สุภาษิต 24:11-34
สุภาษิต 24:11-34 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
ให้ช่วยเหลือคนเหล่านั้นที่กำลังถูกนำไปฆ่า และอย่าได้ยั้งมือที่จะช่วยเหลือคนที่กำลังโซซัดโซเซไปให้เขาฆ่า เพราะถ้าเจ้าพูดว่า “ดูสิ พวกเราไม่รู้เรื่องนี้เลย” พระเจ้าผู้ทดสอบใจจะไม่รู้เรื่องเชียวหรือ พระองค์ผู้เฝ้าสังเกตเจ้าจะไม่รู้หรือ พระองค์จะไม่ตอบแทนแต่ละคนตามการกระทำของเขาหรือ ลูกจ๋า กินน้ำผึ้งนะ เพราะว่ามันดี และรวงผึ้งนั้นมีรสชาติหวานต่อลิ้นของเจ้า และให้รู้ไว้ด้วยว่าสติปัญญานั้นก็หวานต่อจิตวิญญาณของเจ้า ถ้าเจ้าหามันพบ เจ้าก็จะมีอนาคตที่ดี และเจ้าจะสมหวัง อย่าทำเหมือนคนร้ายที่หมอบซุ่มอยู่คอยปล้นบ้านคนดี อย่าจู่โจมบ้านของคนดีนั้น เพราะคนดีถึงจะล้มลงเจ็ดครั้ง ก็จะลุกขึ้นมาได้ทั้งเจ็ดครั้ง แต่คนชั่วเมื่อถูกความหายนะเล่นงานแค่ครั้งเดียว ก็จบกัน เมื่อศัตรูของเจ้าล้มลง ก็อย่าได้สะใจ เมื่อเขาถูกโค่นลงก็อย่าได้ดีใจ ไม่อย่างนั้นเมื่อพระยาห์เวห์เห็น พระองค์จะไม่พอใจ และหันความโกรธไปจากศัตรูของเจ้า อย่าโกรธเป็นฟืนเป็นไฟต่อคนทำชั่ว แล้วอย่าไปอิจฉาคนเลวเลย เพราะคนชั่วนั้นไม่มีอนาคต ตะเกียงของคนเลวจะถูกดับวูบไป ลูกเอ๋ย ให้ยำเกรงพระยาห์เวห์และกษัตริย์ และอย่าได้กบฏต่อทั้งสองพระองค์นั้น เพราะทั้งสองพระองค์สามารถส่งความหายนะมาสู่เจ้า อย่างไม่ทันตั้งตัว แล้วใครจะรู้ว่าความล่มจมที่ทั้งสองจะนำมานั้นจะขนาดไหน นี่ก็เป็นคำพูดของคนฉลาดด้วยคือ การตัดสินที่ลำเอียงเป็นสิ่งที่ไม่ดี ชนชาติต่างๆจะสาปแช่งและประณาม พวกผู้พิพากษาที่ตัดสินคนชั่วว่า “เป็นผู้บริสุทธิ์” ผู้คนจะอวยพรพวกผู้พิพากษาที่ตัดสินลงโทษคนผิด พวกผู้พิพากษาเหล่านั้นจะได้ดี คำตอบที่ซื่อตรง ให้ความสุขเหมือนกับการจูบที่ริมฝีปาก ก่อนอื่น เตรียมทุ่งนาให้พร้อม แล้วหว่านพืชให้เสร็จ แล้วค่อยปลูกบ้านของเจ้า อย่าได้เป็นพยานปรักปรำเพื่อนบ้านในเมื่อเขาไม่ได้ทำอะไรผิด และอย่าพูดหลอกลวง อย่าพูดว่า “ข้าจะทำกับมัน อย่างที่มันทำกับข้า ข้าจะแก้แค้นมันให้สาสมกับที่มันทำกับข้า” เราผ่านไร่นาของคนขี้เกียจ และผ่านไร่องุ่นของคนโง่ มีแต่หนามขึ้นเต็มไปหมด หญ้าก็รกปิดหน้าดิน ส่วนกำแพงหินก็พังทลายลง เรามองดู และครุ่นคิดในใจ เราสังเกต และได้บทเรียนนี้ว่า นอนสักนิด งีบสักหน่อย กอดอกพักสักครู่ แล้วความจนก็จะจู่โจมเข้ามาหาเจ้าอย่างโจร ความอดอยากจะจู่โจมเข้ามาอย่างคนที่ติดอาวุธ
สุภาษิต 24:11-34 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
จงช่วยบรรดาผู้ที่ถูกนำไปสู่ความมรณา จงช่วยยึดบรรดาผู้ที่ตุปัดตุเป๋ไปเพื่อถูกฆ่า ถ้าเจ้าจะว่า <<ดูเถิด เราไม่รู้เรื่องนี้เลย>> พระองค์ผู้ทรงชั่งใจจะไม่ทรงเพ่งเล็งเห็นหรือ พระองค์ผู้ทรงเฝ้าวิญญาณอยู่เหนือเจ้าจะไม่ทราบหรือ และพระองค์จะไม่ทรงเรียกเอาจากคนตามการ กระทำของเขาหรือ บุตรชายของเราเอ๋ย จงรับประทานน้ำผึ้งเพราะเป็นของดี และน้ำผึ้งที่หยดจากรวงนั้นมีรสหวาน จงรู้เถอะว่าปัญญาก็เป็นเช่นนั้นแก่วิญญาณ ถ้าเจ้าพบปัญญา ก็จะมีอนาคต และความหวังของเจ้าจะไม่ถูกตัดออก อย่าหมอบคอยอย่างคนชั่วร้ายเพื่อต่อสู้กับที่อาศัย ของคนชอบธรรม อย่าทำทารุณแก่เรือนของเขา เพราะคนชอบธรรมล้มลงเจ็ดครั้งแล้วก็ลุกขึ้นอีก แต่คนชั่วร้ายจะถูกความลำบากยากเย็นคว่ำลง อย่าเปรมปรีดิ์เมื่อศัตรูของเจ้าล้ม และอย่าให้ใจของเจ้ายินดีเมื่อเขาสะดุด เกรงว่าพระเจ้าจะทอดพระเนตรและไม่ทรงพอพระทัย และทรงหันความกริ้วจากเขาเสีย เจ้าอย่ากระวนกระวายเพราะคนกระทำบาป และอย่ามีใจริษยาคนชั่วร้าย เพราะคนชั่วไม่มีอนาคต ประทีปของคนชั่วร้ายจะถูกดับเสีย บุตรชายของเราเอ๋ย จงยำเกรงพระเจ้าและพระราชา อย่าขัดพระทัยของทั้งสองพระองค์เลย เพราะภัยพิบัติจากพระองค์ทั้งสองจะอุบัติขึ้นโดยพลัน และผู้ใดจะทราบถึงความพินาศที่จะมาจากพระองค์ทั้งสอง ข้อความเหล่านี้เป็นคำกล่าวของปราชญ์ด้วย การลำเอียงในการตัดสินนั้นไม่ดีเลย บุคคลผู้กล่าวแก่คนชั่วร้ายว่า <<เจ้าไร้ความผิด>> จะถูกชนชาติทั้งหลายแช่งและประชาชาติรังเกียจ แต่บรรดาผู้ขนาบเขาจะมีความปีติยินดี และพรอันดีจะมีอยู่กับเขา ผู้ให้คำตอบที่ถูก จะจุบริมฝีปาก จงเตรียมงานของเจ้าที่ภายนอก ทำทุกอย่างของเจ้าให้พร้อมที่ในนา และหลังจากนั้นก็จงสร้างเรือนของเจ้า อย่าเป็นพยานปรักปรำเพื่อนบ้านของเจ้าอย่างไม่มีเหตุ และอย่าล่อลวงด้วยริมฝีปากของเจ้า อย่ากล่าวว่า <<ข้าจะทำแก่เขาอย่างที่เขาได้ทำแล้วแก่ข้า ข้าจะทำตอบแก่เขาอย่างที่เขาได้กระทำ>> เราผ่านไปที่ไร่นาของคนเกียจคร้าน ข้างสวนองุ่นของคนที่ไร้สามัญสำนึก และนี่แน่ะ มีตำแยงอกเต็มไปหมด และแผ่นดินก็เต็มไปด้วยต้นเหงือกหนาม และกำแพงหินของมันก็พังลง แล้วเราได้เห็นและพิเคราะห์ดู เรามองดูและได้รับคำสั่งสอน <<หลับนิด เคลิ้มหน่อย กอดมือพักนิดหน่อย>> แล้วความจนจะมาหาเจ้าอย่างขโมย ความขัดสนอย่างคนถืออาวุธ
