มัทธิว 5:1-26

มัทธิว 5:1-26 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

เมื่อทอดพระเนตรเห็นฝูงชน พระองค์ก็เสด็จขึ้นไปบนภูเขาและเมื่อประทับแล้ว เหล่าสาวกของพระองค์มาเฝ้าพระองค์ แล้วพระองค์จึงตรัสสอนพวกเขาว่า “คนที่ยากจนด้านจิตวิญญาณก็เป็นสุข เพราะว่าแผ่นดินสวรรค์เป็นของเขาทั้งหลาย “คนที่โศกเศร้า ก็เป็นสุข เพราะว่าเขาทั้งหลายจะได้รับการหนุนใจ “คนที่สุภาพอ่อนโยน ก็เป็นสุข เพราะว่าเขาทั้งหลายจะได้รับแผ่นดินโลกเป็นมรดก “คนที่หิวและกระหาย ความชอบธรรมก็เป็นสุข เพราะว่าพระเจ้าจะทรงให้อิ่ม “คนที่มีใจเมตตา ก็เป็นสุข เพราะว่าเขาทั้งหลายจะได้รับพระเมตตาตอบ “คนที่มีใจบริสุทธิ์ ก็เป็นสุข เพราะว่าเขาทั้งหลายจะได้เห็นพระเจ้า “คนที่สร้างสันติก็เป็นสุข เพราะว่าพระเจ้าจะทรงเรียกเขาทั้งหลายว่าเป็นลูก “คนที่ถูกข่มเหงเพราะเหตุความชอบธรรม ก็เป็นสุข เพราะว่าแผ่นดินสวรรค์เป็นของเขาทั้งหลาย “เมื่อพวกเขาจะติเตียนข่มเหง และนินทาว่าร้ายท่านทั้งหลายต่างๆ เป็นความเท็จเพราะเรา ท่านก็เป็นสุข จงชื่นชมและยินดี เพราะว่าบำเหน็จของพวกท่านมีบริบูรณ์ในสวรรค์ เพราะพวกเขาข่มเหงบรรดาผู้เผยพระวจนะ ที่อยู่ก่อนท่านเหมือนกัน “ท่านทั้งหลายเป็นเกลือแห่งโลก ถ้าเกลือนั้นหมดรสเค็มไปแล้ว จะทำให้กลับเค็มอีกได้อย่างไร ตั้งแต่นั้นไปก็ไม่เป็นประโยชน์อะไร มีแต่จะถูกทิ้งเสียให้คนเหยียบย่ำ “ท่านทั้งหลายเป็นความสว่างของโลก นครซึ่งอยู่บนภูเขาจะถูกปิดบังไว้ไม่ได้ เมื่อจุดตะเกียงแล้วไม่มีผู้ใดเอาถังครอบไว้ ย่อมตั้งไว้บนเชิงตะเกียง จะได้ส่องสว่างแก่ทุกคนที่อยู่ในบ้านนั้น ทำนองเดียวกันพวกท่านจงส่องสว่างแก่คนทั้งปวง เพื่อว่าเมื่อเขาทั้งหลายได้เห็นความดีที่ท่านทำ พวกเขาจะได้สรรเสริญพระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์ “อย่าคิดว่าเรามาล้มเลิกธรรมบัญญัติและคำของบรรดาผู้เผยพระวจนะ เราไม่ได้มาล้มเลิก แต่มาทำให้สมบูรณ์ทุกประการ เพราะเราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า จนกว่าฟ้าและดินจะล่วงไป แม้อักษรที่เล็กที่สุด หรือขีด ขีดหนึ่ง ก็จะไม่มีวันสูญไปจากธรรมบัญญัติ จนกว่าทุกสิ่งจะเกิดขึ้น เพราะฉะนั้น ใครทำให้ข้อเล็กน้อยเพียงข้อหนึ่งในพระบัญญัตินี้ มีความสำคัญน้อยลง และสอนคนอื่นให้ทำอย่างนั้นด้วย คนนั้นจะได้ชื่อว่าเป็นผู้เล็กน้อยที่สุดในแผ่นดินสวรรค์ แต่ใครที่ประพฤติและสอนตามธรรมบัญญัติ คนนั้นจะได้ชื่อว่าเป็นใหญ่ในแผ่นดินสวรรค์ เพราะเราบอกพวกท่านว่า ถ้าความชอบธรรมของท่านไม่มากกว่าความชอบธรรมของพวกธรรมาจารย์และพวกฟาริสี พวกท่านจะไม่มีวันได้เข้าสู่แผ่นดินสวรรค์ “ท่านทั้งหลายได้ยินคำซึ่งกล่าวไว้กับคนในสมัยก่อนว่า ‘ห้ามฆ่าคน ถ้าใครฆ่าคน คนนั้นจะต้องถูกพิพากษา’ แต่เราบอกพวกท่านว่า ใครโกรธพี่น้องของตน คนนั้นจะต้องถูกพิพากษา ถ้าใครพูดกับพี่น้องอย่างเหยียดหยาม คนนั้นจะต้องถูกนำไปยังศาลสูงให้พิพากษา และถ้าใครพูดว่า ‘อ้ายโฉด’ คนนั้นจะมีโทษถึงไฟนรก เพราะฉะนั้น ถ้าท่านนำเครื่องบูชามาถึงแท่นบูชาแล้ว และระลึกขึ้นได้ว่า พี่น้องมีเหตุขัดเคืองข้อหนึ่งข้อใดกับท่าน จงวางเครื่องบูชาไว้ที่หน้าแท่นบูชา และกลับไปคืนดีกับพี่น้องผู้นั้นเสียก่อน แล้วจึงค่อยมาถวายเครื่องบูชาของท่าน จงปรองดองกับคู่ความโดยเร็วในขณะที่พากันไปศาล มิฉะนั้นคู่ความนั้นจะมอบตัวท่านไว้กับผู้พิพากษา แล้วผู้พิพากษาจะมอบตัวท่านไว้กับผู้คุม และท่านจะต้องถูกขังไว้ในคุก เราบอกความจริงแก่ท่านว่า ท่านจะออกจากที่นั่นไม่ได้จนกว่าจะใช้หนี้หมด

