มาระโก 14:43-72

มาระโก 14:43-72 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

พระเยซู​พูด​ยัง​ไม่ทัน​ขาดคำ ยูดาส ศิษย์​คน​หนึ่ง​ใน​สิบสอง​คน​ก็​มา​ถึง​พร้อม​กับ​คน​กลุ่ม​ใหญ่​ที่​ถือ​ดาบ​และ​ไม้กระบอง คน​พวกนี้​ถูก​ส่ง​มา​จาก​พวก​หัวหน้า​นักบวช พวก​ครู​สอน​กฎปฏิบัติ และ​พวก​ผู้​อาวุโส ยูดาส​ได้​ตกลง​กับ​พวก​นั้น​ไว้​ก่อน​ล่วงหน้า​แล้ว​ว่า “คน​ที่​ผม​จูบ​คือ​คนๆ​นั้น เข้า​ไป​จับกุม​และ​ควบคุม​ตัว​ไป​เลย” เมื่อ​ยูดาส​มา​ถึง​ก็​เดิน​เข้า​ไป​หา​พระเยซู​และ​พูด​ว่า “อาจารย์​ครับ” แล้ว​จูบ​พระองค์ พวก​นั้น​ก็​เข้า​มา​จับ​ตัว​พระองค์​และ​คุมตัว​ไว้ คน​หนึ่ง​ใน​พวก​พระเยซู​ที่​ยืน​อยู่​ใกล้ๆ​นั้น ได้​ชัก​ดาบ​ออก​มา แล้ว​ก็​ฟัน​ถูก​หู​ทาส​คน​หนึ่ง​ของ​นักบวช​สูงสุด​ขาด​ไป พระเยซู​พูด​กับ​พวก​นั้น​ว่า “เห็น​เรา​เป็น​โจร​หรือ​ยังไง ถึง​ได้​ถือ​ดาบ​และ​ไม้​กระบอง​มา​จับ​เรา เรา​อยู่​กับ​พวก​คุณ​ทุก​วัน สอน​อยู่​ใน​วิหาร แต่​พวก​คุณ​ก็​ไม่​จับ แต่​ทุก​อย่าง​ก็​ต้อง​เป็น​ไป​ตาม​ที่​ได้​เขียน​ไว้​แล้ว​ใน​พระคัมภีร์” ส่วน​พวก​ศิษย์​วิ่งหนี​ทิ้ง​พระองค์​ไป​กัน​จน​หมด มี​ชาย​หนุ่ม​คน​หนึ่ง​ที่​ติดตาม​พระองค์​มา ไม่​ได้​สวม​ใส่​อะไร​เลย นอก​จาก​ห่ม​ผ้า​ป่าน​ผืน​หนึ่ง เมื่อ​พวก​นั้น​พยายาม​จะ​จับ​เขา เขา​ก็​ได้​สลัด​ผ้า​ป่าน​ทิ้ง​แล้ว​เปลือยกาย​วิ่งหนี​ไป พวก​เขา​นำ​ตัว​พระเยซู​ไป​พบ​นักบวช​สูงสุด พวก​หัวหน้า​นักบวช พวก​ผู้นำ​ชาวยิว และ​พวก​ครู​สอน​กฎปฏิบัติ​ได้​อยู่​ชุมนุม​กัน​ที่​นั่น เปโตร​ตาม​พระเยซู​มา​ห่างๆ​เข้า​ไป​ยัง​ลาน​บ้าน​ของ​นักบวช​สูงสุด​ด้วย เขา​ไป​นั่ง​ผิง​ไฟ​ให้​ตัว​อุ่น​อยู่​กับ​พวก​ผู้​คุม พวก​หัวหน้า​นักบวช​และ​สมาชิก​สภา​แซนฮีดริน​ทั้งหมด​พยายาม​หา​พยานเท็จ​มา​ปรักปรำ​พระเยซู เพื่อ​จะ​ได้​ฆ่า​พระองค์ แต่​ก็​หา​ไม่​ได้​เลย ถึง​แม้​จะ​มี​พยาน​เท็จ​หลาย​คน แต่​สิ่ง​ที่​พวก​เขา​พูด​ก็​ไม่​ตรง​กัน ใน​ที่​สุด​มี​บางคน​ยืน​ขึ้น​เป็น​พยาน​เท็จ​กล่าว​หา​พระเยซู​ว่า “พวก​เรา​ได้ยิน​เขา​พูด​ว่า ‘เรา​จะ​ทำลาย​วิหารนี้ ที่​สร้าง​ขึ้น​มา​ด้วย​มือ​มนุษย์ และ​ภาย​ใน​สาม​วัน เรา​จะ​สร้าง​วิหาร​อีก​แห่ง​หนึ่ง​ขึ้น​มา​ใหม่​ที่​ไม่​ได้​สร้าง​ด้วย​มือ​มนุษย์’” แต่​คำ​พยาน​ใน​เรื่องนี้​ก็​ไม่​ตรง​กัน​อีก นักบวช​สูงสุด​จึง​ยืน​ขึ้น​ต่อหน้า​คน​ทั้งหลาย และ​ถาม​พระเยซู​ว่า “แก​จะ​ไม่​แก้​ตัว​ใน​สิ่ง​ที่​เขา​กล่าว​หา​แก​หรือ” แต่​พระเยซู​ก็​ยัง​คง​เงียบ​ไม่​ตอบ​อะไร แล้ว​นักบวช​สูงสุด​จึง​ถาม​พระองค์​ว่า “แก​เป็น​พระคริสต์ บุตร​ของ​พระเจ้า​หรือ” พระเยซู​จึง​ตอบ​ว่า “ใช่ เรา​เป็น และ​พวก​คุณ​จะ​ได้​เห็น​บุตร​มนุษย์​นั่ง​อยู่​ทาง​ขวา​มือ​ของ​พระเจ้า​ผู้​ยิ่งใหญ่​และ​เสด็จ​มา​กับ​เมฆ​ใน​ท้องฟ้า” นักบวช​สูงสุด​ก็​ฉีกทึ้ง​เสื้อผ้า​ของ​ตน และ​พูด​ว่า “เรา​ยัง​ต้องการ​พยาน​อะไร​อีก พวก​คุณ​ก็​ได้ยิน​คำหมิ่นประมาท​ของ​มัน​แล้ว พวก​คุณ​คิด​ว่า​ยังไง” พวก​เขา​ทุก​คน​ตัดสิน​ว่า พระองค์​มี​ความ​ผิด​และ​สมควร​ตาย บางคน​ถ่ม​น้ำลาย​ใส่​พระองค์ บางคน​ปิด​หน้า​พระองค์ ชก​หน้า​พระองค์ แล้ว​ถาม​พระองค์​ว่า “ผู้พูดแทนพระเจ้า ทาย​สิ​ว่า​ใคร​เป็น​คน​ทำ” และ​พวก​ผู้​คุม​ก็​พา​พระองค์​ไป​ทุบตี เปโตร​ยัง​อยู่​ที่​ลาน​บ้าน​ข้าง​ล่าง​นั้น สาวใช้​คน​หนึ่ง​ใน​บ้าน​เดิน​ผ่าน​มา เธอ​เห็น​เปโตร​ผิง​ไฟ​อยู่ แล้ว​ก็​เข้า​มา​ดู​ใกล้ๆ​และ​พูด​ว่า “แก​ก็​อยู่​กับ​เยซู​ชาว​นาซาเร็ธ​นี่​นา” แต่​เปโตร​ก็​ได้​ปฏิเสธ​ว่า “ผม​ไม่​รู้​ไม่​เข้า​ใจ​ว่า​คุณ​พูด​ถึง​เรื่อง​อะไร” แล้ว​เปโตร​ก็​เดิน​ไป​ทาง​ประตู​เข้า​บ้าน และ​ไก่​ก็​ขัน เมื่อ​สาวใช้​เห็น​เปโตร​ที่​นั่น​อีก เธอ​บอก​กับ​คน​ที่​ยืน​อยู่​แถวๆ​นั้น​ว่า “เขา​เป็น​คน​หนึ่ง​ใน​พวก​นั้น” เปโตร​ปฏิเสธ​อีก และ​อีก​สัก​พัก​หนึ่ง​หลังจาก​นั้น พวก​คน​ที่​ยืน​อยู่​ที่​นั่น​ก็​ได้​พูด​กับ​เปโตร​ว่า “แก​เป็น​คน​หนึ่ง​ใน​พวก​นั้น​แน่ เพราะ​แก​ก็​เป็น​ชาว​กาลิลี​เหมือน​กัน” แต่​เปโตร​ก็​เริ่ม​สบถ โดย​พูด​ว่า “สาบาน​ได้​เลย ว่า​ผม​ไม่​เคย​รู้จัก​ชาย​คน​ที่​พวก​คุณ​พูด​ถึง” ทันใดนั้น ไก่​ก็​ขัน​เป็น​ครั้ง​ที่​สอง แล้ว​เปโตร​ก็​นึกถึง​คำพูด​ของ​พระเยซู​ได้​ว่า “ก่อน​ไก่​ขัน​ครั้ง​ที่​สอง คุณ​จะ​พูด​ว่า​ไม่​รู้จัก​เรา​สาม​ครั้ง” แล้ว​เขา​ก็​ร้องไห้​โฮ​ออก​มา

มาระโก 14:43-72 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

พระองค์ตรัสยังไม่ทันขาดคำ ทันใดนั้นยูดาสซึ่งเป็นคนหนึ่งในพวกสาวกสิบสองคนนั้น ก็มาหาพระองค์พร้อมกับฝูงชนที่ถือดาบถือไม้ตะบอง ซึ่งเป็นคนของพวกหัวหน้าปุโรหิต พวกธรรมาจารย์ และพวกผู้ใหญ่ คนที่ทรยศพระองค์ก็ให้สัญญาณกับพวกเขาว่า “เราจูบคำนับใครก็คือคนผู้นั้นแหละ จงจับและคุมตัวเขาไปให้แน่นหนา” แล้วยูดาสก็ตรงเข้ามาหาพระองค์ทันที ทูลว่า “พระอาจารย์” และจูบพระองค์ คนเหล่านั้นก็เข้าไปจับกุมพระองค์ แต่มีคนหนึ่งที่ยืนอยู่ที่นั่นชักดาบออกฟันหูทาสของมหาปุโรหิตขาด พระเยซูตรัสกับคนเหล่านั้นว่า “พวกท่านเห็นเราเป็นโจรหรือ ถึงได้ถือดาบถือตะบองออกมาจับเรา เราอยู่กับพวกท่านทุกวันและสั่งสอนในบริเวณพระวิหาร แต่พวกท่านก็ไม่ได้จับเรา แต่ทุกอย่างจะต้องสำเร็จตามพระคัมภีร์” แล้วสาวกทั้งหมดก็ละทิ้งพระองค์ไว้และพากันหนีไป มีชายหนุ่มคนหนึ่งนุ่งห่มเพียงแค่ผ้าป่านผืนหนึ่งตามพระองค์ไป คนเหล่านั้นก็จับชายหนุ่มคนนั้น แต่เขาสลัดผ้าป่านผืนนั้นทิ้งแล้วเปลือยกายหนีไป พวกเขานำตัวพระเยซูไปยังมหาปุโรหิต มีพวกหัวหน้าปุโรหิต พวกผู้ใหญ่ และพวกธรรมาจารย์ชุมนุมพร้อมกันอยู่ที่นั่น ส่วนเปโตรนั้นติดตามพระเยซูไปห่างๆ จนเข้าไปถึงลานบ้านของมหาปุโรหิต ไปนั่งผิงไฟอยู่กับพวกทหารยาม พวกหัวหน้าปุโรหิตกับบรรดาสมาชิกสภากำลังหาพยานมาปรักปรำพระเยซู เพื่อจะได้ประหารพระองค์ แต่หาหลักฐานไม่ได้ เพราะว่ามีหลายคนมาเป็นพยานเท็จปรักปรำพระองค์ แต่คำให้การของพวกเขาแตกต่างกัน บางคนยืนขึ้นเบิกความเท็จปรักปรำพระองค์ว่า “ข้าพเจ้าได้ยินคนนี้กล่าวว่า ‘เราจะทำลายพระวิหารนี้ที่สร้างไว้ด้วยมือมนุษย์ และภายในสามวันเราจะสร้างวิหารอีกหลังหนึ่งที่ไม่ได้ถูกสร้างด้วยมือมนุษย์’” แม้แต่ในเรื่องนี้คำพยานของคนเหล่านั้นก็ยังไม่ตรงกัน มหาปุโรหิตจึงลุกขึ้นยืนท่ามกลางที่ชุมนุมถามพระเยซูว่า “เจ้าไม่แก้ตัวในข้อหาที่พยานเขาตั้งมานี้หรือ?” แต่พระองค์ทรงนิ่งอยู่ไม่ได้ตอบประการใด มหาปุโรหิตจึงถามพระองค์อีกว่า “เจ้าเป็นพระคริสต์พระบุตรของพระเจ้าผู้สมควรแก่การนมัสการหรือ?” พระเยซูทรงตอบว่า “เราเป็น และ ท่านทั้งหลายจะเห็นบุตรมนุษย์ ประทับข้างขวาของผู้ทรงฤทธิ์เดช และ เสด็จมาในเมฆแห่งฟ้าสวรรค์” มหาปุโรหิตจึงฉีกเสื้อของตนแล้วกล่าวว่า “เราต้องการพยานอะไรอีก? ท่านทั้งหลายได้ยินเขาพูดหมิ่นประมาทพระเจ้าแล้ว ท่านทั้งหลายคิดอย่างไร?” คนทั้งหลายจึงเห็นพร้อมกันว่าควรจะลงโทษถึงตาย บางคนเริ่มถ่มน้ำลายรดพระองค์ ปิดพระพักตร์พระองค์ ทุบตีพระองค์ แล้วพูดกับพระองค์ว่า “ทำนายซิ” และพวกทหารยามก็เอามือตบพระองค์ ระหว่างที่เปโตรอยู่ที่ลานบ้านข้างล่าง มีหญิงคนหนึ่งในพวกสาวใช้ของมหาปุโรหิตเดินมา เมื่อเห็นเปโตรผิงไฟอยู่ นางจ้องมองแล้วพูดว่า “เจ้าอยู่กับเยซูชาวนาซาเร็ธด้วยนี่” แต่เปโตรปฏิเสธว่า “ที่เจ้าพูดนั้นข้าไม่รู้เรื่องและไม่เข้าใจ” เปโตรจึงออกไปที่ประตูบ้าน แล้วไก่ก็ขัน เมื่อสาวใช้คนนั้นเห็นเปโตร ก็พูดขึ้นอีกกับคนที่ยืนอยู่ว่า “คนนี้เป็นพวกเขาด้วย” แต่เปโตรปฏิเสธอีก ครู่หนึ่งคนทั้งหลายที่ยืนอยู่ที่นั่นก็พูดกับเปโตรอีกว่า “เจ้าเป็นคนหนึ่งในพวกนั้นแน่ๆ เพราะว่าเจ้าเป็นชาวกาลิลี” แต่เปโตรเริ่มสบถสาบานใหญ่ว่า “คนที่เจ้าพูดถึงนั้นข้าไม่รู้จัก” ทันใดนั้นไก่ก็ขันเป็นครั้งที่สอง เปโตรจึงระลึกถึงถ้อยคำที่พระเยซูตรัสกับเขาว่า “ก่อนไก่ขันสองหน ท่านจะปฏิเสธเราสามครั้ง” เปโตรกลั้นความรู้สึกไม่อยู่ก็ร้องไห้

มาระโก 14:43-72 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

พระองค์​ตรัสยังไม่ทันขาดคำ ในทันใดนั้นยูดาสซึ่งเป็นคนหนึ่งในเหล่าสาวกสิบสองคนนั้น กับหมู่ชนเป็​นอ​ันมาก ถือดาบถือไม้​ตะบอง ได้​มาจากพวกปุโรหิตใหญ่ พวกธรรมาจารย์ และพวกผู้​ใหญ่ ผู้​ที่​จะทรยศพระองค์นั้นได้​ให้​สัญญาณแก่เขาว่า “เราจุบผู้​ใด ก็​เป็นผู้​นั้นแหละ จงจั​บก​ุมเขาไปให้​มั่นคง​” และทั​นที​ที่​ยู​ดาสมาถึง เขาตรงเข้ามาหาพระองค์ทูลว่า “พระอาจารย์​เจ้าข้า พระอาจารย์​เจ้าข้า​” แล​้วจุบพระองค์ คนเหล่านั้​นก​็จั​บก​ุมพระองค์​ไป คนหนึ่งในพวกเหล่านั้​นที​่ยืนอยู่​ใกล้​ๆ ได้​ชักดาบออกฟันผู้​รับใช้​คนหนึ่งของมหาปุโรหิตถู​กห​ูของเขาขาด