สุภาษิต 24:11-34 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
จงช่วยคนที่ถูกนำไปสู่ความตาย และจงเหนี่ยวรั้งคนที่กำลังโซเซไปสู่การถูกฆ่า ถ้าเจ้าจะว่า “ดูเถิด พวกเราไม่รู้เรื่องนี้เลย” พระองค์ผู้ทรงตรวจดูจิตใจจะไม่ทรงรับทราบหรือ? พระองค์ผู้ทรงคุ้มครองชีวิตของเจ้าจะไม่ทรงทราบหรือ? และพระองค์จะไม่ทรงตอบแทนทุกคนตามการกระทำของเขาหรือ? ลูกเอ๋ย จงกินน้ำผึ้ง เพราะเป็นของดี อันน้ำผึ้งที่หยดจากรวงนั้นมีรสหวานแก่ลิ้นของเจ้า จงรู้เถิดว่าปัญญาก็เป็นเช่นนั้นแก่วิญญาณของเจ้า ถ้าเจ้าพบปัญญาก็จะมีอนาคต และความหวังของเจ้าจะไม่สลาย อย่าซุ่มทำร้ายที่อาศัยของคนชอบธรรมอย่างที่คนอธรรมทำ อย่าทำลายที่พักของเขา เพราะคนชอบธรรมล้มลงเจ็ดครั้งแล้วก็ลุกขึ้นอีก แต่คนอธรรมจะสะดุดล้มลงในความยากลำบาก อย่าเปรมปรีดิ์เมื่อศัตรูของเจ้าล้ม และอย่าให้ใจของเจ้ายินดีเมื่อเขาสะดุด เกรงว่าพระยาห์เวห์จะทอดพระเนตรและไม่พอพระทัย และทรงหันความกริ้วจากเขาเสีย อย่าฉุนเฉียวเพราะคนทำบาป และอย่าอิจฉาคนอธรรม เพราะคนชั่วไม่มีอนาคต ประทีปของคนอธรรมจะถูกดับเสีย ลูกเอ๋ย จงยำเกรงพระยาห์เวห์และพระราชา อย่าคบค้ากับพวกกบฏ เพราะภัยพิบัติของพวกเขาจะอุบัติขึ้นโดยพลัน และใครจะทราบถึงความพินาศที่จะมาจากพระองค์ทั้งสองเล่า? ข้อความเหล่านี้เป็นคำกล่าวของคนมีปัญญาด้วย การลำเอียงในการตัดสินนั้นไม่ดีเลย ผู้ที่กล่าวแก่คนอธรรมว่า “เจ้าไร้ความผิด” จะถูกประชาชนแช่งและประชาชาติรังเกียจ แต่ผู้ที่ประณามคนอธรรมจะปีติยินดี และพรอันดีจะมายังพวกเขา คนที่เป็นเพื่อนแท้ คือคนที่ตอบตรงไปตรงมา จงเตรียมงานของเจ้าที่ข้างนอก จงทำมันให้พร้อมสำหรับเจ้าที่ในนา และหลังจากนั้นก็จงสร้างบ้านของเจ้า อย่าเป็นพยานปรักปรำเพื่อนบ้านของเจ้าอย่างไม่มีเหตุ และอย่าล่อลวงด้วยปากของเจ้า อย่ากล่าวว่า “ข้าจะทำแก่เขาอย่างที่เขาได้ทำแล้วแก่ข้า ข้าจะทำตอบแทนเขาตามการกระทำของเขา” ข้าผ่านไปที่ไร่นาของคนเกียจคร้าน ข้างสวนองุ่นของคนไม่มีสามัญสำนึก และนี่แน่ะ มีหนามงอกเต็มไปหมด หน้าดินก็ปกคลุมด้วยต้นเหงือกหนาม และกำแพงหินของมันก็พังลง เมื่อข้ามองดูและได้พิเคราะห์ ข้าเห็นและได้รับคติสอนใจ “หลับนิด เคลิ้มหน่อย กอดมือพักนิดหน่อย” แล้วความจนจะมาหาเจ้าอย่างขโมย และความขัดสนอย่างคนถืออาวุธ
สุภาษิต 24:11-34 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
