มาระโก 13:32-36

มาระโก 13:32-36 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

<<แต่วันนั้น โมงนั้นไม่มีใครรู้ ถึงบรรดาทูตสวรรค์หรือพระบุตรก็ไม่รู้ รู้แต่พระบิดาองค์เดียว จงเฝ้าระวังและอธิษฐานอยู่ เพราะท่านไม่รู้ว่าเวลาวันนั้นจะมาถึงเมื่อไร เหมือนเจ้าของบ้านคนหนึ่งที่ออกจากบ้านไปทางไกล มอบอำนาจให้แก่บ่าวทุกคน และให้รู้การงานของตนว่ามีหน้าที่อะไร และได้สั่งนายประตูให้เฝ้าบ้านอยู่ เหตุฉะนั้นท่านทั้งหลายจงเฝ้าระวังอยู่ เพราะท่านไม่รู้ว่าเจ้าของบ้านจะมาเมื่อไร จะมาเวลาค่ำ หรือเที่ยงคืน หรือเวลาไก่ขัน หรือรุ่งเช้า จงเฝ้าระวังอยู่ กลัวว่าจะมาฉับพลันและจะพบท่านนอนหลับอยู่

มาระโก 13:32-36 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

“แต่ไม่มีใครรู้เรื่องวันหรือเวลานั้น แม้แต่พวกทูตในฟ้าสวรรค์หรือพระบุตร มีแต่พระบิดาเท่านั้น จงเฝ้าระวังและอธิษฐาน เพราะพวกท่านไม่รู้ว่าวันนั้นหรือเวลานั้นจะมาถึงเมื่อไหร่ เช่นเดียวกับชายคนหนึ่งที่ออกเดินทาง เมื่อเขาจะออกจากบ้าน เขาก็มอบหมายหน้าที่ให้ทาสแต่ละคนทำ และกำชับคนเฝ้าประตูให้คอยเฝ้าระวังอยู่ เพราะฉะนั้นท่านทั้งหลายจงเฝ้าระวังอยู่ เพราะพวกท่านไม่รู้ว่าเจ้าของบ้านจะมาเมื่อไร อาจจะมาในเวลาค่ำ หรือเที่ยงคืน หรือในเวลาไก่ขัน หรือรุ่งเช้า ถ้าไม่เช่นนั้นแล้วหากเจ้าของบ้านกลับมาอย่างฉับพลัน ท่านอาจพบว่าพวกท่านกำลังนอนหลับอยู่

มาระโก 13:32-36 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

“ไม่มีใครรู้วันเวลาที่เหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้น แม้แต่ทูตสวรรค์หรือพระบุตรก็ไม่รู้ พระบิดาเท่านั้นที่ทรงทราบ จงระวัง! จงตื่นตัว! ท่านไม่รู้ว่าเวลานั้นจะมาถึงเมื่อใด ก็เหมือนชายคนหนึ่งออกจากบ้านไป เขาตั้งคนรับใช้ให้รับผิดชอบหน้าที่ต่างๆ ตามที่แต่ละคนได้รับมอบหมายและบอกคนเฝ้าประตูให้เฝ้าระวังไว้ “ฉะนั้นจงเฝ้าระวังอยู่เพราะท่านไม่รู้ว่าเจ้าของบ้านจะกลับมาเมื่อใด อาจจะกลับมาเวลาค่ำหรือเวลาเที่ยงคืน เวลาไก่ขัน หรือเวลารุ่งสาง ถ้าเขากลับมากระทันหันก็อย่าให้เขาพบว่าท่านกำลังหลับอยู่

มาระโก 13:32-36 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

ไม่​มี​ใคร​รู้​วัน​เวลา​นั้น แม้แต่​หมู่​ทูตสวรรค์​หรือ​พระบุตร​เอง​ก็​ไม่​รู้ มี​แต่​พระบิดา​เท่านั้น​ที่​รู้ พวก​คุณ​ไม่​รู้​ว่า​เวลา​นั้น​จะ​มา​ถึง​เมื่อไหร่ ดังนั้น​ให้​ระวัง​ตัว​อยู่​เสมอ อย่า​ประมาท เหมือน​กับ​ที่​ชาย​คน​หนึ่ง​กำลัง​จะ​เดิน​ทาง​ไป​ที่​อื่น​พร้อม​กับ​สั่ง​งาน​ให้​ทาส​แต่​ละ​คน​ใน​บ้าน​ทำ และ​ได้​สั่ง​ยาม​ให้​เฝ้า​ประตู​บ้าน​ดีๆ พวก​คุณ​ก็​ต้อง​พร้อม​อยู่​เสมอ เพราะ​ไม่​รู้​ว่า​เจ้าของ​บ้าน​จะ​กลับ​มา​เมื่อไหร่ อาจ​จะ​เป็น​ตอน​เย็น ตอน​เที่ยงคืน ตอน​ไก่​ขัน​เช้ามืด หรือ​ตอน​สายๆ เพื่อ​ว่า​เมื่อ​เขา​กลับ​มา​อย่าง​กระทันหัน เขา​จะ​ได้​ไม่​พบ​ว่า​พวก​คุณ​กำลัง​นอนหลับ​อยู่

