มัทธิว 26:45-70

มัทธิว 26:45-70 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

แล้วเสด็จมายังพวกสาวกตรัสว่า “พวกท่านยังจะนอนต่อไปให้หายเหนื่อยอีกหรือ? นี่แน่ะ เวลามาใกล้แล้ว บุตรมนุษย์จะต้องถูกมอบไว้ในมือของพวกคนบาป ลุกขึ้นไปกันเถิด คนที่ทรยศเรามาใกล้แล้ว” พระองค์ตรัสยังไม่ทันขาดคำ ยูดาสที่เป็นหนึ่งในกลุ่มสิบสองคนก็มาถึง พร้อมกับคนกลุ่มใหญ่ที่มาจากพวกหัวหน้าปุโรหิตและพวกผู้ใหญ่ของประชาชนซึ่งถือดาบ ถือไม้ตะบองมา คนที่ทรยศพระองค์ก็ให้สัญญาณกับพวกเขาว่า “เราจูบคำนับใครก็คือคนนั้นแหละ จงจับเขาไว้” แล้วยูดาสก็ตรงมาเฝ้าพระเยซูทูลว่า “สวัสดีพระอาจารย์” แล้วจูบพระองค์ พระเยซูตรัสกับเขาว่า “เพื่อนเอ๋ย จงทำตามที่ท่านตั้งใจเถิด” แล้วพวกเขาก็เข้ามาและลงมือจับกุมพระเยซู คนหนึ่งที่อยู่กับพระเยซูก็ยื่นมือออกชักดาบฟันหูบ่าวของมหาปุโรหิตขาด พระเยซูจึงตรัสกับเขาว่า “เอาดาบของท่านใส่ฝักเสีย เพราะว่าพวกที่ใช้ดาบจะต้องพินาศเพราะดาบ ท่านคิดว่าเราจะทูลขอพระบิดาของเราไม่ได้หรือ? และพระองค์ก็จะประทานทูตสวรรค์ให้เรามากกว่าสิบสองกองพลในทันที แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นข้อพระคัมภีร์ที่ว่า จำเป็นจะต้องเป็นอย่างนี้จะสำเร็จได้อย่างไร?” ในเวลานั้นพระเยซูตรัสกับกลุ่มชนว่า “ท่านทั้งหลายเห็นเราเป็นโจรหรือ ถึงได้ถือดาบถือตะบองออกมาจับเรา เรานั่งสั่งสอนในบริเวณพระวิหารทุกวัน ท่านก็ไม่ได้จับเรา แต่ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพื่อให้สำเร็จตามที่ผู้เผยพระวจนะเขียนไว้” แล้วสาวกทั้งหมดก็ละทิ้งพระองค์ และพากันหนีไป พวกคนที่จับพระเยซูก็พาพระองค์ไปถึงบ้านคายาฟาสมหาปุโรหิต ซึ่งเป็นที่ที่บรรดาธรรมาจารย์และพวกผู้ใหญ่ประชุมกันอยู่ แต่เปโตรตามพระองค์ไปห่างๆ จนถึงลานบ้านของมหาปุโรหิต และเข้าไปนั่งข้างในลานบ้านกับบรรดาคนรับใช้ เพื่อคอยดูว่าเรื่องจะจบลงอย่างไร พวกหัวหน้าปุโรหิตกับสมาชิกสภายิวทั้งหมดก็หาพยานเท็จมาปรักปรำพระเยซูเพื่อจะประหารพระองค์เสีย แต่ถึงแม้มีพยานเท็จหลายคนมาให้การก็ยังหาหลักฐานไม่ได้ ในที่สุดมีสองคนมาให้การ ว่า “คนนี้กล่าวว่าเขาสามารถทำลายพระวิหารของพระเจ้าและสร้างขึ้นใหม่ภายในสามวัน” มหาปุโรหิตจึงลุกขึ้นถามพระองค์ว่า “เจ้าจะไม่แก้ตัวในข้อหาที่พวกเขาเป็นพยานกล่าวหาเจ้าหรือ?” แต่พระเยซูทรงนิ่งอยู่ ท่านมหาปุโรหิตจึงกล่าวว่า “เราให้เจ้าสาบานโดยอ้างพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ ให้บอกเราว่าเจ้าเป็นพระคริสต์พระบุตรของพระเจ้าหรือไม่” พระเยซูตรัสตอบว่า “ท่านได้พูดแล้ว แต่เราจะบอกท่านทั้งหลายด้วยว่า ตั้งแต่นี้ไป พวกท่านจะเห็น บุตรมนุษย์ ประทับข้างขวาของผู้ทรงฤทธิ์เดช