พระเยซู​จึงตรัสถามพวกเหล่านั้​นว​่า “ท่านทั้งหลายเห็นเราเป็นโจรหรือจึงถือดาบ ถือตะบองออกมาจับเรา เราได้​อยู่​กั​บท​่านทั้งหลายทุกวันสั่งสอนในพระวิ​หาร ท่านก็หาได้จับเราไม่ แต่​จะต้องสำเร็จตามพระคัมภีร์” แล​้วสาวกทั้งหมดได้ละทิ้งพระองค์​ไว้​และพากันหนี​ไป มี​ชายหนุ่มคนหนึ่งห่มผ้าป่านผืนหนึ่งคลุมร่างกายที่​เปล​ือยเปล่าของตนติดตามพระองค์​ไป พวกหนุ่มๆก็จับเขาไว้ แต่​เขาได้สลัดผ้าป่านผืนนั้นทิ้งเสีย แล​้วเปลือยกายหนี​ไป เขาพาพระเยซูไปหามหาปุโรหิต และมีบรรดาพวกปุโรหิตใหญ่ พวกผู้​ใหญ่ และพวกธรรมาจารย์ชุ​มนุ​มพร้อมกันอยู่​ที่นั่น ฝ่ายเปโตรได้​ติ​ดตามพระองค์ไปห่างๆจนเข้าไปถึงคฤหาสน์ของมหาปุโรหิต และนั่งผิงไฟอยู่กับพวกคนใช้ พวกปุโรหิตใหญ่ กับบรรดาสมาชิกสภาได้หาพยานมาเบิกปรักปรำพระเยซูเพื่อจะประหารพระองค์​เสีย แต่​หาหลักฐานไม่​ได้ ด้วยว่ามีหลายคนเป็นพยานเท็จปรักปรำพระองค์ แต่​คำของเขาแตกต่างกัน มี​บางคนยืนขึ้นเบิกความเท็จปรักปรำพระองค์​ว่า “ข้าพเจ้าได้ยินคนนี้​ว่า ‘เราจะทำลายพระวิหารนี้​ที่​สร้างไว้ด้วยมื​อมนุษย์ และในสามวันจะสร้างขึ้​นอ​ีกวิหารหนึ่งซึ่งไม่สร้างด้วยมื​อมนุษย์​เลย​’” แต่​คำพยานของคนเหล่านั้นเองก็ยังแตกต่างไม่​ถู​กต้องกัน มหาปุโรหิตจึงลุกขึ้นยืนท่ามกลางที่ชุ​มนุ​มถามพระเยซู​ว่า “ท่านไม่ตอบอะไรบ้างหรือ ซึ่งเขาเบิกความปรักปรำท่านนั้นจะว่าอย่างไร” แต่​พระองค์​ทรงนิ่งอยู่ มิได้​ตอบประการใด ท่านมหาปุโรหิตจึงถามพระองค์​อี​กว่า “ท่านเป็นพระคริสต์พระบุตรของผู้ทรงบรมสุขหรือ” พระเยซู​ทรงตอบว่า “เราเป็น และท่านทั้งหลายจะได้​เห​็นบุตรมนุษย์นั่งข้างขวาของผู้ทรงฤทธานุ​ภาพ และเสด็จมาในเมฆแห่งฟ้าสวรรค์” ท่านมหาปุโรหิตจึงฉีกเสื้อของตนแล้วกล่าวว่า “เราต้องการพยานอะไรอีกเล่า ท่านทั้งหลายได้ยินเขาพูดหมิ่นประมาทแล้ว ท่านทั้งหลายคิดเห็นอย่างไร” คนทั้งปวงจึงเห็นพร้อมกั​นว​่าควรจะมีโทษถึงตาย บางคนก็เริ่มถ่​มน​้ำลายรดพระองค์ ปิดพระพักตร์​พระองค์ ตี​พระองค์ แล​้​วว​่าแก่​พระองค์​ว่า “​พยากรณ์​ซิ​” และพวกคนใช้​ก็​เอาฝ่ามือตบพระองค์ และขณะที่เปโตรอยู่​ใต้​คฤหาสน์​ข้างล่างนั้น มี​หญิงคนหนึ่งในพวกสาวใช้ของท่านมหาปุโรหิตเดินมา เมื่อเห็นเปโตรผิงไฟอยู่เขาเขม้นดู แล​้วพูดว่า “​เจ้​าได้​อยู่​กับเยซูชาวนาซาเร็ธด้วย” แต่​เปโตรปฏิเสธว่า “​ที่​เจ้​าว่านั้นข้าไม่​รู้​เรื่องและไม่​เข้าใจ​” เปโตรจึงออกไปที่ระเบียงบ้าน แล​้วไก่​ก็​ขัน อี​กครั้งหนึ่งสาวใช้คนหนึ่งได้​เห​็นเปโตร แล​้วเริ่มบอกกับคนที่ยืนอยู่​ที่​นั่​นว​่า “คนนี้​แหละ เป็นพวกเขา” แต่​เปโตรก็ปฏิเสธอีก แล​้​วอ​ีกสักครู่​หน​ึ่งคนทั้งหลายที่ยืนอยู่​ที่​นั่นได้ว่าแก่เปโตรว่า “​เจ้​าเป็นคนหนึ่งในพวกเขาแน่​แล้ว ด้วยว่าเจ้าเป็นชาวกาลิลี และสำเนียงของเจ้าก็ส่อไปทางเดียวกันด้วย” แต่​เปโตรเริ่มสบถและสาบานว่า “​คนที​่​เจ้​าว่านั้นข้าไม่​รู้จัก​” แล​้วไก่​ก็​ขันเป็​นคร​ั้งที่​สอง เปโตรจึงระลึกถึงคำที่​พระเยซู​ตรัสไว้​แก่​เขาว่า “ก่อนไก่ขันสองหน ท่านจะปฏิเสธเราสามครั้ง” เมื่อเปโตรหวนคิดขึ้นได้​ก็​ร้องไห้

