มาระโก 14:1-25

มาระโก 14:1-25 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

อีก​สอง​วัน​จะ​ถึง​เทศกาล​วัน​ปลด​ปล่อย และ​เทศกาล​ขนมปังไร้​เชื้อ พวก​ผู้นำ​นักบวช และ​พวก​ครู​สอน​กฎปฏิบัติ ก็​หา​ทาง​ที่​จะ​แอบ​จับ​พระเยซู​เพื่อ​เอา​ไป​ฆ่า พวก​เขา​ตกลง​กัน​ว่า “อย่า​เพิ่ง​ทำ​ใน​ช่วง​เทศกาล เพราะ​ประชาชน​จะ​ก่อ​การจลาจล​ขึ้น” เมื่อ​พระเยซู​อยู่​ที่​หมู่บ้าน​เบธานี ขณะ​ที่​กำลัง​กิน​อาหาร​อยู่​ใน​บ้าน​ของ​ซีโมน​คน​ที่​เคย​เป็น​โรค​ผิวหนัง​ร้ายแรง ก็​มี​หญิง​คน​หนึ่ง​ถือ​ขวด น้ำมัน​หอม​นาระดา ซึ่ง​มี​ราคา​แพง​มาก​เข้า​มา นาง​ทุบ​ปาก​ขวด​ให้​แตก​และ​ชโลม​น้ำมัน​หอม​นั้น​ลง​บน​ศีรษะ​ของ​พระเยซู ทำ​ให้​บางคน​ที่​อยู่​ที่​นั่น​ไม่​พอใจ​และ​บ่น​กัน​ว่า “ทำไม​ถึง​ทำ​เสีย​ของ​อย่างนี้ ถ้า​เอา​น้ำหอมนี้​ไป​ขาย​คง​ได้​เงิน​ถึง​สามร้อย​เหรียญ​เงิน จะ​ได้​เอา​ไป​แจกจ่าย​ให้​กับ​คน​จน” แล้ว​พวก​เขา​ก็​ต่อว่า​เธอ​เป็น​การใหญ่ แต่​พระเยซู​บอก​ว่า “อย่า​ยุ่ง​กับ​เธอ​เลย ไป​วุ่นวาย​กับ​เธอ​ทำไม เธอ​ได้​ทำ​สิ่ง​ที่​ดีงาม​ให้​กับ​เรา พวก​คุณ​จะ​มี​คน​จน​อยู่​ด้วย​เสมอ อยาก​ช่วย​เวลา​ไหน​ก็​ช่วย​ได้ แต่​เรา​จะ​ไม่​อยู่​กับ​พวก​คุณ​เสมอ​ไป และ​นี่​เป็น​สิ่ง​เดียว​ที่​เธอ​จะ​ทำ​ให้​กับ​เรา​ได้ ก็​คือ​การ​เท​น้ำมัน​หอม​บน​ตัว​เรา​เพื่อ​เตรียม​ร่าง​ของ​เรา​ล่วงหน้า​ก่อน​การ​ฝัง เรา​จะ​บอก​ให้​รู้​ว่า ไม่ว่า​ข่าวดีนี้​จะ​ประกาศ​ไปที่​ไหนๆ​ใน​โลกนี้ ก็​จะ​มี​คน​พูด​ถึง​เรื่อง​ที่​เธอ​ทำ​ให้​กับ​เรา​นี้​เสมอ เพื่อ​เป็น​การระลึกถึง​เธอ” แล้ว​ยูดาส​อิสคาริโอท ศิษย์​คน​หนึ่ง​ใน​สิบ​สอง​คน​ของ​พระเยซู​ก็​ได้​ไป​หา​พวก​หัวหน้า​นักบวช เพื่อ​เสนอตัว​ที่​จะ​ช่วย​จับ​พระเยซู​ให้ พวก​เขา​ดีใจ​มาก​ที่​ได้ยิน​อย่าง​นั้น และ​สัญญา​ว่า​จะ​จ่าย​เงิน​ให้​เป็น​ค่า​ตอบแทน ดังนั้น​ยูดาส​จึง​เริ่ม​หา​โอกาส​เหมาะ​ที่​จะ​ส่ง​มอบ​พระเยซู​ให้​กับ​พวก​หัวหน้า​นักบวช ใน​วัน​แรก​ของ​เทศกาล​กิน​ขนมปัง​ไร้​เชื้อ ซึ่ง​เป็น​วัน​ที่​พวก​ยิว​จะ​ฆ่า​ลูกแกะ​ถวาย​พระเจ้า สำหรับ​เทศกาลวัน​ปลด​ปล่อย ด้วย พวก​ศิษย์​ของ​พระเยซู​ได้​ถาม​พระองค์​ว่า “จะ​ให้​พวก​เรา​ไป​เตรียม​อาหาร​สำหรับ​เทศกาลวัน​ปลด​ปล่อย​ให้​กับ​อาจารย์​ที่​ไหน​ดี​ครับ” พระเยซู​ส่ง​ศิษย์​สอง​คน​ไป พระองค์​สั่ง​ว่า “เข้า​ไป​ใน​เมือง​แล้ว​จะ​เจอ​ผู้ชาย​ที่​แบก​เหยือก​น้ำ ให้​ตาม​เขา​ไป ให้​พูด​กับ​เจ้าของ​บ้าน​ที่​ชาย​คน​นั้น​เข้า​ไป​ว่า ‘อาจารย์​ให้​ถาม​ว่า​ห้อง​ที่​เรา​จะ​ใช้​กิน​อาหาร​ใน​เทศกาลวัน​ปลด​ปล่อย​กับ​พวก​ศิษย์​นั้น​อยู่​ที่​ไหน’ แล้ว​เขา​จะ​พา​คุณ​ไป​ดู​ห้อง​ใหญ่​ชั้น​บน​ที่​เตรียม​ไว้​พร้อม​แล้ว ให้​จัด​อาหาร​ที่​นั่น” แล้ว​ศิษย์​ทั้ง​สอง​ก็​เข้า​ไป​ใน​เมือง