ถ้าเจ้าไม่ช่วยบรรดาผู้ที่ถูกนำไปสู่ความมรณา และไม่ช่วยบรรดาผู้ที่ตุปัดตุเป๋ไปเพื่อถูกฆ่าให้รอด ถ้าเจ้าจะว่า “ดูเถิด เราไม่รู้เรื่องนี้เลย” พระองค์ผู้ทรงชั่งใจจะไม่ทรงเพ่งเล็งเห็นหรือ พระองค์ผู้ทรงเฝ้าวิญญาณอยู่เหนือเจ้าจะไม่ทราบหรือ และพระองค์จะไม่ทรงเรียกเอาจากทุกคนตามการกระทำของเขาหรือ บุตรชายของเราเอ๋ย จงรับประทานน้ำผึ้งเพราะเป็นของดี และรวงผึ้งซึ่งมีรสหวาน การรู้จักปัญญาก็เป็นเช่นนั้นแก่วิญญาณของเจ้า เมื่อเจ้าพบปัญญาก็จะมีบำเหน็จ และความคาดหวังของเจ้าจะไม่ถูกตัดออก โอ คนชั่วร้ายเอ๋ย อย่าหมอบคอยเพื่อต่อสู้กับที่อาศัยของคนชอบธรรม อย่าปล้นเรือนของเขา เพราะคนชอบธรรมล้มลงเจ็ดครั้งแล้วก็ลุกขึ้นอีก แต่คนชั่วร้ายจะตกอยู่ในอาการร้าย อย่าเปรมปรีดิ์เมื่อศัตรูของเจ้าล้ม และอย่าให้ใจของเจ้ายินดีเมื่อเขาสะดุด เกรงว่าพระเยโฮวาห์จะทอดพระเนตรและไม่ทรงพอพระทัย และทรงหันความกริ้วจากเขาเสีย เจ้าอย่ากระวนกระวายเพราะคนชั่ว และอย่ามีใจริษยาคนชั่วร้าย เพราะคนชั่วจะไม่มีบำเหน็จ ประทีปของคนชั่วร้ายจะถูกดับเสีย บุตรชายของเราเอ๋ย จงยำเกรงพระเยโฮวาห์และกษัตริย์ อย่าเข้ายุ่งกับคนที่หันกลับจากพระองค์ทั้งสองนั้น เพราะภัยพิบัติจากพระองค์ทั้งสองจะอุบัติขึ้นโดยพลัน และผู้ใดจะทราบถึงความพินาศที่จะมาจากพระองค์ทั้งสอง ข้อความเหล่านี้เป็นคำกล่าวของปราชญ์ด้วย การเห็นแก่หน้าคนใดในการตัดสินนั้นไม่ดีเลย บุคคลผู้กล่าวแก่คนชั่วร้ายว่า “เจ้าไร้ความผิด” จะถูกชนชาติทั้งหลายแช่งและประชาชาติจะรังเกียจ แต่บรรดาผู้ขนาบเขาจะมีความปีติยินดี และพรอันดีจะมีอยู่กับเขา ทุกคนจะจุบริมฝีปากของผู้ให้คำตอบที่ถูก จงเตรียมงานของเจ้าที่ภายนอก ทำทุกอย่างของเจ้าให้พร้อมที่ในนา และหลังจากนั้นก็จงสร้างเรือนของเจ้า อย่าเป็นพยานปรักปรำเพื่อนบ้านของเจ้าอย่างไม่มีเหตุ และอย่าล่อลวงด้วยริมฝีปากของเจ้า อย่ากล่าวว่า “ข้าจะทำแก่เขาอย่างที่เขาได้ทำแล้วแก่ข้า ข้าจะทำตอบแก่เขาอย่างที่เขาได้กระทำ” เราผ่านไปที่ไร่นาของคนเกียจคร้าน ข้างสวนองุ่นของคนที่ไร้ความเข้าใจ และดูเถิด มีหนามงอกเต็มไปหมด และแผ่นดินก็เต็มไปด้วยตำแย และกำแพงหินของมันก็พังลง แล้วเราได้เห็นและพิเคราะห์ดู เรามองดูและได้รับคำสั่งสอน “หลับนิด เคลิ้มหน่อย กอดมือพักนิดหน่อย แล้วความจนจะมาหาเจ้าอย่างนักท่องเที่ยว ความขัดสนอย่างคนถืออาวุธ”