มัทธิว 5:1-26 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

เมื่อ​พระเยซู​เห็น​ผู้คน​ตาม​มา​เป็น​จำนวน​มาก พระองค์​ได้​ขึ้น​ไป​บน​ภูเขา​และ​นั่ง​อยู่​ที่​นั่น พวก​ศิษย์​เข้า​มา​หา​พระองค์ พระองค์​จึง​เริ่ม​สอน​พวก​เขา​ว่า “คน​ที่​รู้ตัว​ว่า​ต้อง​การ​พระเจ้า มี​เกียรติ​จริงๆ เพราะ​เขา​ได้​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ใน​อาณาจักร​แห่ง​สวรรค์ คน​ที่​โศกเศร้า มี​เกียรติ​จริงๆ เพราะ​พระเจ้า​จะ​ปลอบโยน​เขา คน​ที่​มี​จิตใจ​อ่อนโยน มี​เกียรติ​จริงๆ เพราะ​พระเจ้า​จะ​ให้​โลกนี้​กับ​เขา คน​ที่​หิว​กระหาย​ที่​จะ​ทำ​ตาม​ใจ​พระเจ้า มี​เกียรติ​จริงๆ​เพราะ​พระเจ้า​จะ​ทำ​ให้​เขา​อิ่ม​ใจ คน​ที่​มี​จิตใจ​เมตตา มี​เกียรติ​จริงๆ เพราะ​พระเจ้า​จะ​เมตตา​เขา คน​ที่​มี​จิตใจ​บริสุทธิ์ มี​เกียรติ​จริงๆ เพราะ​เขา​จะ​ได้​เห็น​พระเจ้า คน​ที่​สร้าง​สันติ มี​เกียรติ​จริงๆ เพราะ​พระเจ้า​จะ​เรียก​เขา​ว่า​เป็น​ลูก คน​ที่​โดน​ข่มเหง​รังแก​เพราะ​ทำ​ตาม​ความต้องการ​ของ​พระเจ้า มี​เกียรติ​จริงๆ​เพราะ​เขา​ได้​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ใน​อาณาจักร​แห่ง​สวรรค์ คน​ที่​โดน​ดูถูก โดน​ข่มเหง​รังแก และ​โดน​ใส่ร้าย​ป้ายสี เพราะ​ติดตาม​เรา มี​เกียรติ​จริงๆ ให้​ดีใจ​และ​มี​ความสุข​เถอะ เพราะ​พระเจ้า​ได้​เก็บ​รางวัล​อัน​ยิ่งใหญ่​ไว้​ให้​กับ​คุณ​แล้ว​ที่​บน​สวรรค์ เพราะ​พวก​ผู้พูดแทนพระเจ้า​ใน​สมัย​ก่อน​ก็​โดน​ข่มเหง​อย่าง​เดียว​กับ​คุณ​นี่​แหละ พวก​คุณ​เป็น​เกลือ​ของ​โลกนี้ ถ้า​เกลือ​หมด​รส​เค็ม​แล้ว จะ​ทำ​ให้​เค็ม​อีก​ได้​อย่างไร มัน​ไม่​มี​ประโยชน์​อะไร​อีก​แล้ว นอก​จาก​เอา​ไป​ทิ้ง​ให้​คน​เหยียบ​ย่ำ พวก​คุณ​เป็น​แสงสว่าง​ของ​โลก เมือง​ที่​สร้าง​อยู่​บน​ภูเขา​จะ​เอา​ไป​ซ่อน​ไว้​ไม่​ให้​คน​เห็น​ก็​ไม่​ได้ เหมือน​กับ​เมื่อ​จุด​ตะเกียง ก็​ไม่​มี​ใคร​เอา​ไป​ไว้​ใต้​ถัง แต่​จะ​เอา​ไป​ตั้ง​ไว้​บน​เชิง​ตะเกียง เพื่อ​จะ​ได้​ส่อง​สว่าง​ให้​กับ​ทุกคน​ที่​อยู่​ใน​บ้าน พวก​คุณ​ก็​เหมือน​กัน ให้​ส่อง​สว่าง​ออก​ไป​เพื่อ​คน​จะ​ได้​เห็น​ความ​ดี​ที่​คุณ​ทำ และ​จะ​ได้​สรรเสริญ​พระบิดา​ของ​คุณ​ที่​อยู่​บน​สวรรค์ อย่า​คิด​ว่า​เรา​มา​ยกเลิก​กฎปฏิบัติ​ของ​โมเสส หรือ​มา​ยกเลิก​ข้อ​ความ​ที่​ผู้พูดแทนพระเจ้า​เขียน​ไว้ เรา​ไม่​ได้​มา​ยกเลิก​แต่​มา​ทำ​ให้​มัน​สำเร็จ เรา​จะ​บอก​ให้​รู้​ว่า ตราบใด​ที่​ฟ้า​และ​ดิน​ยัง​อยู่ จะ​ไม่​มี​วัน​ที่​ตัว​หนังสือ​ตัว​เล็กๆ​หรือ​จุด​เล็กๆ​สัก​จุด​เดียว​จะ​หาย​ไป​จาก​กฎ​ปฏิบัติ จนกว่า​ทุก​อย่าง​จะ​เกิดขึ้น​จริง​ตาม​นั้น คน​ที่​ไม่​ยอม​เชื่อฟัง​ข้อ​เล็กๆ​ข้อ​หนึ่ง​ใน​กฎปฏิบัติ แล้ว​ยัง​สอน​ให้​คน​อื่น​ไม่​เชื่อฟัง​ด้วย คน​นั้น​ก็​จะ​เป็น​คน​ที่​เล็กน้อย​ที่สุด​ใน​อาณาจักร​แห่ง​สวรรค์ แต่​คน​ที่​เชื่อฟัง​กฎปฏิบัติ​และ​สอน​ให้​คน​อื่น​เชื่อฟัง​ด้วย คนๆ​นั้น​ก็​จะ​เป็น​คน​ที่​ยิ่งใหญ่​ใน​อาณาจักร​แห่ง​สวรรค์ เพราะ​เรา​จะ​บอก​ให้​รู้​ว่า