สดุดี 139:1-16
สดุดี 139:1-16 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์ได้สำรวจข้าพเจ้า และรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะนั่งลงหรือลุกขึ้น พระองค์ก็รู้ ข้าพเจ้าคิดอะไรอยู่ พระองค์ก็เข้าใจแม้พระองค์จะอยู่ห่างไกล ไม่ว่าข้าพเจ้าจะไปที่ไหนหรือนอนที่ไหน พระองค์ก็เฝ้ามองอยู่ ข้าพเจ้าทำอะไร พระองค์ก็รับรู้หมด ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์รู้ว่าข้าพเจ้าจะพูดอะไรก่อนที่ลิ้นของข้าพเจ้าจะพูดเสียอีก พระองค์อยู่รอบตัวข้าพเจ้าทั้งหน้าหลัง พระองค์วางมืออยู่บนข้าพเจ้า ความรู้ของพระองค์น่าทึ่งเหลือเกินสำหรับข้าพเจ้า สูงส่งเกินกว่าที่ข้าพเจ้าจะเข้าใจได้ ข้าพเจ้าจะหนีพระวิญญาณของพระองค์ไปไหนพ้น ข้าพเจ้าหนีหน้าพระองค์ไปไหนได้ ถ้าข้าพเจ้าจะขึ้นไปบนสวรรค์พระองค์ก็อยู่ที่นั่น ถ้าข้าพเจ้านอนลงที่แดนคนตายพระองค์ก็อยู่ที่นั่น ถ้าข้าพเจ้าจะขึ้นมาพร้อมกับดวงอาทิตย์ทางตะวันออก และข้ามขอบฟ้าไปตกอีกฝากหนึ่งของทะเล แม้แต่ที่นั่น มือของพระองค์ก็ยังนำข้าพเจ้า และมือขวาของพระองค์พยุงข้าพเจ้าไว้ ถ้าข้าพเจ้าขอให้ความมืดซ่อนตัวข้าพเจ้าไว้ และขอให้กลางวันกลายเป็นกลางคืนรอบตัวข้าพเจ้า มันก็ยังไม่มืดเกินไปสำหรับพระองค์ สำหรับพระองค์แล้วกลางคืนก็สว่างเหมือนกลางวัน สำหรับพระองค์แล้วกลางคืนและกลางวันไม่แตกต่างกันเลย พระองค์สร้างทั้งจิตและใจของข้าพเจ้า พระองค์ทอข้าพเจ้าเข้าด้วยกันในท้องแม่ ข้าพเจ้าจึงขอบคุณพระองค์เพราะงานของพระองค์นั้นช่างน่าเกรงขามและน่าทึ่ง พระองค์รู้จักข้าพเจ้าอย่างทะลุปรุโปร่ง ตอนที่ข้าพเจ้าถูกก่อขึ้นมาในที่ลึกลับในท้องแม่ ตอนนั้นที่ข้าพเจ้าประกอบเข้าด้วยกันในสถานที่ที่มองไม่เห็น ไม่มีกระดูกสักชิ้นหนึ่งของข้าพเจ้าที่รอดพ้นสายตาของพระองค์ไปได้ ดวงตาของพระองค์มองดูข้าพเจ้าก่อนที่ข้าพเจ้าจะเป็นรูปเป็นร่าง ทุกวันคืนที่พระองค์ให้ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่ พระองค์ได้จดบันทึกไว้แล้วในสมุดของพระองค์ก่อนที่มันจะเกิดขึ้นเสียอีก
สดุดี 139:1-16 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์ได้ทรงตรวจสอบข้าพระองค์ และทรงรู้จักข้าพระองค์ เมื่อข้าพระองค์นั่งลงและลุกขึ้น พระองค์ทรงทราบ พระองค์ทรงเข้าใจความคิดของข้าพระองค์ได้แต่ไกล พระองค์ทรงตรวจตราวิถีและการนอนของข้าพระองค์ และทรงคุ้นเคยกับทางทั้งสิ้นของข้าพระองค์ ข้าแต่พระยาห์เวห์ แม้ก่อนที่ลิ้นของข้าพระองค์จะพูด พระองค์ก็ทรงทราบความเสียหมดแล้ว พระองค์ทรงล้อมข้าพระองค์อยู่ทั้งข้างหน้าและข้างหลัง และวางพระหัตถ์บนข้าพระองค์ ความรู้อย่างนี้อัศจรรย์เกินข้าพระองค์ สูงนักจนข้าพระองค์เอื้อมไม่ถึง ข้าพระองค์จะไปไหนให้พ้นพระวิญญาณของพระองค์ได้? หรือข้าพระองค์จะหนีไปไหนให้พ้นจากพระพักตร์ของพระองค์? ถ้าข้าพระองค์ขึ้นไปยังสวรรค์ พระองค์ก็สถิตที่นั่น ถ้าข้าพระองค์จะทำที่นอนไว้ในแดนคนตาย พระองค์ทรงอยู่ที่นั่น ถ้าข้าพระองค์จะบินไปไกลถึงที่ตะวันออก หรือถ้าข้าพระองค์อาศัยอยู่สุดขอบทะเลตะวันตก แม้ที่นั่น พระหัตถ์ของพระองค์จะจูงข้าพระองค์ และพระหัตถ์ขวาของพระองค์จะฉวยข้าพระองค์ไว้ ถ้าข้าพระองค์จะว่า “ความมืดจะบังข้าไว้แน่ทีเดียว และความสว่างรอบข้าจะเป็นกลางคืน” สำหรับพระองค์ แม้ความมืดก็ไม่มืด กลางคืนก็สว่างอย่างกลางวัน ความมืดเป็นอย่างความสว่าง เพราะพระองค์ทรงสร้างชิ้นส่วนภายในข้าพระองค์ พระองค์ทรงถักทอข้าพระองค์เข้าด้วยกันในครรภ์มารดา ข้าพระองค์ขอบพระคุณพระองค์ เพราะพระองค์ทรงสร้างข้าพระองค์อย่างอัศจรรย์น่าครั่นคร้าม บรรดาพระราชกิจของพระองค์อัศจรรย์ ข้าพระองค์ทราบดี โครงร่างของข้าพระองค์ไม่ได้ถูกซ่อนไว้จากพระองค์ เมื่อข้าพระองค์ถูกสร้างอยู่ในที่ลับลี้ ประดิษฐ์ขึ้นมา ณ ภายในที่ลึกแห่งโลก พระเนตรของพระองค์เห็นข้าพระองค์ตั้งแต่ยังไม่เป็นรูปทรง วันทั้งสิ้นที่กำหนดให้ข้าพระองค์นั้น ถูกบันทึกไว้ในหนังสือของพระองค์ ตั้งแต่ยังไม่มีวันนั้นเลย
สดุดี 139:1-16 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
โอ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ พระองค์ได้ทรงตรวจสอบข้าพระองค์และทรงรู้จักข้าพระองค์ เมื่อข้าพระองค์นั่งลงและลุกขึ้น พระองค์ทรงทราบ พระองค์ทรงประจักษ์ในความคิดของข้าพระองค์ได้แต่ไกล พระองค์ทรงค้นวิถีของข้าพระองค์และการนอนของข้าพระองค์ และทรงคุ้นเคยกับทางทั้งสิ้นของข้าพระองค์ โอ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ แม้ก่อนที่ลิ้นของข้าพระองค์จะพูด ดูเถิด พระองค์ก็ทรงทราบความเสียหมดแล้ว พระองค์ทรงล้อมข้าพระองค์อยู่ทั้งข้างหลังและข้างหน้า และทรงวางพระหัตถ์บนข้าพระองค์ ความรู้อย่างนี้มหัศจรรย์เกินข้าพระองค์ สูงนัก ข้าพระองค์เอื้อมไม่ถึง ข้าพระองค์จะไปไหนให้พ้นพระวิญญาณของพระองค์ได้ หรือข้าพระองค์จะหนีไปไหนให้พ้นพระพักตร์ของพระองค์ ถ้าข้าพระองค์ขึ้นไปยังสวรรค์ พระองค์ทรงสถิตที่นั่น ถ้าข้าพระองค์จะทำที่นอนไว้ในนรก ดูเถิด พระองค์ทรงสถิตที่นั่น ถ้าข้าพระองค์จะติดปีกแสงอรุณ และอาศัยอยู่ที่ส่วนของทะเลไกลโพ้น แม้ถึงที่นั่น พระหัตถ์ของพระองค์จะนำข้าพระองค์ และพระหัตถ์ขวาของพระองค์จะยึดข้าพระองค์ไว้ ถ้าข้าพระองค์จะว่า “แน่นอนความมืดจะบังข้าไว้และความสว่างจะรอบข้าเป็นกลางคืน” สำหรับพระองค์ แม้ความมืดก็มิได้ซ่อนอะไรไว้จากพระองค์ กลางคืนก็แจ้งอย่างกลางวัน ความมืดเป็นอย่างความสว่าง เพราะพระองค์ทรงปั้นส่วนภายในของข้าพระองค์ พระองค์ทรงทอข้าพระองค์เข้าด้วยกันในครรภ์มารดาของข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์ เพราะข้าพระองค์ถูกสร้างมาอย่างแปลกประหลาดและน่ากลัว พระราชกิจของพระองค์มหัศจรรย์ จิตใจข้าพระองค์ทราบเรื่องนี้อย่างดี เมื่อข้าพระองค์ถูกสร้างอยู่ในที่ลับลี้ ประดิษฐ์ขึ้นมา ณ ภายในที่ลึกแห่งโลก โครงร่างของข้าพระองค์ไม่ปิดบังไว้จากพระองค์ พระเนตรของพระองค์ทรงเห็นส่วนประกอบของข้าพระองค์ในเมื่อยังไม่สมบูรณ์ ในวันทั้งหลายที่กำลังประกอบขึ้น เมื่อครั้งไม่เกิดขึ้น อวัยวะทั้งหลายของข้าพระองค์ก็ทรงจารึกไว้ในพระตำรับของพระองค์
สดุดี 139:1-16 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ได้ทรงตรวจสอบข้าพระองค์ และทรงรู้จักข้าพระองค์ เมื่อข้าพระองค์นั่งลงและลุกขึ้น พระองค์ทรงทราบ พระองค์ทรงประจักษ์ในความคิดของข้าพระองค์ได้แต่ไกล พระองค์ทรงค้นวิถีของข้าพระองค์และการนอนของข้าพระองค์ และทรงคุ้นเคยกับทางทั้งสิ้นของข้าพระองค์ ข้าแต่พระเจ้า แม้ก่อนที่ลิ้นของข้าพระองค์จะพูด พระองค์ก็ทรงทราบความเสียหมดแล้ว พระองค์ทรงล้อมข้าพระองค์อยู่ทั้งข้างหลังและข้างหน้า และทรงวางพระหัตถ์บนข้าพระองค์ ความรู้อย่างนี้อัศจรรย์เกินข้าพระองค์ สูงนัก ข้าพระองค์เอื้อมไม่ถึง ข้าพระองค์จะไปไหน ให้พ้นพระวิญญาณของพระองค์ได้ หรือข้าพระองค์จะหนีไปไหนให้พ้นพระพักตร์ของพระองค์ ถ้าข้าพระองค์ขึ้นไปยังสวรรค์ พระองค์ทรงสถิตที่นั่น ถ้าข้าพระองค์จะทำที่นอนไว้ในแดนผู้ตาย พระองค์ทรงสถิตที่นั่น ถ้าข้าพระองค์จะติดปีกแสงอรุณ และอาศัยอยู่ที่ส่วนของทะเลไกลโพ้น แม้ถึงที่นั่น พระหัตถ์ของพระองค์จะนำข้าพระองค์ และพระหัตถ์ขวาของพระองค์จะยึดข้าพระองค์ไว้ ถ้าข้าพระองค์จะว่า <<ขอเพียงความมืด จงบังข้าไว้ และจงให้ความสว่างรอบข้าเป็นกลางคืน>> สำหรับพระองค์ แม้ความมืดก็ไม่มืด กลางคืนก็แจ้งอย่างกลางวัน ความมืดเป็นอย่างความสว่าง