สุภาษิต 24:11-34 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
จงช่วยผู้ที่ถูกนำไปสู่ความตาย และช่วยรั้งผู้ที่โซซัดโซเซไม่ให้ถูกเข่นฆ่า หากเจ้าว่า “เราไม่รู้เรื่องนี้เลย” พระองค์ผู้ทรงชั่งใจของเจ้าจะไม่เห็นหรือ? พระองค์ผู้ทรงดูแลชีวิตของเจ้าอยู่จะไม่รู้หรือ? พระองค์จะไม่ทรงตอบแทนแก่แต่ละคนตามการกระทำของเขาหรือ? ลูกเอ๋ย จงกินน้ำผึ้งเพราะเป็นสิ่งดี น้ำผึ้งที่หยดจากรวงนั้นหวานชื่นใจ จงรู้เถิดว่าสติปัญญาก็หวานเหมือนน้ำผึ้งสำหรับชีวิตเจ้า หากเจ้าพบปัญญา ก็จะมีอนาคตที่สดใสรอเจ้าอยู่ และความหวังของเจ้าจะไม่สูญสิ้น อย่าเป็นเหมือนโจรที่ซุ่มดักเล่นงานบ้านของคนชอบธรรม อย่าคิดปล้นที่อาศัยของเขา เพราะถึงแม้คนชอบธรรมล้มลงเจ็ดครั้ง เขาก็ลุกขึ้นอีก แต่คนชั่วถูกความหายนะคว่ำลง อย่าดีใจเมื่อศัตรูของเจ้าล้ม อย่าลิงโลดเมื่อเขาสะดุด เกรงว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงเห็นและไม่พอพระทัย แล้วทรงหันเหพระพิโรธไปจากเขา อย่าเดือดเนื้อร้อนใจเพราะคนชั่ว หรืออย่าอิจฉาริษยาคนเลว เพราะคนชั่วไม่มีอนาคตให้หวัง ประทีปของคนชั่วจะถูกดับไป ลูกเอ๋ย จงยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าและกษัตริย์ อย่าเข้าร่วมกับเจ้าขุนมูลนายที่ก่อกบฏ เพราะทั้งสองพระองค์จะทรงส่งความหายนะมาถึงพวกเขาอย่างฉับพลัน ใครเล่าจะรู้ถึงความย่อยยับที่จะเกิดขึ้น? ต่อไปนี้เป็นคำสอนของปราชญ์เช่นกัน การตัดสินอย่างลำเอียงเป็นสิ่งไม่ดี ผู้ที่พูดกับคนผิดว่า “ท่านไม่ผิด” จะถูกคนแช่งด่า และประชาชาติต่างๆ จะประณาม ส่วนผู้ที่ตัดสินลงโทษคนทำผิดจะได้ดี พระพรเหลือล้นจะมาถึงเขา คำตอบซื่อตรง เป็นดั่งจุมพิตบนริมฝีปาก จงทำงานไถหว่านให้เสร็จ เตรียมที่นาให้พร้อม จากนั้นจึงค่อยสร้างบ้าน อย่าเป็นพยานปรักปรำเพื่อนบ้านโดยไม่มีเหตุ หรือใช้ปากของเจ้าพูดหลอกลวง อย่าพูดว่า “ตอนนี้เป็นทีของเราแล้ว จะได้แก้แค้นสิ่งที่เขาทำกับเราไว้” เราผ่านไปที่ไร่นาของคนเกียจคร้าน ผ่านสวนองุ่นของคนที่ไร้สามัญสำนึก เราเห็นหนามงอกอยู่ทั่วทุกแห่ง ผืนดินถูกปกคลุมด้วยวัชพืช รั้วกำแพงหินก็ปรักหักพัง เราพินิจพิเคราะห์สิ่งที่เราสังเกตเห็น และบทเรียนที่เราได้รับก็คือ หลับอีกนิด เคลิ้มอีกหน่อย กอดอกงีบต่อสักประเดี๋ยว แล้วความยากจนก็จะจู่โจมเจ้าดั่งขโมย ความขัดสนจู่โจมดั่งคนถืออาวุธ
สุภาษิต 24:11-34 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
