มาระโก 3:1-2,4-12

มาระโก 3:4-12 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

แล้ว​พระองค์​ก็​ถาม​พวก​เขา​ว่า “ตาม​กฎ​ของ​วัน​หยุด เรา​ควร​จะ​ทำ​ดี​หรือ​ทำ​ชั่ว ควร​ช่วย​ชีวิต​หรือ​ทำลาย​ชีวิต​ดี” แต่​พวก​เขา​เงียบ พระเยซู​ทั้ง​โกรธ​และ​เสียใจ​มาก​ที่​พวก​เขา​มี​จิตใจ​ดื้อด้าน พระองค์​มอง​ไป​รอบๆ​แล้ว​พูด​กับ​คน​มือ​ลีบ​ว่า “ยืด​มือ​ออก​มา” ชาย​คน​นั้น​ยืด​มือ​ออก แล้ว​มือ​ของ​เขา​ก็​หาย​เป็น​ปกติ เมื่อ​พวก​ฟาริสี​เห็น​อย่าง​นั้น​ก็​รีบ​ออก​ไป​ข้าง​นอก​เพื่อ​วางแผน​กับ​พรรคพวก​ของ​กษัตริย์​เฮโรด​หา​ทาง​ฆ่า​พระเยซู พระเยซู​ไป​ที่​ทะเลสาบ​กาลิลี​กับ​พวก​ศิษย์ และ​มี​คน​มากมาย​ติดตาม​พระเยซู​มา ทั้ง​จาก​แคว้น​กาลิลี แคว้น​ยูเดีย เมือง​เยรูซาเล็ม เมือง​เอโดม แคว้น​ต่างๆ​ที่​อยู่​ฝั่ง​ตรง​ข้าม​แม่น้ำ​จอร์แดน และ​จาก​บริเวณ​รอบๆ​เมือง​ไทระ​และ​เมือง​ไซดอน เพราะ​ได้ยิน​ถึง​เรื่อง​ต่างๆ​ที่​พระองค์​ทำ เนื่อง​จาก​คน​เยอะ​มาก พระองค์​จึง​สั่ง​พวก​ศิษย์​ให้​เตรียม​เรือ​ให้​พระองค์​ลำ​หนึ่ง​เพื่อ​กัน​ฝูงชน​ไม่​ให้​มา​เบียดเสียด​พระองค์ คน​ที่​เป็น​โรค​ต่างๆ​เบียดเสียด​กัน​เข้า​มา​เพื่อ​จับต้อง​พระองค์ เพราะ​พระองค์​ได้​รักษา​คน​เป็น​จำนวน​มาก เมื่อไร​ก็​ตาม​ที่​พวก​ผี​ชั่ว​เห็น​พระองค์ พวก​มัน​ก็​จะ​ก้ม​ลง​กราบ และ​ตะโกน​ว่า “ท่าน​เป็น​บุตร​ของ​พระเจ้า” แต่​พระองค์​สั่ง​ห้าม​พวก​ผี​ชั่ว​อย่าง​เด็ดขาด​ห้าม​บอก​คน​อื่น​ว่า​พระองค์​เป็น​ใคร