ถ้า​พวก​คุณ​ไม่​ได้​เชื่อฟัง​พระเจ้า​มาก​ไป​กว่า​ที่​พวก​ครู​สอน​กฎปฏิบัติ​และ​พวก​ฟาริสี​เชื่อฟัง​พระองค์ คุณ​ก็​จะ​ไม่​มี​วัน​ได้​เข้า​ไป​ใน​อาณาจักร​แห่ง​สวรรค์ พวก​คุณ​คง​เคย​ได้ยิน​ที่​เขา​พูด​กับ​คน​สมัย​ก่อน​ว่า ‘อย่า​ฆ่า​คน’ แต่​ถ้า​ใคร​ทำ คน​นั้น​จะ​ต้อง​ถูก​ลงโทษ แต่​เรา​จะ​บอก​ให้​รู้​ว่า แค่​คน​ที่​โกรธ​พี่น้อง​ของ​ตัวเอง​ก็​ถูก​ตัดสิน​ว่า​ผิด​แล้ว และ​คน​ที่​ว่า​พี่น้อง​ของ​ตัวเอง​ว่า ‘ไอ้​ปัญญา​อ่อน’ เขา​จะ​ต้อง​ถูก​สอบสวน​ใน​ศาลสูง และ​ใคร​ก็​ตาม​ที่​ว่า​คน​อื่น ‘ไอ้​โง่’ เขา​ก็​เสี่ยง​ต่อ​บึง​ไฟ​นรก​แล้ว ดังนั้น​ถ้า​คุณ​นำ​เครื่อง​บูชา​มา​ถึง​แท่น​บูชา และ​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า พี่น้อง​มี​ปัญหา​กับ​คุณ​ใน​สิ่ง​ที่​คุณ​ทำ​ไป ให้​วาง​เครื่อง​บูชา​นั้น​ไว้ และ​กลับ​ไป​คืนดี​กับ​พี่น้อง​คน​นั้น​ก่อน แล้ว​ค่อย​กลับ​มา​ถวาย​เครื่อง​บูชา ถ้า​มี​ใคร​ฟ้องร้อง​คุณ ก็​ให้​รีบ​ปรับ​ความเข้าใจ​กับ​เขา​ใน​ระหว่าง​ทาง​ที่​กำลัง​ไป​ศาล ไม่​อย่าง​นั้น​เขา​จะ​ส่ง​ตัว​คุณ​ให้​ผู้พิพากษา แล้ว​ผู้พิพากษา​จะ​ส่ง​คุณ​ไป​ให้​ผู้คุม​เอา​ไป​ขัง​คุก เรา​จะ​บอก​ให้​รู้​ว่า คุณ​จะ​ถูก​ขัง​จนกว่า​จะ​ใช้​หนี้​ครบ​ทุก​บาท​ทุก​สตางค์

มัทธิว 5:1-26 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

เมื่อทอดพระเนตรเห็นฝูงชน พระองค์ก็เสด็จขึ้นไปบนภูเขาและเมื่อประทับแล้ว เหล่าสาวกของพระองค์มาเฝ้าพระองค์ แล้วพระองค์จึงตรัสสอนพวกเขาว่า “คนที่ยากจนด้านจิตวิญญาณก็เป็นสุข เพราะว่าแผ่นดินสวรรค์เป็นของเขาทั้งหลาย “คนที่โศกเศร้า ก็เป็นสุข เพราะว่าเขาทั้งหลายจะได้รับการหนุนใจ “คนที่สุภาพอ่อนโยน ก็เป็นสุข เพราะว่าเขาทั้งหลายจะได้รับแผ่นดินโลกเป็นมรดก “คนที่หิวและกระหาย ความชอบธรรมก็เป็นสุข เพราะว่าพระเจ้าจะทรงให้อิ่ม “คนที่มีใจเมตตา ก็เป็นสุข เพราะว่าเขาทั้งหลายจะได้รับพระเมตตาตอบ “คนที่มีใจบริสุทธิ์ ก็เป็นสุข เพราะว่าเขาทั้งหลายจะได้เห็นพระเจ้า “คนที่สร้างสันติก็เป็นสุข เพราะว่าพระเจ้าจะทรงเรียกเขาทั้งหลายว่าเป็นลูก “คนที่ถูกข่มเหงเพราะเหตุความชอบธรรม ก็เป็นสุข เพราะว่าแผ่นดินสวรรค์เป็นของเขาทั้งหลาย “เมื่อพวกเขาจะติเตียนข่มเหง และนินทาว่าร้ายท่านทั้งหลายต่างๆ เป็นความเท็จเพราะเรา ท่านก็เป็นสุข จงชื่นชมและยินดี เพราะว่าบำเหน็จของพวกท่านมีบริบูรณ์ในสวรรค์ เพราะพวกเขาข่มเหงบรรดาผู้เผยพระวจนะ ที่อยู่ก่อนท่านเหมือนกัน “ท่านทั้งหลายเป็นเกลือแห่งโลก ถ้าเกลือนั้นหมดรสเค็มไปแล้ว จะทำให้กลับเค็มอีกได้อย่างไร ตั้งแต่นั้นไปก็ไม่เป็นประโยชน์อะไร มีแต่จะถูกทิ้งเสียให้คนเหยียบย่ำ “ท่านทั้งหลายเป็นความสว่างของโลก นครซึ่งอยู่บนภูเขาจะถูกปิดบังไว้ไม่ได้ เมื่อจุดตะเกียงแล้วไม่มีผู้ใดเอาถังครอบไว้ ย่อมตั้งไว้บนเชิงตะเกียง จะได้ส่องสว่างแก่ทุกคนที่อยู่ในบ้านนั้น ทำนองเดียวกันพวกท่านจงส่องสว่างแก่คนทั้งปวง เพื่อว่าเมื่อเขาทั้งหลายได้เห็นความดีที่ท่านทำ พวกเขาจะได้สรรเสริญพระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์ “อย่าคิดว่าเรามาล้มเลิกธรรมบัญญัติและคำของบรรดาผู้เผยพระวจนะ เราไม่ได้มาล้มเลิก แต่มาทำให้สมบูรณ์ทุกประการ เพราะเราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า จนกว่าฟ้าและดินจะล่วงไป แม้อักษรที่เล็กที่สุด หรือขีด ขีดหนึ่ง ก็จะไม่มีวันสูญไปจากธรรมบัญญัติ จนกว่าทุกสิ่งจะเกิดขึ้น เพราะฉะนั้น ใครทำให้ข้อเล็กน้อยเพียงข้อหนึ่งในพระบัญญัตินี้ มีความสำคัญน้อยลง และสอนคนอื่นให้ทำอย่างนั้นด้วย คนนั้นจะได้ชื่อว่าเป็นผู้เล็กน้อยที่สุดในแผ่นดินสวรรค์ แต่ใครที่ประพฤติและสอนตามธรรมบัญญัติ คนนั้นจะได้ชื่อว่าเป็นใหญ่ในแผ่นดินสวรรค์ เพราะเราบอกพวกท่านว่า ถ้าความชอบธรรมของท่านไม่มากกว่าความชอบธรรมของพวกธรรมาจารย์และพวกฟาริสี พวกท่านจะไม่มีวันได้เข้าสู่แผ่นดินสวรรค์ “ท่านทั้งหลายได้ยินคำซึ่งกล่าวไว้กับคนในสมัยก่อนว่า ‘ห้ามฆ่าคน ถ้าใครฆ่าคน คนนั้นจะต้องถูกพิพากษา’ แต่เราบอกพวกท่านว่า ใครโกรธพี่น้องของตน คนนั้นจะต้องถูกพิพากษา ถ้าใครพูดกับพี่น้องอย่างเหยียดหยาม คนนั้นจะต้องถูกนำไปยังศาลสูงให้พิพากษา และถ้าใครพูดว่า ‘อ้ายโฉด’ คนนั้นจะมีโทษถึงไฟนรก เพราะฉะนั้น ถ้าท่านนำเครื่องบูชามาถึงแท่นบูชาแล้ว และระลึกขึ้นได้ว่า พี่น้องมีเหตุขัดเคืองข้อหนึ่งข้อใดกับท่าน จงวางเครื่องบูชาไว้ที่หน้าแท่นบูชา และกลับไปคืนดีกับพี่น้องผู้นั้นเสียก่อน แล้วจึงค่อยมาถวายเครื่องบูชาของท่าน จงปรองดองกับคู่ความโดยเร็วในขณะที่พากันไปศาล มิฉะนั้นคู่ความนั้นจะมอบตัวท่านไว้กับผู้พิพากษา แล้วผู้พิพากษาจะมอบตัวท่านไว้กับผู้คุม และท่านจะต้องถูกขังไว้ในคุก เราบอกความจริงแก่ท่านว่า ท่านจะออกจากที่นั่นไม่ได้จนกว่าจะใช้หนี้หมด

มัทธิว 5:1-26 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

ครั้นทอดพระเนตรเห็นคนมากดังนั้น พระองค์​ก็​เสด็จขึ้นไปบนภู​เขา และเมื่อประทับแล้ว เหล่​าสาวกของพระองค์มาเฝ้าพระองค์ และพระองค์ทรงเอ่ยพระโอษฐ์ตรัสสอนเขาว่า “​บุ​คคลผู้ใดรู้สึกบกพร่องฝ่ายจิตวิญญาณ ผู้​นั้นเป็นสุข เพราะอาณาจักรแห่งสวรรค์เป็นของเขา บุ​คคลผู้ใดโศกเศร้า ผู้​นั้นเป็นสุข เพราะว่าเขาจะได้รับการทรงปลอบประโลม บุ​คคลผู้ใดมีใจอ่อนโยน ผู้​นั้นเป็นสุข เพราะว่าเขาจะได้รับแผ่นดินโลกเป็นมรดก บุ​คคลผู้ใดหิวกระหายความชอบธรรม ผู้​นั้นเป็นสุขเพราะว่าเขาจะได้อิ่มบริบู​รณ​์ บุ​คคลผู้ใดมีใจกรุณา ผู้​นั้นเป็นสุข เพราะว่าเขาจะได้รับพระกรุณา บุ​คคลผู้ใดมีใจบริ​สุทธิ​์ ผู้​นั้นเป็นสุข เพราะว่าเขาจะได้​เห​็นพระเจ้า บุ​คคลผู้ใดสร้างสันติ ผู้​นั้นเป็นสุข เพราะว่าจะได้เรียกเขาว่าเป็นบุตรของพระเจ้า บุ​คคลผู้ใดต้องถูกข่มเหงเพราะเหตุ​ความชอบธรรม ผู้​นั้นเป็นสุข เพราะว่าอาณาจักรแห่งสวรรค์เป็นของเขา เมื่อเขาจะติเตียนข่มเหงและนินทาว่าร้ายท่านทั้งหลายเป็นความเท็จเพราะเรา ท่านก็​เป็นสุข จงชื่นชมยินดีอย่างเหลือล้น เพราะว่าบำเหน็จของท่านมี​บริบูรณ์​ในสวรรค์ เพราะเขาได้ข่มเหงศาสดาพยากรณ์ทั้งหลายที่​อยู่​ก่อนท่านเหมือนกัน ท่านทั้งหลายเป็นเกลือแห่งโลก แต่​ถ้าเกลือนั้นหมดรสเค็มไปแล้ว จะทำให้​กล​ับเค็​มอ​ีกอย่างไรได้ แต่​นั้นไปก็​ไม่​เป็นประโยชน์​อะไร มี​แต่​จะทิ้งเสียสำหรับคนเหยียบย่ำ ท่านทั้งหลายเป็นความสว่างของโลก นครซึ่งอยู่บนภูเขาจะปิดบังไว้​ไม่ได้ ไม่มี​ผู้​ใดจุดเทียนแล้วนำไปวางไว้ในถัง แต่​ย่อมตั้งไว้บนเชิงเทียน จะได้ส่องสว่างแก่​ทุ​กคนที่​อยู่​ในเรือนนั้น