จงช่วยชีวิตคนที่กำลังถูกพาตัวไปฆ่า และคนที่กำลังซัดเซไปยังที่ประหาร ถ้าเจ้าอ้างว่า “เราไม่รู้เรื่องนี้เลย” แล้วพระองค์ดูที่ใจของเจ้าจะไม่เข้าใจหรือ พระองค์ผู้ดูแลจิตวิญญาณของเจ้าจะไม่รู้หรือ พระองค์จะไม่สนองตอบทุกคนตามแต่การกระทำของเขาหรือ ลูกเอ๋ย กินน้ำผึ้งเถิด เพราะว่าเป็นสิ่งดี และน้ำผึ้งที่หยดจากรวงมีรสหวาน จงรู้ด้วยว่าสติปัญญาก็เป็นเช่นนั้นต่อจิตวิญญาณของเจ้า ถ้าเจ้าพบ เจ้าก็จะมีอนาคต และความหวังของเจ้าจะไม่ถูกตัดขาดไป อย่าทำตัวเหมือนโจรที่ดักซุ่มเพื่อกระทำการต่อต้านบ้านของคนมีความชอบธรรม อย่าทำลายที่อยู่อาศัยของเขา ด้วยว่า คนมีความชอบธรรมล้มเจ็ดครั้ง แล้วก็ลุกขึ้นอีก ส่วนคนชั่วจะล้มลงในความหายนะ อย่ายินดีเวลาศัตรูของเจ้าล้มลง และอย่าสะใจเวลาที่เขาพลาด โดยเกรงว่าพระผู้เป็นเจ้าจะเห็นและไม่พอใจ และพระองค์ก็จะเลิกโกรธกริ้วเขา อย่าวุ่นวายใจเพราะคนทำความชั่ว หรืออิจฉาคนเลว ด้วยว่าคนชั่วไม่มีอนาคต ตะเกียงของคนเลวจะถูกดับ ลูกเอ๋ย จงเกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้าและกษัตริย์ และจงเชื่อฟังทั้งสอง เพราะว่าความหายนะจากพระผู้เป็นเจ้าและกษัตริย์จะเกิดขึ้นโดยฉับพลัน แล้วใครจะรู้ถึงขนาดของความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากทั้งสอง สิ่งที่จะกล่าวต่อไปนี้มาจากผู้มีสติปัญญาเช่นกัน การตัดสินอย่างลำเอียงเป็นสิ่งไม่ดี คนที่พูดกับคนชั่วว่า “เจ้าไม่มีความผิด” บรรดาชนชาติก็จะสาปแช่ง และบรรดาประชาชาติจะกล่าวโทษเขา แต่คนที่ห้ามคนชั่วไว้จะมีความยินดี และพระพรอันประเสริฐจะเป็นของเขา ใครก็ตามที่ตอบตามความเป็นจริง เป็นเสมือนจูบที่ริมฝีปาก จงเตรียมงานข้างนอกของเจ้าให้เสร็จ ให้ทุกสิ่งในไร่นาพร้อมสำหรับเจ้า และหลังจากนั้นจึงสร้างบ้านของเจ้า อย่าเป็นพยานเท็จต่อต้านเพื่อนบ้านของเจ้าโดยไม่มีสาเหตุ และอย่าหลอกลวงด้วยริมฝีปากของเจ้า อย่าพูดว่า “เราจะกระทำต่อเขาให้เท่ากับที่เขากระทำต่อเรา เราจะสนองตอบคนนั้นตามที่เขาได้กระทำไป” เราผ่านไร่นาของคนเกียจคร้าน ผ่านสวนองุ่นของคนไร้สามัญสำนึก และดูเถิด มีหนามเต็มไปหมด พื้นดินปกคลุมไปด้วยไม้หนาม และกำแพงหินก็ถูกพังทลายลง เราเห็นแล้วก็พิจารณา เรามองดูแล้วก็ได้รับบทเรียน นอนสักนิด หลับสักหน่อย วางมือพักสักประเดี๋ยว แล้วความจนก็จะมาถึงตัวเจ้าประหนึ่งโจรมา และเจ้าจะขาดแคลนประหนึ่งคนถือโล่