มาระโก 3:4-12 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

แล้วพระองค์ตรัสกับคนทั้งหลายว่า “ในวันสะบาโตควรจะทำการดีหรือทำการร้าย ควรจะช่วยชีวิตหรือทำลายชีวิต?” คนทั้งหลายก็นิ่งอยู่ พระองค์ทอดพระเนตรดูรอบๆ ด้วยพระพิโรธและเสียพระทัย ที่จิตใจของพวกเขากระด้าง แล้วพระองค์ตรัสกับชายคนนั้นว่า “จงเหยียดมือออกเถิด” เขาก็เหยียดออก และมือของเขาก็หายเป็นปกติ พวกฟาริสีจึงออกไปและปรึกษากับพรรคพวกของเฮโรดทันทีว่าทำอย่างไรพวกเขาถึงจะฆ่าพระองค์ได้ พระเยซูกับพวกสาวกของพระองค์จึงออกจากที่นั่นไปยังทะเลสาบ คนจำนวนมากจากแคว้นกาลิลีก็ตามไปด้วย รวมทั้งคนจากแคว้นยูเดีย จากกรุงเยรูซาเล็มและจากอิดูเมอา จากแม่น้ำจอร์แดนฟากตะวันออก และจากดินแดนรอบเมืองไทระและเมืองไซดอน ผู้คนมากมายเมื่อได้ยินถึงสิ่งที่พระองค์ทรงทำนั้นก็มาหาพระองค์ พระองค์จึงตรัสสั่งพวกสาวกให้เอาเรือมาคอยรับพระองค์เพื่อไม่ให้ฝูงชนเบียดเสียดพระองค์ เพราะว่าพระองค์ทรงรักษาคนมากมายให้หายโรค จนบรรดาคนที่เป็นโรคต่างๆ เบียดเสียดกันเข้ามาเพื่อสัมผัสพระองค์ เมื่อไรก็ตามที่บรรดาผีโสโครกเห็นพระองค์ พวกมันจะหมอบลงกราบพระองค์แล้วร้องเสียงดังว่า “พระองค์เป็นพระบุตรของพระเจ้า” แต่พระองค์ทรงกำชับมันไม่ให้แพร่งพรายว่าพระองค์เป็นใคร

มาระโก 3:4-12 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

พระองค์​จึงตรัสแก่คนทั้งหลายว่า “ในวันสะบาโตให้​ถู​กต้องตามพระราชบัญญั​ติ​ควรจะทำการดีหรือทำการชั่ว จะช่วยชีวิ​ตด​ีหรือจะสังหารชีวิ​ตด​ี” ฝ่ายคนทั้งปวงก็นิ่งอยู่ พระองค์​มี​พระทัยเป็นทุกข์เพราะใจเขาแข็งกระด้างนัก และได้ทอดพระเนตรดูรอบด้วยพระพิโรธ และพระองค์ตรัสกับชายคนนั้​นว​่า “จงเหยียดมือออกเถิด” เขาก็​เหย​ียดออก และมือของเขาก็หายเป็นปกติเหมือนกับมื​ออ​ีกข้างหนึ่ง พวกฟาริ​สี​จึงออกไป และในทันใดนั้นได้ปรึกษากับพรรคพวกของเฮโรดถึงพระองค์​ว่า พวกเขาจะทำอย่างไรจึงจะฆ่าพระองค์​ได้ ฝ่ายพระเยซูกับพวกสาวกของพระองค์จึงออกจากที่นั่นไปยังทะเล และฝูงชนเป็​นอ​ันมากจากแคว้นกาลิลี​ได้​ตามพระองค์​ไป ทั้งจากแคว้นยูเดีย จากกรุงเยรูซาเล็ม และจากเมืองเอโดม และจากฟากแม่น้ำจอร์แดนข้างโน้น และจากแคว้นเมืองไทระและไซดอน ฝูงชนเป็​นอ​ันมาก เมื่อเขาได้ยินถึงสิ่งยิ่งใหญ่​ที่​พระองค์​ทรงกระทำนั้​นก​็มาหาพระองค์ พระองค์​จึงตรั​สส​ั่งพวกสาวกของพระองค์​ให้​เอาเรือเล็กมาคอยรับพระองค์ เพื่​อม​ิ​ให้​ประชาชนเบียดเสียดพระองค์ ด้วยว่าพระองค์​ได้​ทรงรักษาคนเป็​นอ​ันมากให้หายโรค จนบรรดาผู้​ที่​มี​โรคต่างๆเบียดเสียดกันเข้ามาเพื่อจะได้​ถู​กต้องพระองค์ และพวกผีโสโครกเมื่อได้​เห​็นพระองค์​ก็ได้​หมอบลงกราบพระองค์ แล​้วร้องอึงว่า “​พระองค์​ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า” ฝ่ายพระองค์จึงทรงกำชับห้ามมั​นม​ิ​ให้​แพร่​งพรายว่าพระองค์คือผู้​ใด