เพราะพระองค์ทรงปั้นส่วนภายในของข้าพระองค์ พระองค์ทรงทอข้าพระองค์เข้าด้วยกัน ในครรภ์มารดาของข้าพระองค์ ข้าพระองค์โมทนาพระคุณ พระองค์เพราะพระองค์ทรงกระทำ ให้ข้าพระองค์แปลกประหลาดอย่างน่ากลัว พระราชกิจของพระองค์อัศจรรย์ พระองค์ทรงทราบข้าพระองค์ดี เมื่อข้าพระองค์ถูกสร้างอยู่ในที่ลับลี้ ประดิษฐ์ขึ้นมา ณ ภายในที่ลึกแห่งโลก โครงร่างของข้าพระองค์ไม่ปิดบังไว้จากพระองค์ พระเนตรของพระองค์ทรงเห็นส่วนประกอบของข้าพระองค์ วันทั้งหลายทุกๆวันที่กำหนดให้ข้าพระองค์นั้น ก็ทรงจารึกไว้ในพระตำรับของพระองค์ เมื่อครั้งยังไม่เกิดวันนั้นเลย
สดุดี 139:1-16 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ได้ทรงตรวจตราจิตใจของข้าพระองค์ และพระองค์ทรงรู้จักข้าพระองค์ พระองค์ทรงทราบเมื่อข้าพระองค์นั่งลงและลุกขึ้น พระองค์ทรงประจักษ์ความคิดของข้าพระองค์แต่ไกล พระองค์ทรงหยั่งรู้วิถีทางและการหยุดพักของข้าพระองค์ พระองค์ทรงคุ้นเคยกับทางทั้งสิ้นของข้าพระองค์ ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ก่อนที่ข้าพระองค์จะเอ่ยปาก พระองค์ก็ทรงทราบความทั้งสิ้นแล้ว พระองค์ทรงโอบล้อมข้าพระองค์ทั้งข้างหน้าและข้างหลัง พระองค์ทรงวางพระหัตถ์เหนือข้าพระองค์ ความรู้เช่นนี้อัศจรรย์ยิ่งนักสำหรับข้าพระองค์ สูงเกินกว่าข้าพระองค์จะเข้าใจ ข้าพระองค์จะไปที่ไหนให้พ้นจากพระวิญญาณของพระองค์ได้? ข้าพระองค์จะหนีไปที่ไหนให้พ้นจากพระพักตร์ของพระองค์? หากข้าพระองค์ขึ้นไปยังสวรรค์ พระองค์ประทับอยู่ที่นั่น หากข้าพระองค์นอนลงในแดนมรณา พระองค์ก็ประทับที่นั่น หากข้าพระองค์บินไปด้วยปีกแห่งรุ่งอรุณ หากข้าพระองค์ไปอยู่ที่มหาสมุทรสุดไกลโพ้น แม้แต่ที่นั่น พระหัตถ์ของพระองค์ก็จะทรงนำข้าพระองค์ พระหัตถ์ขวาของพระองค์ก็จะยึดข้าพระองค์ไว้มั่น หากข้าพระองค์กล่าวว่า “แน่นอน ความมืดจะบังเราไว้ และความสว่างจะกลายเป็นค่ำคืนรอบตัวเรา” สำหรับพระองค์ แม้ความมืดก็ไม่มืด กลางคืนก็สว่างดั่งกลางวัน เพราะสำหรับพระองค์ ความมืดก็เป็นดั่งความสว่าง เพราะพระองค์ทรงสร้างส่วนลึกล้ำภายในตัวข้าพระองค์ พระองค์ทรงถักทอข้าพระองค์ขึ้นในครรภ์มารดา ข้าพระองค์สรรเสริญพระองค์ เพราะพระองค์ทรงสร้างข้าพระองค์อย่างมหัศจรรย์และน่าครั่นคร้าม ฝีพระหัตถ์ของพระองค์อัศจรรย์ ข้าพระองค์ทราบดี โครงร่างของข้าพระองค์ไม่ได้ซ่อนเร้นจากพระองค์ เมื่อข้าพระองค์ถูกสร้างขึ้นในที่ลี้ลับ เมื่อข้าพระองค์ถูกถักทอขึ้นในห้วงลึกแห่งแผ่นดินโลก พระเนตรของพระองค์ทรงเห็นข้าพระองค์ตั้งแต่ข้าพระองค์ยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ทุกวันคืนที่กำหนดไว้สำหรับข้าพระองค์ ทรงบันทึกไว้ในสมุดของพระองค์ ก่อนที่วันเหล่านั้นจะมาถึง