และ เสด็จมาบนเมฆแห่งฟ้าสวรรค์ ” แล้วมหาปุโรหิตก็ฉีกเสื้อของตนกล่าวว่า “เขาพูดหมิ่นประมาทพระเจ้า เราต้องการพยานอะไรอีก ท่านก็ได้ยินเขาพูดหมิ่นประมาทพระเจ้าแล้ว พวกท่านคิดอย่างไร?” พวกเขาตอบว่า “เขาสมควรตาย” แล้วพวกเขาก็ถ่มน้ำลายรดพระพักตร์และทุบตีพระองค์ บางคนก็ตบพระองค์ แล้วกล่าวว่า “เจ้าพระคริสต์ จงทำนายให้เรารู้ซิว่าใครตีเจ้า” เปโตรนั่งอยู่นอกตึกที่ลานบ้าน มีสาวใช้คนหนึ่งมาพูดกับเขาว่า “เจ้าก็อยู่กับเยซูชาวกาลิลีด้วย” แต่เปโตรปฏิเสธต่อหน้าคนทั้งหมดว่า “ที่เจ้าพูดนั้นข้าไม่รู้เรื่อง”

มัทธิว 26:45-70 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

พระองค์​เดิน​กลับ​มา​ที่​พวก​ศิษย์​อีก และ​พูด​ว่า “ยัง​นอน​หลับ​พักผ่อน​กัน​อยู่​อีก​หรือ ชั่วโมง​ที่​บุตร​มนุษย์​จะ​ถูก​หักหลัง​ให้​ไป​อยู่​ใน​มือ​ของ​พวก​คน​บาป​นั้น​มา​ถึง​แล้ว ลุก​ขึ้น​ไป​กัน​เถอะ นั่น​ไง​คน​ที่​หักหลัง​เรา​มา​ถึง​แล้ว” พระองค์​พูด​ยัง​ไม่ทัน​ขาดคำ ยูดาส​ศิษย์​คน​หนึ่ง​ใน​สิบสอง​คน​ของ​พระองค์​ก็​มา​ถึง พร้อม​กับ​คน​กลุ่ม​ใหญ่​ที่​ถือ​ทั้ง​ดาบ​และ​ไม้กระบอง คน​พวกนี้​ถูก​ส่ง​มา​จาก​พวก​หัวหน้า​นักบวช​และพวก​ผู้นำ​อาวุโส ยูดาส​ได้​ตกลง​กับ​พวก​นั้น​ไว้​ก่อน​ล่วงหน้า​แล้ว​ว่า “คน​ที่​ผม​จูบ​คือ​คนๆ​นั้น เข้า​ไป​จับ​กุม​ได้​เลย” ยูดาส​ก็​ตรง​เข้า​ไป​หา​พระเยซู​ทันที พร้อม​กับ​พูด​ว่า “สวัสดี​ครับ อาจารย์” และ​จูบ​พระองค์ พระเยซู​จึง​พูด​กับ​เขา​ว่า “เพื่อน​เอ๋ย มา​ทำ​อะไร​ก็​รีบ​ทำ​ไป​เลย” แล้ว​คน​เหล่า​นั้น ก็​เข้า​มา​จับ​ตัว​พระองค์​และ​คุมตัว​ไว้ ศิษย์​คน​หนึ่ง​ที่​อยู่​กับ​พระเยซู​จึง​ชัก​ดาบ​ออก​มา​แล้ว​ก็​ฟัน​ถูก​หู​ทาส​คน​หนึ่ง​ของ​หัวหน้า​นักบวช​สูงสุด​ขาด​ไป พระเยซู​พูด​กับ​เขา​ว่า “เก็บ​ดาบ​ใส่​ฝัก​เสีย เพราะ​คน​ที่​ใช้​ดาบ​จะ​ตาย​เพราะ​ดาบ คุณ​คิด​ว่า เรา​จะ​ขอ​ความช่วยเหลือ​จาก​พระบิดา​เรา​ไม่​ได้​หรือ พระองค์​จะ​ส่ง​ทูตสวรรค์​มา​ให้​กับ​เรา​มาก​กว่า​สิบสอง​กอง ได้​ทัน​ที แต่​ถ้า​เรา​ทำ​อย่าง​นั้น มัน​ก็​จะ​ไม่​เป็น​ไป​ตาม​ที่​พระคัมภีร์​เขียน​ไว้” แล้ว​พระเยซู​ก็​พูด​กับ​คน​กลุ่ม​ใหญ่​นั้น​ว่า “เห็น​เรา​เป็น​โจร​หรือ​ยังไง ถึง​ได้​ถือ​ดาบ​และ​ไม้กระบอง​มา​จับ​เรา ตอน​ที่​เรา​นั่ง​สอน​อยู่​ใน​วิหาร​ทุก​วัน กลับ​ไม่​มา​จับ แต่​ทั้งหมดนี้​เกิด​ขึ้น ก็​เพื่อ​จะ​ได้​เป็น​จริง​ตาม​ที่​พวก​ผู้พูดแทนพระเจ้า​ได้​เขียน​ไว้” แล้ว​พวก​ศิษย์​ของ​พระองค์​ได้​ทิ้ง​พระองค์​และ​หนี​ไป พวก​นั้น​จับ​พระเยซู​ไป​ที่​บ้าน​ของ​คายาฟาส​หัวหน้า​นักบวช​สูงสุด ที่​พวก​ครู​สอน​กฎปฏิบัติ​และพวก​ผู้นำ​อาวุโส​ได้​ประชุม​กัน​อยู่ เปโตร​ตาม​พระองค์​มา​ห่างๆ​จน​ถึง​ลาน​บ้าน​ของ​หัวหน้า​นักบวช​สูงสุด แล้ว​เขา​เข้า​ไป​นั่ง​อยู่​ใน​ลาน​บ้าน​กับ​พวก​ผู้คุม เพื่อ​ดู​ว่า​จะ​มี​อะไร​เกิด​ขึ้น พวก​หัวหน้า​นักบวช​และ​สมาชิก​สภา​แซนฮีดริน​ทั้งหมด​พยายาม​หา​พยานเท็จ​มา​ปรักปรำ​พระเยซู เพื่อ​จะ​ได้​ฆ่า​พระองค์ แต่​ก็​หา​ไม่​ได้​เลย ถึง​แม้ว่า​จะ​มี​พยาน​เท็จ​มา​ปรักปรำ​พระองค์​หลาย​คน พวก​เขา​ก็​ไม่​สามารถ​หา​หลักฐาน​ที่​ดี​พอที่​จะ​ตัดสิน​ฆ่า​พระองค์​ได้ ใน​ที่​สุด​ก็​มี​สอง​คน​ให้​การ​ว่า “ชาย​คนนี้​เคย​พูด​ว่า ‘เรา​สามารถ​ทำลาย​วิหาร​ของ​พระเจ้า และ​สร้าง​ขึ้น​มา​ใหม่​ภาย​ใน​สาม​วัน’” หัวหน้า​นักบวช​สูงสุด​จึง​ยืน​ขึ้น ถาม​พระเยซู​ว่า “แก​จะ​ไม่​แก้​ตัว​ใน​สิ่ง​ที่​เขา​กล่าว​หา​แก​หรือ” แต่​พระเยซู​ยัง​นิ่งเงียบ หัวหน้า​นักบวช​สูงสุด จึง​พูด​กับ​พระองค์​ว่า “เรา​ขอ​สั่ง​แก​ใน​นาม​ของ​พระเจ้า​ที่​มี​ชีวิต​อยู่ บอก​พวก​เรา​มา​สิ​ว่า แก​คือ​พระคริสต์ พระบุตร​ของ​พระเจ้า​หรือ​เปล่า” พระองค์​จึง​ตอบ​เขา​ว่า “ท่าน​พูด​ถูก​แล้ว แต่​เรา​จะ​บอก​ให้​รู้​ว่า ใน​อนาคต​ท่าน​จะ​ได้​เห็น​บุตร​มนุษย์​นั่ง​อยู่​ทาง​ขวา​ของ​พระเจ้า​ผู้​ยิ่งใหญ่ และ​เสด็จ​มา​บน​เมฆ​ใน​ท้องฟ้า” แล้ว​หัวหน้า​นักบวช​สูงสุด ก็​ฉีกทึ้ง​เสื้อผ้า​ของ​ตัวเอง​และ​พูด​ว่า “มัน​พูด​หมิ่นประมาท​พระเจ้า​ชัดๆ เรา​ยัง​ต้องการ​พยาน​อะไร​อีก เห็น​ไหม พวก​คุณ​ก็​ได้ยิน​คำหมิ่นประมาท​แล้ว พวก​คุณ​คิด​ว่า​อย่างไร” พวก​เขา​ตอบ​ว่า “มัน​มี​ความ​ผิด มัน​สมควร​ตาย” พวก​เขา​ถ่ม​น้ำลาย​รด​หน้า​พระองค์ และ​ชกต่อย​พระองค์ บางคน​ก็​ตบ​หน้า​พระองค์ และ​พูด​ว่า “ทาย​มา​สิ ไอ้​คริสต์ ใคร​ตบ​หน้า​แก” ใน​ขณะ​เดียว​กัน เปโตร​กำลัง​นั่ง​อยู่​ข้างนอก​ที่​ลาน​บ้าน และ​สาวใช้​คน​หนึ่ง​เข้า​มา​ทัก​เขา​ว่า “แก​ก็​อยู่​กับ​เยซู​คน​กาลิลี​ด้วย​นี่​นา” แต่​เปโตร​พูด​ต่อหน้า​ทุก​คน​ว่า “ผม​ไม่​รู้​ว่า​คุณ​พูด​เรื่อง​อะไร”

มัทธิว 26:45-70 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

แล​้วพระองค์เสด็จมายังพวกสาวกของพระองค์ ตรั​สว​่า “​เดี๋ยวนี้ จงนอนต่อไปให้หายเหนื่อยเถิด ดู​เถิด เวลามาใกล้​แล้ว และบุตรมนุษย์จะต้องถูกทรยศให้ตกอยู่ในมือของคนบาป ลุ​กขึ้นไปกันเถิด ดู​เถิด ผู้​ที่​จะทรยศเรามาใกล้​แล้ว​” พระองค์​ตรัสยังไม่ทันขาดคำ ดู​เถิด ยู​ดาส คนหนึ่งในเหล่าสาวกสิบสองคนนั้น ได้​เข้ามา และมีประชาชนเป็​นอ​ันมากถือดาบ ถือไม้​ตะบอง มาจากพวกปุโรหิตใหญ่และพวกผู้​ใหญ่​แห่​งประชาชน ผู้​ที่​จะทรยศพระองค์นั้นได้​ให้​อาณัติ​สัญญาณแก่เขาว่า “เราจะจุบผู้​ใด ก็​เป็นผู้​นั้นแหละ จงจั​บก​ุมเขาไว้​ให้​แน่​นหนาเถิด” ขณะนั้น ยู​ดาสตรงมาหาพระเยซูทูลว่า “​สวัสดี พระอาจารย์” แล​้วจุบพระองค์ พระเยซู​ตรัสกับเขาว่า “สหายเอ๋ย มาที่​นี่​ทำไม​” คนเหล่านั้​นก​็​เข​้ามาจับพระเยซูและคุมไป ดู​เถิด มี​คนหนึ่งที่​อยู่​กับพระเยซู ยื่​นม​ือชักดาบออก ฟันหู​ผู้รับใช้​คนหนึ่งของมหาปุโรหิตขาด พระเยซู​จึงตรัสกับเขาว่า “จงเอาดาบของท่านใส่ฝักเสีย ด้วยว่าบรรดาผู้ถือดาบจะพินาศเพราะดาบ ท่านคิดว่าเราจะอธิษฐานขอพระบิดาของเรา และในบัดเดี๋ยวนั้นพระองค์จะทรงประทานทูตสวรรค์​แก่​เรากว่าสิบสองกองไม่​ได้​หรือ แต่​ถ้าเป็นเช่นนั้นพระคัมภีร์​ที่ว่า จำจะต้องเป็นอย่างนี้ จะสำเร็จได้​อย่างไร​” ขณะนั้นพระเยซูตรัสกับหมู่ชนว่า “ท่านทั้งหลายเห็นเราเป็นโจรหรือจึงถือดาบ ถือตะบองออกมาจับเรา เราได้นั่​งก​ั​บท​่านทั้งหลายสั่งสอนในพระวิหารทุกวัน ท่านก็หาได้จับเราไม่ แต่​เหตุการณ์​ทั้งสิ้​นที​่​ได้​บังเกิดขึ้นนี้ ก็​เพื่อจะสำเร็จตามพระคัมภีร์​ที่​พวกศาสดาพยากรณ์​ได้​เข​ียนไว้” แล​้วสาวกทั้งหมดก็​ได้​ละทิ้งพระองค์​ไว้​และพากันหนี​ไป ผู้​ที่​จับพระเยซู​ได้​พาพระองค์ไปยังคายาฟาสมหาปุโรหิต ที่​ซึ่งพวกธรรมาจารย์และพวกผู้​ใหญ่​ได้​ประชุมกันอยู่ แต่​เปโตรได้​ติ​ดตามพระองค์ไปห่างๆจนถึงคฤหาสน์ของมหาปุโรหิต แล​้วเข้าไปนั่งข้างในกับคนใช้ เพื่อจะดูว่าเรื่องจะจบลงอย่างไร พวกปุโรหิตใหญ่ พวกผู้​ใหญ่ กับบรรดาสมาชิกสภาได้หาพยานเท็จมาเบิกปรักปรำพระเยซู เพื่อจะประหารพระองค์​เสีย แต่​หาหลักฐานไม่​ได้ เออ ถึงแม้​มี​พยานเท็จหลายคนมาให้​การก​็หาหลักฐานไม่​ได้ ในที่สุ​ดก​็​มี​พยานเท็จสองคนมา กล่าวว่า “คนนี้​ได้​ว่า ‘เราสามารถจะทำลายพระวิหารของพระเจ้า และจะสร้างขึ้นใหม่ในสามวัน’” มหาปุโรหิตจึงลุกขึ้นถามพระองค์​ว่า “ท่านจะไม่ตอบอะไรหรือ คนเหล่านี้เป็นพยานปรักปรำท่านด้วยเรื่องอะไร” แต่​พระเยซู​ทรงนิ่งอยู่ มหาปุโรหิตจึงกล่าวแก่​พระองค์​ว่า “เราสั่งให้ท่านปฏิญาณโดยอ้างพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์​อยู่ ให้​บอกเราว่า ท่านเป็นพระคริสต์พระบุตรของพระเจ้าหรือไม่” พระเยซู​ตรัสกับเขาว่า “ท่านว่าถูกแล้ว และยิ่งกว่านั้​นอ​ีก เราบอกท่านทั้งหลายว่า ในเวลาเบื้องหน้านั้น ท่านทั้งหลายจะได้​เห​็นบุตรมนุษย์นั่งข้างขวาพระหัตถ์ของผู้ทรงฤทธานุ​ภาพ และเสด็จมาบนเมฆแห่งฟ้าสวรรค์” ขณะนั้นมหาปุโรหิตจึงฉีกเสื้อของตน แล​้​วว​่า “เขาได้​พู​ดหมิ่นประมาทแล้ว เราต้องการพยานอะไรอีกเล่า ดู​เถิด บัดนี้ ท่านทั้งหลายก็​ได้​ยินเขาพูดหมิ่นประมาทแล้ว ท่านทั้งหลายคิดเห็นอย่างไร” คนทั้งปวงก็ตอบว่า “เขามีความผิดถึงตาย” แล​้วเขาถ่​มน​้ำลายรดพระพักตร์​พระองค์​และตี​พระองค์ และคนอื่นเอาฝ่ามือตบพระองค์ แล​้​วว​่า “​เจ้​าพระคริสต์ จงพยากรณ์​ให้​เรารู้ว่าใครตบเจ้า” ขณะนั้นเปโตรนั่งอยู่ภายนอกบริเวณคฤหาสน์​นั้น มี​สาวใช้​คนหนึ่งมาพู​ดก​ับเขาว่า “​เจ้​าได้​อยู่​กับเยซูชาวกาลิลี​ด้วย​” แต่​เปโตรได้ปฏิเสธต่อหน้าคนทั้งปวงว่า “​ที่​เจ้​าว่านั้นข้าไม่​รู้เรื่อง​”

