สุภาษิต 25:8-28
สุภาษิต 25:8-28 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
อย่าด่วนนำเข้ามายังโรงศาล มิฉะนั้นในที่สุดเจ้าจะทำอย่างไร หากเพื่อนบ้านของเจ้าทำให้เจ้าขายหน้า จงถกเรื่องของเจ้ากับเพื่อนบ้าน และอย่าเผยความลับของอีกฝ่ายหนึ่ง เกรงว่าผู้ที่ได้ยินจะประณามเจ้า และเจ้าจะเสียชื่อตลอดไป ถ้อยคำที่พูดถูกกาลเทศะ เหมือนผลแอปเปิ้ลทองคำล้อมด้วยเงิน คำตักเตือนของคนมีปัญญาแก่หูที่คอยฟัง ก็เหมือนห่วงทองคำและเครื่องประดับทองบริสุทธิ์ หิมะให้ความเย็นในฤดูเกี่ยวอย่างไร ผู้สื่อสารที่ซื่อสัตย์ต่อผู้ที่ใช้เขา ย่อมทำให้จิตวิญญาณของนายชุ่มชื่นอย่างนั้น คนที่อวดว่าจะให้ของกำนัลแต่ไม่ได้ให้ ก็เหมือนเมฆและลมที่ไม่มีฝน ความอดกลั้นอาจชักนำผู้ครอบครองได้ และลิ้นอ่อนหวานอาจโน้มน้าวใจให้อ่อนลงได้ ถ้าเจ้าพบน้ำผึ้ง จงกินแต่พอดี เกรงว่าเจ้าจะอิ่มและอาเจียนออกมา อย่าไปเยี่ยมเพื่อนบ้านของเจ้าบ่อยๆ เกรงว่าเขาจะเอือมระอาเจ้า และเกลียดชังเจ้า ผู้ใดเป็นพยานเท็จกล่าวหาเพื่อนบ้านของตน ก็เหมือนกระบองศึก หรือดาบ หรือลูกธนูคมกริบ การวางใจคนไม่ซื่อในวันยากลำบาก ก็เหมือนฟันที่ผุหรือเท้าที่ซวนเซ คนที่ร้องเพลงให้คนหนักใจฟัง ก็เหมือนคนถอดเสื้อผ้าออกในวันอากาศหนาว และเหมือนเอาน้ำส้มสายชูมาราดบนแผล ถ้าศัตรูของเจ้าหิว จงให้อาหารเขากิน และถ้าเขากระหาย จงให้น้ำเขาดื่ม เพราะเจ้าจะสุมถ่านที่ลุกโพลงไว้บนศีรษะของเขา และพระยาห์เวห์จะประทานบำเหน็จแก่เจ้า ลมเหนือนำฝนมาฉันใด ลิ้นที่นินทาลับหลังก็นำใบหน้าบูดบึ้งมาฉันนั้น อยู่ที่มุมบนหลังคา ดีกว่าอยู่ร่วมบ้านกับหญิงขี้ทะเลาะ ข่าวดีจากแดนไกล ก็เหมือนน้ำเย็นที่ให้แก่คนกระหาย คนชอบธรรมที่ยอมแพ้คนอธรรม ก็เหมือนน้ำพุมีโคลนหรือเหมือนน้ำบ่อที่สกปรก กินน้ำผึ้งมากไม่ดีฉันใด แสวงหาเกียรติร่ำไปก็ไม่ดีฉันนั้น คนที่ควบคุมตนเองไม่ได้ ก็เหมือนเมืองที่ถูกทำลายและไม่มีกำแพง
สุภาษิต 25:8-28 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
อย่ารีบร้อนนำไปฟ้องร้องที่ศาล เพราะในบั้นปลายเจ้าจะทำอย่างไร หากเพื่อนบ้านของเจ้าทำให้เจ้าอับอายขายหน้า? หากเจ้ามีเรื่องฟ้องร้องกับเพื่อนบ้าน อย่าใส่ร้ายเขาให้คนอื่นไม่ไว้ใจ เกรงว่าผู้ที่ได้ยินจะฉีกหน้าเจ้า และเจ้าต้องเสียชื่อเสียงไม่จบสิ้น คำพูดที่เหมาะกับกาลเทศะ ก็เหมือนแอปเปิ้ลทองคำล้อมเงิน คำตักเตือนของตุลาการผู้ชาญฉลาดสำหรับหูที่รับฟัง