มาระโก 3:4-12 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

พระองค์จึงตรัสแก่คนทั้งหลายว่า <<ในวันสะบาโตควรจะทำการดี หรือควรจะทำร้าย จะช่วยชีวิตดีหรือจะผลาญชีวิตเสียดี>> ฝ่ายคนทั้งปวงก็นิ่งอยู่ พระองค์มีพระทัยเป็นทุกข์ เพราะใจเขาแข็งกระด้างนัก และได้ทอดพระเนตรดูรอบด้วยพระพิโรธ และพระองค์ตรัสแก่คนมือลีบนั้นว่า <<จงเหยียดมือออกเถิด>> เขาก็เหยียดออก และมือของเขาก็หายเป็นปกติ พวกฟาริสีจึงออกไป และในทันใดนั้นได้ปรึกษากับพรรคพวกของเฮโรดว่า จะทำอย่างไรจึงจะฆ่าพระองค์ได้ ฝ่ายพระเยซูกับพวกศิษย์ของพระองค์ จึงออกจากที่นั่นไปยังทะเลสาบ และคนเป็นอันมากจากแคว้นกาลิลีได้ตามไป ทั้งจากแคว้นยูเดีย จากกรุงเยรูซาเล็มและจากเอโดม และจากแม่น้ำจอร์แดนฟากตะวันออก และจากแคว้นเมืองไทระและไซดอน คนเป็นอันมากเมื่อทราบถึงสิ่งที่พระองค์ทรงกระทำนั้นก็มาหาพระองค์ พระองค์จึงตรัสสั่งพวกศิษย์ให้เอาเรือมาคอยรับพระองค์ เพื่อมิให้ประชาชนเบียดเสียดพระองค์ ด้วยว่าพระองค์ได้ทรงรักษาคนเป็นอันมากให้หายโรค จนบรรดาผู้ที่มีโรคต่างๆเบียดเสียดกันเข้ามา เพื่อจะได้ถูกต้องพระองค์ และผีโสโครกที่เข้าสิงอยู่ในคนหลายคน เมื่อได้เห็นพระองค์ก็ได้หมอบลงกราบพระองค์แล้วร้องอึงว่า <<พระองค์ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า>> ฝ่ายพระองค์จึงทรงกำชับห้ามมันมิให้แพร่งพรายว่า พระองค์คือผู้ใด

มาระโก 3:4-12 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

แล้วพระเยซูตรัสกับพวกเขาว่า “ทำดีหรือทำชั่ว ช่วยชีวิตหรือทำลายชีวิต อย่างไหนที่ถูกต้องตามบทบัญญัติในวันสะบาโต?” แต่เขาทั้งหลายก็นิ่งอยู่ พระองค์ทอดพระเนตรพวกเขาโดยรอบด้วยพระพิโรธ ทรงเศร้าพระทัยนักที่พวกเขาใจแข็งกระด้าง พระองค์ตรัสกับชายคนนั้นว่า “จงเหยียดมือออกมา” เขาก็ทำตามและมือของเขาก็กลับเป็นปกติทุกอย่าง พวกฟาริสีจึงออกไปเริ่มคบคิดกับกลุ่มผู้สนับสนุนเฮโรดว่าจะฆ่าพระเยซูได้อย่างไร พระเยซูกับสาวกปลีกตัวจากที่นั่นไปยังทะเลสาบ มีฝูงชนกลุ่มใหญ่จากแคว้นกาลิลีติดตามมา เมื่อได้ยินกิตติศัพท์ของพระองค์ คนเป็นอันมากจากแคว้นยูเดีย กรุงเยรูซาเล็ม แคว้นอิดูเมอาและอีกฟากหนึ่งของแม่น้ำจอร์แดน ตลอดจนแถบเมืองไทระและเมืองไซดอนพากันมาหาพระองค์ เพราะฝูงชนเหล่านี้พระเยซูจึงตรัสสั่งสาวกให้เตรียมเรือเล็กพร้อมไว้สำหรับพระองค์ เพื่อไม่ให้ผู้คนมาเบียดเสียดพระองค์ เนื่องจากพระเยซูได้ทรงรักษาคนเป็นอันมาก ผู้ที่ป่วยด้วยโรคต่างๆ จึงเบียดเสียดกันเข้ามาเพื่อจะได้แตะต้องพระองค์ ทุกครั้งที่วิญญาณชั่วเห็นพระองค์ พวกมันจะหมอบกราบและร้องว่า “พระองค์ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า” แต่พระองค์ทรงห้ามพวกมันเด็ดขาดไม่ให้บอกว่าพระองค์ทรงเป็นผู้ใด

