เนหะมีย์ 9:4-38

เนหะมีย์ 9:4-38 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

เยชูอา บานี ขัดมีเอล เชบานิยาห์ บุนนี เชเรบิยาห์ บานีและเคนานี ได้ยืนขึ้นที่บันไดของคนเลวี และเขาได้ร้องด้วยเสียงดังต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขา แล้วคนเลวี เยชูอา ขัดมีเอล บานี ฮาชับเนยาห์ เชเรบิยาห์ โฮดียาห์ เชบานิยาห์ และเปธาหิยาห์ กล่าวว่า “จงยืนขึ้นและสรรเสริญพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายตั้งแต่นิรันดร์กาลจนนิรันดร์กาล” สาธุการแด่พระนามอันรุ่งโรจน์ของพระองค์ ซึ่งยิ่งใหญ่เหนือการขอบพระคุณและการสรรเสริญทั้งปวง พระองค์คือพระยาห์เวห์ พระองค์ผู้เดียว พระองค์ได้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์ ฟ้าสวรรค์อันสูงสุดพร้อมกับบริวารทั้งสิ้นของฟ้าสวรรค์นั้น แผ่นดินโลกและทุกสิ่งที่อยู่ในนั้น ทะเลและทุกสิ่งที่อยู่ในนั้น และพระองค์ทรงรักษาทุกสิ่งเหล่านั้นไว้ และบริวารของฟ้าสวรรค์ได้นมัสการพระองค์ พระองค์คือพระยาห์เวห์ พระเจ้าผู้ทรงเลือกอับราม และทรงนำท่านออกมาจากเมืองเออร์แห่งประเทศเคลเดีย และประทานนามท่านว่าอับราฮัม และพระองค์ทรงเห็นว่าใจของท่านซื่อสัตย์ต่อพระองค์ และพระองค์ได้ทรงกระทำพันธสัญญากับท่าน ที่จะประทานแผ่นดินของคนคานาอัน คนฮิตไทต์ คนอาโมไรต์ คนเปริสซี คนเยบุสและคนเกอร์กาชีแก่เชื้อสายของท่าน และพระองค์ทรงกระทำให้พันธสัญญาของพระองค์สำเร็จ เพราะพระองค์ทรงชอบธรรม “และพระองค์ทอดพระเนตรความทุกข์ใจของบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายในอียิปต์และทรงฟังเสียงร้องทุกข์ของเขาทั้งหลายที่ทะเลแดง และพระองค์ทรงกระทำหมายสำคัญและการอัศจรรย์สู้ฟาโรห์และข้าราชการทั้งสิ้น และต่อประชาชนทั้งสิ้นแห่งแผ่นดินของฟาโรห์ เพราะพระองค์ทรงทราบว่า เขาทั้งหลายได้ประพฤติอย่างหยิ่งยโสต่อบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายและพระนามของพระองค์ก็เลื่องลือไป ดังทุกวันนี้ และพระองค์ได้ทรงแยกทะเลต่อหน้าเขาทั้งหลาย พวกเขาจึงเดินไปกลางทะเลบนดินแห้ง และพระองค์ได้ทรงเหวี่ยงผู้ไล่ตามพวกเขาลงในที่ลึกอย่างกับทรงเหวี่ยงหินลงไปในมหาสมุทร ยิ่งกว่านั้น พระองค์ทรงนำพวกเขาในกลางวันด้วยเสาเมฆ และในกลางคืนด้วยเสาเพลิง เพื่อให้แสงแก่เขาในทางที่เขาควรจะไป พระองค์เสด็จลงมาบนภูเขาซีนายและตรัสกับเขาจากฟ้าสวรรค์ และประทานกฎหมายอันชอบและธรรมบัญญัติที่แท้ กฎเกณฑ์และพระบัญญัติที่ดีแก่เขา และพระองค์ทรงให้เขาทราบถึงวันสะบาโตบริสุทธิ์ของพระองค์ และทรงตราพระบัญญัติกฎเกณฑ์และธรรมบัญญัติทางโมเสสผู้รับใช้ของพระองค์ พระองค์ประทานอาหารแก่เขาจากฟ้าสวรรค์แก้ความหิว และทรงนำน้ำออกมาจากศิลาให้เขาแก้กระหาย และพระองค์ทรงสั่งให้เขาเข้าไปยึดแผ่นดินซึ่งพระองค์ทรงปฏิญาณว่า จะประทานให้เขานั้น “แต่เขาทั้งหลาย คือ บรรพบุรุษของพวกข้าพระองค์ได้ประพฤติอย่างหยิ่งยโสและแข็งคอของเขาเสีย ไม่ได้เชื่อฟังพระบัญญัติของพระองค์ เขาทั้งหลายปฏิเสธไม่เชื่อฟัง และไม่เอาใจใส่ในการอัศจรรย์ซึ่งพระองค์ทรงประกอบขึ้นท่ามกลางพวกเขา แต่เขาแข็งคอของเขา และได้แต่งตั้งหัวหน้าเพื่อจะกลับไปสู่ความเป็นทาสของเขาในอียิปต์ แต่พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าพร้อมที่จะทรงให้อภัย ทรงมีพระคุณและพระกรุณา ทรงพระพิโรธช้า และทรงอุดมด้วยความรักมั่นคง และไม่ได้ทรงละทิ้งพวกเขา แม้ว่าพวกเขาได้สร้างรูปโคหล่อไว้สำหรับตัว และกล่าวว่า ‘นี่คือพระเจ้าของเรา ผู้ทรงนำเราขึ้นมาจากอียิปต์’ และได้ทำการหมิ่นประมาทอย่างใหญ่หลวง ด้วยพระกรุณาซับซ้อนของพระองค์ พระองค์ก็ไม่ได้ทรงละทิ้งเขาในถิ่นทุรกันดาร เสาเมฆซึ่งนำเขาในกลางวันไม่ได้พรากจากเขาไป หรือเสาเพลิงในกลางคืนซึ่งให้แสงแก่เขาตามทางซึ่งเขาควรจะไปก็ไม่ได้ขาดไป พระองค์ประทานพระวิญญาณให้สั่งสอนเขา และไม่ได้ทรงยับยั้งมานาของพระองค์เสียจากปากของเขาทั้งหลายและประทานน้ำแก้ความกระหายของเขา พระองค์ทรงเลี้ยงดูเขาทั้งหลายในถิ่นทุรกันดารสี่สิบปี และเขาไม่ขาดสิ่งใดเลย เสื้อผ้าของเขาไม่ขาดวิ่น และเท้าของเขาไม่ได้บวม และยิ่งกว่านั้น พระองค์ทรงมอบราชอาณาจักรและชนชาติทั้งหลายแก่เขา และทรงจัดสรรให้เขาตามเขตแดน เขาจึงได้ยึดแผ่นดินแห่งสิโหนกษัตริย์แห่งเมืองเฮชโบน และแผ่นดินของโอกกษัตริย์แห่งเมืองบาชาน พระองค์ทรงทวีเชื้อสายของเขาอย่างดวงดาวแห่งฟ้าสวรรค์ และพระองค์ทรงนำเขาเข้าไปในแผ่นดิน ซึ่งพระองค์ตรัสสั่งบรรพบุรุษของเขาให้เข้าไปยึดนั้น เชื้อสายเหล่านั้นจึงเข้าไปและยึดแผ่นดินนั้น พระองค์ทรงปราบปรามชาวแผ่นดินนั้น คือคนคานาอันให้พ้นหน้าเขาและทรงมอบคนเหล่านั้นไว้ในมือของเขา พร้อมกับกษัตริย์และชนชาติทั้งหลายแห่งแผ่นดินนั้น ให้ทำแก่คนเหล่านั้นตามชอบใจเขา และเขาจึงเข้ายึดเมืองที่มีป้อมและแผ่นดินอุดม และถือกรรมสิทธิ์บ้านเรือนซึ่งเต็มด้วยของดีทุกอย่าง ทั้งที่ขังน้ำซึ่งสกัดไว้ สวนองุ่น สวนมะกอก และต้นไม้ผลมากมาย เขาจึงได้กินอิ่มสมบูรณ์ และปีติยินดีในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ “แม้กระนั้น เขายังดื้อและกบฏต่อพระองค์ เหวี่ยงธรรมบัญญัติของพระองค์ไว้เบื้องหลัง และได้ฆ่าผู้เผยพระวจนะของพระองค์ ผู้ได้ตักเตือนเขาเพื่อให้เขากลับมาหาพระองค์ และเขาทำการหมิ่นประมาทอย่างใหญ่หลวง เพราะฉะนั้นพระองค์ทรงมอบเขาไว้ในมือศัตรูของเขา ผู้ทำให้เขาทนทุกข์และในเวลาแห่งการทนทุกข์ของเขานั้น เขาร้องทูลต่อพระองค์ และพระองค์ทรงฟังเขาจากฟ้าสวรรค์ พระองค์ได้ประทานพวกผู้ช่วยแก่เขา ผู้ได้ช่วยเขาให้พ้นจากมือศัตรูของเขา ตามพระกรุณาเหลือล้นของพระองค์ แต่เมื่อเขาพักสงบแล้ว เขาก็ทำความชั่วต่อพระพักตร์พระองค์อีก พระองค์จึงทรงปล่อยเขาไว้ในมือศัตรูของเขา ศัตรูจึงได้ปกครองเขา ถึงกระนั้นเมื่อเขาหันมาร้องทูลต่อพระองค์ พระองค์ทรงฟังเขาจากฟ้าสวรรค์และพระองค์ทรงช่วยกู้เขาไว้หลายครั้งหลายหน ตามพระกรุณาของพระองค์ และพระองค์ทรงตักเตือนเขา เพื่อว่าจะทรงหันเขาให้กลับมาสู่ธรรมบัญญัติของพระองค์ แต่เขาก็ยังประพฤติอย่างเย่อหยิ่งอวดดี ไม่ยอมเชื่อฟังพระบัญญัติของพระองค์ แต่ได้ทำผิดต่อกฎหมายของพระองค์ (อันเป็นข้อปฏิบัติซึ่งมนุษย์จะดำรงชีพอยู่ได้) และได้หันบ่าดื้อและคอแข็งเข้าสู้และไม่ได้เชื่อฟัง พระองค์ทรงอดทนกับเขาอยู่หลายปี และทรงเตือนเขาด้วยพระวิญญาณของพระองค์ทางผู้เผยพระวจนะของพระองค์ เขาก็ยังไม่เงี่ยหูฟัง เพราะฉะนั้นพระองค์จึงทรงมอบเขาไว้ในมือของชนชาติทั้งหลายแห่งแผ่นดินนั้น ถึงกระนั้นด้วยพระกรุณาเหลือล้นของพระองค์ พระองค์ไม่ได้ทรงกระทำให้เขาพินาศหรือละทิ้งเขาเสีย เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงมีพระคุณและพระกรุณา “ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย ซึ่งเป็นพระเจ้ายิ่งใหญ่ ทรงฤทธิ์และน่าเกรงกลัว ผู้ทรงรักษาพันธสัญญาและความรักมั่นคง ฉะนั้นขอพระองค์อย่าทรงเห็นว่า ความทุกข์ยากลำบากทั้งสิ้นนั้นเป็นแต่สิ่งเล็กน้อย ซึ่งบังเกิดขึ้นกับข้าพระองค์ทั้งหลาย กับบรรดากษัตริย์ของข้าพระองค์กับบรรดาเจ้านาย บรรดาปุโรหิต บรรดาผู้เผยพระวจนะ บรรพบุรุษและชนชาติของพระองค์ทั้งสิ้น ตั้งแต่สมัยกษัตริย์อัสซีเรีย จนถึงวันนี้ แต่ในบรรดาสิ่งที่เกิดขึ้นแก่ข้าพระองค์ทั้งหลาย พระองค์ทรงยุติธรรม เพราะพระองค์ทรงประกอบกิจอย่างเที่ยงตรง แต่ข้าพระองค์ทั้งหลายประพฤติอย่างอธรรม บรรดากษัตริย์ เจ้านาย ปุโรหิตและบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลาย ไม่ได้รักษาธรรมบัญญัติหรือเชื่อฟังพระบัญญัติของพระองค์ และพระโอวาทของพระองค์ซึ่งพระองค์ทรงเตือนเขา เพราะเขาทั้งหลายไม่ได้ปรนนิบัติพระองค์ในราชอาณาจักรของเขา แม้พระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ พระองค์ประทานแก่เขาและแผ่นดินที่ใหญ่อุดม พระองค์ทรงยกให้แก่เขา แต่เขาไม่ได้หันกลับจากการชั่วร้ายของเขา นี่แน่ะ วันนี้ข้าพระองค์ทั้งหลายเป็นทาส เป็นทาสในแผ่นดินที่พระองค์ประทานแก่บรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลาย เพื่อให้ได้รับประทานพืชผลกับของอันดีของมัน และผลิตผลอันมากมายของแผ่นดินนั้นก็ตกแก่กษัตริย์ ผู้ที่พระองค์ทรงตั้งไว้เหนือข้าพระองค์ทั้งหลายด้วยเหตุบาปของข้าพระองค์ทั้งหลาย พวกเขามีอำนาจเหนือร่างกายและเหนือฝูงสัตว์เลี้ยงของข้าพระองค์ทั้งหลายตามความพอใจของเขาทั้งหลาย และข้าพระองค์ทั้งหลายทุกข์นัก” ด้วยเหตุนี้ เราทั้งหลายจึงทำพันธสัญญามั่นคงและบันทึกไว้ เจ้านาย คนเลวีและปุโรหิตของเราทั้งหลาย จึงประทับตราของเขาไว้

เนหะมีย์ 9:4-38 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

แล้ว​เยชูอา บานี ขัดมีเอล เชบานิยาห์ บุนนี เชเรบิยาห์ บานี และ​เคนานี ต่าง​ก็​ยืน​อยู่​บน​บันได​สำหรับ​พวก​เลวี และ พวกเขา​ร้อง​ด้วย​เสียง​ดัง​ต่อ​พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ของ​พวกเขา แล้ว​เลวี​พวกนี้ คือ​เยชูอา ขัดมีเอล บานี ฮาชับเนยาห์ เชเรบิยาห์ โฮดียาห์ เชบานิยาห์ และ​เปธาหิยาห์ ได้​พูด​ขึ้น​ว่า “ลุกขึ้น และ​สรรเสริญ​พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ของ​พวกท่าน​เถิด ข้าแต่​พระยาห์เวห์ พระเจ้า​ของ​พวกเรา ขอ​พระองค์​ได้รับ​การ​เชิดชู​ตลอด​ชั่วนิจ​นิรันดร์​ถึง​ชั่วนิจ​นิรันดร์ ขอให้​พวกเขา​เชิดชู​ชื่อ​อัน​ยิ่งใหญ่​ของ​พระองค์ ซึ่ง​ได้รับ​การ​ยกย่อง​เหนือ​คำเชิดชู​และ​คำสรรเสริญ​ทั้งปวง พระองค์​เป็น​พระเจ้า ข้าแต่​พระยาห์เวห์ มี​แต่​พระองค์​เท่านั้น​ที่​เป็น​พระเจ้า พระองค์​เป็น​ผู้สร้าง​ท้องฟ้า สวรรค์​ชั้น​สูงสุด และ​ดวงดาว​ทั้งสิ้น​ใน​ท้องฟ้า พระองค์​สร้าง​โลก​และ​ทุกสิ่ง​บน​โลก พระองค์​สร้าง​ทะเล​และ​ทุกอย่าง​ที่​อยู่​ใน​ทะเล พระองค์​ให้​ชีวิต​กับ​ทุกสิ่ง และ​พวก​ดวงดาว​ทั้งหลาย​บน​ท้องฟ้า​นมัสการ​พระองค์ พระองค์​คือ​พระยาห์เวห์ พระเจ้า​ผู้​เลือก​อับราม และ​นำ​ตัวเขา​ออก​มา​จาก​เมือง​เออร์​แห่ง​ประเทศ​เคลเดีย และ​ตั้งชื่อ​ให้​เขา​ว่า​อับราฮัม พระองค์​เห็น​ว่า​เขา​มี​จิตใจ​ซื่อสัตย์​ต่อ​พระองค์ ดังนั้น​พระองค์​จึง​ทำ​ข้อตกลง​กับเขา ที่​จะ​ยก​แผ่นดิน​ของ​คน​เหล่านี้​ให้​กับ​ลูกหลาน​ของเขา คือ​แผ่นดิน​ของ​คน​คานาอัน คน​ฮิตไทต์ คน​อาโมไรต์ คน​เปริสซี​คน​เยบุส และ​คน​เกอร์กาชี พระองค์​ได้​ทำ​ตาม​คำพูด​ของ​พระองค์ เพราะ​พระองค์​นั้น​ซื่อสัตย์ พระองค์​ได้​เห็น​ถึง​ความ​ทุกข์ทรมาน​ของ​บรรพบุรุษ​ของ​พวกเรา​ใน​อียิปต์ และ​พระองค์​ได้ยิน​เสียง​ร้อง​ให้ช่วย​ของ​พวกเขา​ที่​ทะเล​ต้นอ้อ พระองค์​ได้​แสดง​ปรากฏการณ์​ต่างๆ​และ​สิ่ง​มหัศจรรย์​ต่างๆ เพื่อ​ต่อต้าน​ฟาโรห์ กษัตริย์​ของ​อียิปต์ และ​ต่อต้าน​พวก​ข้าราชการ​ทั้งสิ้น และ​ประชาชน​บน​แผ่นดิน​ของ​กษัตริย์​ฟาโรห์ เพราะ​พระองค์​รู้​ว่า​พวกเขา​ได้​ข่มเหง​บรรพบุรุษ​ของ​พวกเรา พระองค์​ก็​เลย​มี​ชื่อเสียง​โด่งดัง​มา​จนถึง​ทุกวันนี้ พระองค์​ได้​แยก​ทะเล​ออก​ต่อหน้า​พวกเขา และ​พวกเขา​เดิน​ผ่าน​ทะเล​ไป​บน​พื้น​แห้ง แต่​พระองค์​ได้​โยน​พวก​ที่​ไล่ตาม​พวกเขา​ลง​ทะเล​ลึก เหมือน​ก้อนหิน​ที่​ถูก​โยน​ลงไป​ใน​ทะเล​ที่​ปั่นป่วน พระองค์​ได้​นำทาง​พวกเขา​ด้วย​เสาเมฆ​ใน​ตอน​กลางวัน​และ​ด้วย​เสาไฟ​ใน​ตอน​กลางคืน เพื่อ​ส่อง​ทาง​ให้​พวกเขา​เดิน​ไป​ใน​ทาง​ที่​พวกเขา​ควรไป พระองค์​ลง​มา​อยู่​บน​ภูเขา​ซีนาย และ​พูด​กับ​พวกเขา​จาก​สวรรค์ และ​ได้​มอบ​กฎระเบียบ​ที่​ถูกต้อง​และ​กฎบัญญัติ​ที่​แท้จริง รวมทั้ง​พวก​บัญญัติ​และ​คำสั่ง​ต่างๆ​ที่ดี​ให้กับ​พวกเขา และ​พระองค์​ได้​บอก​ให้​พวกเขา​รู้​เกี่ยวกับ​วันหยุด​อัน​ศักดิ์สิทธิ์​ของ​พระองค์ และ​พระองค์​ให้​คำสั่ง​ต่างๆ กฎระเบียบ และ​บัญญัติ​กับ​พวกเขา ผ่าน​ทาง​โมเสส ผู้รับใช้​ของ​พระองค์ ใน​ยาม​ที่​พวกเขา​หิว พระองค์​ให้​อาหาร​กับ​พวกเขา​จาก​สวรรค์ ใน​ยาม​ที่​พวกเขา​กระหาย พระองค์​ให้​น้ำ​ไหล​ออก​จาก​หิน​มาให้​พวกเขา​ดื่ม พระองค์​บอก​ให้​พวกเขา​ไป​ยึด​เอา​แผ่นดิน​ที่​พระองค์​ได้​สัญญา​ว่า​จะ​มอบ​ให้​กับ​พวกเขา แต่​พวก​บรรพบุรุษ​ของ​พวกเรา​ทำ​ตัว​เย่อหยิ่ง​จองหอง​และ​หัวแข็ง​ดื้อรั้น พวกเขา​ไม่ยอม​ฟัง​คำสั่ง​ต่างๆ​ของ​พระองค์ พวกเขา​ไม่ยอม​เชื่อฟัง​และ​พวกเขา​ไม่ได้​จดจำ ถึง​การอัศจรรย์​ต่างๆ​ของ​พระองค์​ที่​พระองค์​ได้​ทำไป​ท่ามกลาง​พวกเขา แต่​พวกเขา​กลับ​หัวแข็ง​ดื้อรั้น​และ​ได้​แต่งตั้ง​หัวหน้า​ขึ้นมา เพื่อ​นำ​พวกเขา​กลับไป​เป็น​ทาส​ใน​อียิปต์​อีก แต่​พระองค์​เป็น​พระเจ้า​ที่​ให้​อภัย มี​ใจ​เมตตา​และ​กรุณา มี​ความ​อดทน​และ​มี​ความรัก​อัน​มั่นคง ดังนั้น​พระองค์​จึง​ไม่ได้​ทอดทิ้ง​พวกเขา ถึงแม้​พวก​บรรพบุรุษ​ของ​พวกเรา​จะ​หล่อ​โลหะ​รูปลูกวัว​ขึ้นมา​สำหรับ​พวกเขา​เอง และ​บอก​ว่า ‘นี่​คือ​พระเจ้า​ของ​เจ้า​ที่​นำ​เจ้า​ออก​มา​จาก​อียิปต์’ ถึงแม้​การ​กระทำ​นี้​จะ​ดูหมิ่น​พระองค์​อย่างยิ่ง แต่​พระองค์​เต็ม​เปี่ยม​ไปด้วย​ความ​เมตตา​กรุณา พระองค์​ก็​เลย​ไม่ได้​ทอดทิ้ง​พวกเขา​ไว้​ใน​ทะเลทราย เสาเมฆ​ไม่ได้​หยุด​นำทาง​พวกเขา​ใน​การ​เดินทาง​ตอน​กลางวัน​และ​เสาไฟ​ใน​ตอน​กลางคืน ก็​ไม่ได้​หยุด​ส่องแสง​ให้​กับ​พวกเขา​ใน​ทาง​ที่​พวกเขา​ควร​จะไป พระองค์​ได้​ให้​พระวิญญาณ​อันดี​ของ​พระองค์​เพื่อ​สอน​พวกเขา พระองค์​ไม่ได้​เอา​อาหาร​ทิพย์ ไป​จาก​ปาก​ของ​พวกเขา และ​พระองค์​ได้​ให้​น้ำ​เพื่อ​ดับ​กระหาย​กับ​พวกเขา พระองค์​ดูแล​พวกเขา​เป็น​เวลา​สี่สิบ​ปี​ใน​ทะเลทราย โดย​ที่​พวกเขา​ไม่ขาด​อะไร​เลย เสื้อผ้า​ของ​พวกเขา​ก็​ไม่​ฉีกขาด และ​เท้า​ของเขา​ก็​ไม่บวม พระองค์​มอบ​อาณาจักร​ต่างๆ​และ​ชนชาติ​ต่างๆ​ให้​กับ​พวกเขา