จงให้ความสว่างของท่านส่องไปต่อหน้าคนทั้งปวงอย่างนั้น เพื่อว่าเขาได้​เห​็นความดี​ที่​ท่านทำ และจะได้สรรเสริญพระบิดาของท่านผู้ทรงอยู่ในสวรรค์ อย่าคิดว่าเรามาเพื่อจะทำลายพระราชบัญญั​ติ​หรือคำของศาสดาพยากรณ์​เสีย เรามิ​ได้​มาเพื่อจะทำลาย แต่​มาเพื่อจะให้​สำเร็จ เพราะเราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ถึงฟ้าและดินจะล่วงไป แม้​อักษรหนึ่งหรือจุดๆหนึ่​งก​็จะไม่สูญไปจากพระราชบัญญั​ติ จนกว่าจะสำเร็จทั้งสิ้น เหตุ​ฉะนั้น ผู้​ใดได้​ทำให้​ข้อเล็กน้อยสักข้อหนึ่งในพระบัญญั​ติ​นี้​เบาลง ทั้งสอนคนอื่นให้ทำอย่างนั้นด้วย ผู้​นั้นจะได้​ชื่อว่า เป็นผู้น้อยที่สุดในอาณาจักรแห่งสวรรค์ แต่​ผู้​ใดที่​ประพฤติ​และสอนตามพระบัญญั​ติ ผู้​นั้นจะได้​ชื่อว่า เป็นใหญ่​ในอาณาจักรแห่งสวรรค์ เพราะเราบอกท่านทั้งหลายว่า ถ้าความชอบธรรมของท่านไม่ยิ่งกว่าความชอบธรรมของพวกธรรมาจารย์และพวกฟาริ​สี ท่านจะไม่​มี​วันได้​เข​้าในอาณาจักรแห่งสวรรค์ ท่านทั้งหลายได้ยิ​นว​่ามีคำกล่าวในครั้งโบราณว่า ‘อย่าฆ่าคน’ ถ้าผู้ใดฆ่าคน ผู้​นั้นจะต้องถูกพิพากษาลงโทษ ฝ่ายเราบอกท่านทั้งหลายว่า ผู้​ใดโกรธพี่น้องของตนโดยไม่​มี​เหตุ ผู้​นั้นจะต้องถูกพิพากษาลงโทษ ถ้าผู้ใดจะพู​ดก​ับพี่น้องว่า ‘อ้ายบ้า’ ผู้​นั้นต้องถูกนำไปที่ศาลสูงให้พิพากษาลงโทษ และผู้ใดจะว่า ‘อ้ายโง่’ ผู้​นั้นจะมีโทษถึงไฟนรก เหตุ​ฉะนั้น ถ้าท่านนำเครื่องบูชามาถึงแท่นบูชาแล้ว และระลึกขึ้นได้​ว่า พี่​น้องมี​เหตุ​ขัดเคืองข้อหนึ่งข้อใดกั​บท​่าน จงวางเครื่องบูชาไว้​ที่​หน​้าแท่นบู​ชา กล​ับไปคืนดีกับพี่น้องผู้นั้นเสี​ยก​่อน แล​้วจึงค่อยมาถวายเครื่องบูชาของท่าน จงปรองดองกับคู่ความโดยเร็วขณะที่พากันไป เกล​ือกว่าในเวลาหนึ่งเวลาใดคู่ความนั้นจะมอบท่านไว้กับผู้​พิพากษา แล​้วผู้พิพากษาจะมอบท่านไว้กับผู้​คุม และท่านจะต้องถูกขังไว้ในเรือนจำ เราบอกความจริงแก่ท่านว่า ท่านจะออกจากที่นั่นไม่​ได้​กว่าท่านจะได้​ใช้หนี้​จนครบ

มัทธิว 5:1-26 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

ครั้นทอดพระเนตรเห็นคนมากดังนั้น พระองค์ก็เสด็จขึ้นไปบนภูเขาและเมื่อประทับแล้ว เหล่าสาวกของพระองค์มาเฝ้าพระองค์ แล้วพระองค์จึงตรัสสอนเขาว่า <<บุคคลผู้ใด รู้สึกบกพร่องฝ่ายวิญญาณ ผู้นั้นเป็นสุข เพราะแผ่นดินสวรรค์เป็นของเขา <<บุคคลผู้ใดโศกเศร้า ผู้นั้นเป็นสุข เพราะว่าเขาจะได้รับการทรงปลอบประโลม <<บุคคลผู้ใดมีใจอ่อนโยน ผู้นั้นเป็นสุข เพราะว่าเขาจะได้รับแผ่นดินโลกเป็นมรดก <<บุคคลผู้ใดหิวกระหาย ความชอบธรรม ผู้นั้นเป็นสุข เพราะว่าพระเจ้าจะทรงให้อิ่มบริบูรณ์ <<บุคคลผู้ใดมีใจกรุณา ผู้นั้นเป็นสุข เพราะว่าเขาจะได้รับพระกรุณาตอบ <<บุคคลผู้ใดมีใจบริสุทธิ์ ผู้นั้นเป็นสุข เพราะว่าเขาจะได้เห็นพระเจ้า <<บุคคลผู้ใดสร้างสันติ ผู้นั้นเป็นสุข เพราะว่าพระเจ้าจะทรงเรียกเขาว่าเป็นบุตร <<บุคคลผู้ใดต้องถูกข่มเหงเพราะเหตุความชอบธรรม ผู้นั้นเป็นสุข เพราะว่าแผ่นดินสวรรค์เป็นของเขา <<เมื่อเขาจะติเตียนข่มเหง และนินทาว่าร้ายท่านทั้งหลายเป็นความเท็จเพราะเรา ท่านก็เป็นสุข จงชื่นชมยินดี เพราะว่าบำเหน็จของท่านมีบริบูรณ์ในสวรรค์ เพราะเขาได้ข่มเหงผู้เผยพระวจนะทั้งหลาย ที่อยู่ก่อนท่านเหมือนกัน <<ท่านทั้งหลายเป็นเกลือแห่งโลก