ก็เหมือนต่างหูทองหรือเครื่องประดับทองเนื้อดี ผู้สื่อสารที่ไว้ใจได้ ก็เหมือนน้ำเย็นจากหิมะในฤดูเก็บเกี่ยว ทำให้นายที่ส่งเขาไปชื่นใจ ผู้ที่อวดเรื่องของกำนัลซึ่งตนไม่ได้ให้ ก็เหมือนเมฆและลมที่ไม่ให้ฝน จงอดทน แล้วจะชนะใจเจ้านายได้ ลิ้นที่อ่อนโยนสามารถบดขยี้กระดูกได้ เมื่อพบน้ำผึ้ง จงกินแต่พอประมาณ หากกินมากเกินไป จะสำรอกออกมา เช่นเดียวกัน จงไปเยือนเพื่อนบ้านนานๆ ครั้ง หากบ่อยเกินไป เขาจะเกลียดชังเจ้า ผู้ที่เป็นพยานเท็จกล่าวหาเพื่อนบ้าน ก็เหมือนกระบอง หรือดาบ หรือลูกศรคมกริบ การพึ่งคนไม่ซื่อในยามทุกข์ร้อน ก็เหมือนฟันผุหรือเท้าพิการ ผู้ที่ร้องเพลงให้คนทุกข์ใจฟัง ก็เหมือนผู้ที่ถอดเสื้อในวันที่อากาศหนาว หรือเอาเกลือถูลงบนแผล หากศัตรูของเจ้าหิว จงให้อาหารเขารับประทาน เมื่อเขากระหาย จงให้น้ำเขาดื่ม เพราะการทำเช่นนี้ เท่ากับว่าเจ้าสุมถ่านที่ลุกโพลงไว้บนศีรษะของเขา และองค์พระผู้เป็นเจ้าจะประทานบำเหน็จแก่เจ้า ลมเหนือพัดพาฝนนอกฤดูมาฉันใด คำติฉินนินทาก็ทำให้หน้าบึ้งตึงฉันนั้น อยู่ที่มุมดาดฟ้า ดีกว่าอยู่ร่วมชายคากับภรรยาที่ชอบหาเรื่อง ข่าวดีจากแดนไกล ก็เหมือนน้ำเย็นชื่นใจสำหรับคนที่อ่อนล้า หากคนชอบธรรมออมชอมกับคนชั่ว ก็เหมือนน้ำพุมีโคลนหรือบ่อที่น้ำเสีย การกินน้ำผึ้งมากไปไม่ดีฉันใด การพินิจพิเคราะห์สิ่งที่ล้ำลึกเกินไปก็ทำให้เสียเกียรติฉันนั้น ผู้ที่ขาดการควบคุมตนเอง ก็เหมือนเมืองที่กำแพงถูกทำลาย
สุภาษิต 25:8-28 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
อย่าได้รีบเอาเรื่องที่คุณเห็นกับตามาฟ้องศาล เพราะถ้ามีอีกคนหนึ่งมาพิสูจน์ให้เห็นว่าคุณผิด คุณก็จะหน้าแตก เมื่อคุณต้องฟ้องร้องกับเพื่อนบ้าน อย่าเอาความลับของบุคคลที่สามมาอ้าง ไม่อย่างนั้น ผู้พิพากษาจะทำให้คุณเสียหน้า แล้วเรื่องที่คุณทำนี้จะทำให้คุณเสียชื่อไปตลอด คำพูดที่ถูกกาลเทศะ ก็เหมือนกับผลไม้ทองคำในชามเงิน คนฉลาดที่ให้คำตักเตือนกับหูที่รับฟัง ก็เหมือนต่างหูทองและเครื่องประดับทองคำบริสุทธิ์ หิมะให้ความเย็นกับคนเก็บเกี่ยวอย่างไร ผู้ส่งข่าวที่ไว้ใจได้ ก็จะทำให้จิตใจของเจ้านายที่ส่งเขาไปชุ่มชื่นอย่างนั้น คนที่สัญญาว่าจะให้ของขวัญแล้วไม่เคยให้ ก็เหมือนกับเมฆและลมที่ไม่ให้ฝน ความใจเย็นสามารถโน้มน้าวผู้นำได้ คำพูดที่สุภาพอ่อนหวานนั้น มีพลังหักกระดูกที่แข็งแกร่งได้ ถ้าเจ้าพบน้ำผึ้ง ก็ให้กินพอประมาณ กลัวว่าเจ้าจะเต็มกลืนและอาเจียนออกมา