พระองค์​ได้​ให้​แผ่นดิน​เหล่านี้​กลาย​เป็น​แนว​ชายแดน​ให้​กับ​พวกเขา พวกเขา​ได้​ยึดครอง​แผ่นดิน​ของ​กษัตริย์​สิโหน​แห่ง​เมือง​เฮชโบน และ​แผ่นดิน​ของ​กษัตริย์​โอก​แห่ง​แคว้น​บาชาน พระองค์​ทำให้​พวกเขา​มี​ลูกหลาน​มากมาย​มหาศาล​เหมือน​ดวงดาว​บน​ท้องฟ้า พระองค์​นำ​พวกเขา​มา​ยัง​แผ่นดิน​ที่​พระองค์​บอก​บรรพบุรุษ​ของ​พวกเขา​ให้​เข้าไป​ยึดครอง ดังนั้น พวก​ลูกหลาน​ของ​พวกเขา​จึง​เข้า​ไป​ยึดครอง​แผ่นดิน​นั้น และ​พระองค์​ได้​ปราบ​พวก​ชาว​คานาอัน​ที่​อาศัย​อยู่เดิม​ให้​พ่ายแพ้​ไป และ​ให้​พวก​ชาว​คานาอัน​ตก​อยู่​ใน​กำมือ​ของ​บรรพบุรุษ​ของ​พวกเรา รวมถึง​พวก​กษัตริย์ และ​ประชาชน​ของ​แผ่นดิน​นั้น พวก​บรรพบุรุษ​ของ​พวกเรา​สามารถ​จัดการ​กับ​พวกเขา​ได้​ตาม​ใจชอบ พวกเขา​ยึด​เมือง​ที่​มี​ป้อม​ปราการ​และ​แผ่นดิน​ที่​อุดม​สมบูรณ์ พวกเขา​ยึด​บ้าน​ต่างๆ​ที่​เต็ม​ไปด้วย​ของดีๆ​ที่​มีทั้ง​บ่อน้ำ​ที่​ขุด​ไว้แล้ว ไร่องุ่น ต้น​มะกอก​และ​ต้น​ผลไม้​มากมาย พวกเขา​กินกัน​จน​อิ่มแปล้​และ​อ้วนท้วน และ​พวกเขา​ต่าง​ก็​มี​ความสุข​ใน​ความ​ดีงาม​อัน​ยิ่งใหญ่​ของ​พระองค์ แต่​พวกเขา​กลับ​ไม่​เชื่อฟัง และ​กบฏ​ต่อ​พระองค์ และ​โยน​บัญญัติ​ของ​พระองค์​ทิ้งไป นอกจากนั้น​พวกเขา​ยัง​ฆ่า​พวก​ผู้พูดแทนพระองค์​ที่​ได้​ตักเตือน​พวกเขา​ให้​กลับ​มาหา​พระองค์ พวกเขา​ได้​ดูหมิ่น​พระองค์​อย่าง​ใหญ่หลวง ดังนั้น​พระองค์​จึง​มอบ​พวกเขา​ให้​ตก​ไปอยู่​ใน​กำมือ​พวกศัตรู และ​ศัตรู​พวกนั้น ได้​ข่มเหง​พวกเขา​อย่าง​ทารุณ​โหดร้าย ใน​ยาม​ที่​พวกเขา​ทุกข์ยาก พวกเขา​ต่าง​ร้องขอ​ความช่วยเหลือ​จาก​พระองค์ และ​พระองค์​ได้ยิน​เสียง​พวกเขา​จาก​สวรรค์ พระองค์​ก็​ส่ง​ผู้กู้ชาติ​มา​ช่วย​พวกเขา​ครั้งแล้ว​ครั้งเล่า​ให้​รอดพ้น​จาก​เงื้อมมือ​ของ​พวกศัตรู เพราะ​พระองค์​เต็มเปี่ยม​ไปด้วย​ความ​เมตตา​กรุณา แต่​ทันที​ที่​พวกเขา​ได้รับ​การ​ปลด​ปล่อย​จาก​พวกศัตรู พวกเขา​ก็​ได้​ทำ​ใน​สิ่ง​ที่​พระองค์​ถือว่า​เป็น​สิ่งชั่วร้าย​อีก ดังนั้น​พระองค์​จึง​ปล่อย​ให้​พวกเขา​ตก​ไปอยู่​ใน​กำมือ​ของ​พวกศัตรู​อีก แล้ว​พวกศัตรู​เหล่านั้น​ก็​ได้​ปกครอง​เหนือ​พวกเขา แต่​แล้ว​เมื่อ​พวกเขา​ร้องขอ​ความช่วยเหลือ​จาก​พระองค์ พระองค์​ก็​ได้ยิน​พวกเขา​จาก​สวรรค์ แล้ว​ช่วยกู้​พวกเขา​ครั้งแล้ว​ครั้งเล่า เพราะ​พระองค์​เต็มเปี่ยม​ไปด้วย​ความ​เมตตา​กรุณา พระองค์​เตือน​พวกเขา​เพื่อ​ให้​พวกเขา​กลับ​มาหา​คำสอน​ของ​พระองค์ แต่​พวกเขา​กลับ​เย่อหยิ่ง​จองหอง​และ​ไม่ยอม​เชื่อฟัง​คำสั่ง​ต่างๆ​ของ​พระองค์ พวกเขา​ทำบาป​ต่อ​กฎ​ของ​พระองค์​ซึ่ง​เป็น​กฎ​ที่​นำ​ชีวิต​มาให้​กับ​คน​ที่​รักษา​กฎ​เหล่านั้น พวกเขา​ยักไหล่​อย่าง​ดื้อรั้น​และ​หัวแข็ง​ดื้อดึง และ​ไม่ยอม​ฟัง พระองค์​อดทน​กับ​พวกเขา​อยู่​หลายปี และ​พระองค์​ได้​เตือน​พวกเขา​ด้วยพระวิญญาณ​ผ่าน​ทาง​พวก​ผู้พูดแทนพระองค์ แต่​พวกเขา​ก็​ยัง​ไม่ยอม​ฟัง จน​ในที่สุด​พระองค์​ได้​มอบ​พวกเขา​ให้​กับ​พวก​ชนชาติ​ต่างๆ แต่​ถึง​อย่างนั้น​ก็ตาม พระองค์​ก็​เต็มเปี่ยม​ไปด้วย​ความ​เมตตา​กรุณา พระองค์​ไม่ได้​ทำลาย​พวกเขา​อย่าง​สิ้นซาก และ​ไม่ได้​ทอดทิ้ง​พวกเขา เพราะ​พระองค์​เป็น​พระเจ้า​ผู้​ทรง​พระคุณ​และ​ความ​เมตตา​กรุณา ข้าแต่​พระเจ้า​ของ​พวกเรา พระเจ้า​ที่​ยิ่งใหญ่​ผู้มี​ฤทธิ์​อำนาจ​และ​น่าเกรง​ขาม พระองค์​รักษา​คำมั่น​สัญญา​ด้วย​ความรัก​อัน​สัตย์ซื่อ ขอ​พระองค์​อย่า​ได้​ถือ​ว่า​ความ​ทุกข์ยาก​ทั้งหลาย​ที่​เกิดขึ้น​กับ​พวกเรา​ตั้งแต่​สมัย​ของ​กษัตริย์​อัสซีเรีย​จนถึง​ตอนนี้​เป็น​เรื่อง​เล็กน้อย​เลย คือ ความ​ทุกข์ยาก​ที่​เกิดขึ้น​กับ​พวก​กษัตริย์​ของเรา กับ​พวก​ผู้นำ​เรา กับ​เหล่า​นักบวช​ของเรา กับ​คน​เหล่านั้น​ที่​พูด​แทน​พระองค์​ให้กับ​เรา กับ​พวก​บรรพบุรุษ​ของเรา และ​กับ​ประชาชน​ทุกคน​ของ​พระองค์ ทุกสิ่ง​ที่​เกิดขึ้น​กับ​เรา​นั้น พระองค์​ทำ​อย่าง​ยุติธรรม​แล้ว พระองค์​ทำ​ใน​สิ่ง​ที่​ซื่อสัตย์ ใน​ขณะที่​พวกเรา​ทำ​แต่​ความผิด พวก​กษัตริย์ พวก​ผู้นำ พวก​นักบวช และ​พวก​บรรพบุรุษ​ของ​เรา ไม่ได้​รักษา​กฎบัญญัติ​ของ​พระองค์ พวกเขา​ไม่​ใส่ใจ​กับ​คำสั่ง​ต่างๆ​และ​คำตักเตือน​ที่​พระองค์​ให้​กับ​พวกเขา แม้แต่​ตอนที่​พวกเขา​อยู่​ใน​อาณาจักร​ของ​พวกเขา​เอง และ​มี​ความสุข​กับ​ความเจริญ​รุ่งเรือง​อัน​ยิ่งใหญ่ และ​แผ่นดิน​อัน​กว้างใหญ่​ที่​อุดม​สมบูรณ์​ที่​พระองค์​มอบ​ให้​กับ​พวกเขา พวกเขา​ก็​ไม่ได้​รับใช้​พระองค์​และ​ไม่ได้​หัน​ไป​จาก​การกระทำ​อัน​ชั่วร้าย​ของ​พวกเขา ดูสิ วันนี้​พวกเรา​ได้​ตก​เป็น​ทาส พระองค์​ได้​ยก​แผ่นดิน​นี้​ให้​กับ​บรรพบุรุษ​ของ​พวกเรา เพื่อ​พวกเขา​จะได้​กิน​ผลไม้​และ​สิ่งดีๆ​จาก​แผ่นดิน​นี้ แต่​พวกเรา​กลับ​ตก​เป็น​ทาส​อยู่​ใน​แผ่นดิน​นี้ แล้ว​ผลผลิต​มากมาย​ของ​แผ่นดิน​นี้ ตอนนี้​ได้​ตก​ไป​เป็น​ของ​พวก​กษัตริย์​ที่​พระองค์​ได้​ตั้งไว้​เหนือ​เรา​เนื่องจาก​บาป​ที่​เราทำ พวกเขา​ใช้​อำนาจ​เหนือ​เรา​และ​ฝูงสัตว์​ของเรา​ตาม​ความพอใจ​ของ​พวกเขา ใน​ขณะที่​เรา​ต้อง​ทนทุกข์​อย่าง​ใหญ่หลวง แต่​ถึงแม้ว่า​เรา​จะ​เจอ​กับ​เรื่อง​ทั้งหมด​นี้ เรา​ก็​กำลัง​ทำ​สัญญา​อัน​มั่นคง​กับ​พระองค์ และ​บันทึก​ไว้แล้ว​ให้​พวก​ผู้นำ พวก​ชาว​เลวี​และ​พวก​นักบวช​ของเรา​ลงชื่อ​และ​ประทับ​ตรา ของ​พวกเขา​ไว้”

เนหะมีย์ 9:4-38 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

เยชู​อา บาน​ี ขั​ดม​ีเอล เชบานิยาห์ บุ​นนี เชเรบิยาห์ บาน​ีและเคนานี คนเลว​ี ได้​ยืนขึ้​นที​่​บันได และเขาได้ร้องด้วยเสียงดังต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเขา แล​้วคนเลวี เยชู​อา ขั​ดม​ีเอล บาน​ี ฮาชั​บน​ิยาห์ เชเรบิยาห์ โฮดียาห์ เชบานิยาห์ และเปธาหิยาห์ กล่าวว่า “จงยืนขึ้นและสรรเสริญพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายตั้งแต่​นิรันดร์​กาลจนนิรันดร์​กาล สาธุ​การแด่พระนามอั​นร​ุ่งโรจน์ของพระองค์ ซึ่งยิ่งใหญ่เหนือการโมทนาและการสรรเสริญทั้งปวง พระองค์​คือพระเยโฮวาห์​พระองค์​องค์​เดียว พระองค์​ได้​ทรงสร้างฟ้าสวรรค์ ฟ้าสวรรค์อันสูงสุดพร้อมกับบริวารทั้งสิ้นของฟ้าสวรรค์​นั้น แผ่​นดินโลกและบรรดาสิ่งที่​อยู่​ในนั้น ทะเลและบรรดาสิ่งที่​อยู่​ในนั้น และพระองค์ทรงรักษาสิ่งทั้งปวงเหล่านั้นไว้ และบริวารของฟ้าสวรรค์​ได้​นม​ัสการพระองค์ พระองค์​คือพระเยโฮวาห์พระเจ้าผู้ทรงเลือกอับราม และทรงนำท่านออกมาจากเมืองเออร์​แห่​งประเทศเคลเดีย และทรงประทานนามท่านว่าอับราฮัม และพระองค์ทรงเห็​นว​่าน้ำใจของท่านสัตย์ซื่อต่อพระพักตร์​พระองค์ และพระองค์​ได้​ทรงกระทำพันธสัญญากั​บท​่าน ที่​จะประทานแผ่นดินของคนคานาอัน คนฮิตไทต์ คนอาโมไรต์ คนเปริสซี คนเยบุส และคนเกอร์กาชี​ให้​แก่​เชื้อสายของท่าน และพระองค์ทรงกระทำให้คำตรัสของพระองค์​สำเร็จ เพราะพระองค์​ชอบธรรม และพระองค์ทอดพระเนตรความทุกข์ใจของบรรพบุรุษของข้าพระองค์ในอียิปต์ และฟังเสียงร้องทุกข์ของเขาทั้งหลายที่ทะเลแดง และพระองค์ทรงกระทำหมายสำคัญและการมหัศจรรย์​สู้​ฟาโรห์​และข้าราชการทั้งสิ้น และต่อประชาชนทั้งสิ้นแห่งแผ่นดินของฟาโรห์ เพราะพระองค์ทรงทราบว่าเขาทั้งหลายได้​ประพฤติ​อย่างหยิ่งยโสต่อบรรพบุรุษของข้าพระองค์ และพระนามของพระองค์​ก็​ลือไป ดังทุกวันนี้ และพระองค์​ได้​ทรงแยกทะเลต่อหน้าเขาทั้งหลาย เขาจึงเดินไปกลางทะเลบนดินแห้ง และพระองค์​ได้​ทรงเหวี่ยงผู้ข่มเหงเขาทั้งหลายลงในที่ลึกอย่างกับทรงเหวี่ยงหินลงไปในมหาสมุทร ยิ่งกว่านั้​นอ​ีก พระองค์​ทรงนำเขาในกลางวันด้วยเสาเมฆและในกลางคืนด้วยเสาเพลิง เพื่อให้​แสงแก่เขาในทางที่เขาควรจะไป พระองค์​เสด็จลงมาบนภูเขาซีนายและตรัสกับเขาจากฟ้าสวรรค์ และประทานคำตัดสิ​นอ​ันชอบ และพระราชบัญญั​ติ​ที่แท้ กฎเกณฑ์​และพระบัญญั​ติ​ที่​ดี​แก่​เขา และพระองค์ทรงให้เขาทราบถึงวันสะบาโตบริ​สุทธิ​์ของพระองค์ และทรงบัญชาข้​อบ​ังคับ กฎเกณฑ์​และพระราชบัญญั​ติ​ทางโมเสสผู้​รับใช้​ของพระองค์ พระองค์​ประทานอาหารแก่เขาจากฟ้าสวรรค์​แก้​ความหิว และทรงนำน้ำออกมาจากศิลาให้เขาแก้​กระหาย และพระองค์ทรงสัญญาไว้ว่าจะให้เขาเข้าไปยึดแผ่นดินซึ่งพระองค์ทรงปฏิญาณว่าจะประทานให้เขานั้น แต่​เขาทั้งหลาย คือบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายได้​ประพฤติ​อย่างหยิ่งยโส และแข็งคอของเขาเสีย มิได้​เชื่อฟังพระบัญญั​ติ​ของพระองค์ เขาทั้งหลายปฏิเสธไม่​เชื่อฟัง และไม่​เอาใจใส่​ในการมหัศจรรย์ซึ่งพระองค์ทรงประกอบขึ้นท่ามกลางเขา แต่​เขาแข็งคอของเขา และในการกบฏนั้นได้​แต่​งตั้งหัวหน้าเพื่อจะกลับไปสู่ความเป็นทาสเขา แต่​พระองค์​ทรงเป็นพระเจ้าพร้อมที่จะทรงให้​อภัย มี​พระทัยเมตตาและกรุณา ทรงพระพิโรธช้า และทรงอุดมด้วยความเมตตา และมิ​ได้​ทรงละทิ้งเขาทั้งหลาย แม้ว​่าเขาทั้งหลายได้สร้างรูปวัวหล่อไว้สำหรับตัวและกล่าวว่า ‘​นี่​คือพระเจ้าของเจ้า ผู้​ทรงนำเจ้าขึ้นมาจากอียิปต์’ และได้กระทำการหมิ่นประมาทอย่างใหญ่​หลวง ด้วยพระกรุณาซับซ้อนของพระองค์ พระองค์​ก็​มิได้​ทรงละทิ้งเขาในถิ่นทุ​รก​ันดาร เสาเมฆซึ่งนำเขาในกลางวั​นม​ิ​ได้​พรากจากเขาไป หรือเสาเพลิงในกลางคืนซึ่งให้แสงแก่เขาตามทางซึ่งเขาควรจะไปก็​มิได้​ขาดไป พระองค์​ประทานพระวิญญาณอันประเสริฐให้สั่งสอนเขา และมิ​ได้​ทรงยับยั้งมานาของพระองค์เสียจากปากของเขาทั้งหลาย และประทานน้ำแก้กระหายของเขา เออ พระองค์​ทรงชุบเลี้ยงเขาทั้งหลายในถิ่นทุ​รก​ันดารสี่​สิ​บปี และเขามิ​ได้​ขาดสิ่งใดเลย เสื้อผ้าของเขาไม่​ขาดวิ่น และเท้าของเขามิ​ได้​บวม และยิ่งกว่านั้​นอ​ีก พระองค์​ทรงมอบราชอาณาจักรและชนชาติทั้งหลายแก่​เขา และทรงปันให้เขาตามเขตแดน เขาจึงได้ยึดแผ่นดินแห่งสิ​โหน และแผ่นดินของกษั​ตริ​ย์​แห่​งเมืองเฮชโบน และแผ่นดินของโอกกษั​ตริ​ย์​แห่​งเมืองบาชาน พระองค์​ทรงทวีลูกหลานของเขาอย่างดวงดาวแห่งฟ้าสวรรค์ และพระองค์ทรงนำเขาเข้าไปในแผ่นดิน ซึ่งพระองค์ตรั​สส​ัญญาไว้กับบรรพบุรุษของเขาให้​เข​้าไปยึดนั้น ลูกหลานเหล่านั้นจึงเข้าไปและยึดแผ่นดินนั้น พระองค์​ทรงปราบปรามชาวแผ่นดินนั้น คือคนคานาอันให้พ้นหน้าเขา และทรงมอบเขาทั้งหลายไว้ในมือของเขา พร​้อมกับกษั​ตริ​ย์และชนชาติทั้งหลายแห่งแผ่นดินนั้น ให้​ได้​กระทำแก่คนเหล่านั้นตามชอบใจเขา และเขาจึงเข้ายึดหัวเมืองที่​มี​ป้อม และแผ่นดิ​นอ​ุ​ดม และถือกรรมสิทธิ์เรือนซึ่งเต็​มด​้วยของดี​ทั้งปวง ทั้งที่​ขังน้ำซึ่งสกัดไว้ สวนองุ่น สวนมะกอกเทศ และต้นผลไม้​มากมาย เขาจึงได้กิ​นอ​ิ่มจนอ้​วน และปี​ติ​ยินดี​ในพระคุณยิ่งของพระองค์ ถึงกระนั้​นก​็​ดี เขาไม่เชื่อฟังและได้กบฏต่อพระองค์ เหว​ี่ยงพระราชบัญญั​ติ​ของพระองค์​ไว้​เบื้องหลัง และได้ฆ่าผู้​พยากรณ์​ของพระองค์ ผู้​ซึ่งได้ตักเตือนเขาเพื่อให้เขากลับมาหาพระองค์ และเขากระทำการหมิ่นประมาทอย่างใหญ่​หลวง เพราะฉะนั้นพระองค์ทรงมอบเขาไว้ในมือศั​ตรู​ของเขา ผู้​ซึ่งกระทำให้เขาทนทุกข์และในเวลาแห่งการทนทุกข์ของเขานั้น เขาร้องทูลต่อพระองค์ และพระองค์ทรงฟังเขาจากฟ้าสวรรค์ พระองค์​ได้​ประทานบรรดาผู้ช่วยแก่​เขา ผู้​ได้​ช่วยเขาให้พ้นจากมือศั​ตรู​ของเขาตามพระกรุณาซับซ้อนของพระองค์ แต่​เมื่อเขาพักสงบแล้ว เขาก็กระทำความชั่วต่อพระพักตร์​พระองค์​อีก พระองค์​จึงทรงสละเขาไว้ในมือศั​ตรู​ของเขา ศัตรู​จึงได้ปกครองเขา ถึงกระนั้นเมื่อเขาหันมาร้องทูลต่อพระองค์ พระองค์​ทรงฟังเขาจากฟ้าสวรรค์ และพระองค์ทรงช่วยเขาให้พ้นหลายครั้งหลายหน ตามพระกรุณาของพระองค์ และพระองค์ทรงตักเตือนเขา เพื่อว่าจะทรงหันเขาให้​กล​ับมาสู่​พระราชบัญญัติ​ของพระองค์ แต่​เขาก็ยังประพฤติอย่างเย่อหยิ่งอวดดี ไม่​ยอมเชื่อฟังพระบัญญั​ติ​ของพระองค์ แต่​ได้​กระทำผิดต่อคำตัดสินของพระองค์ (อันเป็นข้อปฏิบั​ติ​ซึ่งมนุษย์จะดำรงชีพอยู่​ได้​) และได้หันบ่าดื้อและคอแข็งเข้าสู้และมิ​ได้​เชื่อฟัง พระองค์​ทรงอดทนกับเขาอยู่หลายปี และทรงเตือนเขาด้วยพระวิญญาณของพระองค์ทางผู้​พยากรณ์​ของพระองค์ เขาก็ยังไม่​เงี่ยหู​ฟัง เพราะฉะนั้นพระองค์จึงทรงมอบเขาไว้ในมือของชนชาติทั้งหลายแห่งแผ่นดินนั้น ถึงกระนั้นด้วยพระกรุณาซับซ้อนของพระองค์ พระองค์​มิได้​ทรงกระทำให้เขาพินาศหรือละทิ้งเขาเสีย เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงพระเมตตาและพระกรุณา ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์​ทั้งหลาย ซึ่งเป็นพระเจ้าใหญ่​ยิ่ง ทรงฤทธิ์และน่าเกรงกลัว ผู้​ทรงรักษาพันธสัญญาและความเมตตา ฉะนั้นบัดนี้ขอพระองค์อย่าทรงเห็​นว​่าความทุกข์ยากลำบากทั้งสิ้นนั้นเป็นแต่​สิ​่งเล็กน้อยซึ่​งบ​ังเกิดขึ้​นก​ับข้าพระองค์​ทั้งหลาย กับบรรดากษั​ตริ​ย์ของข้าพระองค์ กับบรรดาเจ้านาย บรรดาปุโรหิต บรรดาผู้​พยากรณ์ บรรพบุรุษ และชนชาติของพระองค์​ทั้งสิ้น ตั้งแต่​สม​ัยกษั​ตริ​ย์อัสซีเรีย จนถึงวันนี้ แต่​ในบรรดาสิ่งที่​เก​ิดขึ้นแก่ข้าพระองค์​ทั้งหลาย พระองค์​ยุติธรรม เพราะพระองค์ทรงประกอบกิจอย่างเที่ยงตรง แต่​ข้าพระองค์ทั้งหลายประพฤติอย่างชั่วร้าย บรรดากษั​ตริ​ย์ เจ้านาย ปุ​โรหิต และบรรพบุรุษของข้าพระองค์​ทั้งหลาย มิได้​รักษาพระราชบัญญั​ติ​ของพระองค์ หรือเชื่อฟังพระบัญญั​ติ​ของพระองค์ และพระโอวาทของพระองค์ซึ่งพระองค์ทรงเตือนเขา เพราะเขาทั้งหลายมิ​ได้​ปรนนิบัติ​พระองค์​ในราชอาณาจักรของเขา ในพระคุณยิ่งของพระองค์ซึ่งพระองค์ทรงประทานแก่​เขา และในแผ่นดิ​นที​่​ใหญ่​อุ​ดมซึ่งพระองค์ทรงยกให้​แก่​เขา และเขามิ​ได้​หันกลับจากการชั่วร้ายของเขา ดู​เถิด วันนี้​ข้าพระองค์ทั้งหลายเป็นทาสในแผ่นดิ​นที​่​พระองค์​ประทานแก่บรรพบุรุษของข้าพระองค์​ทั้งหลาย เพื่อให้​ได้​รับประทานพืชผลกับของอันดีของมัน ดู​เถิด ข้าพระองค์ทั้งหลายเป็นทาสในแผ่นดินนั้น และผลิตผลอันมากมายของแผ่นดินนั้​นก​็ตกแก่​กษัตริย์​ผู้​ที่​พระองค์​ทรงตั้งไว้เหนือข้าพระองค์​ทั้งหลาย ด้วยเหตุบาปของข้าพระองค์​ทั้งหลาย เขาทั้งหลายมีอำนาจเหนือร่างกาย และเหนือฝูงสัตว์ของข้าพระองค์​ทั้งหลาย ตามความพอใจของเขาทั้งหลาย และข้าพระองค์ทั้งหลายทุกข์​นัก เหตุ​บรรดาสิ่งเหล่านี้เราทั้งหลายจึงกระทำพันธสัญญามั่นคงและบันทึกไว้ เจ้านาย คนเลว​ีและปุโรหิตของเราทั้งหลายจึงประทับตราของเขาไว้”