ถ้าเกลือนั้นหมดรสเค็มไปแล้ว จะทำให้กลับเค็มอีกอย่างไรได้ แต่นั้นไปก็ไม่เป็นประโยชน์อะไร มีแต่จะทิ้งเสียสำหรับคนเหยียบย่ำ <<ท่านทั้งหลายเป็นความสว่างของโลก นครซึ่งอยู่บนภูเขาจะปิดบังไว้ไม่ได้ เมื่อจุดตะเกียงแล้ว ไม่มีผู้ใดเอาถังครอบไว้ ย่อมตั้งไว้บนเชิงตะเกียง จะได้ส่องสว่างแก่ทุกคนที่อยู่ในเรือนนั้น ท่านทั้งหลายก็เหมือนกับตะเกียง จงส่องสว่างแก่คนทั้งปวง เพื่อว่าเมื่อเขาได้เห็นความดีที่ท่านทำ เขาจะได้สรรเสริญพระบิดาของท่าน ผู้ทรงอยู่ในสวรรค์ <<อย่าคิดว่าเรามาเลิกล้างธรรมบัญญัติและคำของผู้เผยพระวจนะ เรามิได้มาเลิกล้าง แต่มาทำให้สมบูรณ์ทุกประการ เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ตราบใดที่ฟ้าและดินดำรงอยู่ แม้อักษรหนึ่งหรือขีดๆหนึ่งก็จะไม่สูญไปจากธรรมบัญญัติ จนกว่าสิ่งที่จะต้องเกิด ได้เกิดขึ้นแล้ว เหตุฉะนั้น ผู้ใดได้ทำให้ข้อเล็กน้อยสักข้อหนึ่งในธรรมบัญญัตินี้เบาขึ้น ทั้งสอนคนอื่นให้ทำอย่างนั้นด้วย ผู้นั้นจะได้ชื่อว่าเป็นผู้น้อยที่สุดในแผ่นดินสวรรค์ แต่ผู้ใดที่ประพฤติและสอนตามธรรมบัญญัติ ผู้นั้นจะได้ชื่อว่าเป็นใหญ่ในแผ่นดินสวรรค์ เพราะเราบอกท่านทั้งหลายว่า ถ้าความชอบธรรมของท่าน ไม่ยิ่งกว่าความชอบธรรมของพวกธรรมาจารย์ และพวกฟาริสี ท่านจะไม่มีวันได้เข้าสู่แผ่นดินสวรรค์ <<ท่านทั้งหลายได้ยินคำซึ่งกล่าวไว้แก่คนโบราณว่า อย่าฆ่าคน ถ้าผู้ใดฆ่าคน ผู้นั้นจะต้องถูกพิพากษาลงโทษ เราบอกท่านทั้งหลายว่า ผู้ใดโกรธพี่น้องของตน ผู้นั้นจะต้องถูกพิพากษาลงโทษ ถ้าผู้ใดจะพูดกับพี่น้องว่า <อ้ายโง่> ผู้นั้นต้องถูกนำไปที่ศาลสูงให้พิพากษาลงโทษและผู้ใดจะว่า <อ้ายบ้า> ผู้นั้นจะมีโทษถึงไฟนรก เหตุฉะนั้นถ้าท่านนำเครื่องบูชามาถึงแท่นบูชาแล้ว และระลึกขึ้นได้ว่า พี่น้องมีเหตุขัดเคืองข้อหนึ่งข้อใดกับท่าน จงวางเครื่องบูชาไว้ที่หน้าแท่นบูชา กลับไปคืนดีกับพี่น้องผู้นั้นเสียก่อน แล้วจึงค่อยมาถวายเครื่องบูชาของท่าน จงปรองดองกับคู่ความโดยเร็วในขณะที่พากันไปศาล เกลือกว่าคู่ความนั้นจะอายัดท่านไว้กับผู้พิพากษา แล้วผู้พิพากษาจะมอบท่านไว้กับผู้คุม และท่านจะต้องถูกขังไว้ในเรือนจำ เราบอกความจริงแก่ท่านว่า ท่านจะออกจากที่นั่นไม่ได้จนกว่าจะได้ใช้หนี้จนครบ

มัทธิว 5:1-26 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

เมื่อพระเยซูทอดพระเนตรเห็นฝูงชนมากมายก็เสด็จขึ้นเนินเขาและประทับนั่ง เหล่าสาวกของพระองค์พากันมาหาพระองค์ และพระองค์ทรงเริ่มต้นสั่งสอนพวกเขาว่า “ความสุขมีแก่ผู้ที่สำนึกว่าตนขัดสนฝ่ายจิตวิญญาณ เพราะอาณาจักรสวรรค์เป็นของเขาแล้ว ความสุขมีแก่ผู้ที่โศกเศร้า เพราะเขาจะได้รับการปลอบประโลม ความสุขมีแก่ผู้ที่ถ่อมสุภาพ เพราะเขาจะได้รับแผ่นดินโลกเป็นมรดก ความสุขมีแก่ผู้ที่หิวกระหายความชอบธรรม เพราะเขาจะได้อิ่มบริบูรณ์ ความสุขมีแก่ผู้ที่เมตตากรุณา เพราะเขาจะได้รับความเมตตากรุณาตอบแทน ความสุขมีแก่ผู้ที่มีจิตใจบริสุทธิ์ เพราะเขาจะได้เห็นพระเจ้า ความสุขมีแก่ผู้ที่สร้างสันติ เพราะเขาจะได้ชื่อว่าบุตรของพระเจ้า ความสุขมีแก่ผู้ที่ถูกข่มเหงเพราะความชอบธรรม เพราะอาณาจักรสวรรค์เป็นของเขาแล้ว “ความสุขมีแก่ท่านเมื่อคนทั้งหลายสบประมาท ข่มเหง และใส่ร้ายป้ายสีท่านเพราะเรา