และ​มัน​ก็​เป็น​ไป​ตาม​ที่​พระเยซู​บอก​ทุก​อย่าง พวก​เขา​จึง​จัด​เตรียม​อาหาร​สำหรับ​เทศกาล​วัน​ปลด​ปล่อย​ที่​นั่น เมื่อ​ถึง​ตอนเย็น พระเยซู​มา​ถึง​บ้าน​หลัง​นั้น​พร้อม​กับ​พวก​ศิษย์​เอก​ทั้ง​สิบสอง​คน ใน​ขณะ​ที่​กำลัง​กิน​อยู่​นั้น พระเยซู​พูด​ว่า “เรา​จะ​บอก​ให้​รู้​ว่า คน​หนึ่ง​ใน​พวก​คุณ​จะ​หักหลัง​เรา และ​เขา​ก็​นั่ง​กิน​อยู่​กับ​เรา​ที่​นี่​ด้วย” พวก​ศิษย์​รู้สึก​เป็น​ทุกข์​มาก ต่าง​คน​ต่าง​ก็​ถาม​พระองค์​ว่า “คง​ไม่​ใช่​ผมนะ​อาจารย์” พระเยซู​จึง​พูด​กับ​พวก​เขา​ว่า “คน​หนึ่ง​ใน​พวก​คุณ​สิบ​สอง​คน​นี่​แหละ คน​ที่​จุ่ม​ขนมปัง​ใน​ชาม​เดียว​กับ​เรา บุตร​มนุษย์​จะ​ต้อง​ตาย​เหมือน​กับ​ที่​พระคัมภีร์ ได้​เขียน​ไว้​แล้ว แต่​คน​ที่​ได้​หักหลัง​บุตร​มนุษย์​นั้น​น่า​ละอาย​จริงๆ ถ้า​เขา​ไม่​ได้​เกิด​มา​ก็​คง​จะ​ดี​กว่า” ขณะ​ที่​กำลัง​กิน​อาหาร​อยู่​นั้น พระเยซู​ได้​หยิบ​ขนมปัง​ขึ้น​มา​ขอบคุณ​พระเจ้า จาก​นั้น​ก็​หัก​แบ่ง​ให้​พวก​ศิษย์​แล้ว​พูด​ว่า “รับ​ไป​กิน​สิ นี่​คือ​ร่างกาย​ของ​เรา” แล้ว​พระองค์​หยิบ​ถ้วย​ขึ้น​มา​ขอบคุณ​พระเจ้า​และ​ยื่น​ให้​กับ​พวก​ศิษย์ พวก​เขา​ก็​ได้​ดื่ม​จาก​ถ้วย​นั้น​ทุก​คน แล้ว​พระองค์​พูด​ว่า “นี่​คือ​เลือด​ของ​เรา พระเจ้า​ทำ​สัญญา​ขึ้น​มา​ด้วย​เลือดนี้ มัน​ได้​หลั่งไหล​ออก​มา​เพื่อ​คน​เป็น​จำนวน​มาก เรา​จะ​บอก​ให้​รู้​ว่า เรา​จะ​ไม่​ดื่ม​เหล้า​องุ่น​อีก​เลย​จน​กว่า​จะ​ถึง​วัน​นั้น​ที่​เรา​จะ​ดื่ม​เหล้า​องุ่น​ใหม่​ใน​อาณาจักร​ของ​พระเจ้า”

มาระโก 14:1-25 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

ก่อนเทศกาลปัสกา และเทศกาลกินขนมปังไร้เชื้อสองวัน พวกหัวหน้าปุโรหิตและพวกธรรมาจารย์วางอุบายที่จะจับพระองค์ประหารเสีย แต่พวกเขาพูดกันว่า “อย่าเพิ่งทำในช่วงเทศกาลเลย เดี๋ยวประชาชนจะวุ่นวาย” ระหว่างที่พระองค์ประทับที่หมู่บ้านเบธานี ในบ้านของซีโมนคนที่เคยเป็นโรคเรื้อน ขณะเมื่อประทับและเสวยอาหารอยู่นั้น มีหญิงคนหนึ่งถือผอบน้ำมันหอมนารดาที่มีราคาแพงมากมาหาพระองค์ แล้วเปิดผอบเทน้ำมันนั้นชโลมลงบนพระเศียรของพระองค์ แต่มีบางคนไม่พอใจพูดกันว่า “ทำไมถึงมาทำให้น้ำมันนี้เสียไปเปล่าๆ? เพราะน้ำมันนี้เอาไปขายได้เงินมากกว่าสามร้อยเดนาริอัน แล้วเอาไปแจกคนจนได้” พวกเขาจึงตำหนิหญิงคนนั้น พระเยซูจึงตรัสกับคนเหล่านั้นว่า “อย่าตำหนินางเลย ไปกวนใจนางทำไม? นางทำสิ่งดีสำหรับเรา เพราะว่าพวกท่านมีคนยากจนอยู่ด้วยเสมอ และพวกท่านจะทำการดีต่อพวกเขาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่พวกท่านจะไม่มีเราอยู่ด้วยเสมอไป หญิงคนนี้ทำสุดกำลังของนางแล้ว นางมาชโลมกายของเราล่วงหน้าก่อนที่จะมีการฝังศพของเรา เราบอกความจริงกับท่านทั้งหลายว่า สิ่งที่หญิงคนนี้ทำจะถูกกล่าวขวัญถึงไปทุกหนแห่งทั่วโลกที่มีการประกาศข่าวประเสริฐเพื่อเป็นการระลึกถึงนาง” ยูดาสอิสคาริโอทที่เป็นคนหนึ่งในพวกสาวกสิบสองคน