มาระโก 3:4-12 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

และ​พระ​องค์​กล่าว​กับ​พวก​เขา​ว่า “การ​ทำดี​หรือ​การ​ทำ​ชั่ว การ​ช่วยชีวิต​หรือ​การ​เข่นฆ่า​จึง​ถูก​กฎ​บัญญัติ​ใน​วัน​สะบาโต” แต่​พวก​เขา​นิ่งเงียบ พระ​องค์​มองดู​พวก​เขา​โดยรอบ ทั้ง​โกรธ​และ​เศร้าใจ​ที่​จิตใจ​ของ​พวก​เขา​แข็ง​กระด้าง พระ​องค์​กล่าว​กับ​ชาย​นั้น​ว่า “จง​ยื่น​มือ​ออกมา​เถิด” เขา​ก็​ยื่นมือ​ออก​และ​มือ​ของเขา​ก็​หาย​เป็นปกติ พวก​ฟาริสี​จึง​ออกไป และ​ใน​ทันใดนั้น​ก็​ได้​ปรึกษา​กับ​พรรค​ของ​เฮโรด​เพื่อ​จะ​ต่อต้าน​พระ​องค์ และ​ดูว่า​พวก​เขา​จะ​ทำ​อย่างไร​จึง​ฆ่า​พระ​องค์​ได้ ส่วน​พระ​เยซู​และ​พวก​สาวก​ก็​ปลีกตัว​ออกไป​ยัง​ทะเลสาบ และ​ผู้​คน​จำนวน​มาก​จาก​แคว้น​กาลิลี​และ​แคว้น​ยูเดีย​ตาม​ไป​ด้วย และ​จาก​เมือง​เยรูซาเล็ม ย่าน​อิดูเม-อา อีกฟาก​ของ​แม่น้ำ​จอร์แดน และ​จาก​บริเวณ​รอบ​เมือง​ไทระ​และ​ไซดอน ผู้​คน​จำนวนมาก​ได้ยิน​ถึง​ทุก​สิ่ง​ที่​พระ​เยซู​กระทำ​ก็​มาหา​พระ​องค์ พระ​องค์​บอก​บรรดา​สาวก​ให้​เตรียม​เรือ​ให้​พร้อม​สำหรับ​พระ​องค์ เพื่อ​ไม่​ให้​คน​เบียดเสียด​เพราะ​ผู้​คน​หนาแน่น พระ​เยซู​ได้​รักษา​คน​จำนวนมาก​ให้​หาย​จาก​โรค ฉะนั้น​ทุก​คน​ที่​ป่วย​ด้วย​โรค​ต่างๆ จึง​เบียด​เข้ามา​ใกล้​เพื่อ​จะ​สัมผัส​พระ​องค์ เมื่อใด​ก็ตาม​ที่​วิญญาณ​ร้าย​เห็น​พระ​องค์ พวก​มัน​ก็​ล้ม​ลง​ไป​ตรง​หน้า​และ​ร้องขึ้น​ว่า “ท่าน​เป็น​บุตร​ของ​พระ​เจ้า” พระ​เยซู​สั่ง​ห้าม​ไม่​ให้​มัน​บอก​ให้​คน​รู้ว่า​พระ​องค์​คือ​ใคร