ให้เท้าของเจ้าห่างๆจากบ้านของเพื่อนบ้านบ้าง อย่าไปถี่นัก กลัวว่าเขาจะเอือมระอากับเจ้าและเกลียดขี้หน้าเจ้า คนที่เป็นพยานเท็จต่อเพื่อนบ้าน ก็เหมือนนักรบที่เหวี่ยงดาบและยิงธนูที่แหลมคม การหวังพึ่งคนที่ไม่จริงใจในยามคับขัน ก็เหมือนกับฟันที่ผุและเท้าที่เคล็ด การร้องเพลงสนุกสนานให้คนทุกข์ใจฟัง ก็เหมือนถอดเสื้อคลุมในวันที่มีอากาศหนาว และเหมือนเทน้ำส้มสายชูลงบนแผล ถ้าศัตรูของเจ้าหิว ก็ให้อาหารเขา ถ้าเขากระหาย ก็เอาน้ำให้เขาดื่ม เพราะเจ้าจะทำให้เขาอับอาย เหมือนเอาถ่านแดงๆออกจากหัวเขา และพระยาห์เวห์ก็จะให้รางวัลกับเจ้า การนินทาก็นำความโกรธมา เหมือนลมเหนือนำฝนมาให้ อาศัยอยู่ที่ซอกมุมบนดาดฟ้า ก็ยังดีกว่าร่วมชายคากับเมียที่ชอบหาเรื่อง ข่าวดีจากทางไกล ก็เหมือนกับน้ำเย็นสำหรับคอที่แห้งผาก คนดีๆที่พ่ายแพ้ต่อคนชั่ว ก็เหมือนกับตาน้ำที่เป็นโคลน และบ่อที่มีน้ำเสีย กินน้ำผึ้งมากเกินก็ไม่ดี ถ้าพยายามทำสิ่งที่ยากเกินไป ไม่นำเกียรติยศมาให้ คนที่ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ก็เหมือนเมืองที่ไม่มีกำแพงป้องกัน
สุภาษิต 25:8-28 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
อย่าด่วนนำเข้ามายังโรงศาล เพราะเมื่อเพื่อนบ้านของเจ้าทำให้เจ้าได้อายแล้ว ในที่สุดเจ้าจะทำอย่างไร จงตกลงเรื่องของเจ้ากับเพื่อนบ้านของเจ้า และอย่าทำให้เผยความลับของเขา เกรงว่าผู้ที่ได้ยินจะนำความอายมาสู่เจ้า และชื่อเสียงของเจ้าจะมัวหมองอยู่นาน ถ้อยคำที่พูดเหมาะๆจะเหมือนผลแอบเปิ้ลทองคำในภาชนะเงิน คนตักเตือนที่ฉลาดกับหูที่เชื่อฟังก็เหมือนแหวนทองคำหรืออาภรณ์ทองคำเนื้อดี หิมะให้ความเย็นในฤดูเกี่ยวอย่างไร ผู้สื่อสารที่สัตย์ซื่อย่อมทำให้จิตวิญญาณของนายผู้ใช้เขาชุ่มชื่นอย่างนั้น คนที่อวดว่าจะให้ของกำนัลแต่มิได้ให้ ก็เหมือนเมฆและลมที่ไม่มีฝน ความพากเพียรจะชักนำผู้ครอบครองได้ และลิ้นที่อ่อนหวานจะทำให้กระดูกหักได้ เจ้าได้พบน้ำผึ้งแล้วหรือ จงกินแต่พอดี เกรงว่าเจ้าจะอิ่มและอาเจียนออกมา อย่าให้เท้าของเจ้าอยู่ในเรือนเพื่อนบ้านของเจ้านานๆ เกรงว่าเขาจะเหน็ดเหนื่อยเพราะเจ้า และเกลียดชังเจ้า คนใดที่เป็นพยานเท็จกล่าวโทษเพื่อนบ้านของเขา ก็เหมือนกระบองศึก หรือดาบ หรือลูกธนูที่คม การวางใจในคนที่ไม่ซื่อในยามลำบาก ก็เหมือนฟันที่หักเสียหรือเท้าที่หลุดจากข้อต่อ บรรดาคนที่ร้องเพลงให้คนหนักใจฟัง ก็เหมือนคนถอดเครื่องแต่งกายออกในวันที่อากาศหนาว