มัทธิว 26:45-70 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

แล้วเสด็จมายังพวกสาวกตรัสว่า <<ท่านจะนอนต่อไปให้หายเหนื่อยอีกหรือ เวลามาใกล้แล้ว บุตรมนุษย์จะต้องถูกอายัดไว้ในมือคนบาป ลุกขึ้นไปกันเถิด ผู้ที่จะอายัดเรามาใกล้แล้ว>> พระองค์ตรัสยังไม่ทันขาดคำ ยูดาสคนหนึ่งในเหล่าสาวกสิบสองคนนั้นได้เข้ามา และมีประชาชนเป็นอันมากถือดาบ ถือไม้ตะบอง มาจากพวกมหาปุโรหิตและพวกผู้ใหญ่แห่งประชาชน ผู้ที่จะอายัดพระองค์นั้นได้ให้อาณัติสัญญาณแก่เขาว่า <<เราจะจุบคำนับผู้ใดก็เป็นผู้นั้นแหละ จงจับกุมเขาไว้>> ขณะนั้นยูดาสตรงมาหาพระเยซูทูลว่า <<สวัสดีพระอาจารย์>> แล้วจุบคำนับพระองค์ พระเยซูได้ตรัสกับเขาว่า <<สหายเอ๋ย มาที่นี่ทำไม>> คนเหล่านั้นก็เข้ามาจับพระเยซูและคุมไป ขณะนั้น มีคนหนึ่งที่อยู่กับพระเยซูยื่นมือชักดาบออกฟันหูทาสคนหนึ่งของมหาปุโรหิตประจำการขาด พระเยซูจึงตรัสกับเขาว่า <<จงเอาดาบของท่านใส่ฝักเสีย ด้วยว่าบรรดาผู้ถือดาบจะต้องพินาศเพราะดาบ ท่านคิดว่าเราจะขอพระบิดาของเราไม่ได้หรือ และในครู่เดียวพระองค์จะประทานทูตสวรรค์แก่เรากว่าสิบสองกอง แต่ถ้าเช่นนั้นพระคัมภีร์ที่ว่า จำจะต้องเป็นอย่างนี้ จะสำเร็จได้อย่างไร>> ขณะนั้นพระเยซูได้ตรัสกับหมู่ชนว่า <<ท่านทั้งหลายเห็นเราเป็นโจรหรือ จึงถือดาบถือตะบองออกมาจับเรา เราได้นั่งสั่งสอนในบริเวณพระวิหารทุกวัน ท่านก็หาได้จับเราไม่ แต่เหตุการณ์ที่ได้บังเกิดขึ้นครั้งนี้ เพื่อจะสำเร็จตามที่ผู้เผยพระวจนะได้เขียนไว้>> แล้วสาวกทั้งหมดก็ได้ละทิ้งพระองค์ไว้ และพากันหนีไป ผู้ที่จับพระเยซูได้พาพระองค์ไปถึงบ้านคายาฟาสมหาปุโรหิตประจำการ ที่พวกธรรมาจารย์และพวกผู้ใหญ่ได้ประชุมกันอยู่ที่นั่น แต่เปโตรได้ติดตามพระองค์ไปห่างๆ จนถึงลานบ้านของท่านมหาปุโรหิต แล้วเข้าไปนั่งข้างในลานบ้านกับคนใช้ของท่านมหาปุโรหิต จะคอยดูว่าเรื่องจะจบลงอย่างไร พวกมหาปุโรหิตกับบรรดาสมาชิกสภา จึงหาพยานเท็จมาเบิกปรักปรำพระเยซู เพื่อจะประหารพระองค์เสีย แต่ถึงแม้มีพยานเท็จหลายคนมาให้การก็หาหลักฐานไม่ได้ ในที่สุดมีสองคนมาให้การ ว่า <<คนนี้ได้ว่าเขาสามารถจะทำลายพระวิหารของพระเจ้า และจะสร้างขึ้นใหม่ในสามวัน>> มหาปุโรหิตประจำการจึงลุกขึ้นถามพระองค์ว่า <<ท่านจะไม่แก้ตัวในข้อหาที่พยานเขาตั้งมานี้หรือ>> แต่พระเยซูทรงนิ่งอยู่ ท่านมหาปุโรหิตจึงว่า <<เราให้ท่านสาบานโดยอ้างพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ ให้บอกเราว่าท่านเป็นพระคริสต์ พระบุตรของพระเจ้าหรือไม่>> พระเยซูตรัสตอบว่า <<ท่านว่าถูกแล้ว และยิ่งกว่านั้นอีกเราบอกท่านทั้งหลายว่า ในเวลาเบื้องหน้านั้น ท่านทั้งหลายจะได้เห็นบุตรมนุษย์นั่งข้างขวาของผู้ทรงฤทธานุภาพ และเสด็จมาบนเมฆแห่งฟ้าสวรรค์>> ขณะนั้นท่านมหาปุโรหิตจึงฉีกเสื้อของตน แล้วว่า <<เขาพูดหมิ่นประมาทพระเจ้าแล้ว เราต้องการพยานอะไรอีกเล่า ท่านทั้งหลายก็ได้ยินเขาพูดหมิ่นประมาทพระเจ้าแล้ว ท่านทั้งหลายคิดเห็นอย่างไร>> คนทั้งปวงก็ตอบว่า <<ควรปรับโทษถึงตาย>> แล้วเขาถ่มน้ำลายรดพระพักตร์และตีพระองค์ และบางคนเอามือตบพระองค์ แล้วว่า <<เจ้าพระคริสต์ จงเผยให้เรารู้ว่าใครตบเจ้า>> ฝ่ายเปโตรนั่งอยู่นอกตึกที่ลานบ้าน มีสาวใช้คนหนึ่งมาพูดกับเขาว่า <<แกได้อยู่กับเยซูชาวกาลิลีด้วยเหมือนกัน>> แต่เปโตรได้ปฏิเสธต่อหน้าคนทั้งปวงว่า <<ที่เจ้าว่านั้นข้าไม่รู้เรื่อง>>

มัทธิว 26:45-70 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

จากนั้นพระองค์ทรงกลับมาหาเหล่าสาวกและตรัสว่า “พวกท่านยังนอนหลับพักผ่อนอยู่อีกหรือ? ดูเถิด ใกล้จะถึงเวลาแล้วและบุตรมนุษย์ถูกทรยศให้ตกอยู่ในมือของคนบาป ลุกขึ้นไปกันเถิด! ผู้ทรยศเรามาแล้ว!” พระองค์ตรัสยังไม่ทันขาดคำ ยูดาสหนึ่งในสาวกสิบสองคนก็มาถึงพร้อมกับคนหมู่ใหญ่ซึ่งถือดาบถือกระบอง คนเหล่านี้เป็นพวกที่บรรดาหัวหน้าปุโรหิตและเหล่าผู้อาวุโสของประชาชนส่งมา ผู้ทรยศได้กำหนดอาณัติสัญญาณกับพวกเขาว่า “คนที่เราจูบคือผู้นั้น จงจับกุมเขา” ยูดาสตรงเข้ามาหาพระเยซูและทูลว่า “ขอคำนับรับบี!” แล้วจูบพระองค์ พระเยซูตรัสว่า “เพื่อนเอ๋ย จะมาทำอะไรก็ทำเถิด” แล้วคนเหล่านั้นก็ตรงเข้าจับกุมพระเยซู คนหนึ่งในพวกที่อยู่กับพระองค์เอื้อมมือคว้าดาบชักออกมาฟันหูบ่าวของมหาปุโรหิตขาด พระเยซูตรัสกับเขาว่า “เก็บดาบเสียเถิดเพราะคนทั้งปวงที่ชักดาบจะตายด้วยดาบ ท่านคิดว่าเราไม่อาจทูลขอพระบิดาหรือ? พระองค์จะให้ทูตสวรรค์กว่าสิบสองกองแก่เราทันที แต่ถ้าเช่นนั้นจะเป็นจริงตามที่พระคัมภีร์กล่าวไว้หรือว่าต้องเป็นไปตามนี้?” แล้วพระองค์ตรัสกับคนกลุ่มนั้นว่า “เราก่อการกบฏหรือ? พวกท่านจึงได้ถือดาบถือกระบองมาจับเรา เรานั่งสอนอยู่ในลานพระวิหารทุกวันและท่านก็ไม่ได้จับกุมเรา แต่ทั้งหมดนี้เป็นไปตามที่ผู้เผยพระวจนะได้เขียนไว้” แล้วสาวกทั้งหมดก็ละทิ้งพระองค์แล้วหนีไป ผู้ที่จับพระเยซูนำพระองค์มาพบมหาปุโรหิตคายาฟาสในที่ซึ่งพวกธรรมาจารย์และผู้อาวุโสมาชุมนุมกัน ฝ่ายเปโตรตามพระองค์มาห่างๆ จนถึงลานบ้านของมหาปุโรหิต เขาเข้าไปนั่งกับพวกยามเพื่อคอยดูผลที่จะเกิดขึ้น พวกหัวหน้าปุโรหิตและทั้งสภาแซนเฮดรินค้นหาหลักฐานเท็จมามัดตัวพระเยซูเพื่อจะได้ประหารพระองค์ แต่ก็ไม่พบอะไรเลยแม้จะมีพยานเท็จหลายคนมากล่าวหาพระองค์ ในที่สุดมีสองคนออกมา ให้การว่า “คนนี้พูดว่า ‘ข้าพเจ้าสามารถทำลายพระวิหารของพระเจ้าและสร้างขึ้นใหม่ได้ภายในสามวัน’” แล้วมหาปุโรหิตจึงยืนขึ้นกล่าวกับพระเยซูว่า “ท่านจะไม่ตอบอะไรหรือ? คำให้การที่คนเหล่านี้กล่าวหาท่านเป็นเรื่องอะไรกัน?” แต่พระเยซูทรงนิ่งอยู่ มหาปุโรหิตจึงกล่าวกับพระองค์ว่า “ภายใต้คำสาบานโดยอ้างพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ เราสั่งท่านว่าถ้าท่านคือพระคริสต์พระบุตรของพระเจ้าก็จงบอกเรามา” พระเยซูตรัสว่า “ใช่อย่างที่ท่านพูด เราขอบอกท่านทุกคนว่าในอนาคตท่านจะเห็นบุตรมนุษย์นั่งอยู่เบื้องขวาพระหัตถ์ขององค์ทรงฤทธิ์และเสด็จมาบนหมู่เมฆแห่งฟ้าสวรรค์” มหาปุโรหิตจึงฉีกเสื้อของตนและพูดว่า “เขาได้พูดหมิ่นประมาทพระเจ้า! เราจะต้องหาพยานอีกทำไม? ดูเถิด บัดนี้ท่านทั้งหลายได้ยินคำหมิ่นประมาทแล้ว ท่านคิดเห็นอย่างไร?” พวกนั้นตอบว่า “เขาสมควรตาย” แล้วพวกเขาถ่มน้ำลายใส่พระพักตร์และต่อยพระองค์ คนอื่นๆ ก็ตบพระองค์ และว่า “เจ้าพระคริสต์ ทำนายให้เราฟังสิ ใครตบเจ้า?” ฝ่ายเปโตรนั่งอยู่ที่ลานบ้าน สาวใช้คนหนึ่งมาพูดกับเปโตรว่า “เจ้าก็อยู่กับเยซูแห่งกาลิลีด้วย” แต่เปโตรปฏิเสธต่อหน้าคนทั้งปวงว่า “เจ้าพูดอะไร? ข้าไม่รู้เรื่อง”

มัทธิว 26:45-70 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

พระ​องค์​มาหา​เหล่า​สาวก​และ​กล่าว​กับ​พวก​เขา​ว่า “พวก​เจ้า​ยัง​นอน​หลับ​และ​พักผ่อน​อยู่​หรือ ดู​เถิด ใกล้​เวลา​แล้ว และ​บุตรมนุษย์​กำลัง​ถูก​ทรยศ​ส่ง​มอบ​ไว้​ใน​มือ​ของ​พวก​คน​บาป จง​ลุก​ขึ้น ไป​กัน​เถิด ดู​สิ คน​ทรยศ​เรา​เข้า​มา​ใกล้​แล้ว” พระ​องค์​ยัง​กล่าว​ไม่​ทัน​ขาด​คำ ยูดาส​หนึ่ง​ใน​สาวก​ทั้ง​สิบ​สอง​ก็​เดิน​มา พร้อม​กับ​คน​กลุ่ม​ใหญ่​จาก​บรรดา​มหา​ปุโรหิต​และ​ผู้ใหญ่​ของ​ประชาชน ต่าง​ถือ​ดาบ​และ​ไม้ตะบอง​มา​ด้วย ผู้​ทรยศ​นั้น​ได้​ให้​สัญญาณ​แก่​พวก​เขา​โดย​กล่าว​ว่า “เป็น​คน​ที่​เรา​จะ​จูบ​แก้ม​นั่น​แหละ จง​จับกุม​เขา​ได้​เลย” เขา​ไป​หา​พระ​เยซู​ทันที​และ​พูด​ว่า “สวัสดี รับบี” แล้ว​ก็​จูบ​แก้ม​พระ​องค์ พระ​เยซู​กล่าว​กับ​เขา​ว่า “เพื่อน​เอ๋ย มา​เพื่อ​อะไร​ก็​ทำไป​เถิด” ครั้น​แล้ว​พวก​เขา​ก็​เข้ามา​จับกุม​พระ​เยซู ใน​ทันใด​นั้น คนหนึ่ง​ใน​บรรดา​ผู้​ที่​อยู่​กับ​พระ​เยซู​ชัก​ดาบ​ออก​ฟัน​หู​ผู้​รับใช้​ของ​หัวหน้า​มหา​ปุโรหิต​ขาด พระ​เยซู​กล่าว​กับ​เขา​ว่า “เก็บ​ดาบ​เสีย เพราะ​ทุก​คน​ที่​ใช้​ดาบ​จะ​ตาย​เพราะ​ดาบ เจ้า​คิด​หรือ​ว่า​เรา​จะ​ร้องขอ​พระ​บิดา​ของ​เรา​ให้​ช่วย​ไม่​ได้ พระ​องค์​จะ​ส่ง​ทูต​สวรรค์​มา​เป็น​จำนวน​มาก​กว่า 12 เลเกโอน​ให้​เรา​ได้​ทันที ถ้า​เช่นนั้น​แล้ว​จะ​เป็นไป​ตาม​พระ​คัมภีร์​ได้​อย่างไร