จงชื่นชมยินดีเถิดเพราะบำเหน็จของท่านในสวรรค์ยิ่งใหญ่นัก เพราะพวกเขาได้ข่มเหงบรรดาผู้เผยพระวจนะที่อยู่ก่อนท่านเหมือนกัน “ท่านทั้งหลายเป็นเกลือของโลก แต่ถ้าเกลือนั้นหมดความเค็มแล้วจะทำให้กลับเค็มอีกได้อย่างไร? มันก็ไม่มีประโยชน์อันใดอีกต่อไป มีแต่จะถูกสาดทิ้งให้คนเหยียบย่ำ “ท่านทั้งหลายเป็นแสงสว่างของโลก เมืองที่ตั้งอยู่บนภูเขาจะซ่อนไว้ไม่ได้ เช่นเดียวกัน เมื่อคนจุดตะเกียงแล้วย่อมไม่เอาฝาครอบ แต่จะตั้งไว้บนเชิงตะเกียงให้ส่องสว่างแก่ทุกคนในบ้าน ในทำนองเดียวกัน จงให้ความสว่างของท่านกระจ่างแจ้งต่อหน้าคนทั้งหลาย เพื่อเขาจะเห็นการดีของท่านและสรรเสริญพระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์ “อย่าคิดว่าเรามาเพื่อล้มล้างหนังสือบทบัญญัติหรือหนังสือผู้เผยพระวจนะ เราไม่ได้มาล้มล้างแต่มาเพื่อทำให้สำเร็จครบถ้วน เราบอกความจริงแก่ท่านว่าตราบจนฟ้าและดินสูญสิ้นไป แม้อักษรที่เล็กที่สุดสักตัวหนึ่งหรือขีดๆ หนึ่งก็จะไม่มีทางสูญหายจากหนังสือบทบัญญัติจนกว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะสำเร็จครบถ้วน ผู้ใดฝ่าฝืนบทบัญญัติเหล่านี้แม้ข้อเล็กน้อยที่สุดและสอนคนอื่นให้ทำเช่นเดียวกัน ผู้นั้นจะได้ชื่อว่าเป็นผู้เล็กน้อยที่สุดในอาณาจักรสวรรค์ ส่วนผู้ที่ปฏิบัติและสั่งสอนตามคำบัญชาเหล่านี้จะได้ชื่อว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในอาณาจักรสวรรค์ เพราะเราบอกท่านว่าหากความชอบธรรมของท่านไม่มากกว่าของพวกฟาริสีและเหล่าธรรมาจารย์แล้วท่านจะไม่ได้เข้าอาณาจักรสวรรค์อย่างแน่นอน “ท่านทั้งหลายได้ยินคำซึ่งกล่าวไว้แก่คนโบราณว่า ‘อย่าฆ่าคนและถ้าผู้ใดฆ่าคนจะถูกตัดสินลงโทษ’ แต่เราบอกท่านว่าถ้าผู้ใดโกรธเคืองพี่น้องของตนจะถูกตัดสินลงโทษ ถ้าผู้ใดพูดดูหมิ่นพี่น้องของตนจะต้องถูกนำตัวขึ้นศาลแซนเฮดริน และถ้าผู้ใดพูดว่า ‘ไอ้โง่!’ อาจจะต้องโทษถึงไฟนรก “ดังนั้นถ้าท่านกำลังถวายเครื่องบูชาที่แท่นบูชาและนึกขึ้นได้ว่าพี่น้องมีเหตุขุ่นเคืองใดๆ กับท่าน จงละเครื่องบูชาไว้ที่หน้าแท่นแล้วไปคืนดีกับพี่น้องก่อน จึงค่อยกลับมาถวายเครื่องบูชา “จงปรองดองกับคู่ความโดยเร็วขณะที่เขากำลังพาท่านไปศาล มิฉะนั้นเขาอาจจะมอบท่านให้แก่ผู้พิพากษา และผู้พิพากษาจะมอบท่านให้แก่เจ้าหน้าที่ แล้วท่านอาจจะถูกขังในเรือนจำ เราบอกความจริงแก่ท่านว่าท่านจะออกมาไม่ได้จนกว่าจะใช้หนี้ครบถ้วนทุกบาททุกสตางค์

มัทธิว 5:1-26 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

เมื่อ​พระ​องค์​เห็น​ฝูง​ชน​แล้ว​ก็​ขึ้น​ไป​บน​ภูเขา และ​เมื่อ​นั่ง​ลง​แล้ว​เหล่า​สาวก​จึง​มา​หา​พระ​องค์ พระ​องค์​เริ่ม​กล่าว​สั่ง​สอน​พวก​เขา​ว่า “ผู้​ที่​ยอม​รับ​ว่า​ตน​บกพร่อง​ฝ่าย​วิญญาณ​จะ​เป็นสุข เพราะ​ว่า​อาณาจักร​แห่ง​สวรรค์​เป็น​ของ​เขา ผู้​ที่​เศร้า​โศก​จะ​เป็นสุข เพราะ​ว่า​พระ​เจ้า​จะ​ปลอบ​ประโลม​เขา ผู้​มี​ใจ​อ่อนน้อม​จะ​เป็นสุข เพราะ​เขา​จะ​ได้รับ​แผ่นดิน​โลก​เป็น​มรดก​จาก​พระ​เจ้า ผู้​ที่​หิว​กระหาย​ความ​ชอบธรรม​จะ​เป็น​สุข เพราะ​เขา​จะ​อิ่มหนำ ผู้​มี​ความ​เมตตา​จะ​เป็น​สุข เพราะ​เขา​จะ​ได้รับ​ความ​เมตตา ผู้​มี​ใจ​บริสุทธิ์​จะ​เป็นสุข เพราะ​เขา​จะ​ได้เห็น​พระ​เจ้า ผู้​สร้าง​สันติ​จะ​เป็นสุข เพราะ​พระ​เจ้า​จะ​เรียก​เขา​ว่า บรรดา​บุตร​ของ​พระ​องค์ ผู้​ที่​ถูก​ข่มเหง​เพราะ​เห็น​แก่​การ​กระทำ​ที่​เป็น​ไป​ตาม​ความ​ชอบธรรม​จะ​เป็นสุข เพราะ​ว่า​อาณาจักร​แห่ง​สวรรค์​เป็น​ของ​เขา พวก​ท่าน​ที่​ถูก​เหยียดหยาม ถูก​ข่มเหง และ​ถูก​กล่าว​หา​ว่าร้าย​เหตุ​เพราะ​เรา ท่าน​ก็​จะ​เป็นสุข จง​ชื่นชม​ยินดี​และ​ดีใจ​เถิด เพราะ​รางวัล​อัน​เลิศ​ของ​ท่าน​อยู่​ใน​สวรรค์ เพราะ​ว่า​พวก​เขา​ได้​ข่มเหง​ผู้เผย​คำกล่าว​ของ​พระ​เจ้า​ที่​มา​ล่วงหน้า​ท่าน​ด้วย​วิธี​เดียวกัน พวก​ท่าน​เป็น​เสมือน​เกลือ​ของ​แผ่นดิน​โลก แต่​ถ้า​เกลือ​สิ้น​ความ​เค็ม​แล้ว จะ​กลับ​มา​เค็ม​อีก​ได้​อย่างไร ใน​เมื่อ​หมด​ประโยชน์​แล้ว รัง​แต่​จะ​ถูก​ทิ้ง​และ​ถูก​คน​เหยียบ​ย่ำ ท่าน​เป็น​เสมือน​แสง​สว่าง​ของ​โลก เมือง​ที่​ตั้ง​อยู่​บน​เขา​ไม่​อาจ​ปกปิด​ซ่อนเร้น​ไว้​ได้ คน​ที่​จุด​ตะเกียง​ก็​เช่น​กัน จะ​ไม่​วาง​ไว้​ใต้​ภาชนะ แต่​จะ​ตั้ง​ไว้​บน​ขาตั้ง​ตะเกียง​ให้​แสง​ส่อง​ถึง​ทุก​คน​ที่​อยู่​ใน​บ้าน จง​ให้​แสง​สว่าง​ของ​ท่าน​ส่อง​ให้​คน​ทั้ง​ปวง​เห็น เพื่อ​เขา​จะ​ได้​เห็น​การ​กระทำ​ที่​ดี​ของ​ท่าน และ​สรรเสริญ​พระ​บิดา​ของ​ท่าน​ใน​สวรรค์ อย่า​คิด​ว่า​เรา​มา​เพื่อ​ล้มล้าง​กฎ​บัญญัติ​หรือ​คำ​สั่งสอน​ของ​ผู้เผย​คำกล่าว​ของ​พระ​เจ้า เรา​มิได้​มา​เพื่อ​ล้มล้าง​สิ่ง​เหล่า​นั้น แต่​เพื่อ​เป็น​ไป​ตามที่​บันทึก​ไว้​ใน​พระ​คัมภีร์ เรา​ขอบอก​ความ​จริง​กับ​ท่าน​ว่า ตราบ​ที่​สวรรค์​และ​โลก​คง​อยู่ แม้แต่​ตัว​หนังสือ​เล็ก​สุด​หรือ​จุดๆ หนึ่ง​จะ​ไม่​ถูก​ตัด​ออก​ไป​จาก​กฎ​บัญญัติ จนกว่า​ทุก​สิ่ง​ที่​บันทึก​ไว้​จะ​สัมฤทธิผล ฉะนั้น​ผู้​ใด​ก็​ตามที่​ฝ่าฝืน​พระ​บัญญัติ​ข้อ​เล็ก​น้อย ข้อ​หนึ่ง​ข้อ​ใด​และ​สอน​ผู้​อื่น​ให้​ทำ​ตาม​ด้วย จะ​ได้​ชื่อ​ว่า​เป็น​ผู้​น้อย​ที่​สุด​ใน​อาณาจักร​แห่ง​สวรรค์ แต่​ผู้​ที่​ปฏิบัติ​ตาม​และ​สอน​พระ​บัญญัติ ผู้​นั้น​จะ​ได้​ชื่อ​ว่า​เป็น​ผู้​ยิ่ง​ใหญ่​ใน​อาณาจักร​แห่ง​สวรรค์ เรา​ขอบอก​ท่าน​ว่า ถ้า​การ​กระทำ​ของ​ท่าน​ที่​เป็น​ไป​ตาม​ความ​ชอบธรรม​ไม่​เหนือ​ไป​กว่า​ของ​พวก​อาจารย์​ฝ่าย​กฎ​บัญญัติ​และ​ฟาริสี​แล้ว ท่าน​จะ​ไม่​มี​วัน​เข้า​สู่​อาณาจักร​แห่ง​สวรรค์​ได้ พวก​ท่าน​ได้ยิน​คำ​ที่​กล่าว​ไว้​กับ​คน​ใน​สมัย​โบราณ​ว่า ‘อย่า​ฆ่า​คน ผู้​ใด​ที่​ฆ่า​คน​ก็​จะ​ถูก​พิพากษา​ลง​โทษ’ แต่​เรา​ขอบอก​ท่าน​ว่า ทุก​คน​ที่​โกรธ​พี่น้อง​ของ​ตน​จะ​ถูก​พิพากษา​ลง​โทษ และ​ผู้​ที่​กล่าว​กับ​พี่น้อง​ของ​ตน​ว่า ‘เจ้า​คน​ไร้​ค่า’ ก็​จะ​ถูก​พิพากษา​ที่​ศาสนสภา และ​ผู้​ที่​กล่าว​ว่า ‘เจ้า​คน​โง่’ ก็​จะ​มี​โทษ​พอ​ที่​จะ​ตก​ลง​สู่​ไฟ​นรก ฉะนั้น​ถ้า​ท่าน​ถวาย​เครื่อง​บูชา​ที่​แท่น​บูชา และ​ท่าน​ระลึก​ขึ้น​ได้ ณ ที่​นั้น​ว่า พี่น้อง​คน​หนึ่ง​มี​เรื่อง​ขัด​เคือง​ต่อ​ท่าน ก็​จง​วาง​เครื่อง​บูชา​ของ​ท่าน​ไว้​ที่​แท่น​บูชา และ​กลับ​ไป​คืนดี​กับ​พี่น้อง​ของ​ท่าน​ก่อน แล้ว​จึง​ค่อย​ย้อน​กลับ​มา​ถวาย​เครื่อง​บูชา จง​ตกลง​กับ​โจทก์​ของ​ท่าน​ระหว่าง​ทาง​โดย​เร็ว เพื่อ​ว่า​เขา​จะได้​ไม่​ส่ง​ตัว​ท่าน​ให้​กับ​ผู้​พิพากษา และ​ผู้​พิพากษา​ส่ง​ต่อ​ให้​ผู้คุม​และ​โยน​ท่าน​เข้า​คุก เรา​ขอบอก​ความ​จริง​กับ​ท่าน​ว่า ท่าน​จะ​ออก​จาก​ที่​นั่น​ไม่​ได้​จน​กว่า​ท่าน​จะ​จ่าย​เงิน​เหรียญ​สุดท้าย​เสีย​ก่อน