และเหมือนเอาน้ำส้มมาราดบนดินประสิว ถ้าศัตรูของเจ้าหิว จงให้อาหารเขารับประทาน และถ้าเขากระหาย จงให้น้ำเขาดื่ม เพราะเจ้าจะกองถ่านที่ลุกโพลงไว้บนศีรษะของเขา และพระเยโฮวาห์จะทรงให้บำเหน็จแก่เจ้า ลมเหนือไล่ฝนไปเสียฉันใด สีหน้าที่โกรธแค้นก็ไล่ลิ้นที่ส่อเสียดไปเสียฉันนั้น อยู่ที่มุมบนหลังคาเรือนดีกว่าอยู่ในเรือนกว้างขวางร่วมกับหญิงขี้ทะเลาะ ข่าวดีจากเมืองไกล ก็เหมือนน้ำเย็นที่ให้แก่คนกระหาย คนชอบธรรมที่ยอมแพ้แก่คนชั่วร้าย ก็เหมือนน้ำพุมีโคลนหรือเหมือนน้ำบ่อที่สกปรก ที่จะกินน้ำผึ้งมากก็ไม่ดี ฉะนั้นจึงเป็นการไร้เกียรติเมื่อใครเสาะหาเกียรติสำหรับตนเอง คนที่ปราศจากการปกครองจิตใจตนเองก็เหมือนเมืองที่ปรักหักพังและไม่มีกำแพง
สุภาษิต 25:8-28 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
อย่าด่วนนำเข้ามายังโรงศาล เพราะเมื่อเพื่อนบ้านของเจ้าทำให้เจ้าได้อายแล้ว ในที่สุดเจ้าจะทำอย่างไร จงตกลงเรื่องของเจ้ากับเพื่อนบ้านของเจ้า และอย่าทำให้เผยความลับของเขา เกรงว่าผู้ที่ได้ยินจะนำความอายมาสู่เจ้า และชื่อเสียงของเจ้าจะมัวหมองอยู่นาน ถ้อยคำที่พูดเหมาะๆ จะเหมือนลูกท้อทองคำล้อมเงิน คนตักเตือนที่ฉลาดกับหูที่คอยฟัง ก็เหมือนแหวนหรืออาภรณ์ทองคำ หิมะให้ความเย็นในฤดูเกี่ยวอย่างไร ผู้สื่อสารที่ซื่อสัตย์ย่อมทำให้จิตวิญญาณของนายผู้ใช้ เขาชุ่มชื่นอย่างนั้น คนที่อวดว่าจะให้ของกำนัลแต่มิได้ให้ ก็เหมือนเมฆและลมที่ไม่มีฝน ความพากเพียรอาจจะชักนำผู้ครอบครองได้ และลิ้นที่อ่อนหวานอาจจะโน้มน้าวจิตใจให้อ่อนลงได้ ถ้าเจ้าพบน้ำผึ้ง จงกินแต่พอดี เกรงว่าเจ้าจะอิ่มและอาเจียนออกมา จงให้เท้าของเจ้าอยู่ในเรือนเพื่อนบ้านของเจ้านานๆหนหนึ่ง เกรงว่าเขาจะเหน็ดเหนื่อยเพราะเจ้า และเกลียดชังเจ้า คนใดที่เป็นพยานเท็จกล่าวโทษเพื่อนบ้านของเขา ก็เหมือนกระบองศึก หรือดาบหรือลูกธนูที่คม การวางใจในคนที่ไม่ซื่อในยามลำบาก ก็เหมือนฟันที่เสียหรือเท้าที่เคล็ด บรรดาคนที่ร้องเพลงให้คนหนักใจฟัง ก็เหมือนคนถอดเครื่องแต่งกายออกในวันที่อากาศหนาว และเหมือนเอาน้ำส้มมาราดบนแผล ถ้าศัตรูของเจ้าหิว จงให้อาหารเขารับประทาน และถ้าเขากระหาย จงให้น้ำเขาดื่ม เพราะเจ้าจะกองถ่านที่ลุกโพลงไว้บนศีรษะของเขา และพระเจ้าจะทรงให้บำเหน็จแก่เจ้า ลมเหนือนำฝนมาฉันใด ลิ้นที่ส่อเสียด ก็นำหน้าความโกรธฉันนั้น อยู่ที่มุมบนหลังคาเรือน ดีกว่าอยู่ในเรือนร่วมกับหญิงขี้ทะเลาะ ข่าวดีจากเมืองไกล ก็เหมือนน้ำเย็นที่ให้แก่คนกระหาย คนชอบธรรมที่ยอมแพ้แก่คนชั่วร้าย ก็เหมือนน้ำพุมีโคลนหรือเหมือนน้ำบ่อที่สกปรก ที่จะกินน้ำผึ้งมากก็ไม่ดี ฉะนั้นจึงควรประหยัดคำพูดชมเชย คนที่ปราศจากการปกครองตนเอง ก็เหมือนเมืองที่ปรักหักพังและไม่มีกำแพง