เรื่อง​จะ​ต้อง​เป็นไป​เช่นนี้” ใน​เวลา​นั้น พระ​เยซู​กล่าว​กับ​ฝูง​ชน​ว่า “พวก​ท่าน​เอา​ดาบ​และ​ไม้ตะบอง​พา​กัน​มา​จับกุม​เรา เหมือน​กับ​ว่า​เรา​เป็น​โจร​อย่าง​นั้น​หรือ ทุก​วัน​เรา​เคย​นั่ง​สั่งสอน​ใน​บริเวณ​พระ​วิหาร แต่​ท่าน​ก็​ไม่​ได้​จับกุม​เรา สิ่ง​เหล่า​นี้​เกิด​ขึ้น​ก็​เพื่อ​เป็นไป​ตาม​พระ​คัมภีร์​ใน​หมวด​ผู้เผย​คำกล่าว​ของ​พระ​เจ้า” เหล่า​สาวก​ก็​ละ​ทิ้ง​พระ​องค์​ไว้​และ​พา​กัน​หนี​ไป แล้ว​พวก​ที่​จับกุม​พระ​เยซู​ก็​พา​พระ​องค์​ไป​หา​คายาฟาส​หัวหน้า​มหา​ปุโรหิต ณ ที่​ซึ่ง​พวก​อาจารย์​ฝ่าย​กฎ​บัญญัติ​และ​พวก​ผู้ใหญ่​ประชุม​ร่วมกัน แต่​เปโตร​ก็​ได้​ติดตาม​พระ​องค์​ไป​อยู่​ห่างๆ เขา​เข้า​ใกล้​ที่สุด​ได้​ถึง​ใน​บริเวณ​ลาน​บ้าน​ของ​หัวหน้า​มหา​ปุโรหิต แล้ว​นั่ง​ลง​กับ​พวก​เจ้าหน้าที่​เพื่อ​ดู​ว่า​เรื่อง​จะ​เป็น​อย่างไร ฝ่าย​พวก​มหา​ปุโรหิต​และ​สมาชิก​ทั้ง​หมด​ใน​ศาสนสภา​พยายาม​หา​พยาน​เท็จ​ปรักปรำ​พระ​เยซู​เพื่อ​จะ​ทำ​ให้​พระ​องค์​ได้​รับ​โทษ​ถึง​ตาย แต่​พวก​เขา​ก็​ไม่​สามารถ​ทำ​ได้ แม้ว่า​พยาน​เท็จ​จำนวน​มาก​มา​ให้การ แต่​ใน​ที่​สุด​มี 2 คน​มา​ให้การ​ว่า “ชาย​คนนี้​กล่าว​ว่า ‘เรา​สามารถ​ทำลาย​พระ​วิหาร​ของ​พระ​เจ้า​ได้​และ​สร้าง​ขึ้น​ใหม่​ใน 3 วัน’” หัวหน้า​มหา​ปุโรหิต​ยืน​ขึ้น​และ​พูด​กับ​พระ​องค์​ว่า “ท่าน​ไม่​ตอบ​อะไร​หรือ ท่าน​จะ​ว่า​อย่างไร​กับ​คำ​ให้​การ​ที่​กล่าวหา​ท่าน​มา​นี้” แต่​พระ​เยซู​นิ่ง​เงียบ ส่วน​หัวหน้า​มหา​ปุโรหิต​พูด​กับ​พระ​องค์​ว่า “เรา​ให้​ท่าน​สาบาน​ต่อ​หน้า​พระ​เจ้า​ผู้​ดำรงอยู่ ให้​ท่าน​บอก​เรา​ว่า ท่าน​เป็น​พระ​คริสต์​บุตร​ของ​พระ​เจ้า​หรือ​ไม่” พระ​เยซู​กล่าว​กับ​เขา​ว่า “ท่าน​เป็น​คน​พูด​เช่นนั้น​เอง แต่​เรา​ขอบอก​ท่าน​ว่า หลัง​จาก​นี้​พวก​ท่าน​จะ​เห็น​บุตรมนุษย์​นั่ง​อยู่ ณ เบื้อง​ขวา​ของ​องค์​ผู้​มี​อานุภาพ​มา​พร้อม​เมฆ​แห่ง​สวรรค์” ครั้น​แล้ว​หัวหน้า​มหา​ปุโรหิต​จึง​ฉีก​เสื้อ​ตัว​นอก​ของ​ตนเอง​จน​ขาด และ​กล่าว​ว่า “เขา​ได้​พูดจา​หมิ่น​ประมาท พวก​เรา​จำต้อง​มี​พยาน​อะไร​มาก​กว่า​นี้ ดูสิ พวก​ท่าน​ก็​ได้ยิน​คำ​พูด​หมิ่น​ประมาท​แล้ว พวก​ท่าน​เห็น​ว่า​อย่างไร” พวก​เขา​ตอบ​ว่า “เขา​สมควร​ตาย” แล้ว​พวก​เขา​ถ่ม​น้ำลาย​ใส่​หน้า​พระ​องค์ และ​ชก​พระ​องค์​ด้วย​กำปั้น บ้าง​ก็​ตบ​พระ​องค์ และ​พูด​ว่า “ท่าน​ผู้​เป็น​พระ​คริสต์ จง​พยากรณ์​ซิ​ว่า​ใคร​เป็น​คน​ตบตี​ท่าน” ขณะ​นั้น​เปโตร​กำลัง​นั่ง​อยู่​ข้างนอก​ที่​ลาน​บ้าน และ​ผู้​รับใช้​หญิง​คนหนึ่ง​เดิน​เข้า​มา​ใกล้​เขา​และ​พูด​ว่า “ท่าน​ก็​ด้วย ท่าน​อยู่​กับ​เยซู​ชาว​กาลิลี” แต่​เขา​ปฏิเสธ​ต่อ​หน้า​ทุก​คน​โดย​พูด​ว่า “เรา​ไม่​รู้​ว่า​เจ้า​พูด​ถึง​อะไร”