มาระโก 13:32-36 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

ไม่​มี​ใคร​รู้​วัน​เวลา​นั้น แม้แต่​หมู่​ทูตสวรรค์​หรือ​พระบุตร​เอง​ก็​ไม่​รู้ มี​แต่​พระบิดา​เท่านั้น​ที่​รู้ พวก​คุณ​ไม่​รู้​ว่า​เวลา​นั้น​จะ​มา​ถึง​เมื่อไหร่ ดังนั้น​ให้​ระวัง​ตัว​อยู่​เสมอ อย่า​ประมาท เหมือน​กับ​ที่​ชาย​คน​หนึ่ง​กำลัง​จะ​เดิน​ทาง​ไป​ที่​อื่น​พร้อม​กับ​สั่ง​งาน​ให้​ทาส​แต่​ละ​คน​ใน​บ้าน​ทำ และ​ได้​สั่ง​ยาม​ให้​เฝ้า​ประตู​บ้าน​ดีๆ พวก​คุณ​ก็​ต้อง​พร้อม​อยู่​เสมอ เพราะ​ไม่​รู้​ว่า​เจ้าของ​บ้าน​จะ​กลับ​มา​เมื่อไหร่ อาจ​จะ​เป็น​ตอน​เย็น ตอน​เที่ยงคืน ตอน​ไก่​ขัน​เช้ามืด หรือ​ตอน​สายๆ เพื่อ​ว่า​เมื่อ​เขา​กลับ​มา​อย่าง​กระทันหัน เขา​จะ​ได้​ไม่​พบ​ว่า​พวก​คุณ​กำลัง​นอนหลับ​อยู่

มาระโก 13:32-36 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

“แต่ไม่มีใครรู้เรื่องวันหรือเวลานั้น แม้แต่พวกทูตในฟ้าสวรรค์หรือพระบุตร มีแต่พระบิดาเท่านั้น จงเฝ้าระวังและอธิษฐาน เพราะพวกท่านไม่รู้ว่าวันนั้นหรือเวลานั้นจะมาถึงเมื่อไหร่ เช่นเดียวกับชายคนหนึ่งที่ออกเดินทาง เมื่อเขาจะออกจากบ้าน เขาก็มอบหมายหน้าที่ให้ทาสแต่ละคนทำ และกำชับคนเฝ้าประตูให้คอยเฝ้าระวังอยู่ เพราะฉะนั้นท่านทั้งหลายจงเฝ้าระวังอยู่ เพราะพวกท่านไม่รู้ว่าเจ้าของบ้านจะมาเมื่อไร อาจจะมาในเวลาค่ำ หรือเที่ยงคืน หรือในเวลาไก่ขัน หรือรุ่งเช้า ถ้าไม่เช่นนั้นแล้วหากเจ้าของบ้านกลับมาอย่างฉับพลัน ท่านอาจพบว่าพวกท่านกำลังนอนหลับอยู่

มาระโก 13:32-36 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

แต่​วันนั้นโมงนั้นไม่​มี​ใครรู้ ถึงบรรดาทูตสวรรค์ในสวรรค์หรือพระบุตรก็​ไม่รู้ รู้​แต่​พระบิดาองค์​เดียว จงเฝ้าระวังและอธิษฐานอยู่ เพราะท่านไม่​รู้​ว่าเวลาวันนั้นจะมาถึงเมื่อไร ด้วยว่าบุตรมนุษย์เปรียบเหมือนเจ้าของบ้านคนหนึ่งที่ออกจากบ้านไปทางไกล มอบสิทธิอำนาจให้​แก่​พวกผู้​รับใช้​ของเขา และให้​รู้​การงานของตนว่ามี​หน้าที่​อะไรและได้สั่งนายประตู​ให้​เฝ้าบ้านอยู่ เหตุ​ฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงเฝ้าระวังอยู่ เพราะท่านไม่​รู้​ว่าเจ้าของบ้านจะมาเมื่อไร จะมาเวลาค่ำ หรือเที่ยงคืน หรือเวลาไก่​ขัน หรือรุ่งเช้า กล​ั​วว​่าจะมาฉับพลันและจะพบท่านนอนหลั​บอย​ู่