ไปหาพวกหัวหน้าปุโรหิตเพื่อจะมอบตัวพระองค์ให้แก่พวกเขา เมื่อพวกเขาได้ยินอย่างนั้นก็ดีใจและสัญญาว่าจะให้เงินแก่ยูดาส แล้วยูดาสจึงคอยหาโอกาสที่จะมอบตัวพระองค์ให้แก่พวกเขา เมื่อถึงวันแรกของเทศกาลกินขนมปังไร้เชื้อ ซึ่งเป็นเวลาที่พวกเขาฆ่าลูกแกะสำหรับปัสกานั้น พวกสาวกมาทูลถามพระองค์ว่า “จะให้พวกข้าพระองค์ไปจัดเตรียมปัสกาให้พระองค์เสวยที่ไหน?” พระองค์จึงทรงใช้สาวกสองคนไป สั่งพวกเขาว่า “จงเข้าไปในเมือง แล้วจะมีชายคนหนึ่งทูนหม้อน้ำมาพบพวกท่าน จงตามคนนั้นไป เขาเข้าไปที่ไหน ก็ให้บอกเจ้าของบ้านนั้นว่า พระอาจารย์ถามว่า ‘ห้องที่เราจะกินปัสกากับเหล่าสาวกของเรานั้นอยู่ที่ไหน?’ เจ้าของบ้านจะชี้ให้เห็นห้องใหญ่ชั้นบนที่ตกแต่งไว้แล้ว ที่นั่นแหละ จงจัดเตรียมไว้สำหรับพวกเราเถิด” สาวกสองคนนั้นจึงออกไป เดินเข้าไปในเมือง และพบทุกอย่างเหมือนถ้อยคำที่พระองค์ตรัสแก่พวกเขา แล้วพวกเขาก็จัดเตรียมปัสกาไว้พร้อม เมื่อถึงเวลาค่ำแล้ว พระองค์จึงเสด็จมากับสาวกสิบสองคน ขณะกำลังประทับและเสวยอาหารอยู่นั้น พระเยซูตรัสกับพวกเขาว่า “เราบอกความจริงกับท่านทั้งหลายว่า คนหนึ่งในพวกท่านจะทรยศเรา เป็นคนที่ร่วมรับประทานอาหารกับเรา” พวกสาวกก็พากันเป็นทุกข์และทูลถามพระองค์ทีละคนว่า “เป็นข้าพระองค์หรือ?” พระองค์จึงตรัสตอบพวกเขาว่า “เป็นคนหนึ่งในสาวกสิบสองคนนี้ เป็นคนที่จิ้มในชามเดียวกับเรา เพราะบุตรมนุษย์จะต้องไปตามที่เขียนไว้เกี่ยวกับท่าน แต่วิบัติแก่คนที่ทรยศบุตรมนุษย์ ถ้าคนนั้นไม่ได้เกิดมาจะดีกว่า” ระหว่างอาหารมื้อนั้น พระเยซูทรงหยิบขนมปังมา เมื่อขอพระพรแล้ว ทรงหักส่งให้แก่เหล่าสาวกตรัสว่า “จงรับเถิด นี่เป็นกายของเรา” แล้วพระองค์ทรงหยิบถ้วย เมื่อขอบพระคุณแล้วจึงส่งให้พวกเขา พวกเขาก็รับไปดื่มทุกคน แล้วพระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า “นี่เป็นโลหิตของเราซึ่งเป็นโลหิตแห่งพันธสัญญาที่จะต้องหลั่งออกเพื่อคนจำนวนมาก เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า เราจะไม่ดื่มน้ำจากผลของเถาองุ่นอีกต่อไปจนกว่าจะถึงวันนั้น คือวันที่เราจะดื่มใหม่ในแผ่นดินของพระเจ้า”

มาระโก 14:1-25 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

ยั​งอ​ีกสองวันจะถึงเทศกาลปัสกาและเทศกาลกินขนมปังไร้​เชื้อ พวกปุโรหิตใหญ่และพวกธรรมาจารย์​ก็​หาช่องที่จะจับพระองค์ด้วยอุบายและจะฆ่าเสีย แต่​พวกเขาพู​ดก​ั​นว​่า “ในวันเลี้ยง อย่าเพ่อทำเลย กล​ั​วว​่าประชาชนจะเกิดวุ่นวาย” ในเวลาที่​พระองค์​ประทั​บอย​ู่​ที่​หมู่​บ้านเบธานี ในเรือนของซีโมนคนโรคเรื้อน ขณะเมื่อทรงเอนพระกายลงเสวยอยู่ มี​หญิงผู้​หน​ึ่งถือผอบน้ำมันหอมนาระดาที่​มี​ราคามากมาเฝ้าพระองค์ และนางทำให้ผอบนั้นแตกแล้​วก​็เทน้ำมันนั้นลงบนพระเศียรของพระองค์ แต่​มี​บางคนไม่พอใจพู​ดก​ั​นว​่า “​เหตุ​ใดจึงทำให้น้ำมันนี้​เสียเปล่า เพราะว่าน้ำมันนี้ ถ้าขายก็คงได้เงินกว่าสามร้อยเหรียญเดนาริ​อัน แล​้วจะแจกให้คนจนก็​ได้​” เขาจึ​งบ​่​นว​่าผู้หญิงนั้น ฝ่ายพระเยซูตรั​สว​่า “อย่าว่าเขาเลย กวนใจเขาทำไม เขาได้กระทำการดี​แก่​เรา ด้วยว่าคนยากจนมี​อยู่​กั​บท​่านเสมอ และท่านจะทำการดี​แก่​เขาเมื่อไรก็​ทำได้ แต่​เราจะไม่​อยู่​กั​บท​่านเสมอไป ซึ่งผู้หญิงนี้​ได้​กระทำก็เป็นการสุดกำลังของเขา เขามาชโลมกายของเราก่อนเพื่อการศพของเรา เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ที่​ไหนๆทั่วโลกซึ่งข่าวประเสริฐนี้จะประกาศไป การซึ่งผู้หญิงนี้​ได้​กระทำก็จะลือไปเป็​นที​่ระลึกถึงเขาที่​นั่น​” ฝ่ายยูดาสอิสคาริโอท เป็นคนหนึ่งในพวกสาวกสิบสองคน ได้​ไปหาพวกปุโรหิตใหญ่ เพื่อจะทรยศพระองค์​ให้​เขา ครั้นเขาได้ยินอย่างนั้​นก​็​ดีใจ และสัญญาว่าจะให้เงินแก่​ยู​ดาส แล​้วยูดาสจึงคอยหาช่องที่จะทรยศพระองค์​ให้​แก่​เขา เมื่อวันต้นเทศกาลกินขนมปังไร้​เชื้อ ถึงเวลาเขาเคยฆ่าลูกแกะสำหรับปัสกานั้น พวกสาวกของพระองค์มาทูลถามพระองค์​ว่า “​พระองค์​ทรงปรารถนาจะให้ข้าพระองค์ทั้งหลายไปจัดเตรียมปัสกาให้​พระองค์​เสวยที่​ไหน​” พระองค์​จึงทรงใช้สาวกสองคนไป สั่งเขาว่า “จงเข้าไปในกรุงนั้น แล​้วจะมีชายคนหนึ่งทูนหม้อน้ำมาพบท่าน จงตามคนนั้นไป เขาจะเข้าไปในที่​ใด ท่านจงบอกเจ้าของเรือนนั้​นว​่า พระอาจารย์ถามว่า ‘ห้องที่เราจะกินปัสกากับเหล่าสาวกของเราได้นั้นอยู่​ที่ไหน​’ เจ้​าของเรือนจะชี้​ให้​ท่านเห็นห้องใหญ่ชั้นบนที่ตกแต่งไว้​แล้ว ที่​นั่นแหละ จงจัดเตรียมไว้สำหรับพวกเราเถิด” สาวกสองคนนั้นจึงออกเดินเข้าไปในกรุง และพบเหมือนพระดำรัสที่​พระองค์​ได้​ตรัสแก่​เขา แล​้วได้จัดเตรียมปัสกาไว้​พร้อม ครั้นถึงเวลาค่ำแล้ว พระองค์​จึงเสด็จมากับสาวกสิบสองคน เมื่อกำลังเอนกายลงรับประทานอาหารอยู่ พระเยซู​จึงตรั​สว​่า “เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า คนหนึ่งในพวกท่านจะทรยศเรา คือคนหนึ่งที่รับประทานอาหารอยู่กับเรานี่​แหละ​” ฝ่ายพวกสาวกก็เริ่มพากันเป็นทุกข์ และทูลถามพระองค์​ที​ละคนว่า “คือข้าพระองค์​หรือ​” และอีกคนหนึ่งถามว่า “คือข้าพระองค์​หรือ​” พระองค์​จึงตรัสตอบเขาว่า “เป็นคนหนึ่งในสาวกสิบสองคนนี้ คือเป็นคนจิ้มในจานเดียวกั​นก​ับเรา เพราะบุตรมนุษย์จะเสด็จไปตามที่​ได้​มี​คำเขียนไว้ถึงพระองค์นั้นจริง แต่​วิบัติ​แก่​ผู้​ที่​ทรยศบุตรมนุษย์ ถ้าคนนั้​นม​ิ​ได้​บังเกิดมาก็จะเป็นการดีต่อคนนั้นเอง” ระหว่างอาหารมื้อนั้น พระเยซู​ทรงหยิบขนมปังมา ทรงขอบพระคุ​ณ แล​้วหักส่งให้​แก่​เหล่​าสาวกตรั​สว​่า “จงรั​บก​ินเถิด นี่​เป็นกายของเรา” แล​้วพระองค์จึงทรงหยิบถ้วย ขอบพระคุณและส่งให้​เขา เขาก็รับไปดื่​มท​ุกคน แล​้วพระองค์ตรัสแก่เขาว่า “​นี่​เป็นโลหิตของเราอันเป็นโลหิตแห่งพันธสัญญาใหม่ ซึ่งต้องหลั่งออกเพื่อคนเป็​นอ​ันมาก เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า เราจะไม่ดื่​มน​้ำผลแห่งเถาองุ่นนี้ต่อไปอีกจนวันนั้นมาถึง คือวั​นที​่เราจะดื่มใหม่ในอาณาจักรของพระเจ้า”

