไว้ หรือให้ความสว่างรอบตัวข้าพเจ้ากลายเป็นกลางคืน แม้แต่ความมืดก็ไม่มืดทึบเกินไปสำหรับพระองค์ และกลางคืนก็สว่างเทียบเท่ากับกลางวัน เพราะความมืดยังสว่างสำหรับพระองค์ เพราะพระองค์เป็นผู้สร้างอวัยวะภายในของข้าพเจ้า พระองค์ประสานข้าพเจ้าไว้อย่างสนิทแนบในครรภ์มารดาของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าขอบคุณพระองค์ เพราะข้าพเจ้าถูกสร้างขึ้นมาอย่างน่าครั่นคร้ามและมหัศจรรย์ สิ่งที่พระองค์กระทำมหัศจรรย์ยิ่งนัก พระองค์รู้จักข้าพเจ้าอย่างลึกซึ้ง โครงกระดูกของข้าพเจ้าไม่อาจซ่อนเร้นไปจากสายตาของพระองค์ได้ คือแม้ว่าเวลาที่ข้าพเจ้าถูกสร้างในที่กำบัง ถูกสานขึ้นอย่างละเอียดอ่อนในที่ลึกของแผ่นดินโลก พระองค์มองเห็นข้าพเจ้าตั้งแต่แรกเริ่มที่ข้าพเจ้าอยู่ในครรภ์มารดา โมงยามล้วนถูกจัดเตรียมไว้สำหรับข้าพเจ้าแล้ว และยังถูกระบุไว้ในหนังสือของพระองค์ ก่อนที่เหตุการณ์ในแต่ละวันจะปรากฏขึ้น โอ พระเจ้า ความนึกคิดของพระองค์ช่างมากมายสุดที่จะคณนา และช่างมีค่าอะไรเช่นนี้สำหรับข้าพเจ้า ถ้าหากข้าพเจ้าคิดจะนับแล้วละก็ยังมีจำนวนมากกว่าเม็ดทรายเสียอีก เมื่อข้าพเจ้าตื่นขึ้น ข้าพเจ้าก็ยังจะคำนึงถึงพระองค์อยู่อีก โอ พระเจ้า ข้าพเจ้าอยากให้พระองค์ฆ่าคนชั่วร้ายเสีย และพวกคนกระหายเลือดจะได้ไม่มายุ่งเกี่ยวกับข้าพเจ้าอีก พวกคนที่พูดถึงพระองค์ด้วยความมุ่งร้าย พวกที่ยกตนขึ้นคัดค้านพระองค์เพื่อความชั่ว โอ พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าจะไม่เกลียดพวกที่เกลียดชังพระองค์หรือ ข้าพเจ้าจะไม่ขยะแขยงพวกที่ค้านพระองค์หรือ ข้าพเจ้าเกลียดพวกเขาอย่างบอกไม่ถูก และถือเอาพวกเขาเป็นศัตรูของข้าพเจ้า โอ พระเจ้า พิจารณาดูข้าพเจ้าเถิด และทราบถึงจิตใจของข้าพเจ้า ทดสอบข้าพเจ้าดู และก็หยั่งถึงความคิดของข้าพเจ้า ดูว่ามีสิ่งใดบ้างที่เลวร้ายในตัวข้าพเจ้า และโปรดนำข้าพเจ้าไปสู่ทางอันเป็นนิรันดร์