มาระโก 13:32-36 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

<<แต่วันนั้น โมงนั้นไม่มีใครรู้ ถึงบรรดาทูตสวรรค์หรือพระบุตรก็ไม่รู้ รู้แต่พระบิดาองค์เดียว จงเฝ้าระวังและอธิษฐานอยู่ เพราะท่านไม่รู้ว่าเวลาวันนั้นจะมาถึงเมื่อไร เหมือนเจ้าของบ้านคนหนึ่งที่ออกจากบ้านไปทางไกล มอบอำนาจให้แก่บ่าวทุกคน และให้รู้การงานของตนว่ามีหน้าที่อะไร และได้สั่งนายประตูให้เฝ้าบ้านอยู่ เหตุฉะนั้นท่านทั้งหลายจงเฝ้าระวังอยู่ เพราะท่านไม่รู้ว่าเจ้าของบ้านจะมาเมื่อไร จะมาเวลาค่ำ หรือเที่ยงคืน หรือเวลาไก่ขัน หรือรุ่งเช้า จงเฝ้าระวังอยู่ กลัวว่าจะมาฉับพลันและจะพบท่านนอนหลับอยู่

มาระโก 13:32-36 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

“ไม่มีใครรู้วันเวลาที่เหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้น แม้แต่ทูตสวรรค์หรือพระบุตรก็ไม่รู้ พระบิดาเท่านั้นที่ทรงทราบ จงระวัง! จงตื่นตัว! ท่านไม่รู้ว่าเวลานั้นจะมาถึงเมื่อใด ก็เหมือนชายคนหนึ่งออกจากบ้านไป เขาตั้งคนรับใช้ให้รับผิดชอบหน้าที่ต่างๆ ตามที่แต่ละคนได้รับมอบหมายและบอกคนเฝ้าประตูให้เฝ้าระวังไว้ “ฉะนั้นจงเฝ้าระวังอยู่เพราะท่านไม่รู้ว่าเจ้าของบ้านจะกลับมาเมื่อใด อาจจะกลับมาเวลาค่ำหรือเวลาเที่ยงคืน เวลาไก่ขัน หรือเวลารุ่งสาง ถ้าเขากลับมากระทันหันก็อย่าให้เขาพบว่าท่านกำลังหลับอยู่

มาระโก 13:32-36 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

แต่​ไม่​มี​ใคร​ทราบ​ถึง​วัน​และ​เวลา​นั้น บรรดา​ทูต​สวรรค์​แห่ง​สวรรค์ หรือ​แม้​แต่​พระ​บุตร​ก็​ไม่​ทราบ​เช่น​กัน ยกเว้น​พระ​บิดา​เท่า​นั้น จง​ระวัง​และ​ตื่น​ตัว​ไว้ เพราะ​เจ้า​ไม่​รู้​ว่า​เวลา​จะ​มา​ถึง​เมื่อ​ใด เหมือน​กับ​ชาย​คน​หนึ่ง​ที่​ออก​เดิน​ทาง​ไป เมื่อ​ถึง​เวลา​ที่​เขา​จะ​จาก​บ้าน​ไป เขา​ให้​พวก​ทาส​รับใช้​ดูแล มอบ​หมาย​งาน​ให้​แต่​ละ​คน​และ​สั่ง​ให้​นาย​ประตู​เฝ้า​ไว้ ฉะนั้น จง​คอย​ระวัง​ไว้ เพราะ​เจ้า​ไม่​รู้​ว่า​เมื่อไหร่​เจ้าบ้าน​จะ​มา จะ​มา​ใน​เวลา​เย็น ตอน​เที่ยง​คืน เวลา​ไก่​ขัน หรือ​ใน​ตอน​เช้า​ตรู่ ถ้า​เขา​เข้า​มา​อย่าง​ฉับพลัน ก็​อย่า​ให้​เขา​พบ​ว่า​เจ้า​นอน​หลับ​อยู่

มาระโก 13:32-36

มาระโก 13:32-36 THSV11มาระโก 13:32-36 THSV11