เนหะมีย์ 9:4-38 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

เยชูอา บานี ขัดมีเอล เชบานิยาห์ บุนนี เชเรบิยาห์ บานีและเคนานี ได้ยืนขึ้นที่บันไดของคนเลวี และเขาได้ร้องด้วยเสียงดังต่อพระเยโฮวาห์ พระเจ้าของเขา แล้วคนเลวี เยชูอา ขัดมีเอล บานี ฮาชับเนยาห์ เชเรบิยาห์ โฮดียาห์ เชบานิยาห์ และเปธาหิยาห์ กล่าวว่า <<จงยืนขึ้นและสรรเสริญพระเยโฮวาห์พระเจ้าของ ท่านทั้งหลายตั้งแต่นิรันดร์กาลจนนิรันดร์กาล>> สาธุการแด่พระนามอันรุ่งโรจน์ของพระองค์ ซึ่งยิ่งใหญ่เหนือการโมทนาและการสรรเสริญทั้งปวง พระองค์คือพระเยโฮวาห์ พระองค์องค์เดียว พระองค์ได้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์ ฟ้าสวรรค์อันสูงสุดพร้อมกับบริวารทั้งสิ้นของฟ้าสวรรค์นั้น แผ่นดินโลกและบรรดาสิ่งที่อยู่ในนั้น ทะเลและบรรดาสิ่งที่อยู่ในนั้น และพระองค์ทรงรักษาสิ่งทั้งปวงเหล่านั้นไว้ และบริวารของฟ้าสวรรค์ได้นมัสการพระองค์ พระองค์คือพระเยโฮวาห์ พระเจ้าผู้ทรงเลือกอับราม และทรงนำท่านออกมาจากเมืองเออร์ แห่งประเทศเคลเดีย และทรงประทานนามท่านว่าอับราฮัม และพระองค์ทรงเห็นว่าน้ำใจของท่านซื่อสัตย์ต่อพระองค์ และพระองค์ได้ทรงกระทำพันธสัญญากับท่าน ที่จะประทานแผ่นดินของคนคานาอัน คนฮิตไทต์ คนอาโมไรต์ คนเปริสซี คนเยบุสและคนเกอร์กาชีให้แก่ เชื้อสายของท่าน และพระองค์ทรงกระทำให้พันธสัญญาของพระองค์สำเร็จ เพราะพระองค์ชอบธรรม <<และพระองค์ทอดพระเนตรความทุกข์ใจของบรรพบุรุษของ ข้าพระองค์ในอียิปต์และฟังเสียงร้องทุกข์ของ เขาทั้งหลายที่ทะเลแดง และพระองค์ทรงกระทำหมายสำคัญและการอัศจรรย์สู้ ฟาโรห์และข้าราชการทั้งสิ้น และต่อประชาชนทั้งสิ้นแห่งแผ่นดินของ ฟาโรห์เพราะพระองค์ทรงทราบว่า เขาทั้งหลายได้ประพฤติอย่างหยิ่งยโสต่อบรรพบุรุษของ ข้าพระองค์และพระนามของพระองค์ก็ลือไป ดังทุกวันนี้ และพระองค์ได้ทรงแยกทะเลต่อหน้าเขาทั้งหลาย เขาจึงเดินไปกลางทะเลบนดินแห้ง และพระองค์ได้ทรงเหวี่ยงผู้ไล่ตามเขาทั้งหลายลง ในที่ลึกอย่างกับทรงเหวี่ยงหินลงไปในมหาสมุทร ยิ่งกว่านั้นอีก พระองค์ทรงนำเขาในกลางวันด้วยเสาเมฆ และในกลางคืนด้วยเสาเพลิง เพื่อให้แสงแก่เขาในทางที่เขาควรจะไป พระองค์เสด็จลงมาบนภูเขาซีนายและตรัสกับเขาจากฟ้าสวรรค์ และประทานกฎหมายอันชอบและธรรมบัญญัติที่แท้ กฎเกณฑ์และพระบัญญัติที่ดีแก่เขา และพระองค์ทรงให้เขาทราบถึงวัน สะบาโตบริสุทธิ์ของพระองค์ และทรงตราพระบัญญัติกฎเกณฑ์และธรรมบัญญัติทาง โมเสสผู้รับใช้ของพระองค์ พระองค์ประทานอาหารแก่เขาจากฟ้าสวรรค์แก้ ความหิว และทรงนำน้ำออกมาจากศิลาให้เขาแก้กระหาย และพระองค์ทรงสั่งให้เขาเข้าไปยึดแผ่นดินซึ่ง พระองค์ทรงปฏิญาณว่า จะประทานให้เขานั้น <<แต่เขาทั้งหลาย คือ บรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายได้ประพฤติอย่างหยิ่งยโส และแข็งคอของเขาเสียมิได้เชื่อฟังพระบัญญัติของพระองค์ เขาทั้งหลายปฏิเสธไม่เชื่อฟัง และไม่เอาใจใส่ในการอัศจรรย์ซึ่งพระองค์ทรงประกอบ ขึ้นท่ามกลางเขา แต่เขาแข็งคอของเขา และได้แต่งตั้งหัวหน้าเพื่อจะกลับไปสู่ความเป็นทาส เขาในอียิปต์ แต่พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าพร้อมที่จะทรงให้อภัย มีพระทัยเมตตาและกรุณา ทรงพระพิโรธช้า และทรงอุดมด้วยความรักมั่นคง และมิได้ทรงละทิ้งเขาทั้งหลาย แม้ว่าเขาทั้งหลายได้สร้างรูปโคหล่อไว้สำหรับตัว และกล่าวว่า <นี่คือพระเจ้าของเรา ผู้ทรงนำเราขึ้นมาจากอียิปต์> และได้กระทำการหมิ่นประมาทอย่างใหญ่หลวง ด้วยพระกรุณาซับซ้อนของพระองค์ พระองค์ก็มิได้ทรงละทิ้งเขาในถิ่นทุรกันดาร เสาเมฆซึ่งนำเขาในกลางวันมิได้พรากจากเขาไป หรือเสาเพลิงในกลางคืนซึ่งให้แสงแก่เขาตามทาง ซึ่งเขาควรจะไปก็มิได้ขาดไป พระองค์ประทานพระวิญญาณให้สั่งสอนเขา และมิได้ทรงยับยั้งมานา ของพระองค์เสียจากปากของเขาทั้งหลายและประทาน น้ำแก้กระหายของเขา เออ พระองค์ทรงชุบเลี้ยงเขาทั้งหลายในถิ่นทุรกันดารสี่สิบปี และเขามิได้ขาดสิ่งใดเลย เสื้อผ้าของเขาไม่ขาดวิ่น และเท้าของเขามิได้บวม และยิ่งกว่านั้นอีก พระองค์ทรงมอบราชอาณาจักรและชนชาติทั้งหลาย แก่เขาและทรงปันให้เขาตามเขตแดน เขาจึงได้ยึดแผ่นดินแห่งสิโหนกษัตริย์แห่งเมืองเฮชโบน และแผ่นดินของโอกกษัตริย์แห่งเมืองบาชาน พระองค์ทรงทวีเชื้อสายของเขาอย่างดวงดาวแห่ง ฟ้าสวรรค์ และพระองค์ทรงนำเขาเข้าไปในแผ่นดิน ซึ่งพระองค์ตรัสสั่งบรรพบุรุษของเขาให้ เข้าไปยึดนั้น เชื้อสายเหล่านั้นจึงเข้าไปและยึดแผ่นดินนั้น พระองค์ทรงปราบปรามชาวแผ่นดินนั้น คือคนคานาอันให้พ้นหน้าเขาและทรงมอบเขาทั้งหลาย ไว้ในมือของเขา พร้อมกับพระราชาและชนชาติทั้งหลายแห่งแผ่นดินนั้น ให้ได้กระทำแก่คนเหล่านั้นตามชอบใจเขา และเขาจึงเข้ายึดหัวเมืองที่มีป้อมและแผ่นดินอุดม และถือกรรมสิทธิ์เรือนซึ่งเต็มด้วยของดีทั้งปวง ทั้งที่ขังน้ำซึ่งสกัดไว้ สวนองุ่น สวนมะกอกเทศ และต้นไม้ผลมากมาย เขาจึงได้กินอิ่มจนอ้วน และปีติยินดีในพระคุณยิ่งของพระองค์ <<ถึงกระนั้นก็ดี เขาดื้อและได้กบฏต่อพระองค์ เหวี่ยงธรรมบัญญัติของพระองค์ไว้เบื้องหลัง และได้ฆ่าผู้เผยพระวจนะของพระองค์ ผู้ซึ่งได้ตักเตือนเขาเพื่อให้เขากลับมาหาพระองค์ และเขากระทำการหมิ่นประมาทอย่างใหญ่หลวง เพราะฉะนั้นพระองค์ทรงมอบเขาไว้ในมือศัตรูของเขา ผู้ซึ่งกระทำให้เขาทนทุกข์และในเวลาแห่งการทนทุกข์ ของเขานั้น เขาร้องทูลต่อพระองค์ และพระองค์ทรงฟังเขาจากฟ้าสวรรค์ พระองค์ได้ประทานบรรดาผู้ช่วยแก่เขา ผู้ได้ช่วยเขาให้พ้นจากมือศัตรูของเขา ตามพระกรุณาซับซ้อนของพระองค์ แต่เมื่อเขาพักสงบแล้ว เขาก็กระทำความชั่วต่อพระพักตร์พระองค์อีก พระองค์จึงทรงสละเขาไว้ในมือศัตรูของเขา ศัตรูจึงได้ปกครองเขา ถึงกระนั้นเมื่อเขาหันมาร้องทูลต่อพระองค์ พระองค์ทรงฟังเขาจากฟ้าสวรรค์และพระองค์ทรงช่วยกู้ เขาไว้หลายครั้งหลายหน ตามพระกรุณาของพระองค์ และพระองค์ทรงตักเตือนเขา เพื่อว่าจะทรงหันเขาให้กลับมาสู่ธรรมบัญญัติของพระองค์ แต่เขาก็ยังประพฤติอย่างเย่อหยิ่งอวดดี ไม่ยอมเชื่อฟังพระบัญญัติของพระองค์ แต่ได้กระทำผิดต่อกฎหมายของพระองค์ (อันเป็นข้อปฏิบัติซึ่งมนุษย์จะดำรงชีพอยู่ได้) และได้หันบ่าดื้อและคอแข็งเข้าสู้และมิได้เชื่อฟัง พระองค์ทรงอดทนกับเขาอยู่หลายปี และทรงเตือนเขาด้วยพระวิญญาณของพระองค์ทาง ผู้เผยพระวจนะของพระองค์ เขาก็ยังไม่เงี่ยหูฟัง เพราะฉะนั้นพระองค์จึงทรงมอบเขาไว้ในมือของชนชาติ ทั้งหลายแห่งแผ่นดินนั้น ถึงกระนั้นด้วยพระกรุณาซับซ้อนของพระองค์ พระองค์มิได้ทรงกระทำให้เขาพินาศหรือละทิ้งเขาเสีย เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงพระเมตตาและพระกรุณา <<ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย ซึ่งเป็นพระเจ้าใหญ่ยิ่ง ทรงฤทธิ์และน่าเกรงกลัว ผู้ทรงรักษาพันธสัญญาและความรักมั่นคง ฉะนั้นขอพระองค์อย่าทรงเห็นว่า ความทุกข์ยากลำบากทั้งสิ้นนั้นเป็นแต่สิ่งเล็กน้อย ซึ่งบังเกิดขึ้นกับข้าพระองค์ทั้งหลาย กับบรรดาพระราชาของข้าพระองค์กับบรรดาเจ้านาย บรรดาปุโรหิต บรรดาผู้เผยพระวจนะ บรรพบุรุษและชนชาติของพระองค์ทั้งสิ้น ตั้งแต่สมัยพระราชา อัสซีเรีย จนถึงวันนี้ แต่ในบรรดาสิ่งที่เกิดขึ้นแก่ข้าพระองค์ทั้งหลาย พระองค์ยุติธรรม เพราะพระองค์ทรงประกอบกิจอย่างเที่ยงตรง แต่ข้าพระองค์ทั้งหลายประพฤติอย่างอธรรม บรรดาพระราชา เจ้านาย ปุโรหิตและบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลาย มิได้รักษาธรรมบัญญัติหรือเชื่อฟังพระบัญญัติของพระองค์ และพระโอวาทของพระองค์ซึ่งพระองค์ทรงเตือนเขา เพราะเขาทั้งหลายมิได้ปรนนิบัติพระองค์ใน ราชอาณาจักรของเขา แม้พระคุณยิ่งของพระองค์ พระองค์ทรงประทานแก่เขาและแผ่นดินที่ใหญ่อุดม พระองค์ทรงยกให้แก่เขา และเขามิได้หันกลับจากการชั่วร้ายของเขา ดูเถิด วันนี้ข้าพระองค์ทั้งหลายเป็นทาส เป็นทาสในแผ่นดินที่พระองค์ประทานแก่บรรพบุรุษของ ข้าพระองค์ทั้งหลาย เพื่อให้ได้รับประทานพืชผลกับของอันดีของมัน และผลิตผลอันมากมายของแผ่นดินนั้นก็ตกแก่พระราชา ผู้ที่พระองค์ทรงตั้งไว้เหนือข้าพระองค์ทั้งหลายด้วยเหตุ บาปของข้าพระองค์ทั้งหลาย เขาทั้งหลายมีอำนาจเหนือร่างกายและเหนือฝูงสัตว์ของ ข้าพระองค์ทั้งหลายตามความพอใจของเขาทั้งหลาย และข้าพระองค์ทั้งหลายทุกข์นัก>> เหตุสิ่งเหล่านี้เราทั้งหลายจึงกระทำพันธสัญญามั่นคง และบันทึกไว้ เจ้านาย คนเลวีและปุโรหิตของเราทั้งหลาย จึงประทับตราของเขาไว้

เนหะมีย์ 9:4-38 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

คนเลวีบางคนได้แก่ เยชูอา บานี ขัดมีเอล เชบานิยาห์ บุนนี เชเรบิยาห์ บานี และเคนานี ยืนอยู่บนขั้นบันได พวกเขาร้องทูลพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขาด้วยเสียงอันดัง และคนเลวีได้แก่ เยชูอา ขัดมีเอล บานี ฮาชับเนยาห์ เชเรบิยาห์ โฮดียาห์ เชบานิยาห์ และเปธาหิยาห์ กล่าวว่า “จงยืนขึ้นสรรเสริญพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านผู้ทรงดำรงอยู่ตั้งแต่นิรันดร์กาลจวบจนนิรันดร์กาล” “ขอถวายสรรเสริญแด่พระนามอันสูงส่งของพระองค์ ขอให้เป็นที่เทิดทูนเหนือการยกย่องสรรเสริญทั้งปวง พระองค์ผู้เดียวทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงสร้างฟ้าสวรรค์ ทรงสร้างแม้กระทั่งฟ้าสวรรค์สูงสุดและดวงดาวทั้งปวงในฟากฟ้า ทรงสร้างแผ่นดินโลกกับท้องทะเลและสรรพสิ่งในนั้น พระองค์ประทานชีวิตแก่ทุกสิ่ง และชาวสวรรค์นมัสการพระองค์ “พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าพระยาห์เวห์ ผู้ทรงเลือกสรรอับรามและนำเขาออกมาจากเมืองเออร์ของชาวเคลเดียและประทานนามแก่เขาว่าอับราฮัม พระองค์ทรงเห็นว่าเขามีใจซื่อสัตย์ต่อพระองค์ และทรงทำพันธสัญญากับเขาว่าจะประทานดินแดนของชาวคานาอัน ชาวฮิตไทต์ ชาวอาโมไรต์ ชาวเปริสซี ชาวเยบุส และชาวเกอร์กาชีแก่วงศ์วานของเขา พระองค์ทรงทำตามพระสัญญาเพราะพระองค์ทรงชอบธรรม “พระองค์ทอดพระเนตรความทุกข์ยากของบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายในอียิปต์ ทรงฟังคำร้องทูลของพวกเขาที่ทะเลแดง พระองค์ทรงแสดงหมายสำคัญและการอัศจรรย์ต่างๆ เพื่อต่อสู้กับฟาโรห์ เหล่าข้าราชบริพาร และชาวอียิปต์ทั้งปวง เพราะทรงทราบว่าชาวอียิปต์ปฏิบัติต่อบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายอย่างเย่อหยิ่ง พระองค์ทรงทำให้พระนามของพระองค์เลื่องลือมาจนถึงทุกวันนี้ พระองค์ทรงแยกทะเลออกเพื่อบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายจะได้เดินข้ามบนดินแห้ง แต่พระองค์ทรงกวาดศัตรูที่รุกไล่มาลงในห้วงน้ำลึก เหมือนก้อนหินตกสู่กระแสน้ำเชี่ยว พระองค์ทรงนำพวกเขาด้วยเสาเมฆในเวลากลางวันและเสาเพลิงในเวลากลางคืนเพื่อให้ความสว่างตามทางที่จะไป “พระองค์เสด็จลงมาเหนือภูเขาซีนายและตรัสกับเขาเหล่านั้นจากฟ้าสวรรค์ และประทานกฎระเบียบกับบทบัญญัติที่เที่ยงตรงและถูกต้องและประทานกฎหมายกับพระบัญชาอันดีงาม พระองค์ทรงสอนพวกเขาให้รู้จักสะบาโตอันบริสุทธิ์ของพระองค์ และประทานพระบัญชา กฎหมาย และบทบัญญัติผ่านทางโมเสสผู้รับใช้ของพระองค์ ยามพวกเขาหิว พระองค์ประทานอาหารจากฟ้าสวรรค์ ยามพวกเขากระหายก็ประทานน้ำจากศิลา พระองค์ทรงบัญชาให้พวกเขาเข้าไปยึดครองดินแดนซึ่งพระองค์ได้ทรงยกพระหัตถ์ปฏิญาณมอบให้แก่พวกเขาแล้ว “แต่บรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายเย่อหยิ่งและดื้อดึง ไม่ยอมเชื่อฟังพระบัญชาของพระองค์ ไม่ยอมรับฟัง และไม่ได้จดจำการอัศจรรย์ต่างๆ ที่ทรงทำในหมู่พวกเขา แต่กลับใจแข็งและคิดคดทรยศ และตั้งผู้นำคนหนึ่งเพื่อพากันกลับไปเป็นทาสในอียิปต์ แต่พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ให้อภัย ทรงเปี่ยมด้วยพระคุณและความเอ็นดูสงสาร ทรงพระพิโรธช้าและเปี่ยมด้วยความรัก ฉะนั้นพระองค์จึงไม่ได้ทรงทอดทิ้งพวกเขา แม้แต่ขณะที่พวกเขาได้หล่อเทวรูปลูกวัวขึ้นสำหรับตนและประกาศว่า ‘นี่คือพระเจ้าผู้พาเราออกมาจากอียิปต์’ หรือขณะที่พวกเขาหมิ่นประมาทอย่างร้ายแรง “เนื่องด้วยพระกรุณาคุณอันยิ่งใหญ่ พระองค์ไม่ได้ทรงละทิ้งพวกเขาไว้ในถิ่นกันดาร เสาเมฆยังคงนำพวกเขาไปตามทางในเวลากลางวันและเสาเพลิงยังส่องทางตลอดค่ำคืน พระองค์ประทานพระวิญญาณล้ำเลิศมาสั่งสอนพวกเขา พระองค์ไม่ได้ให้มานาของพระองค์ขาดจากปากของพวกเขาและพระองค์ประทานน้ำดับความกระหายให้พวกเขา ตลอดสี่สิบปีพระองค์ทรงเลี้ยงดูพวกเขาในถิ่นกันดาร พวกเขาไม่ขัดสนสิ่งใด เสื้อผ้าของเขาไม่ได้เก่าคร่ำคร่าและเท้าก็ไม่ได้บวมช้ำ “พระองค์ทรงมอบอาณาจักรและชนชาติต่างๆ แก่พวกเขา ทรงแบ่งสรรปันส่วนให้แม้แต่ชายแดนที่ไกลโพ้น พวกเขายึดครองดินแดนของกษัตริย์สิโหนแห่งเฮชโบนและดินแดนของกษัตริย์โอกแห่งบาชาน พระองค์ทรงโปรดให้พวกเขามีลูกหลานมากมายเหมือนดวงดาวในท้องฟ้า และนำพวกเขามายังดินแดนซึ่งพระองค์ตรัสสั่งบรรพบุรุษของพวกเขาให้เข้าครอบครอง ลูกหลานของพวกเขาเข้ายึดครองดินแดนนั้น พระองค์ทรงปราบชาวคานาอันซึ่งอยู่ในดินแดนนั้นลงต่อหน้าพวกเขา ทรงมอบชาวคานาอัน รวมทั้งกษัตริย์และประชาชนในดินแดนนั้นแก่พวกเขา แล้วแต่พวกเขาจะจัดการตามใจชอบ พวกเขายึดหัวเมืองป้อมปราการและดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ ครอบครองบ้านเรือนที่มีแต่ของดีๆ ทั้งนั้น มีบ่อน้ำที่ขุดแล้ว สวนองุ่น สวนมะกอก และผลหมากรากไม้อุดมสมบูรณ์ พวกเขาจึงอิ่มหนำและอิ่มเอมกับความประเสริฐเลิศล้ำของพระองค์ “แต่พวกเขาไม่เชื่อฟังและกบฏต่อพระองค์ ทอดทิ้งบทบัญญัติ สังหารบรรดาผู้เผยพระวจนะของพระองค์ซึ่งเตือนให้พวกเขาหันกลับมาหาพระองค์ พวกเขาหมิ่นประมาทพระองค์อย่างร้ายแรง ฉะนั้นพระองค์ทรงมอบพวกเขาไว้ในมือของศัตรูผู้ที่กดขี่ข่มเหงพวกเขา แต่เมื่อพวกเขาถูกกดขี่ข่มเหง พวกเขาก็ร้องทูลพระองค์ พระองค์ทรงสดับฟังจากฟ้าสวรรค์และโปรดประทานผู้ช่วยกู้มาช่วยพวกเขาให้พ้นจากมือของเหล่าศัตรูด้วยความเอ็นดูสงสาร “แต่พอพวกเขาได้พักสงบ พวกเขาก็ทำสิ่งที่ชั่วในสายพระเนตรของพระองค์อีก พระองค์จึงทรงทิ้งพวกเขาไว้ในมือของศัตรู ให้ศัตรูปกครองพวกเขา และเมื่อพวกเขาร้องทูลพระองค์อีก พระองค์ก็ทรงสดับฟังจากฟ้าสวรรค์และทรงกอบกู้พวกเขาครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยความเอ็นดูสงสาร “พระองค์ทรงเตือนให้พวกเขาหันกลับมายังบทบัญญัติของพระองค์ แต่พวกเขาหยิ่งผยองและไม่เชื่อฟังพระบัญชาของพระองค์ พวกเขาทำบาปต่อข้อปฏิบัติของพระองค์ซึ่งถ้าผู้ใดปฏิบัติตามจะมีชีวิตอยู่ พวกเขาหันหลังให้พระองค์อย่างดื้อรั้นอวดดีและไม่ยอมฟัง พระองค์ทรงอดกลั้นพระทัยต่อพวกเขามาตลอดหลายปี พระองค์ทรงเตือนสติพวกเขาโดยพระวิญญาณของพระองค์ผ่านทางผู้เผยพระวจนะของพระองค์ แต่พวกเขาก็ไม่แยแส พระองค์จึงทรงมอบพวกเขาไว้ในเงื้อมมือของชนชาติเพื่อนบ้าน แต่ด้วยพระกรุณาธิคุณอันใหญ่หลวง พระองค์ไม่ได้ทรงทำลายพวกเขาจนย่อยยับหรือทอดทิ้งพวกเขาไป เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้เปี่ยมด้วยพระคุณและพระเมตตา “ฉะนั้นบัดนี้ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย ผู้ทรงเป็นพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ ทรงฤทธิ์และน่าเกรงขาม ผู้ทรงรักษาพันธสัญญาแห่งความรักของพระองค์ ขออย่าให้ความทุกข์ยากลำบากทั้งปวงนี้เป็นสิ่งเล็กน้อยในสายพระเนตรของพระองค์ ความทุกข์ยากที่เกิดขึ้นกับข้าพระองค์ทั้งหลายกับบรรดากษัตริย์และเหล่าผู้นำกับบรรดาปุโรหิต และผู้เผยพระวจนะทั้งหลายของเรากับบรรพบุรุษของเราและปวงประชากรของพระองค์ตั้งแต่สมัยเหล่ากษัตริย์แห่งอัสซีเรียจนถึงวันนี้ ทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับข้าพระองค์ทั้งหลายนั้น พระองค์ทรงเที่ยงธรรม พระองค์ทรงทำทุกอย่างด้วยความซื่อสัตย์ขณะที่ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ทำผิด บรรดากษัตริย์ ผู้นำ ปุโรหิต และบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายไม่ได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระองค์ พวกเขาไม่ใส่ใจพระบัญชาและพระดำรัสเตือนของพระองค์ แม้ขณะที่พวกเขาอยู่ในอาณาจักรของพวกเขา ได้ชื่นชมความดีเลิศที่ทรงมีต่อพวกเขาในดินแดนอันกว้างขวางและอุดมสมบูรณ์ที่ทรงประทาน พวกเขาไม่ได้ปรนนิบัติรับใช้พระองค์หรือหันจากทางชั่วของพวกเขา “แต่ดูเถิด วันนี้ข้าพระองค์ทั้งหลายตกเป็นทาสในดินแดนซึ่งทรงประทานแก่เหล่าบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายเพื่อพวกเขาจะได้อิ่มเอมกับพืชผลและสิ่งดีงามทั้งปวงของดินแดนนั้น เนื่องจากบาปของข้าพระองค์ทั้งหลาย ผลผลิตอันมั่งคั่งจึงตกเป็นของบรรดากษัตริย์ซึ่งพระองค์ทรงให้ปกครองข้าพระองค์ทั้งหลาย เขาเหล่านั้นใช้อำนาจเหนือร่างกายและเหนือฝูงสัตว์ของข้าพระองค์ทั้งหลายตามใจชอบ ข้าพระองค์ทั้งหลายทุกข์ยากแสนสาหัส “เนื่องจากสิ่งทั้งปวงนี้ ข้าพระองค์ทั้งหลายขอทำข้อตกลงอันมั่นคงและบันทึกไว้ บรรดาผู้นำ คนเลวี และปุโรหิตประทับตราของพวกเขารับรอง”

เนหะมีย์ 9:4-38 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

ชาว​เลวี​ที่​ยืน​บน​ขั้น​บันได​คือ เยชูอา บานี ขัดมีเอล เช-บานิยาห์ บุนนี เชเรบิยาห์ บานี และ​เคนานี และ​พวก​เขา​ร้อง​เสียง​ดัง​ต่อ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​พวก​เขา เยชูอา ขัดมีเอล บานี ฮาชับเนยาห์ เชเรบิยาห์ โฮดียาห์ เช-บานิยาห์ และ​เปธาหิยาห์ ซึ่ง​เป็น​ชาว​เลวี ก็​พูด​ว่า “จง​ลุก​ขึ้น​ยืน และ​สรรเสริญ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​ท่าน จาก​นิรันดร์​กาล​จน​ถึง​นิรันดร์​กาล สรรเสริญ​พระ​นาม​อัน​ยิ่ง​ใหญ่ ซึ่ง​ได้​รับ​การ​ยกย่อง​เหนือ​พระ​พร​และ​คำ​สรรเสริญ​ทั้ง​ปวง พระ​องค์​คือ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​องค์​เพียง​ผู้​เดียว พระ​องค์​ได้​สร้าง​ฟ้า​สวรรค์ สวรรค์​อัน​สูง​สุด​พร้อม​ด้วย​หมู่​ดาว​ทั้ง​ปวง แผ่น​ดิน​โลก​และ​ทุก​สิ่ง​ที่​อยู่​ใน​นั้น ทะเล​และ​ทุก​สิ่ง​ที่​มี​อยู่​ใน​ที่​เหล่า​นั้น พระ​องค์​ให้​ชีวิต​แก่​สิ่ง​ทั้ง​ปวง และ​หมู่​ดาว​ก็​นมัสการ​พระ​องค์ พระ​องค์​คือ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ผู้​เลือก​อับราม และ​นำ​ท่าน​ออก​ไป​จาก​เมือง​เออร์​ของ​ชาว​เคลเดีย และ​ตั้ง​ชื่อ​ท่าน​ว่า อับราฮัม พระ​องค์​พบ​ว่า​ท่าน​มี​ใจ​ภักดี ณ เบื้อง​หน้า​พระ​องค์ และ​ทำ​พันธ​สัญญา​กับ​ท่าน เพื่อ​มอบ​ดิน​แดน​ของ​ชาว​คานาอัน ชาว​ฮิต ชาว​อาโมร์ ชาว​เปริส ชาว​เยบุส และ​ชาว​เกอร์กาช ให้​แก่​ผู้​สืบ​เชื้อสาย​ของ​ท่าน และ​พระ​องค์​ได้​รักษา​คำ​สัญญา เพราะ​พระ​องค์​มี​ความ​ชอบธรรม และ​พระ​องค์​เห็น​ความ​ทุกข์​ทรมาน​ของ​บรรพบุรุษ​ของ​เรา​ใน​อียิปต์ และ​ได้ยิน​เสียง​ร้อง​ของ​พวก​เขา​ที่​ทะเล​แดง และ​แสดง​ปรากฏการณ์​และ​สิ่ง​มหัศจรรย์​ต่อต้าน​ฟาโรห์​และ​บรรดา​ผู้​รับใช้ และ​ประชาชน​ทั้ง​ปวง​ใน​แผ่น​ดิน​ของ​เขา เพราะ​พระ​องค์​ทราบ​ว่า พวก​เขา​ประพฤติ​ด้วย​ความ​ยโส​ต่อ​บรรพบุรุษ​ของ​เรา และ​พระ​องค์​ทำ​ให้​พระ​นาม​ของ​พระ​องค์​เป็น​ที่​เลื่องลือ อย่าง​ที่​เป็น​มา​จน​ถึง​ทุก​วัน​นี้ และ​พระ​องค์​ทำ​ให้​ทะเล​แยก​ออก​จาก​กัน​ต่อ​หน้า​พวก​เขา เพื่อ​ให้​พวก​เขา​ผ่าน​น้ำ​ทะเล​ไป​ได้​บน​พื้น​ดิน​แห้ง และ​พระ​องค์​เหวี่ยง​พวก​ที่​ตาม​ล่า​ให้​จม​ลง​ใน​น้ำ​ลึก ดั่ง​ก้อน​หิน​ที่​จม​ดิ่ง​ลง​ใน​กระแส​น้ำ​อัน​แรง​กล้า พระ​องค์​นำ​พวก​เขา​ใน​ตอน​กลาง​วัน​ใน​รูป​ลักษณ์​ของ​เมฆ​ก้อน​มหึมา​ดั่ง​เสา​หลัก และ​ใน​ตอน​กลาง​คืน​ใน​รูป​ลักษณ์​ของ​เพลิง​ไฟ​ขนาด​มหึมา​ดั่ง​เสา​หลัก เพื่อ​ส่อง​สว่าง​นำ​พวก​เขา​ให้​เดิน​ตาม​ทาง​ที่​ควร​จะ​ไป พระ​องค์​ลง​มา​บน​ภูเขา​ซีนาย และ​กล่าว​แก่​พวก​เขา​จาก​ท้องฟ้า และ​ให้​การ​ตัดสิน​ที่​ถูกต้อง กฎ​บัญญัติ​ที่​แท้ กฎ​เกณฑ์​และ​พระ​บัญญัติ​ที่​ดี​แก่​พวก​เขา และ​พระ​องค์​ให้​พวก​เขา​ทราบ​ถึง​วัน​สะบาโต​อัน​บริสุทธิ์​ของ​พระ​องค์ และ​บัญชา​พวก​เขา​ใน​เรื่อง​พระ​บัญญัติ กฎ​เกณฑ์ และ​กฎ​บัญญัติ ผ่าน​ทาง​โมเสส​ผู้​รับใช้​ของ​พระ​องค์ เมื่อ​พวก​เขา​หิว พระ​องค์​ก็​ให้​อาหาร​ตก​ลง​มา​จาก​ฟ้า​แก่​พวก​เขา เมื่อ​พวก​เขา​กระหาย พระ​องค์​ก็​ให้​น้ำ​ไหล​ออก​มา​จาก​หิน และ​พระ​องค์​บัญชา​พวก​เขา​ให้​เข้า​ไป​ยึด​ครอง​แผ่น​ดิน​ที่​พระ​องค์​ได้​ปฏิญาณ​ว่า​จะ​มอบ​ให้​แก่​พวก​เขา แต่​พวก​เขา​และ​บรรพบุรุษ​ของ​เรา​ต่าง​ยโส​และ​ดื้อ​ด้าน และ​ไม่​ปฏิบัติ​ตาม​คำ​สั่ง​ของ​พระ​องค์ พวก​เขา​ไม่​ยอม​ฟัง และ​ไม่​ระลึก​ถึง​สิ่ง​อัศจรรย์​ที่​พระ​องค์​กระทำ​ใน​หมู่​พวก​เขา แต่​หัว​ดื้อ​และ​แต่ง​ตั้ง​หัวหน้า​เพื่อ​ให้​นำ​พวก​เขา​กลับ​ไป​เป็น​ทาส​ใน​อียิปต์ แต่​พระ​องค์​เป็น​พระ​เจ้า​พร้อม​จะ​ยกโทษ พระ​องค์​มี​พระ​คุณ​และ​ความ​สงสาร ไม่​โกรธ​ง่าย เปี่ยม​ด้วย​ความ​รัก​อัน​มั่นคง และ​ไม่​ได้​ทอดทิ้ง​พวก​เขา แม้​เวลา​ที่​พวก​เขา​ได้​หล่อ​รูป​ลูก​โค​ทองคำ และ​พูด​ว่า ‘นี่​คือ​พระ​เจ้า​ของ​พวก​เจ้า ผู้​นำ​เจ้า​ออก​มา​จาก​อียิปต์’ และ​ก็​ได้​พูด​หมิ่น​ประมาท​พระ​องค์​อย่าง​ร้าย​แรง พระ​องค์​มี​ความ​เมตตา​ยิ่ง​นัก และ​ไม่​ได้​ทอดทิ้ง​พวก​เขา​ใน​ถิ่น​ทุรกันดาร เมฆ​ก้อน​มหึมา​ดั่ง​เสา​หลัก​นำ​ทาง​ล่วง​หน้า​พวก​เขา​ใน​ตอน​กลาง​วัน​ไม่​ได้​ห่าง​ไป​จาก​พวก​เขา เพลิง​ไฟ​ขนาด​มหึมา​ดั่ง​เสา​หลัก​ใน​ตอน​กลาง​คืน เพื่อ​ส่อง​ความ​สว่าง​ช่วย​ให้​พวก​เขา​เดิน​ตาม​ทาง​ที่​ควร​จะ​ไป พระ​องค์​ประทาน​พระ​วิญญาณ​ประเสริฐ​ของ​พระ​องค์​เพื่อ​สอน​พวก​เขา และ​ไม่​ขยัก​มานา​ของ​พระ​องค์​จาก​ปาก​ของ​พวก​เขา และ​ให้​น้ำ​แก่​พวก​เขา​เมื่อ​กระหาย พระ​องค์​ช่วย​พวก​เขา​ให้​อยู่​รอด​ใน​ถิ่น​ทุรกันดาร พวก​เขา​ไม่​ขาด​เหลือ​สิ่ง​ใด เสื้อ​ผ้า​ที่​พวก​เขา​สวม​ใส่​ไม่​ฉีก​ขาด และ​เท้า​ก็​ไม่​บวม พระ​องค์​มอบ​บรรดา​อาณาจักร​และ​ประชา​ชาติ​ให้​แก่​พวก​เขา และ​พระ​องค์​จัด​เขต​ที่​ดิน​อัน​แสน​ไกล​ให้​ด้วย พวก​เขา​จึง​ยึด​แผ่น​ดิน​ของ​สิโหน​กษัตริย์​แห่ง​เฮชโบน และ​แผ่น​ดิน​ของ​โอก​กษัตริย์​แห่ง​บาชาน พระ​องค์​เพิ่ม​บุตร​หลาน​มาก​มาย​ราว​กับ​ดวง​ดาว​บน​ท้องฟ้า​ให้​แก่​พวก​เขา พระ​องค์​นำ​พวก​เขา​ไป​ใน​แผ่น​ดิน​ที่​พระ​องค์​ได้​บอก​แก่​บรรพบุรุษ เพื่อ​ให้​เข้า​ไป​ยึด​ครอง ดังนั้น​บรรดา​ผู้​สืบ​เชื้อสาย​จึง​เข้า​ไป​ยึด​ครอง​แผ่น​ดิน และ​พระ​องค์​ทำ​ให้​บรรดา​ผู้​อยู่​อาศัย​ใน​แผ่น​ดิน​คานาอัน​พ่าย​แพ้​ต่อ​หน้า​เขา​ทั้ง​ปวง และ​มอบ​ไว้​ใน​มือ​ของ​พวก​เขา รวม​ทั้ง​บรรดา​กษัตริย์​และ​ประชาชน​ของ​แผ่น​ดิน และ​กระทำ​ต่อ​คน​เหล่า​นั้น​ตาม​ที่​ต้องการ พวก​เขา​ยึด​เมือง​ต่างๆ ที่​คุ้มกัน​ไว้​อย่าง​แข็ง​แกร่ง และ​แผ่น​ดิน​อัน​อุดม และ​ยึด​บ้าน​เรือน​ซึ่ง​มี​ข้าว​ของ​เครื่อง​ใช้​พร้อม บ่อ​ก็​ขุด​ไว้​แล้ว สวน​องุ่น สวน​มะกอก และ​ต้นไม้​ชนิด​มี​ผล​จำนวน​มาก ดังนั้น พวก​เขา​รับ​ประทาน​อย่าง​อิ่ม​หนำ ได้​สุข​สำราญ​กับ​ความ​ประเสริฐ​เลิศ​ล้ำ​ของ​พระ​องค์ แม้​กระนั้น พวก​เขา​ก็​ยัง​ดื้อดึง​และ​ขัดขืน​ต่อ​พระ​องค์ และ​หัน​หลัง​ให้​กฎ​บัญญัติ​ของ​พระ​องค์ และ​ฆ่า​บรรดา​ผู้เผย​คำกล่าว​ของ​พระ​องค์ ซึ่ง​ได้​เตือน​พวก​เขา​ให้​หัน​กลับ​เข้า​หา​พระ​องค์ และ​พวก​เขา​พูด​หมิ่น​ประมาท​มาก ฉะนั้น​พระ​องค์​มอบ​พวก​เขา​ไว้​ใน​มือ​ของ​พวก​ศัตรู​ซึ่ง​กดขี่​ข่มเหง และ​ใน​เวลา​ที่​พวก​เขา​ทน​ทุกข์ พวก​เขา​ก็​ร่ำร้อง​ต่อ​พระ​องค์ และ​พระ​องค์​ได้ยิน​จาก​ฟ้า​สวรรค์ และ​เนื่องจาก​ความ​เมตตา​เป็น​ล้น​พ้น​ของ​พระ​องค์ พระ​องค์​มอบ​บรรดา​ผู้​ช่วย​ให้​พ้น​ภัย​แก่​พวก​เขา​ให้​พ้น​จาก​มือ​ของ​พวก​ศัตรู แต่​หลัง​จาก​ที่​บรรพบุรุษ​มี​โอกาส​ได้​พัก​ชั่วครู่ พวก​เขา​ก็​กระทำ​สิ่ง​ชั่ว​ร้าย​ต่อ​หน้า​พระ​องค์​อีก พระ​องค์​ปล่อย​พวก​เขา​ไว้​ใน​มือ​ของ​พวก​ศัตรู จน​ต้อง​ตก​อยู่​ใต้​การ​ปกครอง​ของ​เหล่า​ศัตรู​ด้วย เมื่อ​พวก​เขา​หัน​มา​และ​ร้อง​ต่อ​พระ​องค์ พระ​องค์​ได้ยิน​จาก​สวรรค์ และ​เนื่องจาก​ความ​เมตตา​ของ​พระ​องค์ พระ​องค์​ก็​ช่วย​พวก​เขา​ให้​หลุด​พ้น​ไป​ได้​หลาย​ครั้ง พระ​องค์​เตือน​พวก​เขา​เพื่อ​ให้​กลับ​มา​ปฏิบัติ​ตาม​กฎ​บัญญัติ​ของ​พระ​องค์ แต่​พวก​เขา​ก็​ยัง​ยโส และ​ไม่​ปฏิบัติ​ตาม​คำ​สั่ง​ของ​พระ​องค์ แต่​กลับ​ทำ​ผิด​ต่อ​คำ​บัญชา​ของ​พระ​องค์ ถ้า​ผู้​ใด​กระทำ​ตาม ผู้​นั้น​ก็​จะ​มี​ชีวิต และ​พวก​เขา​หัน​หลัง​ให้​พระ​องค์ และ​ดื้อ​ด้าน​ไม่​ยอม​เชื่อฟัง เป็น​เวลา​หลาย​ปี​ที่​พระ​องค์​ทน​ต่อ​พวก​เขา และ​เตือน​พวก​เขา​ผ่าน​ทาง​บรรดา​ผู้เผย​คำกล่าว​ของ​พระ​เจ้า​ด้วย​พระ​วิญญาณ​ของ​พระ​องค์ แต่​พวก​เขา​ก็​ยัง​ไม่​เงี่ย​หู​ฟัง ฉะนั้น​พระ​องค์​จึง​มอบ​พวก​เขา​ไว้​ใน​มือ​ของ​ประชา​ชาติ​ใน​แผ่น​ดิน แม้​กระนั้น พระ​องค์​ก็​ไม่​ได้​ทำ​ให้​พวก​เขา​จบ​ชีวิต​ลง หรือ​ทอดทิ้ง​พวก​เขา เนื่องจาก​พระ​องค์​มี​ความ​เมตตา​ยิ่ง​นัก พระ​องค์​เป็น​พระ​เจ้า​ผู้​เปี่ยม​ด้วย​พระ​คุณ​และ​ความ​เมตตา ฉะนั้น บัดนี้ พระ​เจ้า​ของ​พวก​เรา พระ​เจ้า​ผู้​ยิ่ง​ใหญ่ พร้อม​ด้วย​อานุภาพ​และ​น่า​เกรงขาม พระ​องค์​รักษา​พันธ​สัญญา​และ​ความ​รัก​อัน​มั่นคง ขอ​พระ​องค์​อย่า​เห็น​ว่า​ความ​ลำบาก​ทั้ง​สิ้น​ที่​เกิด​ขึ้น​กับ​พวก​เรา กับ​บรรดา​กษัตริย์ เหล่า​เจ้านาย ปุโรหิต ผู้เผย​คำกล่าว​ของ​พระ​เจ้า บรรพบุรุษ และ​กับ​ชนชาติ​ทั้ง​ปวง​ของ​พระ​องค์ เป็น​สิ่ง​เล็ก​น้อย​เลย นับ​ตั้งแต่​สมัย​กษัตริย์​แห่ง​อัสซีเรีย มา​จน​ถึง​ทุก​วัน​นี้ พระ​องค์​ได้​ให้​ทุก​สิ่ง​เกิด​ขึ้น​แก่​พวก​เรา​ด้วย​ความ​ชอบธรรม เพราะ​พระ​องค์​รักษา​คำมั่น​สัญญา ใน​ขณะ​ที่​พวก​เรา​ได้​ประพฤติ​อย่าง​ชั่ว​ร้าย บรรดา​กษัตริย์​ของ​พวก​เรา เหล่า​เจ้านาย ปุโรหิต และ​บรรพบุรุษ​ของ​พวก​เรา​ไม่​ได้​รักษา​กฎ​บัญญัติ และ​ไม่​เอา​ใจ​ใส่​ต่อ​พระ​บัญญัติ​และ​คำ​สั่ง​ของ​พระ​องค์ ซึ่ง​พระ​องค์​ให้​แก่​พวก​เขา แม้​พวก​เขา​จะ​อยู่​ใน​อาณา​จักร​ของ​ตน​เอง มี​ความ​สุข​ท่าม​กลาง​สิ่ง​ดีๆ ที่​พระ​องค์​มอบ​ให้ ใน​แผ่น​ดิน​อัน​กว้าง​ใหญ่​และ​บริบูรณ์​ซึ่ง​พระ​องค์​เตรียม​ให้​ที่​ตรง​หน้า​พวก​เขา พวก​เขา​ก็​ยัง​ไม่​ได้​รับใช้​พระ​องค์ หรือ​หัน​จาก​การ​กระทำ​ที่​ชั่ว​ร้าย ดู​เถิด พวก​เรา​เป็น​ทาส​ใน​วัน​นี้ ใน​แผ่น​ดิน​ที่​พระ​องค์​มอบ​ให้​แก่​บรรพบุรุษ​ของ​เรา​เพื่อ​ได้​รับ​ผล​ประโยชน์​และ​สิ่ง​ดีๆ จาก​แผ่น​ดิน ดู​เถิด พวก​เรา​เป็น​ทาส ผล​เก็บ​เกี่ยว​ที่​ได้​รับ​อย่าง​อุดม​สมบูรณ์​ก็​ตก​ถึง​มือ​ของ​กษัตริย์ ผู้​ที่​พระ​องค์​ประสงค์​ให้​ปกครอง​เหนือ​พวก​เรา เนื่องจาก​บาป​ของ​เรา พวก​เขา​ควบคุม​ทั้ง​ตัว​เรา​และ​สัตว์​เลี้ยง​ตาม​ใจ​ปรารถนา​ของ​พวก​เขา พวก​เรา​จึง​เป็น​ทุกข์​ยิ่ง​นัก เป็น​เพราะ​สิ่ง​ดัง​กล่าว​นี้ พวก​เรา​จึง​เขียน​คำ​สัญญา​เป็น​ข้อ​ผูก​มัด มี​ชื่อ​ของ​เหล่า​เจ้านาย ชาว​เลวี และ​ปุโรหิต​ของ​พวก​เรา​กำกับ​ไว้