สดุดี 139:1-16 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ตรวจสอบข้าพเจ้า และพระองค์ก็รู้จักข้าพเจ้า ไม่ว่าเวลาข้าพเจ้านั่งหรือยืน พระองค์ก็ทราบ แม้พระองค์จะอยู่ห่างไกลเพียงไร พระองค์ก็ยังหยั่งรู้ความคิดของข้าพเจ้าได้ พระองค์ทราบทุกเรื่องว่า ข้าพเจ้าอยู่ที่ใดหรือกำลังกระทำสิ่งใดอยู่ พระองค์คุ้นเคยกับการกระทำทุกอย่างของข้าพเจ้า แม้ก่อนที่ข้าพเจ้าจะพูด โอ พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทราบทุกสิ่ง พระองค์อยู่รอบข้างข้าพเจ้าทั้งข้างหลังและข้างหน้า พระองค์ปกป้องข้าพเจ้า การที่พระองค์ทราบดังนี้ ก็ถือได้ว่าวิเศษนักสำหรับข้าพเจ้า คือสูงเกินกว่าที่ข้าพเจ้าจะเข้าใจได้ ข้าพเจ้าจะไปทางไหนจึงจะเลี่ยงหลบพระวิญญาณของพระองค์ได้ ข้าพเจ้าจะเลี่ยงไปทางไหนจึงจะพ้นหน้าพระองค์ได้ หากว่าข้าพเจ้าขึ้นไปยังสวรรค์ พระองค์ก็จะอยู่ที่นั่น หากว่าข้าพเจ้าลงไปนอนในแดนคนตาย ดูเถิด พระองค์ก็อยู่ที่นั่นด้วย ถ้าข้าพเจ้าต้องสวมปีกของรุ่งอรุณ และไปอาศัยอยู่ที่ไกลโพ้นสุดขอบทะเล มือของพระองค์ก็ยังจะอยู่ที่นั่นด้วยเพื่อนำทางให้แก่ข้าพเจ้า มือขวาของพระองค์จะช่วยข้าพเจ้าไว้ ถ้าข้าพเจ้าขอให้ความมืดซ่อนข้าพเจ้าไว้ หรือให้ความสว่างรอบตัวข้าพเจ้ากลายเป็นกลางคืน แม้แต่ความมืดก็ไม่มืดทึบเกินไปสำหรับพระองค์ และกลางคืนก็สว่างเทียบเท่ากับกลางวัน เพราะความมืดยังสว่างสำหรับพระองค์ เพราะพระองค์เป็นผู้สร้างอวัยวะภายในของข้าพเจ้า พระองค์ประสานข้าพเจ้าไว้อย่างสนิทแนบในครรภ์มารดาของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าขอบคุณพระองค์ เพราะข้าพเจ้าถูกสร้างขึ้นมาอย่างน่าครั่นคร้ามและมหัศจรรย์ สิ่งที่พระองค์กระทำมหัศจรรย์ยิ่งนัก พระองค์รู้จักข้าพเจ้าอย่างลึกซึ้ง โครงกระดูกของข้าพเจ้าไม่อาจซ่อนเร้นไปจากสายตาของพระองค์ได้ คือแม้ว่าเวลาที่ข้าพเจ้าถูกสร้างในที่กำบัง ถูกสานขึ้นอย่างละเอียดอ่อนในที่ลึกของแผ่นดินโลก พระองค์มองเห็นข้าพเจ้าตั้งแต่แรกเริ่มที่ข้าพเจ้าอยู่ในครรภ์มารดา โมงยามล้วนถูกจัดเตรียมไว้สำหรับข้าพเจ้าแล้ว และยังถูกระบุไว้ในหนังสือของพระองค์ ก่อนที่เหตุการณ์ในแต่ละวันจะปรากฏขึ้น