มาระโก 14:1-25 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

ยังอีกสองวันจะถึงเทศกาลปัสกา และเทศกาลกินขนมปังไร้เชื้อ พวกมหาปุโรหิตและพวกธรรมาจารย์ก็หาช่องที่จะจับพระองค์ด้วยอุบายฆ่าเสีย เขาพูดกันว่า <<ในช่วงเทศกาลอย่าเพ่อทำเลย กลัวว่าประชาชนจะเกิดวุ่นวาย>> ในเวลาที่พระองค์ประทับอยู่ที่หมู่บ้านเบธานี ในเรือนของซีโมนคนโรคเรื้อน ขณะเมื่อทรงนั่งเสวยพระกระยาหารอยู่ มีหญิงผู้หนึ่งถือผอบน้ำมันหอมนาระดา ที่มีราคามากมาเฝ้าพระองค์ แล้วเปิดผอบเทน้ำมันนั้นลงบนพระเศียรของพระองค์ แต่มีบางคนไม่พอใจพูดกันว่า <<เหตุใดจึงทำให้น้ำมันนี้เสียเปล่า เพราะว่าน้ำมันนี้ถ้าขายก็ได้เงินกว่าสามร้อยเหรียญเดนาริอัน แล้วจะแจกให้คนจนก็ได้>> เขาจึงว่าผู้หญิงนั้น ฝ่ายพระเยซูตรัสแก่คนเหล่านั้นว่า <<อย่าว่าเขาเลย กวนใจเขาทำไม เขาได้กระทำการดีแก่เรา ด้วยว่าคนยากจนมีอยู่กับท่านเสมอ และท่านจะทำการดีแก่เขาเมื่อไรก็ทำได้ แต่เราจะไม่อยู่กับท่านเสมอไป ซึ่งผู้หญิงนี้ได้กระทำก็เป็นการสุดกำลังของเขา เขามาชโลมกายของเราก่อนเพื่อการศพของเรา เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า การซึ่งผู้หญิงนี้ได้กระทำก็จะลือไปเป็นที่ระลึกถึงเขาที่ไหนๆ ที่ข่าวประเสริฐจะประกาศทั่วพิภพ ฝ่ายยูดาสอิสคาริโอท เป็นคนหนึ่งในพวกสาวกสิบสองคน ได้ไปหาพวกมหาปุโรหิต เพื่อจะชี้พระองค์ให้เขาจับ ครั้นเขาได้ยินอย่างนั้นก็ดีใจและสัญญาว่าจะให้เงินแก่ยูดาส แล้วยูดาสจึงคอยหาช่องที่จะชี้พระองค์ให้แก่เขา เมื่อวันต้นเทศกาลกินขนมปังไร้เชื้อ ถึงเวลาเขาเคยฆ่าลูกแกะสำหรับปัสกานั้น พวกสาวกมาทูลถามพระองค์ว่า <<จะให้ข้าพระองค์ไปจัดเตรียมปัสกาให้พระองค์เสวยที่ไหน>> พระองค์จึงทรงใช้สาวกสองคนไป สั่งเขาว่า <<จงเข้าไปในกรุง แล้วจะมีชายคนหนึ่งทูนหม้อน้ำมาพบท่าน จงตามคนนั้นไป เขาจะเข้าไปในที่ใด ท่านจงบอกเจ้าของเรือนนั้นว่า พระอาจารย์ถามว่า <ห้องที่เราจะกินปัสกากับเหล่าสาวกของเราได้นั้นอยู่ที่ไหน> เจ้าของเรือนจะชี้ให้ท่านเห็นห้องใหญ่ชั้นบนที่ตกแต่งไว้แล้ว ที่นั่นแหละ จงจัดเตรียมไว้สำหรับพวกเราเถิด>> สาวกสองคนนั้นจึงออกเดินเข้าไปในกรุง และพบเหมือนพระดำรัสที่พระองค์ได้ตรัสแก่เขา แล้วได้จัดเตรียมปัสกาไว้พร้อม ครั้นถึงเวลาค่ำแล้ว พระองค์จึงเสด็จมากับสาวกสิบสองคน เมื่อกำลังนั่งรับประทานอาหารอยู่ พระเยซูจึงตรัสแก่เขาว่า <<เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า คนหนึ่งในพวกท่านจะอายัดเราไว้ คือคนหนึ่งที่นั่งรับประทานอาหารอยู่กับเรานี่แหละ>> ฝ่ายพวกสาวกก็พากันเป็นทุกข์ และทูลถามพระองค์ทีละคนว่า <<คือข้าพระองค์หรือ>> พระองค์จึงตรัสตอบเขาว่า <<เป็นคนหนึ่งในสาวกสิบสองคนนี้ คือเป็นคนจิ้มในชามเดียวกันกับเรา เพราะบุตรมนุษย์จะเสด็จไปตามที่กล่าวไว้ในพระคัมภีร์ ว่าด้วยพระองค์นั้น แต่วิบัติแก่ผู้ที่จะอายัดบุตรมนุษย์ไว้ ถ้าคนนั้นมิได้บังเกิดมาก็จะดีกว่า>> ระหว่างอาหารมื้อนั้น พระเยซูทรงหยิบขนมปังมา เมื่อถวายคำสาธุการแล้ว ทรงหักส่งให้แก่เหล่าสาวกตรัสว่า <<จงรับเถิด นี่เป็นกายของเรา>> แล้วพระองค์จึงทรงหยิบถ้วยโมทนาพระคุณ และส่งให้เขา เขาก็รับไปดื่มทุกคน แล้วพระองค์ตรัสแก่เขาว่า <<นี่เป็นโลหิตของเราอันเป็นโลหิต แห่งพันธสัญญา ซึ่งต้องหลั่งออกเพื่อคนเป็นอันมาก เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า เราจะไม่ดื่มน้ำผลแห่งเถาองุ่นต่อไปอีก จนวันนั้นมาถึง คือวันที่เราจะดื่มใหม่ในแผ่นดินของพระเจ้า>>

มาระโก 14:1-25 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

อีกสองวันจะถึงเทศกาลปัสกาและเทศกาลขนมปังไม่ใส่เชื้อ พวกหัวหน้าปุโรหิตกับธรรมาจารย์กำลังหาอุบายที่จะจับพระเยซูมาฆ่า เขาพูดกันว่า “แต่อย่าลงมือช่วงเทศกาลเลยมิฉะนั้นประชาชนจะก่อการจลาจล” ที่หมู่บ้านเบธานีขณะพระเยซูทรงนั่งรับประทานอาหารอยู่ที่โต๊ะอาหารในบ้านของซีโมนคนโรคเรื้อน หญิงคนหนึ่งถือขวดน้ำมันหอมราคาแพงมากมา น้ำมันหอมนั้นทำจากเครื่องหอมบริสุทธิ์ นางเปิดขวดและรินน้ำมันหอมลงบนพระเศียรของพระองค์ บางคนที่นั่นไม่พอใจ ต่างพูดกันว่า “ทำให้น้ำมันหอมเสียไปเปล่าๆ ทำไม? ถ้านำไปขายคงจะได้เงินมากกว่าค่าจ้างคนงานทั้งปี จะได้เอาเงินไปให้คนยากจน” และพวกเขาตำหนินางอย่างรุนแรง พระเยซูตรัสว่า “อย่ายุ่งกับนาง ไปกวนใจนางทำไม? หญิงคนนี้ได้ทำสิ่งดีงามให้เรา ท่านจะมีคนยากจนอยู่กับท่านเสมอและท่านสามารถช่วยพวกเขาได้ทุกเวลาตามที่ท่านต้องการ แต่เราจะไม่ได้อยู่กับท่านเสมอไป หญิงคนนี้ทำเท่าที่นางทำได้ นางรินน้ำหอมลงบนกายของเราเป็นการเตรียมสำหรับพิธีศพของเราไว้ล่วงหน้า เราบอกความจริงแก่ท่านว่าไม่ว่าข่าวประเสริฐจะเผยแผ่ไปที่ใดๆ ทั่วโลก สิ่งที่นางได้ทำก็จะถูกเล่าขานไปเป็นการระลึกถึงนาง” แล้วยูดาสอิสคาริโอทหนึ่งในสาวกสิบสองคนก็ไปพบพวกหัวหน้าปุโรหิตเพื่อจะมอบพระเยซูให้คนเหล่านั้น พวกหัวหน้าปุโรหิตฟังแล้วก็ดีใจ และสัญญาจะให้เงินแก่ยูดาส เขาจึงจ้องหาโอกาสที่จะมอบพระองค์แก่พวกนั้น วันแรกของเทศกาลขนมปังไม่ใส่เชื้อซึ่งตามธรรมเนียมจะถวายแกะปัสกา เหล่าสาวกของพระเยซูมาทูลถามพระองค์ว่า “พระองค์ทรงประสงค์ให้จัดเตรียมปัสกาสำหรับเสวยที่ไหน?” พระองค์จึงทรงส่งสาวกสองคนไปพร้อมทั้งตรัสว่า “จงเข้าไปในเมือง จะมีชายคนหนึ่งทูนหม้อน้ำมาพบท่าน จงตามคนนั้นไป จงบอกเจ้าของบ้านที่ชายคนนั้นเดินเข้าไปว่า ‘พระอาจารย์ตรัสถามว่าห้องรับรองแขกที่พระองค์จะเสวยปัสการ่วมกับเหล่าสาวกอยู่ที่ไหน?’ เขาจะพาไปดูห้องใหญ่ชั้นบนซึ่งตกแต่งเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว จงเตรียมปัสกาให้เราที่นั่น” สาวกทั้งสองก็เข้าไปในเมืองและได้พบสิ่งต่างๆ ตามที่พระเยซูตรัส เขาจึงเตรียมปัสกา พอพลบค่ำพระเยซูเสด็จมาพร้อมกับสาวกทั้งสิบสองคน ขณะที่นั่งรับประทานอาหารอยู่ที่โต๊ะอาหารพระเยซูตรัสว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านว่าคนหนึ่งในพวกท่านจะทรยศเรา คือผู้ที่กำลังรับประทานอาหารกับเรา” เหล่าสาวกก็เสียใจและทูลพระองค์ทีละคนว่า “ไม่ใช่ข้าพระองค์แน่ใช่ไหม?” พระเยซูตรัสว่า “เขาเป็นหนึ่งในสาวกสิบสองคน เป็นคนที่หยิบอาหารจุ่มในชามเดียวกับเรา บุตรมนุษย์จะต้องไปตามที่มีเขียนไว้แต่วิบัติแก่ผู้นั้นที่ทรยศบุตรมนุษย์! ถ้าเขาไม่ได้เกิดมาก็ยังจะดีกับตัวเขาเองมากกว่า” ขณะรับประทานอาหารพระเยซูทรงหยิบขนมปัง ทรงขอบพระคุณพระเจ้าแล้วหักส่งให้เหล่าสาวกพร้อมทั้งตรัสว่า “จงรับไปรับประทานเถิด นี่เป็นกายของเรา” แล้วพระองค์ทรงหยิบถ้วย ทรงขอบพระคุณพระเจ้าและยื่นให้กับพวกเขา และพวกเขาทุกคนก็ดื่ม พระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า “นี่คือโลหิตของเราอันเป็นโลหิตแห่งพันธสัญญาซึ่งหลั่งรินเพื่อคนเป็นอันมาก เราบอกความจริงแก่ท่านว่าเราจะไม่ดื่มน้ำจากผลองุ่นนี้อีกจนกว่าจะถึงวันนั้นที่เราดื่มใหม่ในอาณาจักรของพระเจ้า”

มาระโก 14:1-25 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

อีก 2 วัน​ก็​ถึง​เทศกาล​ปัสกา และ​เทศกาล​ขนมปัง​ไร้​เชื้อ เหล่า​มหา​ปุโรหิต​และ​อาจารย์​ฝ่าย​กฎ​บัญญัติ​พยายาม​หา​ทาง​ว่า จะ​จับกุม​และ​ฆ่า​พระ​องค์​อย่าง​ลับๆ ได้​อย่างไร พวก​เขา​พูด​ว่า “ต้อง​ไม่​ทำ​ใน​ระหว่าง​เทศกาล มิ​ฉะนั้น​จะ​เกิด​การ​จลาจล​ใน​หมู่​ผู้​คน” ขณะ​ที่​พระ​องค์​เอน​กาย​อยู่​ที่​บ้าน​ของ​ซีโมน​ชาย​โรค​เรื้อน​ใน​หมู่บ้าน​เบธานี หญิง​คน​หนึ่ง​เอา​ผอบ​หิน​ซึ่ง​บรรจุ​ด้วย​น้ำมัน​หอม​นาราดา​บริสุทธิ์​ราคา​แพง​มาก​มา แล้ว​นาง​ก็​ทุบ​ผอบ​ให้​เปิด​ออก และ​ชโลม​น้ำมัน​บน​ศีรษะ​ของ​พระ​องค์ แต่​บาง​คน​ก็​พูด​ต่อ​กัน​และ​กัน​ด้วย​ความ​โกรธ​ว่า “ทำไม​จึง​ทำ​ให้​น้ำหอม​นี้​เสีย​ของ​เปล่าๆ เพราะ​ว่า​น้ำหอม​นี้​อาจ​จะ​ขาย​ได้​มาก​กว่า 300 เหรียญ​เดนาริอัน และ​เอา​เงิน​ไป​แจก​แก่​ผู้​ยากไร้​ได้” แล้ว​พวก​เขา​ก็​ดุ​ว่า​นาง แต่​พระ​เยซู​กล่าว​ว่า “ปล่อย​นาง​เถิด ทำไม​เจ้า​จึง​ยุ่ง​กับ​นาง​ด้วย นาง​ได้​ทำ​สิ่ง​ดี​ให้​เรา พวก​เจ้า​มี​ผู้​ยากไร้​อยู่​ด้วย​เสมอ เมื่อไร​ก็​ตาม​ที่​เจ้า​ปรารถนา​จะ​ช่วย​พวก​เขา เจ้า​ก็​ทำ​ได้ แต่​เรา​จะ​ไม่​ได้​อยู่​กับ​พวก​เจ้า​ตลอด​ไป นาง​ได้​กระทำ​เท่า​ที่​นาง​จะ​ทำ​ได้ นาง​ได้​ชโลม​กาย​ของ​เรา​ก่อน​พิธี​ฝัง​ศพ เรา​ขอบอก​ความ​จริง​กับ​เจ้า​ว่า ไม่​ว่า​ข่าว​ประเสริฐ​นี้​จะ​ถูก​ประกาศ​ไป​ที่​ใด​ใน​โลก​ก็​ตาม สิ่ง​ที่​นาง​ได้​ทำ​จะ​เป็น​ที่​กล่าว​ขวัญ​ถึง เพื่อ​เป็น​การ​ระลึก​ถึง​นาง” ครั้น​แล้ว​ยูดาส​อิสคาริโอท​ผู้​เป็น​หนึ่ง​ใน​สาวก​ทั้ง​สิบ​สอง ก็​ไป​หา​พวก​มหา​ปุโรหิต เพื่อ​ที่​จะ​มอบ​พระ​องค์​ให้​แก่​พวก​เขา พวก​เขา​ยินดี​เมื่อ​ได้ยิน​ดังนั้น และ​สัญญา​ที่​จะ​ให้​เงิน​แก่​ยูดาส และ​เขา​ก็​รอ​โอกาส​ที่​จะ​ทรยศ​พระ​องค์ ใน​วัน​แรก​ของ​เทศกาล​ขนมปัง​ไร้​เชื้อ เมื่อ​ลูก​แกะ​ปัสกา​ถูก​สังเวย เหล่า​สาวก​ของ​พระ​เยซู​พูด​ว่า “พระ​องค์​ประสงค์​จะ​ให้​พวก​เรา​ไป​เตรียม​อาหาร​วัน​ปัสกา​เพื่อ​ให้​พระ​องค์​รับประทาน​ที่​ไหน” พระ​องค์​ส่ง​สาวก 2 คน​ไป​โดย​กล่าว​ว่า “จง​เข้า​ไป​ใน​เมือง และ​จะ​มี​ชาย​ผู้​หนึ่ง​แบก​โถ​น้ำ​มา​พบ​เจ้า จง​ตาม​เขา​ไป ที่​ใด​ก็​ตาม​ที่​เขา​เข้า​ไป จง​พูด​กับ​เจ้าของ​บ้าน​ว่า ‘อาจารย์​ถาม​ว่า “ห้อง​รับรอง​ของ​เรา​ที่​เรา​จะ​รับประทาน​อาหาร​วัน​ปัสกา​กับ​เหล่า​สาวก​ของ​เรา​อยู่​ที่​ไหน”’ และ​เขา​จะ​ชี้​ให้​เจ้า​ดู​ห้อง​ใหญ่​ชั้น​บน​ที่​ตกแต่ง​ไว้​พร้อม​แล้ว จง​เตรียม​ไว้​ให้​พวก​เรา​ที่​นั่น” สาวก​ทั้ง​สอง​จึง​เดิน​เข้า​ไป​ใน​เมือง​และ​พบ​สิ่ง​ต่างๆ ตาม​ที่​พระ​องค์​ได้​บอก​พวก​เขา​ไว้ เขา​จึง​เตรียม​อาหาร​วัน​ปัสกา​กัน เมื่อ​ถึง​เวลา​เย็น​พระ​องค์​จึง​มา​กับ​สาวก​ทั้ง​สิบ​สอง ขณะ​ที่​เอน​กาย​ลง​รับประทาน​กัน​ที่​โต๊ะ พระ​เยซู​กล่าว​ว่า “เรา​ขอบอก​ความ​จริง​กับ​เจ้า​ว่า คน​หนึ่ง​ใน​พวก​เจ้า​จะ​ทรยศ​เรา เขา​คือ​คน​ที่​กำลัง​รับประทาน​ร่วม​กับ​เรา” พวก​เขา​เริ่ม​เศร้า​ใจ​และ​พูด​กับ​พระ​องค์​ที​ละ​คน​ว่า “เป็น​ข้าพเจ้า​หรือ​เปล่า” พระ​องค์​กล่าว​กับ​พวก​เขา​ว่า “เป็น 1 ใน 12 คน​ที่​จิ้ม​ขนมปัง​ร่วม​กับ​เรา​ใน​ถ้วย​นี้ เพราะ​ว่า​บุตรมนุษย์​ต้อง​ไป​ตาม​ที่​มี​บันทึก​ไว้​เกี่ยว​กับ​ท่าน แต่​วิบัติ​จะ​เกิด​กับ​คน​ที่​ทรยศ​บุตรมนุษย์ ถ้า​คน​นั้น​ไม่​ได้​มา​เกิด​ก็​จะ​ดี​กว่า” ขณะ​ที่​เขา​เหล่า​นั้น​กำลัง​รับประทาน​กัน​อยู่ พระ​องค์​หยิบ​ขนมปัง​มา กล่าว​ขอบคุณ​พระ​เจ้า แล้ว​ก็​บิ​เป็น​ชิ้น ยื่น​ให้​แก่​พวก​เขา​พลาง​กล่าว​ว่า “จง​รับ​เถิด นี่​เป็น​กาย​ของ​เรา” เมื่อ​พระ​องค์​หยิบ​ถ้วย​และ​กล่าว​ขอบคุณ​พระ​เจ้า​แล้ว พระ​องค์​จึง​ยื่น​ให้​แก่​พวก​สาวก และ​เขา​ทุก​คน​ก็​ดื่ม​กัน และ​พระ​เยซู​กล่าว​กับ​พวก​เขา​ว่า “นี่​เป็น​โลหิต​แห่ง​พันธ​สัญญา​ของ​เรา ซึ่ง​หลั่ง​ออก​ให้​แก่​คน​จำนวน​มาก เรา​ขอบอก​ความ​จริง​กับ​เจ้า​ว่า เรา​จะ​ไม่​ดื่ม​น้ำ​จาก​ผล​ของ​เถา​องุ่น​อีก​จน​กว่า​จะ​ถึง​วัน​นั้น คือ​วัน​ที่​เรา​จะ​ดื่ม​ใหม่​ใน​อาณาจักร​ของ​พระ​เจ้า”