สุภาษิต 25:8-28 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
จงอย่ารีบร้อนขึ้นศาลกับผู้ใด หากว่าเพื่อนบ้านของเจ้าทำให้เจ้าต้องอับอาย แล้วเจ้าจะทำอย่างไรเล่า ถ้าเจ้ากับเพื่อนบ้านมีเรื่องถกเถียงกัน ก็ให้ตกลงกันเอง แต่อย่าเปิดโปงความลับของกันและกัน เจ้าต้องอับอายหากมีคนได้ยินเข้า ต่อไปเจ้าก็จะเสียชื่อเสียง ถ้อยคำที่พูดถูกกาลเทศะ ก็เป็นเสมือนลูกแอปเปิ้ลทองบนแท่นเงิน ผู้มีสติปัญญากล่าวคำตักเตือนแก่ผู้ตั้งใจฟัง มีค่าประดุจตุ้มหูหรือเครื่องประดับทองคำ ความเย็นของหิมะในฤดูเก็บเกี่ยวเป็นเช่นไร ผู้ถือสารที่ภักดีก็เป็นเช่นนั้นสำหรับคนที่ส่งให้เขาไป คือสร้างความชื่นใจให้กับนายของเขา เมฆและลมที่ปราศจากฝนเป็นเช่นไร คนโอ้อวดว่าจะให้ของกำนัลแต่ก็ไม่ให้ ก็เป็นเช่นนั้น หากมีความอดทน เจ้าก็อาจจะสามารถชักจูงผู้อยู่ในระดับปกครองได้ด้วย และลิ้นที่แม้จะอ่อนแต่ก็สามารถหักกระดูกได้ ถ้าเจ้าพบน้ำผึ้ง ก็กินแค่พอประมาณ หากว่ามากเกินไป เจ้าก็จะอาเจียน อย่าย่างเท้าเข้าไปในบ้านของเพื่อนบ้านบ่อยนัก เพราะว่าเขาจะเบื่อหน้าและพาลเกลียดเจ้าเสีย คนที่ให้การเท็จต่อต้านเพื่อนบ้านของตน เป็นเสมือนกระบอง ดาบ หรือไม่ก็ธนูอันแหลมคม การไว้วางใจผู้ที่ไร้ความภักดีในยามลำบาก เป็นเสมือนฟันผุ หรือไม่ก็เท้าที่ไถลลื่น ใครก็ตามร้องเพลงให้คนกลุ้มใจฟัง ก็เป็นเสมือนคนที่ปลดเสื้อผ้าออกในยามอากาศหนาว หรือราดน้ำส้มสายชูบนบาดแผล ถ้าศัตรูของเจ้าหิว ก็จงให้อาหารเขากิน ถ้าเขากระหายจงให้น้ำเขาดื่ม เพราะการกระทำเช่นนี้เท่ากับเป็นการสุมถ่านที่ลุกโพลงทั้งกองบนศีรษะของเขา แล้วพระผู้เป็นเจ้าจะให้รางวัลแก่เจ้า ลมเหนือนำฝนมาเช่นไร ลิ้นเปิดโปงความลับก็พาให้คนโกรธเช่นนั้น อาศัยอยู่ที่มุมหนึ่งบนดาดฟ้า ก็ยังดีกว่าอยู่ในบ้านร่วมกับภรรยาช่างทะเลาะเบาะแว้ง ข่าวดีจากแดนไกล เป็นเสมือนน้ำเย็นที่ให้แก่จิตวิญญาณที่กระหาย ผู้มีความชอบธรรมที่ยอมจำนนต่อคนชั่วร้าย เป็นเสมือนน้ำพุโคลนหรือไม่ก็บ่อน้ำเสีย กินน้ำผึ้งมากไม่ดี การแสวงหาคำชมก็เป็นเช่นเดียวกัน คนที่ไม่รู้จักควบคุมตนเอง เป็นเสมือนกำแพงเมืองที่ถูกโค่นทำลาย