มาระโก 14:43-72 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

พระองค์ตรัสยังไม่ทันขาดคำ ในทันใดนั้นยูดาสซึ่งเป็นคนหนึ่งในเหล่าสาวกสิบสองคนนั้น กับหมู่ชนถือดาบถือไม้ตะบอง ได้มาจากพวกมหาปุโรหิต พวกธรรมาจารย์ และพวกผู้ใหญ่ ผู้ที่จะอายัดพระองค์นั้นได้ให้สัญญาณแก่เขาว่า <<เราจะจุบคำนับผู้ใดก็เป็นผู้นั้นแหละ จงจับกุมเขาไปให้มั่นคง>> ขณะนั้นยูดาสตรงเข้ามาหาพระองค์ ทูลว่า <<พระอาจารย์เจ้าข้า>> แล้วจุบคำนับพระองค์ คนเหล่านั้นก็จับกุมพระองค์ไป แต่คนหนึ่งที่ยืนอยู่ที่นั่นชักดาบออกฟันหูทาสคนหนึ่งของมหาปุโรหิตประจำการขาด พระเยซูจึงตรัสถามพวกเหล่านั้นว่า <<ท่านทั้งหลายเห็นเราเป็นโจรหรือ จึงถือดาบถือตะบองออกมาจับเรา เราได้อยู่กับท่านทั้งหลายทุกวัน สั่งสอนในบริเวณพระวิหาร ท่านก็หาได้จับเราไม่ แต่จะต้องสำเร็จตามพระคัมภีร์>> แล้วสาวกทั้งหมดได้ละทิ้งพระองค์ไว้และพากันหนีไป มีชายหนุ่มคนหนึ่งห่มผ้าป่านผืนหนึ่งตามพระองค์ไป พวกเหล่านั้นก็จับชายหนุ่มนั้น แต่เขาได้สลัดผ้าป่านผืนนั้นทิ้งเสีย แล้วเปลือยกายหนีไป เขาพาพระเยซูไปหามหาปุโรหิตผู้ประจำการ และมีพวกมหาปุโรหิต พวกผู้ใหญ่ และพวกธรรมาจารย์ชุมนุมพร้อมกันอยู่ที่นั่น ฝ่ายเปโตรได้ติดตามพระเยซูไปห่างๆ จนเข้าไปถึงลานบ้านของมหาปุโรหิตผู้ประจำการ นั่งผิงไฟอยู่กับพวกคนใช้ พวกมหาปุโรหิตกับบรรดาสมาชิกสภาจึงหาพยานมาเบิกปรักปรำพระเยซู เพื่อจะประหารพระองค์เสีย แต่หาหลักฐานไม่ได้ ด้วยว่ามีหลายคนเป็นพยานเท็จปรักปรำพระองค์ แต่คำของเขาแตกต่างกัน มีบางคนยืนขึ้นเบิกความเท็จปรักปรำพระองค์ว่า <<ข้าพเจ้าได้ยินคนนี้ว่า <เราจะทำลายพระวิหารนี้ที่สร้างไว้ด้วยมือมนุษย์ และในสามวันจะสร้างขึ้นอีกวิหารหนึ่ง ซึ่งไม่ทำด้วยมือมนุษย์เลย> >> แต่คำพยานของคนเหล่านั้นเองก็ยังแตกต่างไม่ถูกต้องกัน มหาปุโรหิตประจำการจึงลุกขึ้นยืนท่ามกลางที่ชุมนุมถามพระเยซูว่า <<ท่านไม่แก้ตัวในข้อหาที่พยานเขาตั้งมานี้หรือ>> แต่พระองค์ทรงนิ่งอยู่มิได้ตอบประการใด ท่านมหาปุโรหิตจึงถามพระองค์อีกว่า <<ท่านเป็นพระคริสต์พระบุตรของพระเจ้าผู้ควรแก่การนมัสการหรือ>> พระเยซูทรงตอบว่า <<เราเป็นและท่านทั้งหลายจะได้เห็นบุตรมนุษย์นั่งข้างขวาของผู้ทรงฤทธานุภาพและเสด็จมาในเมฆแห่งฟ้าสวรรค์>> ท่านมหาปุโรหิตจึงฉีกเสื้อของตนแล้วกล่าวว่า <<เราต้องการพยานอะไรอีกเล่า ท่านทั้งหลายได้ยินเขาพูดหมิ่นประมาทพระเจ้าแล้ว ท่านทั้งหลายคิดเห็นอย่างไร>> คนทั้งปวงจึงเห็นพร้อมกันว่าควรจะมีโทษถึงตาย บางคนก็ถ่มน้ำลายรดพระองค์ ปิดพระพักตร์พระองค์ ตีพระองค์ แล้วว่าแก่พระองค์ว่า <<ทำนายซิ>> และพวกคนใช้ก็เอามือตบพระองค์ ฝ่ายเปโตรเมื่อยังอยู่ที่ลานบ้านข้างล่าง มีหญิงคนหนึ่งในพวกสาวใช้ของท่านมหาปุโรหิตเดินมา เมื่อเห็นเปโตรผิงไฟอยู่ เขาเขม้นดูแล้วพูดว่า <<แกได้อยู่กับเยซูชาวนาซาเร็ธด้วยเหมือนกัน>> แต่เปโตรปฏิเสธว่า <<ที่เจ้าว่านั้นข้าไม่รู้เรื่องและไม่เข้าใจ>> เปโตรจึงออกไปที่ประตูบ้าน อีกครั้งหนึ่งสาวใช้คนนั้นได้เห็นเปโตร แล้วบอกกับคนที่ยืนอยู่ที่นั่นว่า <<คนนี้แหละเป็นพวกเขา>> แต่เปโตรก็ปฏิเสธอีก แล้วอีกสักครู่หนึ่งคนทั้งหลายที่ยืนอยู่ที่นั่นได้ว่าแก่เปโตรว่า <<เจ้าเป็นคนหนึ่งในพวกนั้นแน่แล้ว ด้วยว่าเจ้าเป็นชาวกาลิลี>> แต่เปโตรเริ่มสบถสาบานใหญ่ว่า <<คนที่เจ้าว่านั้นข้าไม่รู้จัก>> ในทันใดนั้นไก่ก็ขันเป็นครั้งที่สอง เปโตรจึงระลึกถึงคำที่พระเยซูตรัสไว้แก่เขาว่า <<ก่อนไก่ขันสองหน ท่านจะปฏิเสธเราสามครั้ง>> เมื่อเปโตรหวนคิดขึ้นได้ก็ร้องไห้

มาระโก 14:43-72 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

พระองค์ตรัสยังไม่ทันขาดคำ ยูดาสหนึ่งในสาวกสิบสองคนก็ปรากฏตัวขึ้น มีคนกลุ่มใหญ่ถือดาบถือกระบองมากับเขาด้วย พวกหัวหน้าปุโรหิต ธรรมาจารย์ และเหล่าผู้อาวุโสเป็นผู้ส่งคนเหล่านี้มา ผู้ทรยศได้ตกลงเรื่องอาณัติสัญญาณกับพวกเขาว่า “ผู้ที่เราจูบคือผู้นั้น ให้จับกุมและคุมตัวเขาไป” ยูดาสตรงเข้ามาหาพระเยซูทันทีและทูลว่า “รับบี!” แล้วจูบพระองค์ พวกนั้นจึงจับกุมพระเยซู แล้วคนหนึ่งซึ่งยืนอยู่ใกล้ๆ ก็ชักดาบออกมาฟันหูบ่าวของมหาปุโรหิตขาด พระเยซูตรัสว่า “เราก่อการกบฏหรือ? ท่านจึงได้ถือดาบถือกระบองมาจับเรา ทุกวันเราอยู่กับพวกท่าน สั่งสอนอยู่ในลานพระวิหารท่านก็ไม่มาจับกุมเรา แต่จะต้องเป็นจริงตามพระคัมภีร์” แล้วทุกคนก็ทิ้งพระองค์และหนีกันไปหมด ชายหนุ่มคนหนึ่งมีแต่ผ้าลินินห่มกายได้ติดตามพระเยซูไป เมื่อคนเหล่านั้นจับกุมเขา เขาก็สลัดผ้าทิ้งแล้วหนีไปทั้งๆ ที่เปลือยกาย พวกเขานำพระเยซูมาพบมหาปุโรหิต ขณะนั้นพวกหัวหน้าปุโรหิต ธรรมาจารย์ และเหล่าผู้อาวุโสมาชุมนุมกันอยู่ เปโตรตามพระเยซูมาห่างๆ จนถึงลานบ้านของมหาปุโรหิต เขาก็เข้าไปนั่งผิงไฟกับพวกยามพระวิหาร พวกหัวหน้าปุโรหิตและทั้งสภาแซนเฮดรินพยายามค้นหาหลักฐานมามัดตัวพระเยซูเพื่อจะได้ประหารพระองค์ แต่พวกเขาไม่พบเลย มีหลายคนเป็นพยานเท็จปรักปรำพระองค์ แต่คำให้การของพวกเขาไม่สอดคล้องกัน แล้วมีบางคนยืนขึ้นเป็นพยานเท็จกล่าวหาพระองค์ว่า “พวกเราได้ยินเขากล่าวว่า ‘เราจะทำลายวิหารนี้ซึ่งสร้างขึ้นด้วยน้ำมือมนุษย์ แล้วในสามวันจะสร้างอีกวิหารหนึ่งขึ้นซึ่งไม่ได้สร้างด้วยมือมนุษย์’ ” ถึงกระนั้นคำพยานของพวกเขาก็ขัดกันเอง มหาปุโรหิตจึงยืนขึ้นต่อหน้าที่ประชุมและถามพระเยซูว่า “ท่านจะไม่ตอบอะไรหรือ? ท่านจะว่าอย่างไรกับข้อกล่าวหาของพยานเหล่านี้?” แต่พระเยซูทรงนิ่งอยู่ ไม่ได้ตรัสตอบ มหาปุโรหิตจึงถามพระองค์อีกครั้งว่า “ท่านคือพระคริสต์ พระบุตรขององค์ผู้ทรงเป็นที่สรรเสริญหรือ?” พระเยซูตรัสว่า “เราเป็น และท่านจะเห็นบุตรมนุษย์นั่งอยู่เบื้องขวาพระหัตถ์ขององค์ผู้ทรงฤทธิ์และเสด็จมาบนหมู่เมฆแห่งฟ้าสวรรค์” มหาปุโรหิตจึงฉีกเสื้อของตนและพูดว่า “เราจะต้องหาพยานอีกทำไม? ท่านทั้งหลายได้ยินเขาพูดหมิ่นประมาทแล้ว ท่านคิดเห็นอย่างไร?” พวกเขาทั้งหมดเห็นพ้องกันว่าพระองค์ควรรับโทษถึงตาย แล้วบางคนก็ถ่มน้ำลายรดพระองค์ พวกเขาเอาผ้าปิดพระเนตร ต่อยพระองค์ แล้วพูดว่า “ทายมาสิ!” พวกยามก็นำพระองค์ไปและทุบตีพระองค์ ขณะเปโตรอยู่ข้างล่างที่ลานบ้าน มีสาวใช้คนหนึ่งของมหาปุโรหิตผ่านมา เมื่อนางเห็นเปโตรผิงไฟอยู่ก็จ้องมองและพูดว่า “เจ้าก็อยู่กับเยซูชาวนาซาเร็ธด้วย” แต่เปโตรปฏิเสธว่า “เจ้าพูดอะไรข้าไม่รู้เรื่อง” แล้วออกไปที่ทางเข้า สาวใช้คนนั้นเห็นเขาที่นั่นก็พูดกับคนที่ยืนอยู่แถวนั้นอีกว่า “คนนี้ก็เป็นคนหนึ่งในพวกนั้น” เปโตรปฏิเสธอีก ครู่หนึ่งต่อมาคนที่ยืนใกล้ๆ พูดกับเปโตรว่า “ใช่แน่ๆ เจ้าเป็นคนหนึ่งในพวกนั้นเพราะเจ้าเป็นชาวกาลิลี” เปโตรจึงเริ่มสบถสาบานเป็นการใหญ่ว่า “ข้าไม่รู้จักคนที่พวกเจ้าพูดถึง” ทันใดนั้นไก่ก็ขันเป็นครั้งที่สอง เปโตรจึงนึกขึ้นได้ที่พระเยซูตรัสกับเขาไว้ว่า “ก่อนไก่ขันสองหนท่านจะปฏิเสธเราสามครั้ง” เปโตรก็ร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ

มาระโก 14:43-72 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

พระ​องค์​ยัง​กล่าว​ไม่​ทัน​ขาด​คำ ยูดาส​หนึ่ง​ใน​สาวก​ทั้ง​สิบ​สอง​ก็​เดิน​มา​ทันที พร้อม​กับ​กลุ่ม​คน​จาก​บรรดา​มหา​ปุโรหิต อาจารย์​ฝ่าย​กฎ​บัญญัติ และ​พวก​ผู้ใหญ่ ต่าง​ก็​ถือ​ดาบ​และ​ไม้​ตะบอง​มา​ด้วย ผู้​ทรยศ​นั้น​ได้​ให้​สัญญาณ​แก่​พวก​เขา​โดย​กล่าว​ว่า “เป็น​คน​ที่​เรา​จะ​จูบ​แก้ม​นั่น​แหละ จง​จับกุม​เขา​ได้​เลย และ​พา​เขา​ไป​โดย​คุม​ตัว​ไว้” เมื่อ​เขา​มา​ถึง​แล้ว​ก็​ไป​หา​พระ​องค์​ทันที พูด​ว่า “รับบี” แล้ว​ก็​จูบ​แก้ม​พระ​องค์ พวก​เขา​ลง​มือ​จับกุม​พระ​องค์ แต่​มี​คน​หนึ่ง​ที่​ยืน​อยู่​ใกล้ๆ ชัก​ดาบ​ออก​ฟัน​หู​ผู้​รับใช้​ของ​หัวหน้า​มหา​ปุโรหิต​ขาด พระ​เยซู​กล่าว​ตอบ​พวก​เขา​ว่า “พวก​ท่าน​เอา​ดาบ​และ​ไม้​ตะบอง​แล้ว​พา​กัน​มา​จับกุม​เรา เหมือน​กับ​ว่า​เรา​เป็น​โจร​อย่าง​นั้น​หรือ ทุก​วัน​เรา​เคย​อยู่​กับ​ท่าน​ใน​บริเวณ​พระ​วิหาร และ​สั่งสอน แต่​ท่าน​ก็​ไม่​ได้​จับกุม​เรา แต่​นี่​เกิด​ขึ้น​เพื่อ​เป็น​ไป​ตาม​พระ​คัมภีร์” แล้ว​เหล่า​สาวก​ก็​ละ​ทิ้ง​พระ​องค์​ไว้​และ​พา​กัน​หนี​ไป มี​ชาย​หนุ่ม​คน​หนึ่ง​เดิน​ตาม​พระ​เยซู​ไป เขา​ไม่​ได้​สวม​เสื้อผ้า มี​เพียง​ผ้า​ผืน​คลุม​ตัว​ไว้ และ​พวก​เขา​ก็​ดึง​ตัว​จะ​จับ​ชาย​คน​นั้น แต่​เขา​กลับ​สลัด​ผ้า​ทิ้ง​แล้ว​เปลือย​กาย​หนี​ไป พวก​เขา​นำ​พระ​เยซู​ไป​ยัง​หัวหน้า​มหา​ปุโรหิต ฝ่าย​มหา​ปุโรหิต​ทั้ง​ปวง พวก​ผู้ใหญ่ และ​อาจารย์​ฝ่าย​กฎ​บัญญัติ​ก็​ชุมนุม​ร่วม​กัน แล้ว​เปโตร​ได้​ติดตาม​พระ​องค์​ไป​อยู่​ห่างๆ เปโตร​อยู่​ใน​บริเวณ​ลาน​บ้าน​ของ​หัวหน้า​มหา​ปุโรหิต เขา​นั่ง​ผิง​ไฟ​อยู่​ร่วม​กับ​พวก​เจ้าหน้าที่ พวก​มหา​ปุโรหิต​และ​สมาชิก​ทั้ง​หมด​ใน​ศาสนสภา​พยายาม​หา​พยาน​ปรักปรำ​พระ​เยซู เพื่อ​ทำ​ให้​พระ​องค์​ได้​รับ​โทษ​ถึง​ตาย แต่​ก็​ไม่​สามารถ​หา​พยาน​ได้ มี​คน​จำนวน​มาก​ที่​เป็น​พยาน​เท็จ​ต่อต้าน​พระ​องค์ แต่​คำ​ยืนยัน​ของ​พวก​เขา​ไม่​ตรง​กัน มี​บาง​คน​ที่​ยืน​เป็น​พยาน​เท็จ​ต่อต้าน​พระ​องค์​ว่า “พวก​เรา​ได้ยิน​เขา​พูด​ว่า ‘เรา​จะ​ทำลาย​พระ​วิหาร​ที่​สร้าง​ด้วย​มือ​มนุษย์​นี้​ลง และ​ใน 3 วัน​เรา​จะ​สร้าง​อีก​วิหาร​หนึ่ง​ขึ้น​โดย​ไม่​ใช้​มือ​มนุษย์​เลย’” แม้​กระนั้น คำ​ยืนยัน​ของ​พวก​เขา​ก็​ยัง​ไม่​ตรง​กัน หัวหน้า​มหา​ปุโรหิต​ยืน​ขึ้น​ต่อ​หน้า​เขา​เหล่า​นั้น และ​ถาม​พระ​เยซู​ว่า “ท่าน​ไม่​ตอบ​อะไร​หรือ ท่าน​จะ​ว่า​อย่างไร​กับ​คำ​ให้​การ​ที่​กล่าวหา​ท่าน​มา​นี้” แต่​พระ​องค์​นิ่ง​เงียบ​ไม่​ตอบ หัวหน้า​มหา​ปุโรหิต​จึง​ถาม​พระ​องค์​อีก​ว่า “ท่าน​เป็น​พระ​คริสต์​บุตร​ของ​องค์​ผู้​ได้​รับ​การ​สรรเสริญ​หรือ” พระ​เยซู​กล่าว​ว่า “เรา​เป็น และ​พวก​ท่าน​จะ​เห็น​บุตรมนุษย์​นั่ง​อยู่ ณ เบื้อง​ขวา​ของ​องค์​ผู้​มี​อานุภาพ และ​มา​พร้อม​เมฆ​แห่ง​สวรรค์” หัวหน้า​มหา​ปุโรหิต​ก็​ฉีก​เสื้อ​ตัว​ใน​ของ​ตน​จน​ขาด​และ​กล่าว​ว่า “พวก​เรา​จำต้อง​มี​พยาน​อะไร​มาก​กว่า​นี้ พวก​ท่าน​ก็​ได้ยิน​คำ​พูด​หมิ่น​ประมาท​พระ​เจ้า​แล้ว พวก​ท่าน​เห็น​ว่า​อย่างไร” แล้ว​เขา​ทุก​คน​ก็​กล่าวโทษ​พระ​องค์​ให้​รับ​โทษ​ถึง​ตาย บาง​คน​ถ่ม​น้ำลาย​ใส่​พระ​องค์ โพก​ผ้า​ปิด​ตา ตบ​ตี​และ​พูด​กับ​พระ​องค์​ว่า “พยากรณ์​ซิ” และ​พวก​เจ้าหน้าที่​ก็​ตบ​พระ​องค์​ด้วย ขณะ​ที่​เปโตร​อยู่​เบื้อง​ล่าง​ที่​ลาน​บ้าน หญิง​รับใช้​คน​หนึ่ง​ของ​หัวหน้า​มหา​ปุโรหิต​เดิน​มา นาง​เห็น​เปโตร​กำลัง​ผิง​ไฟ​อยู่​ก็​มอง​ดู​เขา และ​พูด​ว่า “ท่าน​ก็​ด้วย ท่าน​อยู่​กับ​เยซู​ชาว​นาซาเร็ธ” แต่​เขา​ปฏิเสธ​ว่า “เรา​ไม่​รู้​และ​ไม่​เข้าใจ​ว่า​เจ้า​พูด​เรื่อง​อะไร” และ​เปโตร​ก็​เดิน​ออก​ไป​ทาง​ลาน​บ้าน เมื่อ​สาว​ใช้​คน​นั้น​เห็น​เขา​อยู่​ที่​นั่น​จึง​พูด​กับ​พวก​ที่​ยืน​อยู่​อีก​ว่า “ชาย​คน​นี้​เป็น​พวก​เดียว​กัน​กับ​เขา” แต่​เปโตร​ก็​ปฏิเสธ​อีก และ​ต่อ​มา​ไม่​นาน​พวก​ที่​ยืน​อยู่​จึง​พูด​กับ​เปโตร​อีก​ว่า “ใช่​แน่​แล้ว ท่าน​เป็น​พวก​เดียว​กัน​กับ​พวก​เขา เพราะ​เป็น​ชาว​กาลิลี” แต่​เปโตร​ก็​สบถ​สาบาน​อย่าง​จริงจัง​ว่า “เรา​ไม่​รู้จัก​ชาย​ผู้​ที่​ท่าน​พูด​ถึง​นี้” ใน​ทันใด​นั้น ไก่​ก็​ขัน​เป็น​ครั้ง​ที่​สอง และ​เปโตร​นึก​ถึง​คำ​ซึ่ง​พระ​เยซู​ได้​กล่าว​กับ​เขา​ไว้​ว่า “ก่อน​ไก่​จะ​ขัน 2 ครั้ง เจ้า​จะ​ปฏิเสธ 3 ครั้ง​ว่า​เจ้า​ไม่​รู้จัก​เรา” เปโตร​จึง​ร้องไห้